ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน773ศัตรูลักพาตัว



ตอน773ศัตรูลักพาตัว

ตอนที่773 ศัตรูลักพาตัว

คำขอบคุณนี้ไม่ใช่ต้นฉบับที่เตรียมไว้ล่วงหน้า คณิตที่ฟัง อยู่ด้านล่างหัวใจเหมือนจะหลุดออกมา เพราะกลัวว่าประโยค ถัดไปของเธอจะเกี่ยวข้องกับข่าวลือพวกนั้น แต่โชคดีที่ไม่ใช่

หลังจากเกวลินเดินไปหลังเวที คณิตก็รีบเดินตามไป เห็น แค่ประตูห้องแต่งตัวแง้มอยู่

“เธออยู่ในนี้ไหม”

ช่างแต่งหน้าพยักหน้า “เพิ่งปิดประตู เหมือนร้องไห้อยู่นะ”

คณิตนิ่งอยู่พักนึง เอามือเท้าเอว สูดหายใจลึก ปิดตา สงบสติอารมณ์ ช่างเถอะ ให้เวลาเขาหน่อย คิดดูก็น่าสงสาร เหมือนกัน

สิ่งที่ชนัยทำกับเขา คณิตซึ่งเป็นคนสนิทรู้ดีที่สุด ลองคิดดู ว่าถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง คงจะทนไม่ไหวเหมือนกัน

เอาตามนี้ละกัน คำพูดบนเวทีก็ไม่ได้แย่มาก แค่ไม่ได้พูด ตามสคริปเท่านั้นเอง

ในขณะที่คณิตกำลังจะโพสต์การประกาศรางวัลในครั้งนี้ก็เหลือบเห็นคอมเม้นท์ของแฟนคลับพอดี

งานประกาศรางวัลครั้งนี้เป็นการถ่ายทอดสด ทำให้ผู้ชม สามารถเห็นสถานการณ์ทั้งหมดพร้อมกัน

หลังจากเกวลินกล่าวจบ บรรดาแฟนคลับก็คอมเม้นต์

แหลกลานทันที

คณิตเลือกคอมเม้นต์ที่เยอะที่สุดมาอ่าน

แฟนคลับA: “โอ้มายกอด นี่เกวลินจริงๆเหรอ สวยขึ้น เยอะเลยอ่ะ ช่างแต่งหน้า ใส่น่องไก่ให้เหรอ”

แฟนคลับ8 : “ไม่พูดไม่ได้นะ กล่าวได้ดีมากๆจริงใจกว่า พูดแบบทางการเยอะเลย

แฟนคลับC: “เหมือนจะเปลี่ยนเป็นคนดีแล้วอ่ะทำไง

คณิตซึ่งเป็นคนวงใน เมื่อตะกี้ก็มัวแต่โฟกัสแต่เรื่องของ ชนัย และเรื่องไม่พูดตามคริปอยู่ ไม่ทันได้ฟังเนื้อหา ตอนนี้ เห็นคอมเม้นท์ของแฟนคลับแบบนี้กลับรู้สึกว่า ในความโชค ร้ายก็มีความโชคดีอยู่

สิ่งที่เกวลินกล่าวบนเวทีล้วนมาจากความรู้สึกในใจจริงๆ แต่คณิตก็ไม่คิดว่าแฟนๆจะรับรู้ได้ถึงความจริงใจในคำพูดนั้น จริงๆ

ช่วงนี้เกวลินก็เจอแต่เรื่องแย่ๆมามากมายจริงๆ
คอมเม้นท์ยังคงขยายออกไปเป็นวงกว้าง อีกคนที่ได้เห็น ก็คือตราณี ในฐานะแฟนของชนัย ที่จริงแล้วมากน้อยก็ไม่ได้ ชอบผู้หญิงคนนี้อยู่แล้ว แต่เห็นแบบนี้ก็อดที่จะเห็นใจไม่ได้ เหมือนกัน

ในขณะที่เราณีกำลังนั่งดูบาสเก็ตบอลอยู่บนเก้าอี้ข้าง สนามอย่างตั้งใจ ก็ได้ยินเสียงน่ารำคาญที่คุ้นเคยมาจากด้าน หลัง “ดราณี เธอมาอยู่ตรงนี้ได้ไงอ่ะ

ดราณีหันหน้าไปมองลิ้นจี่ จากตอนแรกที่อารมณ์ดีๆก็ เงียบลง ถ้าเป็นเมื่อก่อนยังสามารถยิ้มให้ได้ในฐานะเพื่อนร่วม ห้อง แต่ตอนนี้เหมือนจะยิ้มไม่ออก

“เธอเองเหรอ” ดราณีพูดเบาๆ เห็นเขากำลังจะนั่งข้างๆก็ รีบลุกขึ้น “ฉันมีธุระ ขอตัวก่อนนะ

ลิ้นจี่ลุกขึ้นตาม “เธอจะไปไหน

ดราณีเกลียดการตอแยแบบนี้มาก ถ้าเป็นคนอื่นถามจะ ไม่รู้สึกรำคาญขนาดนี้ แต่นี่เป็นยายลิ้นจี่อีกแล้ว เธอหยุดเดิน แล้วหันกลับไป “ฉันออกไปทำธุระส่วนตัว ไม่สะดวกคุยกับเธอ อีกอย่างนะ ฉันไม่ชอบให้ใครมาหลอกถามข่าวอะไร หวังว่า เธอคงไม่ว่าอะไรนะ

ลิ้นจี่คิดไม่ถึงว่าอยู่ๆเธอจะปะทุขึ้นมา ตั้งแต่เห็นเธอขึ้นรถ หรูไปครั้งนั้น ลิ้นจี่ก็พยายามหาโอกาสสืบเรื่องนี้มาตลอด เธอ ดูออกว่าดราณีไม่ชอบเธอแต่เธอก็ไม่สนใจ ขอแค่ได้ไปถึงเป้า หมาย ระยะทางเป็นยังไงเธอไม่สนใจ
ดังนั้นลิ้นจี่ก็แสร้งทำตัวน่าสงสาร เหมือนกับว่าเธอโดน เข้าใจผิด “ดราณี เธอเข้าใจฉันผิดไหม ฉันไม่มีเจตนาแบบนั้น นะ”

“ฉันรู้ว่าเธอไม่มี” เธอพูดคล้อยตามไป ไม่อยากจะเสีย เวลาคุยกับเธอ “ถือว่าฉันเข้าใจผิดละกัน แต่ต่อไปหวังว่าจะไม่ ถามอะไรอีกนะ ฉันไม่ชอบให้คนไม่สนิทมาถามเช้านะ

“เราไม่ใช่เพื่อนกันเหรอ”

ได้ยินประโยคนี้ ดราณีหัวเราะขึ้นมา เป็นเพื่อนกันเลย ต้องเล่าให้เธอฟังทุกเรื่องงั้นเหรอ ถึงจะรู้ว่าเขาไม่ได้มีเจตนาดี

เธอย้อนไปว่า “แล้วไงล่ะ”

“อะไรคือแล้วไงล่ะ ฉันแค่อยากจะเป็นเพื่อนกับเธอ ฉันคิด ว่าเธอก็คิดเหมือนกัน ไม่คิดเลยว่าเธอจะเข้าใจผิดฉันมา ตลอด”

“ใช่ เธอทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด” ดราณีพูดตัดบทแบบไม่ให้ ลิ้นจี่ได้พูดต่อ เพราะงั้นต่อไปไม่ต้องถามอะไรแล้วนะ

พูดจบเธอก็หันหลังเดินออกไปโดยไม่ได้สนว่าลิ้นจี่จะคิด ยังไง

ไม่สนว่าเขาจะคิดยังไง เพราะตอนนี้เธอรู้สึกรำคาญ พฤติกรรมแบบนี้มาก

เธอเดินไปบนถนนแบบไม่มีจุดหมาย เดินผ่านร้านขนม เค้ก พอกำลังจะผลักประตูก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อของตัวเอง
เธอหันกลับไป มองเห็นผู้หญิงคนนึงยืนโบกมือมาทางตัว

เอง “ดราณี”

เป็นใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยเลย ไม่ว่าจะนึกยังไงก็นึกไม่ออก

ทั้งที่ไม่รู้จักกัน แต่ทำไมเขาถึงเรียกชื่อเธอเหมือนคุ้นเคย กันกันอย่างไรอย่างนั้น

ใครกันนะ

เธอยืนอยู่ที่เดิม เห็นว่าเป็นผู้หญิง สัญชาติญาณเลยไม่ได้ ระวังอะไรมาก “คุณรู้จักฉันเหรอคะ”

เขาสวมเสื้อคลุมสีดำ ด้านในสวมเสื้อไหมพรมคอสูง ดู แล้วเรียบร้อยมาก ได้ยินดราณีถามแบบนี้ เขาก็พยักหน้า “พวกเราเคยเจอกัน ตอนเธอเด็กๆ

ตอนเด็กเหรอ

ดราณียิ่งรู้สึกงง “ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไร

คะ”

ได้ยินดังนั้น หญิงสาวก็เดินเข้ามาอีกสองสามก้าว พอเข้า มาใกล้ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆก็ลอยมาแตะจมูก

พอถึงตอนที่เธอคิดว่าเขาจะหยุดตรงหน้าเธอ เขากลับยื่น มือเข้ามาดึงไหล่เธอไว้

เข้ามาระยะประชิดขนาดนี้ถึงจะเป็นผู้หญิงก็ทำให้รู้สึก อึดอัด เหมือนกำลังถูกรุกราน เธอเลยเดินถอย ขณะเงยหน้าจะถาม ก็มีไฟฟ้าช็อตมาที่สะเอว

ตัวเธอล้มไปใส่ผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้าทันที อีกฝ่ายก็รีบคว้า เธอไว้ มองดูเหมือนกับช่วยพยุงกัน

ดราณีเบิกตากว้าง เหมือนอยากจะพูดอะไร แต่คอเหมือน โดนไฟฟ้าควบคุมไว้

เธอไม่สามารถร้อง หรือขัดขืนอะไรได้เลย ทำได้เพียงซับ ไปที่ตัวหญิงสาวคนนั้นอยู่อย่างนั้น และถึงตอนนี้เธอถึงได้รู้ว่า ผู้หญิงคนนั้นมีร่างกายกำยำขนาดไหน ต่างกับภายนอกที่เห็น

ก่อนจะสลบไปเธอเห็นผู้หญิงคนนั้นแบกเธอขึ้นไปบนรถตู้ สีดำ ด้านหน้าเป็นผู้ชายนั่งอยู่สองคนแล้วหลังจากนั้นเธอก็ หมดสติไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ