ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน491เมามายถูกรวบตัว



ตอน491เมามายถูกรวบตัว

ตอนที่491เมามายถูกรวบตัว

คำพูดที่ไม่ได้ตั้งใจของจินต์แทงใจดำของนัชชาอย่างจัง เธอเองก็รู้สึกตลก”การแสดงออกของฉันมันชัดเจนขนาดนั้น เลยหรือ?”

จินต์รับเมนูเครื่องดื่มมาจากมือของบริกรแล้วพยัก หน้า”ไม่ใช่ว่าเธอแสดงออกอย่างชัดเจนที่บ้านนั้นคนที่จะทำให้ เธออารมณ์เสียได้เห็นจะมีแต่เขาคนนั้น”

นัชชาพูดไม่ออกดูเหมือนว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ

“ดูสิว่าเธออยากดื่มอะไรจะเป็นเบียร์ไวน์แดงหรือค็อกเทล ดีล่ะ?”

“ขอเป็นเหล้าฝรั่งแล้วกันวิสกี้นะ”คำพูดของนัชชาทำให้ จินต์ตกใจจนตาแทบถลน

“อะไรนะ?”เธอแคะหูของตัวเองคิดว่าฟังผิด”เธออยากเมา ขนาดนั้นเลยเหรอ?”

“ฉันอารมณ์ไม่ค่อยดีเธอดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม?”

จินต์ไม่ใช่คนไม่รู้เธอสั่งวิสกี้มาหนึ่งขวดอย่างรวดเร็ว”ได้ สนานๆทีจะออกมาเมาสักทีถ้าอย่างนั้นฉันจะเมาเป็นเพื่อนเธอ แบบสุดเหวี่ยงไปเลย”
เครื่องดื่มถูกจัดเตรียมมาให้อย่างรวดเร็วทางบาร์แถมผล ไม้ให้หนึ่งถาดนัชชาใส่มะนาวลงในแก้วแล้วเทวิสกี้ตามลงไป หล่อนชนแก้วกับจินต์”ขอบใจที่ดื่มเป็นเพื่อนฉัน

จินต์ยิ้มๆ “ยินดีอย่างยิ่ง

ของเหลวเผ็ดร้อนไหลเข้าหลอดอาหารตอนอารมณ์ดีอาจ ไม่คิดว่าเป็นของดีแต่ตอนอารมณ์ไม่ดีดื่มสักแก้วมันก็ช่วย บรรเทาความสบายใจได้จริงๆ

“แต่ว่าครั้งนี้เกิดอะไรขึ้นอีกล่ะ?”

นัชชานึกถึงบทสนทนาระหว่างเขาเมื่อคืนนี้แววตาก็สลด ลงอย่างไม่สามารถแอบไว้ได้ เขารับคดีมาคดีหนึ่งมันเป็นคดีที่ อันตรายมากฉันไม่อยากให้เขาไปเตชิตรู้สึกว่าเขาจำเป็นต้อง ยืนให้ได้ในฐานะนักกฎหมายคนหนึ่ง

“มันอันตรายขนาดนั้นเลยเหรอ?”

“ใช่”นัชชาเสียงต่ำ”อันตรายมาก”

“เธอลองพูดกับเขาดีๆ เตชิตน่าจะเข้าใจคลื่นใหญ่ลมแรง ขนาดไหนพวกเธอก็ผ่านมาได้ขนาดนี้คงไม่มาทะเลาะกันกับ เรื่องเล็กๆน้อยๆนี้หรอก”

“ฉันพูดแล้วแต่ว่า…”พอพูดถึงตรงนี้นัชชาก็ลังเลเธอมอง ลงไปที่เหล้าในแก้วเหมือนว่าหัวใจของเธอถูกแช่อยู่ในนั้น ฉัน ไม่รู้ว่าสิ่งที่ฉันทําลงไปมันถูกต้องไหม

จินต์รู้ว่านัชชาหวั่นไหวกับเรื่องนี้อยู่ไม่น้อยในฐานะผู้หญิงเหมือนกันเธอเข้าใจความคิดในใจของนัชชา” ในความเป็น จริงเธอทั้งคู่ไม่มีใครผิดเพียงแต่จุดยืนของเขาและเธอไม่ เหมือนกันมุมมองของปัญหาของเธอทั้งคู่ก็แตกต่างกันฉันรู้ว่า เธอเป็นห่วงความปลอดภัยของเขาเตชิตเขาต้องเข้าใจอย่าง แน่นอนเขาไม่โทษเธอหรอก”

นัชชาได้ยินคำปลอบใจของจินต์มันไม่ได้ช่วยให้เธอรู้สึก ดีขึ้นสักเท่าไร”วันนี้ฉันส่งธีมนต์ไปโรงเรียนเขาบอกกับฉันว่า เขาอยากเป็นนักกฎหมายที่ยิ่งใหญ่อย่างพ่อและแม่จินต์ฉันไม่รู้ ว่าจะชั่งใจยังไง…”

โดยส่วนตัวเธอในฐานะของภรรยาและในฐานะผู้เป็นแม่ ไม่อยากให้เตชิตตกอยู่ในอันตรายแต่เมื่อคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่อง ที่สำคัญมากเธอจึงรู้สึกว่าตนเองทั้งเห็นแก่ตัวและเป็นแค่ผู้หญิง ตัวเล็กๆคนหนึ่งเท่านั้น

“นัชชาทุกคนย่อมเห็นแก่ตัวคนไม่เห็นแก่ตัวเองคงถูก สวรรค์ลงโทษฉันรู้ว่าเธอมีความยุติธรรมในใจแต่ฉันไม่ ต้องการให้ความยุติธรรมนี้กลายเป็นโซ่ตรวนผูกมัดเธอให้ทำ เรื่องที่เธอไม่อยากทำ”

นัชชาอยากเลือกที่จะไม่ต้องสนใจอะไรหากไม่ได้ทำอะไร เลยหลังจากเรื่องนี้ผ่านไปในใจของเธอจะไม่รู้สึกอะไรจริงหรือ แม้ว่าเธอไม่รู้สึกแล้วเตชิตล่ะ?

เธอรู้นิสัยของชายคนนี้ดีมากเขาอาจดูเย็นชาห่างเห็นแต่ เมื่อเขารับคดีแล้วเขาจะจริงจังและใส่ใจกว่าคนอื่นๆด้วยซ้ำแม้ว่าความจริงจังและความใส่ใจจะถูกอำพรางได้อย่างแนบ เนียนภายใต้บุคลิกภาพของเขาแต่นัชซายังสามารถสัมผัสได้ เพราะว่าเธอก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน

หากพูดถึงลักษณะนิสัยแล้วเธอและเขามีส่วนที่คล้ายกัน

มาก

เธอทั้งสองดื่มแก้วแล้วแก้วเล่าวิสกี้หมดไปครึ่งขวดหัว ของนัชชาก็เริ่มมึนๆส่วนจินต์เธอคอแข็งกว่านัชชานิดหน่อยยัง มีสติสัมปชัญญะอยู่

ทั้งสองคนพลางดื่มเหล้าพลางพูดคุยกันไม่มีใครสนใจ โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะด้านข้างเลยตอนที่นัชชาไปเข้า ห้องน้ำโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นจินต์มองดูแวบหนึ่งเตชิตโทรเข้า มา

เธอไม่ได้คิดอะไรมากหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย”เตชิต ภรรยาของคุณอยู่กับฉันคุณไม่ต้องห่วง…

เขาโทรหาเธอเป็นครั้งที่แปดไม่มีคนรับสายชายผู้ที่กำลัง จะระเบิดอารมณ์ออกมาได้ยินเสียงเมาๆของจินต์เขาก็เก็บ อารมณ์ไว้ไม่อยู่อีกต่อไปมองนาฬิกาแขวนผนังตอนนี้สี่ทุ่มกับ อีกสิบห้านาทีดีล่ะ

เตชิตลุกขึ้นหยิบเสื้อโค้ตแล้วก็ออกประตูไปน้ำเสียงของ เขาน่ากลัวเหมือนสายลมเย็นยะเยือกที่พัดมา “พวกคุณอยู่ ที่ไหน?”
ยี่สิบนาทีต่อมารถมายบัคคันหรูก็ถอยหลังจอดอยู่ที่ประตู ทางเข้าของภัตตาคารแห่งหนึ่งล้อรถเสียดถูกับพื้นกวาด สายลมที่หรูหราแล้วดูแพงขึ้นมา

ผู้คนจํานวนไม่น้อยเมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ต้องหยุด ฝีเท้าพอรถหยุดอยู่กับที่ตรงประตูที่นั่งคนขับก็เปิดออกชายรูป ร่างสูงโปร่งปรากฏกายขึ้น

น่าเสียดายที่ค่ำคืนนั้นมืดมิดไปนิดหนึ่งมองเห็นใบหน้า ของชายหนุ่มได้ไม่ค่อยชัดเจนแต่เพียงเงาด้านหลังของเขาก็ ทำให้คนที่พบเห็นอุทานออกมา

“เท่จังเลย!”

“โอ้พระเจ้านี่ไม่ใช่ประธานจอมเผด็จการในนิยายหลุด ออกมา ในความเป็นจริงเหรอ?”

“ฉันอยากเห็นเขาหน้าเต็มๆจังเลย…

เสียงกระซิบกระซาบที่อยู่ข้างหลังไม่ได้ทำให้ชายหนุ่ม เบี่ยงเบนความสนใจแม้แต่น้อยใบหน้าของเขาเคร่งขรึมเดิน เข้าไปในบาร์ผู้จัดการรีบเดินออกมาข้างหน้าทันทีกำลังจะถาม เขาก็ถูกสายตาคู่นั้นขู่ขวัญจนพูดแทบไม่ออก

“คุณคุณผู้ชายบาร์ของเราเป็นระบบระบบสมาชิก…”

เตชิตยังคงเดินหน้าต่อไปหว่างคิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน ด้วยความโกรธขนาดคนที่อยู่รอบข้างในระยะสิบเมตรยังรู้สึก ถึงความไม่พอใจของเขาได้
ผู้จัดการเดินตามอยู่ด้านหลังของเขาพยายามจะห้ามแต่ก็ ไม่กล้าห้ามได้แต่มองเขาบุกเข้าไปในบาร์อย่างช่วยไม่ได้

เตชิตมองแวบเดียวก็เห็นเงาหลังของหญิงตัวเล็กๆฟุบอยู่ ที่โต๊ะในระหว่างทางที่ขับรถมาความมันเต็มไปด้วยความเป็น ห่วงและความร้อนรนเมื่อเห็นเธอกลับกลายเป็นอารมณ์โมโห เกรี้ยวกราดขายาวๆของชายหนุ่มเดินไม่กี่ก้าวก็เดินไปถึงโต๊ะ จินต์มองเห็นเขาก่อน

“อ้าวคุณมาแล้วเหรอ…”เห็นได้ชัดว่าจินต์ก็เริ่มเมาแล้ว พูดไม่ค่อยชัดติดๆขัดๆ “มารับมารับภรรยาของคุณเหรอ?”

เตชิตเหลือบมองมาที่เธอแวบหนึ่งหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้น มาส่งข้อความถึงธนัทแล้วหันหน้าไปโจมตีร่างหญิงที่ทำให้เขา เป็นห่วงและโมโหทันที

“ลุกขึ้น”

เสียงเย็นยะเยือกของเขาดังมาจากบนหัวของนัชชาหา กนัชชายังมีสติอยู่คงจะรู้ว่าเขากำลังพยายามควบคุมอารมณ์ อย่างที่สุดห้ามยั่วอารมณ์ของเขาอีกเป็นอันขาด

น่าเสียดายที่ตอนนี้เธอเมาไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้นได้แต่อยาก นอนอยู่ตรงนั้น

หญิงที่ฟุบอยู่บนโต๊ะไม่มีการตอบสนองใดๆเปลวไฟโมหะ เล็กๆที่อยู่ในใจเขาเหมือนโดนราดด้วยน้ำมันเกิดปะทุเป็นกอง ไฟใหญ่มหึมาเขาเอื้อมมือกระชากเธอขึ้นมาจากโต๊ะแม้ว่าจะ

ใช้แรงเยอะแต่ก็พยายามไม่ให้เธอเจ็บ
นัชชารู้สึกแค่ว่าหัวหมุดตาลายไปหมดหลังจากนั้นก็เห็น ใบหน้าอันหล่อเหลาที่คุ้นเคย “เตเตชิต? “กลิ่นเหล้าแรง พวยพุ่งออกจากปากของเธอ

ชายหนุ่มขมวดคิ้วเข้าหากันเขาถามเสียงเข้ม”เธอยังยืน ไหวไหม?”

นัชชาไม่รู้ว่ายืนไหวไม่ไหวผงกหัวทันที”ไหว!”

“ถ้าอย่างนั้นก็กลับบ้านกับฉัน

“ได้…เอออ~”หลังจากเลอเสร็จนัชชานมือบนโต๊ะ พยายามควบคุมทรงตัวให้ลุกขึ้นแต่เสียดายที่แอลกอฮอล์ขึ้น หัวไม่สามารถทรงตัวอยู่ได้กันเพิ่งจะห่างจากเก้าอี้ไม่เท่าไรก็ หมดแรงหล่นลงที่เก้าอี้เหมือนเดิมเธอพึมพำกับตัวเองเป็น ภาษาที่เข้าใจยาก “เออออ? ทำไมฉันยืนไม่ได้…”

“”เตชิตยืนยิ้มเยาะอยู่ข้างๆมองเธอพยายามจะลุกขึ้น แต่ไม่เป็นผล”เก่งดีนักหลอกฉันมากินเหล้าข้างนอกตอนนี้กลับ เก่งไม่ออกแม้แต่ลุกขึ้นยืนเองยังไม่ได้เหรอ?”

เมื่อนัชชาได้ยินดังนั้นก็เบ้ปากตอนแรกมีทุกข์อยู่เต็มอก แต่ไม่มีที่ระบายพอได้ยินคำเยาะเย้ยของเขาก็ยิ่งพยายามลุก ขึ้นให้ได้

เสียงดัง เพรงกระดูกหัวเข่าของเธอกระแทกที่มุมโต๊ะ อย่างแรงเตชิตชะงักไปชั่วครู่สายตาที่เย็นชาเมื่อสักครู่เปลี่ยน ไปอย่างฉับพลันการเคลื่อนไหวไวกว่าสมองรีบพยุงไหล่เธอ ทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ