ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน608ฉันกลัวที่สุดว่าเธอจะลืมฉัน



ตอน608ฉันกลัวที่สุดว่าเธอจะลืมฉัน

ตอนที่ 608 ฉันกลัวที่สุดว่าเธอจะลืมฉัน

เธอยังป่วยอยู่ เพราะฉะนั้นเขาไม่ทำอะไรรุนแรงกับเธอ แต่เมื่อเห็นเขาค่อยๆเอนตัวเข้ามา นัชชาตกใจเล็กน้อย รอจน เขาลุกขึ้น มองดูใบหน้าอันหล่อเหลาห่างแค่นิดเดียว ริมฝีปาก แย้มยิ้ม “ช่วงที่ฉันสูญเสียความทรงจำ คุณต้องดูแลฉันคง นําบากมาก?”

“ใช่” เตชิตไม่ปฏิเสธ แต่ยอมรับอย่างราบเรียบ ดังนั้น ถ้าเธอหายดีแล้ว ต้องตอบแทนฉัน”

นัชชาอดหัวเราะไม่ได้ อยากจะพูดแต่ไม่รู้จะพูดอะไร “คุณ

นี่มันจริงๆเลย … ”

“จริงๆอะไรเหรอ?”

เธอหัวเราะ พลางพูด “คุณยอมรับซะเต็มปากเต็มคำ ฉันก็ แค่พูดเป็นมารยาทแค่นั้น”

เตชิตลูบคลำใบหน้าเล็กๆ ของเธออย่างทะนุถนอม หลบ ไม่ไปแตะตรงบาดแผลของเธอ “การได้ดูแลเธอฉันไม่เคยรู้สึก เหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด แต่ถ้าเธอลืมฉันๆถึงจะรู้สึกเหนื่อย”

เขาไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น สำหรับเขานัชชาเป็นส่วนหนึ่ง ในชีวิตของเขา ดูแลเธอ จะต้องลำบากแค่ไหนเขาไม่เคยสนใจสิ่งที่เขากลัวที่สุดก็คือเธอลืมเขา

มองเข้าไปในดวงตาที่ว่างเปล่าของเธอ เขาทำอะไรไม่ได้ เลย ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เขาหวาดกลัวและอ่อนล้า

“โชคดีที่” สีหน้าของนัชชาเปลี่ยนไปเล็กน้อย น้ำตาคลอ เบ้า “โชคดีที่ฉัน ไม่สูญเสียความจำตลอดไป”

เตชิตไม่อยากเห็นเธอร้องไห้ จึงล้อเล่นเธอ “ถ้าเธอลืม เรื่องราวทั้งหมด มีอะไรน่ากลัว”

“แต่ใจของฉันว่างเปล่า” นัชชาเบ้ปาก พยายามระงับ น้ำตา “มันเป็นความว่างเปล่าที่ไม่ว่าคุณจะพยายามคิดยังไงก็ ไม่สามารถเติมเต็มได้ บางครั้งก็ปวดใจ แต่ไม่รู้สาเหตุ”

เตชิตปวดใจมาก เขารู้สึกถึงความทุกข์ของเธอได้ ทุกครั้ง ที่เข้ามาในห้องคนไข้เห็นเงาที่โดดเดี่ยวของเธอ ก็รู้สึกได้ว่า เธอเจ็บปวดเพียงใด

“ฉันรู้ ฉันรู้ดี” นิ้วหัวแม่มือของชายหนุ่มลูบหลังมือของ เธอ ปลอบประโลมเธอ “เรื่องทั้งหมดมันผ่านไปแล้ว รอ ร่างกายเธอหายดี เราจะจัดงานแต่งงานทันที”

แต่งงาน? ?

นัชชาปืนไปพักหนึ่ง ทำไมพูดถึงเรื่องนี้

เตชิตไม่ได้พูดตลกแน่ๆ “ฉันคิดไว้แล้ว เรื่องนี้รอนานไป แล้ว ฉันไม่ได้ … ”

ยังพูดไม่ทันจบ ในขณะที่เขากำลังจะพูดความคิดของเขาออกมา ประตูห้องคนไข้ถูกผลักออกอย่างแรงจากด้านนอก

ได้ยินแค่เสียง “ปัง” แผงประตูชนกับกำแพง แล้วก็เด้ง กลับมาปิดลง วินาทีต่อมา คนที่ยืนอยู่ข้างนอกก็ยื่นมือเปิด ประตูออกอีกรอบ ทำหน้าตกใจเดินเข้ามา

นานๆทีจะเห็นปรัณตื่นเต้นขนาดนี้ เขากระชากแขนเสื้อ ของเตชิตเต็มแรง “เตชิต ฉันได้ยินมาจากชนัยว่า นัชชาฟื้นฟู ความทรงจําแล้ว?”

เขาตื่นเต้นจนไม่ได้สังเกตว่านัชชาฟื้นแล้ว

เตชิตไม่มีการตอบสนองใดๆ ดึงแขนกลับมา ตอบกลับ ประโยคหนึ่ง “อืม เขาส่งข่าวให้แกตั้งนานแล้วน ตอนที่กำลังกินข้าวกันอยู่ ชนัยก็อดไม่ไหวที่จะส่งข่าวให้

ปรัณรู้

ปรัณโบกมือไปมา “เมื่อกี้ฉันประชุมอยู่ ตอนพักถึงได้เห็น ข้อความ……….ไม่ใช่ประเด็น แกยังไม่ตอบฉันเลย นัชชาพื้น ความทรงจําแล้วจริงๆเหรอ?”

“จริงสิ”

“พี่ปรัณ ฉันจำเรื่องทั้งหมดได้แล้ว” นัชชาพูด

ปรัณตกใจตัวสะดุ้ง เขาถึงรู้ว่าเธอฟื้นแล้ว รีบก้าวไปข้าง หน้า รีบกลบเกลื่อนความตื่นเต้นของตัวเอง “อะแหม … เธอตื่น แล้วหรอ ร่างกายเป็นยังไงบ้าง? ได้ยินว่าตอนนี้ความทรงจำ ของเธอกลับมาแล้ว รอให้แผลดีขึ้นก่อนเดี๋ยวค่อยตรวจอย่างละเอียดอีกรอบ”

“ได้คะ ขอบคุณ”

ปรัณดีใจมาก ดีใจจนหัวเราะออกมา ถ้าใครไม่รู้คิดว่าเขา ดีใจเพราะจะได้เป็นพ่อคน

เตชิตทนไม่ไหว รีบหิ้วปรันออกมานอกห้อง “แกทำอะไร

น่ะ?”

“ฉันทำอะไรล่ะ? ฉันดีใจกับพวกแกไง!! ปรัณพูดอย่างมี เหตุผล นึกถึงเรื่องต่างๆ ในประเทศ Y จนถึงกลับประเทศมา รักษาตัว รู้สึกตื่นเต้นจนยากที่จะควบคุมได้ “นัชชานับว่าเป็นผู้ ป่วยในความดูแลของฉันมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นเพราะเรื่องส่วน ตัวหรือเรื่องส่วนรวม เธอฟื้นความจำแล้ว ทำให้ฉันดีใจจนบอก ไม่ถูก”

ในฐานะแพทย์ที่มีประสบการณ์มานานหลายปี ปรัณ เข้าใจสัจธรรมของชีวิตมนุษย์ดี จะตายหรือจะรอดแล้วแต่ สวรรค์ลิขิต เกิดมารวยหรือจนแล้วแต่สวรรค์กำหนด บางคน พยายามแทบตายแต่ผลที่ได้ไม่สมบูรณ์แบบอย่างที่คิด ดังนั้น ในการรักษาคนไข้เขาก็พูดปลอบตัวเองแบบนี้อยู่บ่อยๆไม่เช่น นั้นหลายปีที่ผ่านมาเผชิญกับเกิด แก่ เจ็บ ตาย เขาก็คงทนกับ พลัง กดดันอยู่ไม่ไหว

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับนัชชา เขาก็ไม่สามารถทำใจเพิกเฉย ได้ นั่นเป็นเพื่อนของเขา และยังเป็นภรรยาของเพื่อนรักของเขา ด้วย แม้ว่าเขาไม่เคยพูดออกมา แต่ในใจของเขาอยากให้เธอหาย มากกว่าใครๆ

สําหรับคนอื่น นัซซาฟื้นตัวได้หรือไม่เป็นเพียงผลเท่านั้น แต่สำหรับเขา ในกระบวนการบำบัดฟื้นฟูร่างกายมีทางเลือก มากมาย ทั้งหมดนี้อยู่ในการควบคุมของเขา แต่โชคดีที่เพราะ

อุบัติเหตุครั้งนี้ เธอฟื้นความทรงจำที่หายไปทั้งหมด

เขา โล่งอกขึ้น ในที่สุดก็สามารถวางหินที่ทับอกออก

เตชิตเพียงแค่อยากหยอกเขาเล่น เขาจะไม่รู้ถึงความ กดดันที่ปรัณได้รับกับเรื่องนี้ได้อย่างไร เพียงแต่ไม่รู้จะพูดยังไง ไม่รู้จะแสดงความออกมาอย่างไร

“เตชิต ฉันดีใจด้วย” ในที่สุด ก็พูดได้เพียงคำยินดีที่ธรรม

“ฉันรู้ ลำบากแกมาตลอด” เตชิตดึงยิ้ม เพื่อนรักไม่จําเป็น ต้องพูดอะไรมาก พวกเขาเข้าใจกันดี

“ฉันแสดงท่าทางแบบนั้นให้นัชชาเห็น ทำลายภาพพจน์ที่ ฉันอุตสาห์รักษามาตั้งนาน เฮ้ย ปรัณถอนหายใจยาว ใน เวลานี้ยังไม่ลืมเรื่องภาพพจน์

ได้ยินดังนั้น เตชิตยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ภรรยาของฉัน แก จะห่วงภาพพจน์อะไรนักหนา?”

ปรัณพูดต่อ “แกอย่าคิดมาก อย่างน้อยๆนัชชาก็เรียก ฉันว่าพี่ ฉันก็ต้องเป็นห่วงเธอเป็นธรรมดา”
ไม่คิดว่าเตชิตจะพูดปฏิเสธ “ความเจตนาดี”ของเขาอย่าง ตรงไปตรงมา “แกไม่ต้องเป็นห่วงอะไรให้มากเกิน เอาเวลาที่ เป็นห่วงคนอื่นรีบกลับไปนอนดีกว่าไหม ขอบตาดำย้อยจนจะ ถึงพื้นอยู่แล้ว ไม่กลัวว่าหมอสุวีราจะตกใจสภาพของแกตอนนี้ หรอ? ”

พูดจบ เขาก็หันกลับเดินไปที่ห้องคนไข้ทันที ปรัณโมโหจน กัดฟันกรอด “เห้ออ ~!!

เห็นร่างสูงโปร่งหายลับไปทางประตู ปรันอดไม่ได้ที่จะ หัวเราะออกมา เงยหน้ามองกรอบประตูอลูมิเนียมที่อยู่ด้านข้าง แล้วมองดูใบหน้าของเขาที่สะท้อนจากกรอบประตู

พูดไป ขอบตาเขามันก็อย่างว่าจริงๆ

แม้ว่าเขาอายุไม่น้อยแล้ว แต่เขาก็รักษาผิวหน้าอย่างดีมา ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบำรุงผิวต่างๆนาๆ ควบคู่กับการใช้ ศาสตร์ทางการแพทย์อย่างสมดุล แต่ไม่กี่เดือนที่ผ่านมามี หลายเรื่องที่ทำให้เขาเครียดมาก หลายครั้งที่เขานอนหลับใน ออฟฟิตของเขาเอง

โชคดีที่ปัญหาของนัชชาตอนนี้แก้ไขได้แล้ว ที่เหลือก็ทาง ด้านของชีวภา

นึกถึงชีวภา ปรัณก็ถอนหายใจ สภาพของเธอตอนนี้ไม่ใช่ ว่าสามารถหาทางแก้ไขได้ในชั่วข้ามคืน ถ้าต้องการรักษาให้ สำเร็จ ต้องใช้สมอง ความคิด และเวลาเยอะมาก ไม่ใช่เรื่อง เล็กๆ
หนทางยังอีกยาวไกล ยังมีอีกหลายทางที่จะต้องค่อยๆ คลำหาทางออก แค่หวังว่าชายหนุ่มคนนั้นอย่าพึ่งเป็นอะไรไปซะก่อน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ