ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน553มันคือทั้งหมดของฉันแล้ว



ตอน553มันคือทั้งหมดของฉันแล้ว

ตอนที่ 553 มันคือทั้งหมดของฉันแล้ว

ชีวภารรีบขึ้นบันไดเข้าบ้าน ไวทย์และดุลยาอยู่ที่บ้าน หมด ดุลยากำลังเตรียมทำอาหาร ซึ่งก็คือไข่ผัดมะเขือเทศและ ผักขมมัสตาร์ดของโปรดเธอ

เธอวางเป็ดย่างไว้ในห้องครัว แล้วเอ่ยอย่างรีบร้อน “แม่ คะ แม่จัดจานก่อน ฉันลงข้างล่างเดี๋ยวรีบกลับมา!”

ไปข้างล่าง? ไม่ใช่เพิ่งกลับมาหรอ จะไปไหน?”

“ไปดูร้านขนมแป๊ปเดียว” ชีวภาหาข้ออ้างที่นึกขึ้นได้ นำ จดหมายที่อยู่ในลิ้นชักภายในห้องตัวเองซ่อนไว้ในกระเป๋า แล้วรีบวิ่งลงไปข้างล่าง

เธอกึ่งวิ่งไปที่ข้างรถ เปิดประตูเข้าไปนั่ง กลัวว่าพวกลุงป้า แถวนั้นจะเห็น

ชนุดมเห็นท่าทางที่สับสนของเธอ คิ้วขมวดขึ้นเล็กน้อย

“เธอวิ่งทําไม”

“เอ่อ….ไม่มีอะไร ฉันกลัวคุณรอนาน” อีกครั้งที่ได้นั่งที่ นั่งข้างคนขับ ชีวภาก็รู้สึกกังวลจนพูดไม่ออก
ชนุดมเหล่มองเธอแวบหนึ่ง ไม่ได้ถามต่อ แล้วพูดออกไป ตรงๆ “ที่มาหาเธอวันนี้ก็เพราะมีมนต์

“ธมนต์?” ชีวภามองข้างๆ อย่างสงสัย

เขายังคงหลบสายตาเธออย่างนิ่งๆ ไม่ได้แสดงออกอะไร มากอย่าเคย เมินเฉยอย่างมาก “อืม มนต์ร้องอยากเจอเธอ อยู่ตลอดเวลา ให้ฉันมาถามเธอ

ได้ยินเขาพูดอย่างนี้ ชีวภาก็รู้สึกผิดหวังในใจ สองมือก แน่นอยู่ตรงเข่า เธอพูดเรียบๆ “ช่วงนี้ฉันไม่มีเวลา แต่เสาร์ อาทิตย์มีเวลา”

ไม่มีเวลา?

ชนุดมมองไปอย่างไม่แสดงสีหน้า “ทำงานยุ่งหรอ?”

“เปล่าค่ะ” ชีวภาก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้บอกเขาเรื่องเรียน จึงบอกเขาอย่างอารมณ์ดี “แม่ฉันออกจากโรงพยาบาลแล้ว ฉันกลับไปเรียนต่อได้แล้วค่ะ”

สถานภาพทางการเงินของบ้านเธอยังคงมีปัญหา ชนุดม เข้าใจ เพียงแต่เห็นเธอก็ยุ่งเรื่องงานมาตลอด เกือบลืมไปเลย ว่าเธอก็ยังเป็นนักศึกษาอยู่

คิดๆไปก็เป็นแค่ผู้หญิงที่อายุยังไม่ถึงยี่สิบปีเท่านั้น เป็นวัย

เรียนหนังสือ

“ยินดีด้วยนะ ได้ใช้ชีวิตอย่างที่อยากทำเสียที

ชนุดมยากที่จะพูดประโยคที่จริงใจ ชีวภาพอได้ยินก็รู้สึกผ่อนคลาย เธอไม่กล้ามองเขามาโดยตลอด สายตาทอดมอง ไปที่ต้นไม้สองต้นนอกหน้าต่างรถ “ต้องขอบคุณคุณมากๆเลย ค่ะ ถ้าคุณไม่ได้ให้เงินก้อนนั้นกับฉัน แม่ฉันคงไม่ได้รับการ ผ่าตัดเร็วขนาดนี้ ทั้งหมดนี้ ฉันต้องขอบคุณคุณมากๆ

“ขอบคุณฉัน?” ชนุดมทำเหมือนได้ยินเรื่องตลก “เพราะ ฉัน เธอเลยถูกยิงต่างหาก

นักลงทุนอย่างเขาก็สามารถเอาเงินมาใช้จ่ายเล่นได้อย่าง นี้ รอบข้างไม่ได้เต็มไปด้วยอันตราย คนที่ยืนข้างๆเขาคงไม่ได้ รู้สึกดี ไม่ว่าใครก็อยากใช้ชีวิตในวัยยี่สิบปี ในโลกของนัก ลงทุนนั้นแข่งขันอยู่ทุกนาที ตัวเลขที่เปลี่ยนแปลงพวกนั้นก็ไม่รู้ ว่าเกี่ยวข้องกับเลือดเนื้อใครบ้าง

วรารู้สึกว่าเขาเย็นชาลง จึงรวบรวมความกล้ามองเขา ฟันเป็นระเบียบขบริมฝีปากตัวเอง นานสักพักก่อนจะพูดออกไป อย่างลังเล “ที่จริงคุณอย่าไปมองว่าตัวเองไม่ดีเกินไปสิคะ แม้ว่าพวกเราจะรู้จักกันสั้นๆ แต่ในสายตาของฉัน คุณเป็นคนดี คนหนึ่งนะคะ”

แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยเผยความในใจของตนเองให้ ชนุดมฟัง ตอนเจอเขาก่อนหน้านี้ก็กลัวบรรยากาศรอบตัวเขา โดยสัญชาตญาณ ตอนนี้พอเจอกันอีกครั้ง ก็รู้สึกลึกซึ้งและ เข้าใจมากขึ้น

ทั้งชีวิตนี้ชนุดมได้ยินคนพรรณนาตนมานับไม่ถ้วน การ ชื่นชมที่แตกต่าง ส่วนใหญ่จะพูดว่าเขาเป็นคนที่สามารถคุมคนได้ดีแต่ไม่มีหัวใจ คำว่า คนดี สองพยางค์นี้ เป็นนครั้งแรกที่มี คนพูดกับเขาแบบนี้

แต่คำคำนี้สำหรับเขามันกว้างเกินไป ทำให้เขาไม่รู้ว่าต้อง รู้สึกอย่างไร เลยได้แต่บอกเธอว่า “ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะ ตัดสินฉัน”

“ทำไมคุณถึงต้องบอกว่าตัวเองไม่ดีอยู่ตลอดเวลา?” ชีว ภาไม่เข้าใจการกระทำของเขา “ฉันไม่รู้ว่าคนอื่นมองคุณยังไง แต่ฉันเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็น

ชนุดมสบตาอันแน่วแน่คู่นั้น ภายในรถที่อึดอัด ใบหน้า ของเธออยู่ใกล้มาก ชีวภาจะเป็นคนที่ทนสายตาไม่ได้อยู่เสมอ แต่ครั้งนี้กลับเป็นชนุดมที่เป็นสายตาออกมาก่อน

ไม่มีคำพูดใดๆ บรรยากาศตตกอยู่ในความเงียบสงบที่ ไม่ปกติ

ความรู้สึกอึดอัดที่ผ่านไปเมื่อครูโอบรอบตัวชีวภาอีกครั้ง เธอสัมผัสกระเป๋าอย่างไม่รู้ตัว และก็จับโดนเศษอะไรเล็กๆ แข็งๆหนึ่งชิ้น

เมื่อครู่มัวแต่พูดคุยกันเกือบลืมไปเลย ยังมีของที่ยังไม่ได้ ให้เขา

เธอหยิบซองจดหมายสีขาวออกมา สองมือส่งให้ตรงหน้า เขา “จริงด้วย นี่เป็นเงินที่ฉันสะสมมา แม้ว่าเงินจะไม่เยอะ แต่ มันเป็นเงินที่ฉันสะสมเหลือไว้ คุณรับไปเถอะค่ะ สี่แสนนั้น ฉัน จะทะยอยคืนนะคะ”
ชนุดมก้มสายตาลง สายตามองไปที่ซองสี่เหลี่ยมผืนผ้า วางอยู่บนกระเป๋า ความหนาประมาณสามนิ้ว เทียบกับเงินพวก นั้นแล้ว น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ

เมื่อเจอกันอีกครั้ง สิ่งที่เธอคิดเป็นอันดับแรกก็คือเรื่องเงิน สุดท้ายก็ไม่อยากติดหนี้เขา เลยกลัวจะเป็นอย่างนี้ เลยรีบขีด เส้นแบ่งอย่างชัดเจน

การตระหนักรู้แบบนี้ทำให้ชนุดมค่อนข้างหงุดหงิด นึกถึง คำพูดเธอเมื่อครู่ ก็หัวเราะเยาะเบาๆ ที่แท้ก็แค่เป็นคนดีอย่างที่ เธอว่าแค่นั้น

เขาไม่ได้รับและไม่ได้ปฏิเสธ ชีวภายนนเข้าไปไกล ประมาณหนึ่งนาที มือเล็กผ่านหน้าเขาไปมา “คุณชนุดมคะ?”

“ฉันบอกไปแล้ว ฉันไม่อาจเอาเงินเธอได้” พูดอีกครั้ง โทน

เสียงต่ำลง เทียบกับน้ำเสียงเรียบๆเมื่อครู่นับว่าเป็นชาขึ้นมา

เขาไม่ได้พูดเป็นครั้งแรก แต่การคืนเงินเป็นหลักการที่ถูก ต้อง แม้ว่าเขาไม่อยากได้ แต่เธอก็ควรคืน เธอต้องคืนจริงๆ นี่ เป็นสิ่งที่ดุลยาสอนพวกเขามา

ชีวภาเห็นว่าเขาไม่รับมัน เธอก็วางมันไว้ที่ระหว่างแผง ควบคุมเสียเลย “ฉันบอกว่าจะคืนมันกับคุณ

ใครจะไปรู้ว่า พอวางลงไปปุ๊ป จดหมายอันนั้นก็ถูกฝ่ามือ ใหญ่หยิบขึ้นมา เสียง ครืด เบาๆดังขึ้น หน้าต่างรถถูกเปิดลง มา เขาใช้แขนโยนซองนั้นออกหน้าต่างรถไป
“คุณทําอะไร!?” ชีวภาตะโกนใส่เขาอย่างตกใจ ไม่ทันได้ ลังเล เธอก็ลงจากรถทันที จากหน้ารถไปยังข้างๆเขา ย่อตัวลง หยิบซองจดหมายที่อยู่บนพื้นขึ้นมา

ด้านบนมีเศษฝุ่นนิดหน่อย แต่ไม่เป็นอะไร เงินยังอยู่

โอเค

หันไปมองผู้ชายที่มองดูการกระทำสนุกๆ ในอกชีวภาร้อน ดั่งไฟขึ้นมา เธอเดินไปนั่งข้างคนขับ เปิดประตูรถดังปัง หันไป เผชิญหน้ากับเขาอย่างตรงๆ “คุณทิ้งเงินทำไม?

“ก็ไม่อยากได้” ปากบางเขาเปิดเล็กน้อย พูดเพียงแค่นั้น

ชีวภากซองจดหมายในมือแน่น แต่ไม่รู้สึกเจ็บที่มือ เธอ จ้องมองคนตรงหน้าเขม็ง เกรงใบหน้าเล็กแล้วพูดว่า “ทำไมไม่ เอา มันน้อยเกินไปหรอ?”

ชนุดมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่ อธิบายเก่ง ถูกเธอบังคับให้ตอบ เลยพูดไปหนึ่งประโยค “เธอ มารับปืนแทนฉัน ก็ถือว่าตอบแทนพอแล้ว”

ชีวภารู้สึกหดหู คำพูดจุกอยู่ที่ลำคอ นานจนกว่าจะพูด หน่อย!”

ออกมา “นั่นมันคนละเรื่องกัน เราไม่ได้ทำการค้าขายกันซะ

เขาทําท่าที่ไม่ได้ใส่ใจสักนิด มันได้ทิ่มแทงลงไปในอีโก้ ของเธอ เขาทำให้เธอคิดว่าการนำเงินตัวเองมาคืนก็เหมือนคน โง่ แต่ตอนที่เธอถอนเงินออกมาจากธนาคารนั้น เธอมีความสุข มาก แค่คิดว่าได้คืนสักนิดหน่อย เธอก็หยุดสุขใจไม่ได้ แต่ว่าเรื่องทั้งหมดนี้ กลับไม่ถูกเห็นในสายตา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ