ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน596 คืนที่มีเธออยู่ด้วยมันช่างถูกใจ



ตอน596 คืนที่มีเธออยู่ด้วยมันช่างถูกใจ

ตอนที่ 596 ค่ำคืนที่มีเธออยู่ด้วยมันช่างถูกใจ

“ก็ใช่นะพี่ ฉันขอเรื่องนี้จริงสักครั้งได้ไหม…” เวธน์ที่นั่งอยู่ ข้างๆคอยพูดเสริม

เตชิตมองเขาสองคนที่ยังคงจดจ้องเพื่อรอคอยให้ความ เชื่อมั่นแก่พวกเขา เขาได้แต่ขยับขานั่งไขว่ห้าง น้ำเสียงที่เปล่ง ออกมาหนักแน่น “ถ้าฉันให้โควต้าเธอ เธอไม่คิดหรอว่ามันไม่ ยุติธรรมสำหรับคนอื่นหรอ

ตั้งแต่เล็กจนถึงเติบใหญ่เตชิตทำงานขึ้นมาด้วยลำแข้ง ตนเองมาตลอด ไม่ว่าจะทั้งที่ตอนเรียนอยู่ต่างประเทศเขาก็ ทำงานจนได้รับทุนการศึกษาทั้งหมด เขาทำงานได้ดีที่สุด โดย ใช้ความขยันเป็นตัวหลักไม่งั้นไม่สามารถมีเตนทลอว์เฟิร์มเกิด ขึ้นมาได้อย่างทุกวันนี้

สําหรับครอบครัวของเขา เขามักไม่ได้เป็นที่สำคัญอะไร มากนักเขามาได้ถึงทุกวันนี้ก็มาจากน้ำพักน้ำแรงของตนเองทั้ง สิ้น

ไม่ใช่เขาไม่อยากช่วย ไม่ใช่ว่าเขาใจร้าย หากเวธนขยัน ขึ้นมาจริงๆ ในภายหลัง หากแต่ไม่มีทางเป็นเป็นได้แน่ๆกับ ประโยคนี้จริงๆ เขาจะช่วยเธอแน่ๆ แต่เขารู้ดีว่า เวธนี้ไม่ได้พยายามอะไรแค่พื้นฐานธรรมยังทำไม่ได้เลย

จากเด็กจนถึงตอนนี้ เวลาที่สำคัญมักมีเขาช่วยเหลือมา โดยตลอด ตอนเด็กก็สามารถพูดได้ว่าน้องยังเด็กยังไม่รู้เรื่อง ตอนนี้ก็เป็นนักศึกษาเรียนในระดับมหาวิทยาลัยแล้ว เขาไม่ สามารถมองเธอที่จะตกต่ำไปกว่านี้ได้

จริยาได้ฟังในสิ่งที่เตชิตพูดขึ้นมารู้เลยว่าเรื่องนี้คอขาด บาดตาย หล่อนรีบจนอดกลั้นไม่อยู่ “เต ! เรื่องอื่นแม่ไม่เคยขอ อะไรเลย เรื่องนี้ช่วยน้องหน่อยได้ไหม ? ยังไงพวกเธอสองคน เป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกันใช่ไหม ”

เขาได้ยินในสิ่งที่จริยาพูดถึงกับขมวดคิ้วหนักไปกว่าเดิม

สิ่งที่จริยาพูดนั้นมันค่อนข้างรุนแรงไปอย่างไม่ต้องสงสัย เขาไม่ ได้เห็นด้วยสักนิดกับเรื่องนี้ตั้งแต่แรก เขาถูกกดดันเรื่องความสัมพันธ์ของครอบครัว เขาก็ไม่มี

วิธีการใด

ในห้องรับแขกมันเข้าสู่บรรยากาศเงียบที่ความอึมครึม คนที่กังวลที่สุดคือเวธนี้ เรื่องที่รู้คือ หล่อนไปตบหน้าอกเพื่อ ป่าวประกาศอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะกับเพื่อนร่วมห้องว่าตัวเอง มีโควต้าในการเรียนปริญญาโทแน่นอน ถ้าสอบไม่ติดหล่อน คงอายหน้าแตกเป็นเสี่ยงๆ

“ครั้งสุดท้าย” ในที่สุดเตชิตก็ได้แต่ถอนหายใจ เธอก็ อายุปาเข้าไปยี่สิบแล้วไม่ใช่เด็กๆ หลังจากนี้ค่าใช้จ่ายหรือเรื่อ งอื่นๆฉันจะไม่ยุ่งอีกแล้ว ถ้าอยากให้คนอื่นเห็นค่าเธอ เธอก็ต้องออกมาสร้างด้วยความสามารถของตัวเอง เข้าใจไหม ?” ในใจของเวธ ถึงกับโล่งใจ ทว่าโดนเขาสั่งสอนมาทำให้ หูเธอแดงแจ๋ถึงแม้ว่าไม่สบอารมณ์แต่ก็พยักหน้าโดยดี “รู้แล้ว ค่ะ คุณพี่ชาย

จริยาเห็นว่าเขาตกลงแล้วหล่อนได้วางก้อนหินก้อนใหญ่ที่ อยู่ในใจของเธอลง ถึงได้หยิบแก้วน้ำชาที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาจิบ “ดีแล้วๆ พี่น้องกันต้องช่วยเหลือกัน เวธนี้ต้องเรียนรู้จากพี่ชาย เธอนะ”

เวธ ได้แต่ตอบรับอย่างกล้ำกลืนฝืนทน “อืม”

จริยามองไปยังห้องครัวผ่านๆ “อาหารยังทำไม่เสร็จอีก หรอ?”

จริยาเพิ่งจะพูดเสร็จพอดีกับที่นัชชาออกมาจากห้องครัว พอดี นัชชามองมายังห้องรับแรกที่นั่งกันอยู่สามคนแต่กลับ เงียบสนิทจนรู้สึกถึงบรรยากาศในนั้นที่มีความเก้อเขินซ่อนอยู่ หล่อนเดินไปแตะที่ไหล่ของเขากับข้าวเกือบเสร็จแล้ว ไปล้าง มือเถอะ”

เขายังมีอารมณ์เบื่อหน่ายอยู่บ้างแต่พอนัชชาเอามืออัน อ่อนนุ่มวางอยู่บนหัวไหล่ของเขาทำให้เขาสงบลงได้บ้าง เขา ไม่พูดอะไรสักคำได้แต่ยืนขึ้นแล้วเดินตรงไปทางห้องน้ำ

“ที่ห้องอาหารมีก๊อกน้ำอยู่หนึ่งอัน คุณป้าและคุณสามารถ ไปที่นั่นได้ค่ะ” หลังจากที่นัชชาพูดนะนำอย่างมีมารยาทแล้ว หล่อนก็เดินตามเตชิตไปห้องน้ำไม่ห่างกัน
หล่อนเปิดประตูเข้ามา เขายังไม่ล้างมือ เขายืนอยู่ที่อ่าง เย็นๆด้านหน้าแบบไร้อารมณ์ นัชชากระแอมไอขึ้นมาพร้อมทั้ง หันหลังมาปิดประตูห้องแล้วล็อกกลอน หล่อนเดินมาถึงด้าน หน้าเขา “คุณทะเลาะกับคุณป้าหรอ?”

“ไม่มีอะไร” ในสายตาเขาเรื่องทะเงาะเบาะแว้งถือว่าเป็น เรื่องธรรมดาแต่สิ่งที่เขาติดขัดเล็กๆคือมันก่อเกิดอาการความ ไม่มีความสุขอยู่นิดๆ

นัชชาหุบยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมา “คุณก็นะ ปากแข็ง เวลา ไม่สบายใจเนี่ยมันแสดงออกทางสีหน้าหมดแล้วยังมีหน้ามาบ อกว่าไม่ได้ทะเลาะกัน

เตชิตจ้องมองสาวที่หน้าตาสะสวยที่อยู่ตรงหน้า หลังจาก ที่หล่อนได้รับการรษาแล้ว สภาพจิตใจของหล่อนดีขึ้นมาก ถึง แม้ว่าการรักษานั้นมันจะทำให้ลำบากมากมายเพียงใดแต่ไม่ ได้ทำให้เธอถดถอยแต่กลับทำให้เธอยิ่งส่องประกายมากขึ้น

เช่น ในตอนนี้หล่อนสามารถมายืนอยู่ตรงหน้าเขาเพื่อ วางแผนปลอบใจแทนพวกเขา ซึ่งมันไม่เหมือนเดิมเกลียด ขนาดที่ไม่สามารถแยกแยะอะไรได้

เตชิตคิดอีกทีถึงได้ข้อสรุป “ก็ไม่ได้ทะเลาะ

“มีเรื่องอะไร?”นัชชาพูดเสร็จก็กลัวว่าจะรบกวนใจเขา รีบ พูดต่อโดยเร็ว “หากคุณไม่อยากพูดถึงก็ไม่ต้องพูด

“ปัญหาอยู่ที่เวธนี” เขาพูดออกมาอย่างไม่มีการปิดบัง ใดๆ “หล่อนต้องการให้ผมช่วยเรื่องหาโควโต้ให้เรียนต่อในระดับปริญญาโท

นัชชาพยักหน้าตอบรับ “แบบนี่เอง แล้วทำไมคุณไม่ดีใจ เลยล่ะ?”

ฟังสิ่งที่นัชชาถามขึ้นมา เตชิตถึงกับตะลึงไปพัก หัวคิ้ว ขมวดเบา “คุณรู้สึกว่าปมไม่ควรที่จะไม่สบายใจหรอ?”

หล่อนคิดค่าตอบสักพัก “เอ่อ…. เขาคือน้องสาวของคุณ

มาหาให้คุณช่วยก็ยังถือว่าเป็นเรื่องภายในความรู้ไหม?”

“มันเป็นสิ่งความรู้สึกที่หล่อนคิด อย่างอื่นเป็นความรู้สึก นอกเหนือจากนั้น” ชายคนนั้นพูดในสิ่งที่อยู่ในใจออกมาจน หมดสิ้น “ถ้าฉันช่วยหล่อน ก็ไม่ยุติธรรมสำหรับคนอื่น อีกอย่าง ผมไม่ชอบความรู้สึกที่พยายามเดินทางลัด

นัชชาฟังแล้วถึงได้เข้าใจว่าความโกรธนั้นมันอยู่ตรงไหน กันแน่ ตอนนี้ไม่รู้ว่าควรจะพูดว่าอย่างไรดี จะบอกว่าเขามี ความยุติธรรมโดยไม่เห็นแก่ญาติพี่น้องหรอ หรือว่าทำงานได้ อย่างยุติธรรมอย่างไม่เห็นแก่ตัวเองโดย? คำพูดนี้ตอนยินตอน นี้เมื่อได้ยินเหมือนมันเป็นคำพูดที่แสดงถึงความหมายของการ เยาะเย้ย

แต่หล่อนรู้สึกได้เลยว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าหล่อน เขาตรง กว่าสิ่งที่หล่อนรู้ ถึงแม้ว่าเขามักจะทำหน้าไม่สนใจใยดีอะไรแต่ ในใจแล้วเขามีจุดยืนของเขามากกว่าคนอื่นอีกด้วย

“คุณคิดแบบนี้ก็ถูกอีก แต่ว่าหล่อนเป็นน้องสาวของคุณ ครอบครัวเดียวกันควรจะพูดไปในทางเดียวกัน คุณก็ปฏิเสธไม่ได้ ชูไว้พอแล้ว อย่าโกรธจริงๆ” นัชชาพูดปลอบใจเขา “ไปล้าง มือกินข้าว เราเข้ามานานแล้ว

มันทำให้จริยากับเวชนีอยู่ด้านนอกนั้นสามารถคิดเลยเถิด ได้ง่าย

เตชิตมองใบหน้าแห่งรอยยิ้มที่มันทำให้คนประทับใจ เวลาที่เธอปลอบใจตัวเขาตั้งแต่แรกนั้น ความโกรธที่อยู่ในใจ เขามลายหมดแล้ว แต่ว่าตอนนี้ได้แต่แกล้งทำอาการขมวดหัว คิ้ว “ยังไม่อยากกินยังไม่หายโกรธ

นัชชารีบถามกลับอย่างไม่รู้ตัว”แล้วจะทำยังไงถึงได้หาย

โกรธ?”

นั่นแหละสิ่งที่เขารออยู่ หมดเสียงพูดใบเขาก็งอตัวลงเขา ดำทะมึนคร่อมบนตัวลงมา ช่วงรอบเอว โอบล้อมไปด้วยมือที่ โอบกอดหล่อนเข้าสู่อ้อมกอด ริมฝีปากถูกเขาครอบครอง หล่อนไม่สามารถพูดสิ่งใดออกมาได้

แค่จูบอย่างไม่ทันตั้งตัวทำให้นัชชาเกิดอาการเกร็งไปทั้ง ตัว โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงคนที่อยู่นั่งอยู่ข้างนอกแม่และน้องสาว ของเขา ก็สามารถคิดเลยเถิดไปไหนต่อไหนได้

ที่นี่มันห้องน้ำนะ เขา เขาคิด…?

เตชิตหลงไปกับการจูบที่เร่าร้อนในใจเขาได้แต่ตักตวง ความหวานปานน้ำผึ้งในปากของเธอ ยิ่งเห็นเธอเงยหัวขึ้นมา ตอบสนองเขาแบบนั้น ยิ่งทำให้เขาจูบรุนแรงมากกว่าเดิมอีก
อยากจะกลืนกินหล่อนให้หมดแต่เวลาไม่เหมาะได้แต่อด

กลั้นไว้

นัชชากลัวเหลือเกินว่าเขาจะมามากกว่านั้นจึงก้มหัวลงนิด ดีที่เขาไม่ได้งอแงแล้วเอามือออกจากตัวเธอ ลมหายใจอุ่นๆรอ อยู่บริเวณหูเขารีบพูดอยู่ใกล้ๆ “คืนนี้เธอโดนแน่”

ในใจของชาเต้นไม่หยุดเหมือนมีกระต่ายวิ่งวน ไปมา หล่อนหายใจขาดๆหายๆ “คุณโมโหคนอื่นอย่าทำให้ฉัน ต้องแหลกรานนะ”

เตชิตจับหน้าที่แดงระเรื่อของหล่อนในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะ พูด “จะบอกว่าเธอนี่โง่ก็จะว่าไม่ฉลาดจริงๆ โง่ยิ่งกว่าลูกบอล

เสียอีก”

นัชชาชี้นิ้วมายังหน้าของหล่อนเอง ได้แต่กระพริบตามอง คนที่พูดที่กำลังล้างมือให้สะอาดแล้วเดินออกไปอย่างใสซื่อ “ไอ้คนไม่ถนอมน้ำใจคน !!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ