ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน606เธอคือเส้นตายของเขา



ตอน606เธอคือเส้นตายของเขา

ตอนที่ 606 เธอคือเส้นตายของเขา

ทันทีที่เขานึกถึงใบหน้าและร่างกายของนัชชาที่มีแต่รอย แผลเต็มไปหมด เขาแทบอยากจะหั่นผู้ชายตรงหน้าออกเป็น ชิ้นๆ แม้แต่ผมเส้นเดียวของเธอเขายังไม่เคยทำให้เสียหาย แต่ เธอกลับโดนชายอีกคนขับรถชนแล้วยังถูกลากไปตั้งไกล เธอ ยังโชคดีอยู่ ไม่เช่นนั้นไม่รู้ผลจะออกมายังไง?

เตชิตไม่กล้าแม้แต่จะคิด เพียงแค่สมมุติก็พอจะทำให้ หัวใจของเขาสั่นคลอน

“ผมขอโทษ ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริงๆ” ชายผู้นั้นร้องขอ ชีวิตอย่างทุกข์ทรมาน ใบหน้าบวมปูด บวมจนจมูกกับตาแทบ จะชิดติดกัน น้ำตาไหลพรากๆ ปนกับเลือดที่ออกจากจมูกและ

ปาก ใครเห็นก็ต้องตกตะลึง

ส่วนผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างมองเห็นภาพแบบนี้ เหมือน ร่างกายโดนสูบพลังไปหมด ไม่กล้าเชื่อว่าตัวเองจะกำลังเผชิญ กับเหตุการณ์แบบนี้ เหมือนเธอจะคลับคล้ายคลับคลาว่าก่อน จะเกิดเรื่อง ผู้หญิงคนนั้นดูท่าทางกล้าหาญไม่เกรงกลัวอะไร เบื้องหลังของเธอมีคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้ยันอยู่ จะกลัวคนแบบ พวกเราได้อย่างไร?

ตาบอดแท้ๆ ตอนนี้เป็นยังไง พวกเราจะไม่โดนซ้อมจนพิการหรอกหรือ?

ความคิดแบบนี้เพิ่งออกมาจากหัว ก็มองเห็นเตชิตเตะไปที่ หัวของผู้เป็นสามี เสียงดังตูบที่หนึ่งหลับตาแล้วก็สงบไป

สายตาของเตชิตหันไปหาผู้หญิงที่อยู่ข้างสนาม ฝ่ายนั้น ตกใจสุดขีดจนน้ำตาไหลพรากๆ รีบหุบขาหุบแขนป้องกันตัว เองทันที คงอึดอัดสินะโดนอุดปากไว้แบบนั้น

“ฮือๆๆๆ!” ผู้หญิงคนนั้นร้อนรนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่น่าเสียดายที่มีผ้าอุดปากเอาไว้ไม่สามารถพูดอะไรออกมา ได้ ได้แต่ร้องอย่างสิ้นหวัง

เห็นได้ชัดว่าเตชิตไม่ให้โอกาสเธอได้พูด ทั้งร่างของเขา เต็มไปด้วยอารมณ์ที่อยากฆ่าคนเต็มที่เหมือนกับปีศาจที่เพิ่งถูก ปล่อยออกมาจากขุมนรก มองดวงตาสีแดงที่ถูกย้อมด้วยความ โกรธ เหมือนว่าวินาทีต่อมาจะถูกเขาเชือดคอแล้วดื่มเลือดสดๆ อย่างไรอย่างนั้น

น่ากลัว ช่างน่ากลัวจริงๆ บนโลกนี้มีคนแบบนี้ได้อย่างไร เพียงแค่มองก็ทำให้รู้สึก กดดันทุกข์ทรมานเหมือนคนใกล้ตาย

เตชิตยืนตระหง่านมองผู้หญิงตัวสั่นที่นั่งอยู่บนพื้น ใบหน้า ของเธอเปรอะเปื้อน เขาไม่ลงมือ แต่ให้สายตากับบอดี้การ์ดที่ อยู่ด้านข้าง ฝ่ายตรงข้ามเดินเข้ามาจิกผมผู้หญิงคนนั้นขึ้นอย่าง รู้งาน…
หลังจากชนัยได้ยินเสียงร้องของผู้หญิงถึงได้หันกลับมา ภาพที่เห็นตรงหน้ายุ่งเหยิงไปหมดรู้สึกประหลาดใจ

รู้นิสัยของเขาดี แต่ไม่เคยเห็นชายหนุ่มลงมือลงไม้กับผู้ หญิง แม้ว่าคราวนี้จะไม่ได้ลงมือด้วยตัวเอง แต่ในที่สุดก็ให้คน อื่นลงมือแทนจนได้

สำหรับเขานัชชาเป็นเหมือนสมบัติชิ้นสำคัญที่ไม่อาจให้ ใครแตะต้องได้ แม้แต่มีใครทำให้เป็นรอยนิดเดียวก็ไม่ได้เด็ด ขาด

นั่นคือเส้นตายของชายหนุ่มคนนี้ ห้ามแตะต้อง แม้จะเข้า ใกล้ก็ไม่ได้

ปีนี้ชนัยอายุสามสิบห้าแล้ว แม้ว่าจะเกิดช้ากว่าแต่ก็ห่าง จากเตชิตเพียงสองสามปี อายุมากขนาดนี้ แฟนก็เคยมีแต่ไม่มี คนไหนที่ตรงใจ เข้ามาแล้วก็จากไปคนแล้วคนเล่า เขาก็เคยรัก ผู้หญิงคนหนึ่งมาก แต่ก็ไม่ชนะเวลาที่ล่วงเลยทำให้รักนั้น ค่อยๆจืดจางลง

ปรัณเคยบอกไว้ว่าเขาไม่พบรักแท้ เมื่อเห็นเตชิตทำทุก อย่างให้นัชชา ในใจของเขาก็เกิดอิจฉาอยู่นิดๆ

ไม่มีใครไม่เชื่อในความรู้สึกเช่นนี้ คุณเป็นของฉัน ฉันเป็น ของคุณ ความรู้สึกที่มีกันและกัน คนที่รักกันอย่างแท้จริงเท่านั้น ที่สามารถสัมผัสได้

ชนัยเขียการที่ที่เขี่ยบุหรี่ ขายาวๆเดินอ้อมโต๊ะทำงาน มุ่งตรงไปที่ชายหนุ่ม สายตาก็มองไปที่ชายหญิงคู่นั้น กำชับกับคนที่อยู่ด้านหลัง “ทำความสะอาดให้เรียบร้อย ส่งคนออก ไป”

“ครับ ท่านประธานชมัย

ชนัยค่อยๆเปิดประตูสำนักงานออกอย่างเงียบ ๆ ราวกับ ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำท่าเชิญเตชิตอย่างทะเล้น “ไปกันเถอะพี่ เตชิต ข้างๆมีร้านอาหารญี่ปุ่นรสชาติไม่เลวเลย ไปลองชิมกัน”

น้ำเสียงแบบนี้ ท่าทางแบบนี้ ราวกับว่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น ไปเมื่อสักครู่เป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น บอดี้การ์ดที่อยู่ใน ห้องอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้น

รอจนทั้งสองออกไปจากห้องแล้ว มองดูร่างที่แผ่หลาที่พื้น ได้แต่เห็นใจอย่างเงียบๆ ยั่วใครไม่ยั่ว ดันมายั่วคนที่ไม่สมควร ยั่วที่สุดสองคนในเมือง 3 จะโทษใคร……..เพราะฉะนั้น อย่างคิด ว่าจะกลั่นแกล้งใครก็ได้ สักวันหนึ่งจะโดนดีไม่รู้ตัว

หลังจากออกจากมคลับเฮาส์ ก็เกือบสามทุ่มแล้ว เตชิต โทรติดต่อกับโรงพยาบาลสอบถามอาการของนัชชาแต่เธอยัง ไม่ฟื้น

ชนัยได้ยินที่เขาโทรหาโรงพยาบาล รู้ว่าเขายังมีเวลาว่าง เวลาแบบนี้คงต้องไปร้านอาหารญี่ปุ่น อีกอย่างเห็นช่วงนี้เขา คลั่งอาหารญี่ปุ่นอยู่ เลยกึ่งลากกึ่งชวนเตชิตไปด้วยกัน

ด้านข้างมูตี้คลับเฮาส์มีซอยเล็กๆที่เงียบสงบ แตกต่างจากหัวซอยที่ติดกับถนนใหญ่ที่เต็มไปด้วยความคึกคัก เมื่อ เข้าไปที่ปากซอยโคมไฟแสงสลัวที่แขวนอยู่ข้างซอย ทำให้รู้สึก ว่าซอยที่สงบอยู่แล้วดูเงียบเชียบยิ่งไปกว่าเดิม

ขนัยเดินเอามือล้วงประเป๋า อีกมือยกขึ้นลูบที่ติ่งหู ถอน หายใจออกมาทีหนึ่งแล้วเงยหน้ามองความมืดมิด ในยาม ค่ำคืน อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่ความวุ่นวายมานาน อยู่ใน ที่แบบนี้รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

ร้านอาหารญี่ปุ่น ชื่อว่า izakaya ตั้งอยู่ที่ตรงกลางซอย ขยับไปเกือบตรงท้ายซอย เป็นอาคารที่อยู่อาศัยแบบสามชั้น ดัดแปลงเป็นร้านอาหาร ชนัยรู้จักร้านนี้เพราะผู้จัดการของ บริษัทตัวเองเป็นคนแนะนำ ร้านนี้อร่อยมาก คุ้มค่าที่จะลอง

พอดีว่าคืนนั้นเขาอยากหาอะไรรองท้องสักหน่อย ก็เลย คิดว่าร้านนี้ก็ได้ ไม่คิดว่าวัตถุดิบที่นำมาใช้ทำอาหารของร้านนี้ จะดีมาก ส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบที่ต้องนำเข้ามาทางเครื่องบิน รสชาติดีมากๆ

ทั้งสองเดินมาถึงประตูทางเข้าของร้าน izakaya ผลัก ประตูไม้เล็กๆเข้าไปในร้าน ด้านบนประตูมีกระดิ่งแขวนอยู่ เสียงกระดิ่งจะดังขึ้นเมื่อมีลูกค้าเข้ามาในร้าน จากนั้นพนักงาน สาวคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทาย

เมื่อพนักงานสาวมองเห็นชนัยเธอชะงักไปชั่วครู่ เธอจำได้ ว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนเขาได้มาใช้บริการในร้าน เพราะว่าเขาต่าง จากลูกค้าคนอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง สวมเสื้อผ้าดูแพง นาฬิกาข้อมือที่ใส่ก็ดูหรูหรา สูงตั้งร้อนแปดสิบกว่าๆ แถมยังรู้สึกถึงความมี อำนาจที่แพร่ซ่านทั่วร่างของเขา

พนักงานหญิงต้อนรับลูกค้าอย่างสุภาพพาเดินเข้าร้าน “สวัสดีคะ ไม่ทราบว่าได้จองโต๊ะไว้ไหมคะ?

“ร้านนี้ต้องจองโต๊ะด้วยหรอ?” ชนัยเลิกคิ้วขึ้น รู้สึกไม่ เห็นจะต้องจองอะไรล่วงหน้า “หาห้องอาหารที่เป็นแบบส่วนตัว ให้ฉันห้องหนึ่ง ที่กว้างดี

เมื่อได้ยินดังนั้น หญิงสาวมองตรวจตราเขาแวบหนึ่ง คิ้ว งามๆของเธอขมวดเข้าหากันนิดหนึ่ง ก็ยังพูดอย่างสุภาพ “ได้ คะ รอสักครู่ฉันจะไปหาห้องว่างให้คะ”

หนึ่งนาทีต่อมา หญิงสาวเดินกลับมา พาทั้งสองไปยังห้อง อาหารในสไตล์เสื่อทาทามิที่อยู่ท้ายสุดของร้าน ก่อนจะเข้า ประตูต้องเปลี่ยนรองเท้าเสียก่อน แล้วสวมถุงเท้าคลุมทับอีกที

ชายหนุ่มทั้งสองนั่งลง ชนัยนั่งอ่านเมนูจนหมดเล่ม จาก นั้นก็สั่งอาหารอย่างคนรวย รายการอาหารที่สั่งล้วนแต่ทำจาก วัตถุดิบชั้นเลิศที่มีจำนวนจํากัดและราคาแพงที่สุดของวันนี้ รายการอาหารที่สั่งยาวเหยียดเต็มกระดาษสองหน้า

เมื่อเห็นว่าเขายังจะสั่งสุกียากี้อีก พนักงานหญิงยืนอยู่ที่ ปากประตูเตือนเขาอย่างสุภาพ “คุณลูกค้าคะ รายการอาหารที่ สั่งทานพอสำหรับสองท่านแล้วคะ

นิ้วที่กำลังชี้ไปที่เมนูชะงักไปครู่หนึ่ง มองไปที่หญิงสาว อย่างประหลาดใจ ก่อนหน้านี้ไม่ได้สังเกต ดูไปดูมาผู้หญิงคนนี้ก็หน้าตาดี หน้ากลมเล็ก ผิวขาวนวล ปากจิ้มลิ้ม แต่ตาโตเท่า กระดิ่ง ดั้งจมูกโด่งๆ ตั้งฉากกับหน้าผากเกลี้ยงเกลาของเธอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ