ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน394มีรูปเธออยู่ในกระเป๋าสตางค์



ตอน394มีรูปเธออยู่ในกระเป๋าสตางค์

ตอนที่394 มีรูปเธออยู่ในกระเป๋าสตางค์

เตชิตพาทั้งสองไปที่ร้านอาหารบริเวณเชิงเขา ร้านเป็น

สไตล์จีน ที่ประตูทางเข้ามีสระหินอยู่ ตรงกลางเป็นน้ำพุ ทั้งสอง ด้านเป็นป่าไผ่เทียม ตกแต่งได้สวยงาม มองดูแล้วสดชื่น

แต่เมื่อนัชชาเห็นเมนูของร้าน ก็รู้สึกประหลาดใจที่นี่เป็น ร้านหรูของเขา อาหารส่วนมากเป็นผักทอด มีระดับกว่าร้านพื้น บ้าน แต่กลับไม่มีอาหารระดับสูง

นัชชาสั่งสตูว์ที่ทำจากไก่ป่า เธอชอบซุปไก่เป็นการส่วนตัว และชอบทานสัตว์ปีก

เตชิตยังคงสั่งผักเป็นหลัก สำหรับเด็กเธอสั่งผลิตผลจาก ผักสองจานที่มีรสชาติเปรี้ยวหวาน

กับข้าวห้าอย่างซุปหนึ่งอย่าง ห้องส่วนตัวบนชั้นสอง มีหน้าต่างมองเห็นวิวสีเขียวที่เชิงเขา นัชชากำลังดื่มซุปไก่ใน ชาม มีชั้นน้ำมันสีเหลืองเลยอยู่ แต่มันไม่ใช่น้ำมัน แต่มันเป็น เนยที่เป็นเอกลักษณ์ของไก่ป่า ไม่เหนียว รสชาติกลมกล่อม มาก

เมื่อได้ทานอาหารในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ อาหารมื้อนี้ ช่างน่าเพลิดเพลินนัก
เห็นได้ชัดว่าเมนต์กำลังหิว ทานข้าวหมดหนึ่งชาม น้ำซุป หนึ่งชาม ทานอิ่มแล้วก็เริ่มเดินวนไปรอบๆห้อง ไม่นานนักหนัง ตาก็เริ่มหนักขึ้น ง่วงแล้ว

ปีนเขามานานมาก มันเหนื่อยจริงๆ

นัชชาทานข้าวช้า แต่เพื่อต้องการที่จะดูแลลูกจึงต้องเร่ง ความเร็วของตัวเอง เมื่อเตชิตเห็นเข้า “ทานช้าๆหน่อยก็ได้ ไม่ ต้องรีบ”

เธอไม่ได้พูดอะไร หยิบชามขึ้นมาซดน้ำซุป เอากระดาษ ทิชชูเช็ดปาก เธอลุกขึ้นและพยายามจะจับชายร่างเล็กให้นั่งที่ เก้าอี้ แต่กลับถูกมือทั้งสองข้างของเขาปัดเอา

เธอเงยหน้าขึ้นมอง เตชิตอุ้มเด็กขึ้นมากอด “กระเป๋า สตางค์อยู่บนโต๊ะ ผมอุ้มเขาขึ้นรถก่อน คุณเช็คบิลนะ

เมื่อพูดจบเขาก็อุ้มออกไปโดยไม่หันมาอีกเลย

นัชชาเห็นกระเป๋าสตางค์ที่วางอยู่บนโต๊ะ ถอนหายใจ อย่างช่วยไม่ได้ ได้แต่หยิบเพื่อเอาไปชำระเงินที่เคาน์เตอร์แต่ โดยดี ทั้งหมดห้าร้อยเจ็ดสิบแปดเหรียญ นัชชาเปิดปาก กระเป๋าต้องการจ่ายด้วยเงินสด สายตาก็เหลือบไปเห็นรูปภาพ ที่มุมซ้ายล่างของกระเป๋า

เป็นรูปที่เขาถ่ายเธอตรงระเบียงเมื่อห้าปีก่อน

เธอกำลังนอนอ่านหนังสือบนเก้าอี้โยก อาจจะง่วงนอน หลับไป หัวยุ่งกระเซิงเล็กน้อย ดวงตาปิดอยู่ แสงแดดตกลงที่เธอสะท้อนให้เห็นสีสดใส

มีคำพูดที่ไม่รู้จะพูดเช่นไร อยากรู้ว่าผู้ชายคนหนึ่งรักเธอ ไหมให้ดูว่าในกระเป๋าสตางค์ของเขามีรูปเธออยู่หรือไม่

ประโยคนี้ฮิตมาก อย่างไรก็ตามในปีที่ผ่านมา โทรศัพท์ มือถือมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว หลายคนจึงไม่ใส่ใจมากกับสิ่ง นี้ แต่ในเวลานี้เธอกลับคิดถึงมันขึ้นมา

มือของนัชชาหยุดชะงัก แสบจมูกขึ้นเล็กน้อยในทันที

“สวัสดีค่ะ นี่เงินทอนนะคะ” เสียงของพนักงานนำเธอกลับ สู่ความเป็นจริง

นัชชาสูดลมเข้าจมูก ยื่นมือไปรับและพูดเบาๆ “ขอบคุณ

เมื่อกลับถึงรถ นัชชาคืนกระเป๋าสตางค์ให้กับเขา ระหว่าง ที่คืนก็พูดว่า “ทั้งหมดห้าร้อยเจ็ดสิบแปดบาทค่ะ ฉันใช้เงินสด จ่ายไปนะ”

“อื้อ” ชายคนนั้นสตาร์ทรถ เขาจับพวงมาลัยด้วยมือทั้ง สอง ปรากฏเป็นภาพโค้งเว้าที่น่ามอง

นัชชาอดทนไว้ ไม่ได้ถามเขาเกี่ยวกับเรื่องรูปถ่ายนั้น แต่ ว่าเปลี่ยนไปถามเรื่องอื่นแทน “ธีธีหลับแล้วหรอคะ”

“อื้อ ดูเหมือนจะเหนื่อยมากนะ” เวลาที่พูดถึงธีมนต์ สายตาเขาอ่อนโยนมาก ราวกับถูกเปลี่ยนเป็นน้ำ
โดยปกติแล้ว เขาจะไม่มีความอดทนกับเธอเช่นนี้ มักจะ ทําอะไรอย่างรีบร้อน ยากที่จะให้เธอยอมรับบางสิ่งที่ไม่ สามารถยอมรับได้

จนวันหนึ่งที่ได้กลายเป็นพ่อแม่คน ทุกอย่างก็สามารถ เปลี่ยนไปได้

นัชชาดึงสายตากลับมา หันมองออกไปนอกหน้าต่าง รถ ขับออกไปทางสวนสวย ถนนบริเวณใกล้เคียงเห็นสีเขียวค่อน ข้างน้อยแล้ว กลายเป็นพ่อค้าแม่ค้าซะส่วนใหญ่ อารมณ์ของ นัชชาเริ่มตกลง

ทันใดนั้นมือของเธอที่วางอยู่บนหน้าขาก็ถูกฝ่ามือใหญ่ ของชายคนนั้นกุมเอาไว้

เธอรีบหดมือทันทีโดยจิตใต้สำนึก แต่ชายคนนั้นกลับพูด

ด้วยเสียงสงบนิ่ง “อย่าหาเรื่อง ขับรถอยู่นะ”

“ฉันไม่ได้หาเรื่อง เด็กยังคงหลับอยู่ เธอเถียงด้วยเสียง เบาๆ

“งับสักครู่ ถึงแล้วเดี๋ยวผมเรียก” เตชิตมองตรงไปข้าง หน้า ความจริงแล้วเขาสังเกตเห็นว่าเธอเหนื่อยตั้งแต่ตอนทาน ข้าวแล้ว ไม่ว่าอย่างไรร่างกายของผู้หญิงก็อ่อนแอกว่า ปืนไป ถึงยอดเขาได้ก็นับว่าไม่เลวแล้ว

ระหว่างทางก็เป็นกังวลคอยดูลูก คอยระวังให้เขาอยู่ ตลอดเวลา คาดว่าน่าจะเหนื่อยล้าอยู่ไม่น้อย
นัชชา ลึงตาใส่ให้เขาขับรถไป เธอไม่รู้ว่าชายคนนี้ เต็มใจให้ความร่วมมือหรือไม่ เขาก็หันกลับไปมองทานด้าน หน้ารถ

ใจเธอรู้สึกหวั่นไหว รู้สึก เริ่มรู้สึกไม่ปิดกั้น

ในรถเงียบสงบ ตอนแรกเธอก็พยายามฝืนเปลือกตาเอา ไว้ หลังจากนั้นไม่นานก็เหมือนจะต่อสู้ต่อไปไม่ไหว สักพักตา เกือบจะปิด ในที่สุดก็ไม่สามารถกำจัดแมลงง่วงภายในหัวออก ไปได้ สติดับไปอย่างสมบูรณ์

รถหยุดที่ตรงไฟแดง เตชิตปลดล็อคเข็มขัดนิรภัยเพื่อที่จะ

เอนเบาะให้กับเธอ จากนั้นจึงยึดตัวขึ้นและติดเข็มขัดนิรภัยเข้า อีกครั้ง

ไฟเขียวได้สว่างขึ้น ชายคนนั้นเริ่มเหยียบคันเร่งเบาๆเพื่อ

ออกตัวช้าๆ กุมมือเล็กๆด้านข้างเอาไว้ใหม่อีกครั้ง

ขับรถเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดรถก็มาถึงประตูใหญ่ ทางเข้าของไวโรจน์วิลล่า

เมื่อมองดูเวลา ก็เป็นเวลาบ่ายสองโมงแล้ว

เตชิตมองดูหญิงสาวที่ไม่ได้ถูกรบกวนให้ตื่นจากการจอด รถในโรงจอดรถ และหันไปมองตุ๊กตาน้อยที่อยู่ทางเบาะหลัง น้านที่อยู่ไม่ไกลก็กวักมือเรียก

“นายท่าน คุณกลับมาแล้ว”
ชายคนนั้นเปิดประตูทางด้านหลัง ถอดเข็มขัดนิรภัยของ ลูกออก “อุ้มธีธีเข้าไปนะ

น้ารินรีบรับค่า “อ้า ได้ค่ะ!”

เมื่อเห็นว่าในค่อยๆเบามืออุ้มเด็กน้อยเข้าไปในวิลล่า เต ชิตก็เดินกลับมาที่ที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้า เปิดประตูข้างออก ปลดเข็มขัดนิรภัยของหญิงสาวออก จูบอย่างนุ่มนวลลงบนริม ฝีปากของเธอ

มือทั้งสองช้อนด้านหลังและขาของเธอไว้ ใช้ความ

แข็งแกร่งที่เอวออกแรงยกเธออุ้มขึ้น ในท่าแนวนอน

ตัวเธอเบา แค่เพียงเก้าสิบกว่าปอนด์เท่านั้น เขาอุ้มได้ โดยไม่รู้สึกอะไร เตชิตอุ้มไปคิดไป อีกหน่อยต้องให้เธอทาน ข้าวมากกว่านี้สักหน่อย เพิ่มไขมันอีกสักหน่อย ไม่อย่างนั้นวัน หลังเตียงอาจจะกลืนคนหายไป

น้าในพาเด็กกลับไปที่ห้องนอน มองลงไปเห็นพอดีว่าเต ชิตกำลังอุ้มนัชชาขึ้นมา เมื่อสักครู่เธอเพิ่งคิดว่านายท่านชอบ อุ้มเด็กเป็นที่สุด ทำไมถึงยอมละทิ้งโอกาสนี้

พอเห็นฉากนี้ในตอนนี้ เมื่อเทียบกับเด็กแล้วยังมีสิ่งที่ สําคัญกว่า

น้ารินช่วยเหลือ โดยการขยับเล็กน้อย หันไปเห็นเตชิต ค่อยๆวางนัชชาลงบนเตียง อาจเป็นเพราะการย้ายสถานที่ เธอ ครางออกมาเสียงหนึ่ง ชายหนุ่มรีบหยุดการเคลื่อนไหวของเขา ทันที กลัวว่าจะทำให้เธอตื่น
เขาถอดรองเท้าถุงเท้าออกอย่างระมัดระวัง ห่มผ้าห่มให้ อย่างดี เมื่อลุกขึ้นมาแสงส่องเห็นบนหน้าผาก เหงื่อแตกแล้ว

นายเตชิตที่อ่อนโยนเช่นนี้ น้าในเพิ่งเคยจะเห็นในห้าปีนี้ เธอรู้สึกสะเทือนใจ หวังลึกๆว่าทั้งสองจะคืนดีกัน ไม่แยกจาก กันอีก นอกจากคุณนัชชาแล้ว เธอก็ไม่รู้ว่าจะมีใครอีกที่ สามารถทำให้น้ำแข็งร้อนได้

หลังจากที่จัดการภรรยาและลูกเสร็จเรียบร้อยแล้ว เตชิต ไม่พักผ่อน เขาตรงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหยิบกุญแจรถและ ขับออกไปอีกครั้ง

“นายค่ะ ตอนเย็นกลับมาทานข้าวรึเปล่าคะ” ก่อนออก เดินทางน้าในเอ่ยปากถาม

เตชิตคิดสักครู่จึงตอบ “ตอนเย็นไม่ต้องทำกับข้าวครับ ลูกชายป้ากลับพรุ่งนี้แล้วไม่ใช่หรอครับ ป้าลาพักร้อนสักสอง

วันกลับไปบ้านเถอะ”

อยู่ๆก็ได้วันหยุดเพิ่มน้ารินรู้สึกงง “นายท่านคะ วันหยุด

ของป้าไม่ใช่…”

“ไม่เป็นไร หลายปีมานี้ ป้าทำงานหนัก ไม่ต้องมองผม แบบนี้ ป้าพักผ่อนเถอะ เย็นนี้ผมจะรับเขาสองคนลูกเมียออกไป ทานเอง” ชายหนุ่มมีความจริงใจบนใบหน้า จริงๆแล้วในใจ กำลังดีดลูกของเขาเอง
ถ้าหากว่าคืนนี้เขาสารภาพรักกับนัชชาสำเร็จ เมื่อเกิด อะไรขึ้น ทั้งบ้านก็เป็นสนามรบของเขาเอง คิดอย่างช่วยไม่ได้ มันจะเป็นไปได้อย่างไรหากบ้านอยู่ใกล้ๆ

เป็นไปไม่ได้

น้านไม่ได้คิดลึกขนาดนั้น ได้แต่พยักหน้า “ขอบคุณค่ะนายท่าน!”

เตชิต โบกมือ สวมรองเท้าและออกไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ