ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน416เราแต่งงานกันเถอะ



ตอน416เราแต่งงานกันเถอะ

ตอนที่416เราแต่งงานกันเถอะ

“แต่ถ้าคุณจากไปแล้วใครจะบริหารบริษัทล่ะ?Suranฉัน ต้องการให้คุณอยู่ต่อจริงๆ ถ้าคุณจากไปฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำ อย่างไรต่อ”เรื่องราวเกิดขึ้นฉับพลันจนLilyยากที่จะยอมรับได้

อารมณ์แบบนี้นัชชาเข้าใจดี”Lilyคุณเป็นพนักงานที่ดีมาก และเป็นนักกฎหมายที่ดีด้วยแม้ว่าฉันจะไม่ได้อยู่ที่นั้นแล้วคุณก็ สามารถทำได้ดีอย่ากังวลไปคุณทำได้”

Lilyสูดลมหายใจลึก” ก่อนที่คุณจะจากไปเราจะพบกันอีก ครั้งได้ไหม?”

“แน่นอนฉันจะกลับไปจัดการเรื่องงานต่างๆ ของบริษัทให้

เรียบร้อย”

“ได้คะฉันจะรอคุณกลับมา

นัชชาคุยกับLilyอีกไม่กี่ประโยคคำพูดส่วนใหญ่บอกเธอ ว่าอย่าเพิ่งแพร่งพรายเรื่องนี้ให้ใครรู้แค่พูดกับเพื่อนร่วมงาน นิดหน่อยพอเธอวางสายและมองท้องฟ้าที่ห่างไกลออกไป นึกคิดภาพหลายปีที่ผ่านมาที่เธอพยายามเพื่อบริษัทกฎหมาย ของเธอ

ชาวต่างชาติที่สามารถตั้งหลักในกรุงลอนดอนได้โดยเฉพาะในสาขาอาชีพนี้เป็นเรื่องยากมากส่วนใหญ่คนในท้อง ถิ่นไม่วางใจคนต่างชาติไม่ว่าเธอจะยากลำบากขนาดไหนเธอก็ กัดฟันฝ่าฟันมาได้ถึงทุกวันนี้คดีไหนที่คนอื่นไม่กล้ารับเธอรับ งานที่ไม่ได้กำไรอะไรมากเธอก็รับทุกอย่างก็คือเพื่อเปิดทางไป สู่อนาคตที่สดใส

ในที่สุดความพยายามก็เป็นผลมีรายได้ที่แน่นอนเข้ามา ไม่ขาดสายแต่เธอกลับทิ้งทุกสิ่งที่เธอสร้างกลับมาที่นี่

คิดดูดีๆเหมือนกับว่าตอนที่เธออยู่ลอนดอนยุ่งจนไม่มี เวลาหายใจเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานแต่ตอนนี้เหมือนเธอเปลี่ยนไป อยู่อีกโลกหนึ่ง

น่าเสียดายไหม?

แน่นอนว่าน่าเสียดาย

แต่จะทำอย่างไรได้เธอต้องยอมรับความจริงมีสิ่งที่สำคัญ กว่าที่ทำให้เธอต้องกลับมาการสละใครว่าไม่ต้องใช้ความกล้า

นัชชาสงบอารมณ์ก่อนที่จะกลับเข้าไปในบ้านไม่คิดว่าพอ หันหลังกลับก็เกือบชนกับใครบางคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง

หน้าอกของชายหนุ่มอยู่ห่างจากจมูกของเธอเพียงสิบ เซนติเมตรเธอตกใจก้าวถอยไปหลายก้าวถึงจะทรงตัวได้บ่น เขาอย่างตกใจ”ทำไมคุณไม่พูดอะไรก็โผล่ออกมาแบบนี้หล่ะ?”

“เธอตัดสินใจที่จะวางมือจากบริษัทของเธอที่อังกฤษเห รอ? “เสียงชายหนุ่มแหบพร่าเพราะได้ยินสิ่งที่เธอพูดกับLilyเมื่อสักครู่

นัชชามองเขาอย่างช่วยไม่ได้ คุณอย่ามาแอบฟังฉันตอน คุยโทรศัพท์ได้ไหม?”

ที่จริงเตชิตไม่ได้อยากแอบฟังพอดีว่าเสร็จธุระแล้วเดินมา หาเธอเลยได้ยินสิ่งที่เธอกำลังสนทนาอยู่แต่สิ่งที่เขามุ่งหวัง ไม่ใช่เรื่องนี้

“เธอตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี่ต่อ?”

นัชชาเห็นความหวังในสายตาของเขาพยักหน้าใช้แววตา ที่หนักแน่นมองเขาและพูดว่า “ใช่ค่ะฉันตัดสินใจจะอยู่ที่นี่ไม่ไป ไหนอีกแล้ว”

ไม่ไปไหนอีกแล้ว

เธออยากอยู่ที่นี่กับเขาและลูก

สิ่งที่ต้อนรับเธอคืออ้อมกอดที่อบอุ่นสองแขนของเขากอด หลังและเอวของเธอไว้แน่นแน่นสะจนเธอแทบจะหายใจไม่ออ กนัชชาชูมือหลังเขาเพราะว่าเขากอดเธอจนกล้ามขึ้นทำให้ เธอหายใจไม่ออก “เบาหน่อยสิคุณ”

เตชิตรู้สึกตื้นตันจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่กอดเธอไว้เหมือน ได้กอดโลกทั้งใบเป็นความสุขที่เกือบจะทะลุผ่านร่างกายของ เขาออกมาเขาอยากตะโกนออกไปดังๆว่าเธอคือของเขาเพียง ผู้เดียว

“ขอบคุณนะนัชชา”เขารู้ว่านัชชาเป็นผู้หญิงแกร่งที่มีใจทำงานสูงและเพราะเป็นเช่นนี้การที่เธอยอมสละงานที่เธอสร้าง มากับมือมันจึงมีค่าเหนือสิ่งอื่นใด

ดวงตาของนัชชาชุ่มไปด้วยน้ำตาช่วงนี้เธอร้องไห้เยอะ มากเหมือนว่าน้ำตาไม่มีวันหมด”ถ้าคุณรู้อย่างนั้นแล้วก็ดีกับ ฉันมากๆหน่อย”

ประโยคนี้ทำให้เตชิตดีใจมากยิ่งขึ้นเขารู้ว่าเธอเต็มใจที่

จะพยายามยอมรับตัวเองและเต็มใจที่จะให้โอกาสเขาอีกครั้ง

เขาคลายอ้อมแขนลงสองมือวางไว้บนไหล่ของเธอเว้น ระยะเล็กน้อยเพื่อให้เธอเห็นตัวเขาอย่างชัดเจนแววตาดำขลับ ของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจและความรักอย่างล้นเหลือ ฉัน สาบานด้วยชีวิตของฉันต่อไปฉันจะทำดีเพื่อเธอและลูกถ้าฉัน ทำไม่ได้ขอให้มีอัน…”

พูดยังไม่ทันจบริมฝีปากบางๆนั้นก็ถูกปิดด้วยมือเล็กๆที่

อบอุ่น

เขาก้มลงมองเธอขมวดคิ้วเล็กน้อยและทำหน้าแปลกๆ

“คุณอย่าพูดอะไรแบบนั้นฉันเชื่อคุณ “หากเธอไม่เชื่อเธอ คงไม่อยู่ที่นี่

เตชิตยกมือขึ้นดึงมือของเธอลงนิ้วทั้งห้าผสานกับนิ้วทั้งห้า ของเธอหัวใจเต้นรัว”เป็นห่วงฉันขนาดนั้นเลย?

“ใครเป็นห่วงคุณกันล่ะ…….”เธอปฏิเสธอย่างปากแข็ง หน้าของเธอแดงแสดงให้เห็นความคิดภายในใจของเธอทุกอย่างแม้ว่ามันจะอายจนไม่กล้าพูดออกมาแต่เธอก็ยังอยากให้ เขาได้ยินเสียงจากใจของเธอ”เตชิตเราผ่านอุปสรรคมาหลาย ต่อหลายครั้งฉันเข้าใจหัวใจของฉันและเข้าใจหัวใจของคุณ บางทีทั้งชีวิตนี้เราคงไม่สามารถปล่อยวางความรักครั้งนี้ของ เราสองคนได้หากเป็นเช่นนั้นฉันยินดีที่จะรับมันเข้ามาในใจอีก ครั้งฉันไม่อยากเสียใจในภายหลังและฉันก็ไม่อยากให้ลูกต้อง สูญเสียครอบครัวที่อบอุ่นฉันไม่ต้องการสิ่งใดตราบใดที่คุณ สามารถทำให้ฉันเชื่อว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของฉันมันจะไม่สูญ เปล่าก็พอแล้ว”

ทุกคำทุกประโยคที่เธอพูดออกมาช่างอ่อนโยนและนุ่ม นวลแต่ความหมายที่หนักแน่นไม่มีเบาบางลงเลย

หากรู้หัวใจของตัวเองก็มุ่งตรงไปข้างหน้าอย่าหวาดหวั่น ไม่ต้องการอะไรตราบใดที่เขาไม่ทำให้เธอต้องเสียใจ

เธอแข็งแกร่งแต่ก็นุ่มนวล

เพราะนัชชาเป็นเช่นนี้เขาจะปล่อยวางได้อย่างไรเขาจะ ยอมปล่อยมือเธอไปได้อย่างไร?

เตชิตก้าวไปข้างหน้าสองมือจับใบหน้าของเธอไว้เขาก้ม ลงเอาจมูกชนกับจมูกของนัชชาถูไปมาได้สิที่รักตั้งแต่นี้ต่อไป ฉันจะไม่ยอมให้เธอเสียใจอีกฉันสัญญา”

นัชชาน้ำตาคลอเบ้าแต่หัวเราะออกมาอย่างเจ้าเล่ห์”ดีค่ะ ฉันจะรอดูนะ”

เขาจูบริมฝีปากของเธอลมหายใจร้อนเผ่าริมฝีปากบางๆนั้นก็เย็นเฉียบเตชิตรู้สึกเหมือนเป็นปลาที่ถูกโยนลงไปในน้ำ หลังจากอยู่บนโคลนที่แห้งผากต้องใช้ลมหายใจของเธอเพื่อ ความอยู่รอด

เขาแตะต้องเขตต้องห้ามของเธอความสุขที่เปี่ยมล้นอยู่ เต็มหัวใจเขาเหมือนเกือบจะจมน้ำตายในจูบที่เร้าร้อนนี้เขา คลายท่าทีลงริมฝีปากบางๆนั้นพูดเบาๆกับเธอ”เราแต่งงานกัน เถอะ”

นัชชาถูกเขาจูบจนสมองชาไปหมดรู้สึกยังไม่ค่อย ได้สติ”คุณว่าอะไรนะ?”

“เราแต่งงานกันเถอะ”เขาพูดซ้ำอีกรอบระหว่างที่เขาพูด น้ำเสียงเต็มไปด้วยความอ่อนโยน”ฉันอยากจะแต่งงานกับ เธอ”

เขาอายุสามสิบเจ็ดปีแล้วลูกก็โตเกือบห้าขวบแล้วแต่เขา กลับไม่มีสถานะให้กับเธอไม่เคยให้ครอบครัวที่สมบูรณ์การ แต่งงานเขาไม่ได้แค่คิดเล่นๆ แต่เขาพร้อมที่จะเลือกอยู่กับเธอ ตลอดชีวิต

นัชชามองเขาด้วยดวงตาที่ชุ่มน้ำตาได้ยินเขาบอกว่าจะ ขอเธอแต่งงานเธอตกใจทำให้ใจของเธอเต้นรัวแต่ปากกลับ พูดตรงกันข้าม”คุณบอกว่าจะแต่งงานกับฉันๆก็ต้องแต่งงาน กับคุณเหรอ?ฉันไม่อยากจะแต่งงานกับคุณสักหน่อย”

ทันทีที่เธอพูดจบแขนที่แข็งแรงของเขาก็บีบเธอมากขึ้น เขากังวลใจขึ้นมาอย่างฉับพลัน “เธอไม่แต่งงานกับฉันแล้วเธอจะแต่งงานกับใคร?”

“มีคนชอบฉันตั้งเยอะแยะ

เตชิตแยกเขียวกับฟันพูดว่า”ใครกล้าแย่งเธอไปจากฉัน ฉันจะฆ่ามันซะแล้วขาเธอให้หักแล้วก็ยังเธอไว้

แม้รู้ว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีวันเกิดขึ้นแต่เมื่อนัชชาได้ยินแล้วก็ ทำให้ขนลุกขนชั้นคุณกล้าลงมือเหรอ?”

“ถ้าให้ดีเธออย่าลองจะดีกว่า”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ