ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน435 ในที่สุดก็ฟื้นขึ้นมา



ตอน435 ในที่สุดก็ฟื้นขึ้นมา

ตอนที่ 435 ในที่สุดก็ฟื้นขึ้นมา

นัชชาอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนอยู่ตลอดเวลา ได้รู้จาก จินต์ว่าชนุดมไปเยี่ยมลูกทุกวัน ในใจเธอก็รู้สึกผ่อนคลายลง เล็กน้อย เจียดเวลาโทรศัพท์หาเขา เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก คุย กันไม่กี่ประโยคก็รีบวาง

เตชิตอยู่โรงพยาบาลมาวันที่สามแล้ว แต่ชายที่นอนอยู่

บนเตียงผู้ป่วยไม่ได้มีท่าทีว่าจะฟื้นขึ้นมาเลย ในหัวเธอมีคำพูด ก่อนหน้านี้ของปรัณ ระยะเวลาสังเกต 72 ชั่วโมง ยิ่งเวลาเริ่ม ใกล้เข้ามา ในใจเธอก็ยิ่งไม่มั่นคง “พี่ปรัณ ทำไมเขายังไม่ฟื้น? เป็นไปได้ไหมว่าร่างกายจะมี

ปัญหาตรงไหน?”

ปรัณมองคนที่มาหาเขาเป็นครั้งที่สี่ภายในหนึ่งวัน ภายในใจตนก็กังวลเช่นกัน “เครื่องมือแสดงขึ้นมาว่าสัญญาณ ชีพจรคงที่มาก เป็นไปได้ว่าสติอาจจะยังมีไม่มากพอให้ฟื้นขึ้น มา”

“แต่วันนี้เป็นวันที่สามแล้ว ฉันกลัวว่าจะมีอะไรไม่คาด คิด… สองมือนัชชาเย็นเหมือนน้ำแข็ง ไม่กี่วันมานี้เธออยู่ที่ โรงพยาบาลตลอดเวลา กินไม่ได้นอนไม่หลับ มองดูแล้ว เปลี่ยนไปอย่างมาก
“ตอนนี้กังวลเรื่องพวกนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์ พวกเราทำได้ เพียงรอเตชิตฟื้นขึ้นมาก่อน ตราบใดที่ร่างกายไม่ได้มีการ เปลี่ยนแปลงมากนักก็เป็นเรื่องที่ดี

ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงวันนี้ เขาทำได้เพียงปลอบเธอแบบนี้

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน ภายในห้อง ทำงานผู้อำนวยการก็พลันเกิดเสียง ติดๆ ขึ้นมา ซึ่งก็คือ อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับเตียงผู้ป่วยเตชิตเกิดเสียงเตือนขึ้น

วินาทีต่อมา ปรัณก็ลุกขึ้นมาจากที่นั่งทันที หลังจากตรวจ สอบอุปกรณ์อย่างระมัดระวังแล้ว ก็หันไปมองนัชชาด้วยความ ตกใจปนดีใจและตื่นเต้น “เขาฟื้นแล้ว!”

ทั้งสองรีบเข้าไปในห้องผู้ป่วย ผลักประตูเดินเข้าไปข้าง เตียงก็สบสายตาที่คุ้นเคย ใครก็ไม่คาดคิดว่าห่างกันไปไม่กี่ นาที ผู้ชายคนนี้ก็ฟื้นขึ้นมาทันที

ดวงตานัชชาแดงขึ้นมา สองสามวันมานี้น้ำตาได้เกือบ เหือดแห้งไป เธอยืนนิ่งอยู่ที่หัวเตียง โน้มตัวลงไปจูบ “ในที่สุด คุณก็ฟื้นแล้ว!”

เตชิตมองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าทั้งหมด สลบไปสองสามวัน ทำให้ร่างกายเขากลายเป็นเชื่องช้า รอจนนัชชายืนขึ้นเขาถึงรับ รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

การหายตัวไปของธมนต์ รอยยิ้มน่าขยะแขยงของประทิน และยังมีภาพเหตุการณ์ภายในห้องไหลเข้ามาในหัวเขาจนล้น
ผู้ชายขมวดคิ้ว มีท่าทางค่อนข้างเจ็บปวด อุปกรณ์ที่หัว เตียงแสดงให้เห็นการเต้นของหัวใจและความดันเลือดกำลังสูง ขึ้น ปรัณเดินเข้าไปปรับสายน้ำเกลือ ให้เร็วขึ้นหน่อย เพื่อให้ อารมณ์เขาคงที่ “ขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดนายกฟื้นแล้ว ถ้าคืน นายยังไม่ฟื้น ฉันจะต้องสงสัยฝีมือการรักษาของตัวเองแล้ว เนี่ย!”

เป็นเพื่อนกันมาหลายปีเอาชีวิตรอดมาได้ ปรัณก็ตื่นเต้น อย่างไม่สิ้นสุด วันพวกนี้เขาคือคนที่กังวลมากที่สุด ถึงอย่างไร การรักษาทั้งหมดก็เป็นฝีมือเขา ถ้าเตชิตโชคไม่ดีจริงๆ ทั้งชีวิต นี้เขาคงไม่สามารถเผชิญหน้ากับตนเองได้

ยังดีที่เขาฟื้นแล้ว

“คุณเป็นยังไงบ้าง รู้สึกว่าไม่สบายตรงไหนไหม?” นัชชา เห็นเขาขมวดคิ้ว จึงถามซ้ำ สายตากังวลเผยออกมา

เตชิตจ้องมองเธอน ใบหน้า ดูออกว่าไม่กี่วันมานี้เธอ กังวลไม่น้อย ผมมันเล็กน้อย เสื้อผ้าบนร่างกายก็ยับยู่ยี่ คิดว่า ทั้งหมดนี้ก็เพื่อตน เขาก็รู้สึกประทับใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

เขาคิดอยากจะยกมือขึ้นดึงเธอมาไว้ในอ้อมกอด แต่ไม่ว่า เขาจะออกแรงมากกว่าครึ่งก็ขยับแขนไม่ได้แม้แต่น้อย ผู้ชาย ยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้น ดวงตาลึกมองไปที่ร่างกาย “ผม……..ขอบ ไม่ได้”

เมื่อพูดออมา ลำคอก็เจ็บเหมือนร้อนซ่าๆ ทำให้ไอ โดย ไม่รู้ตัว เพียงแค่ทุกครั้งที่บริเวณปอดสั่นก็ทำให้เขาเจ็บจนหน้า
นัชชามองแล้วเจ็บปวดอย่างไม่มีสิ้นสุด มือยกขึ้นยกลง ไม่รู้จะวางไว้ตรงไหน ปรับนําหน้ากากออกซิเจนข้างๆออกมาครอบบนปากเขา “ก่อนที่นายสลบไปได้สูดดมแก๊ซที่เป็นอันตรายเข้าไป ทางเดิน

อากาศหายใจและบริเวณปอดได้รับผลกระทบนิดหน่อย อย่า เพิ่งพูดอะไรไปก่อน” พูดจบ เขาก็รีบสังเกตสถิติ แล้วเรียกหมอและพยาบาล

ด้านหลังดำเนินการตรวจสอบหนึ่งชุด

ระหว่างการปฏิบัติการ เตชิตมองดูแขนและขาตนที่ถูกยก ขึ้นวางลง การรวมกันของเหน็บชาและความไม่ยืดหยุ่น ความ รู้สึกร่างกายที่ไม่เป็นดั่งใจทำให้เขาทรมาณ

นัชชารู้สึกว่าสายตาของผู้ชายได้ข้ามผ่านไป ก็รีบเข้าไป ถามทันที “เป็นอะไร? ถ้าเจ็บคอ ใช้สายตาบอกฉันก็ได้นะว่า อยากได้อะไร”

สายตาเตชิตอึมครึม สุดท้ายก็ส่ายศีรษะ และไม่ได้พูด

อะไรออกมา

ภายในห้องผู้ป่วยเงียบสงบมาก มีบทสนทนาของคุณหมอ ไม่บ่อย ดวงใจของนัชชาอยู่ที่เขาทั้งหมด รอคอยผลสรุปการ ตรวจสอบอย่างตื่นเต้นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

หลังจากปรัณดูสถิติทั้งหมดเสร็จ ก็ถอนหายใจออกมาในที่สุด นอกจากบริเวณปอดแล้วยังมีจุดดำที่ยังต้องตรวจสอบ อีกชั้นหนึ่ง ในด้านอื่นๆ ไม่มีปัญหาอะไรมากนัก ถ้าพรุ่งนี้อาการ คงที่แล้วสามารถย้ายไปที่ห้องผู้ป่วย VIP แบบธรรมดา วางใจ ได้”

ผลสรุปนี้สำหรับนัชชาแล้วดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย เธอ มองปรับอย่างรู้สึกขอบคุณ “ขอบคุณนะคะ ขอบคุณ…..

“ทําไมร่างกายผมขยับไม่ได้?” แม้ว่าลำคอจะเจ็บสาหัส เขาก็ยังอดทนเปล่งเสียงแหบพร่าออกมา

“แก๊ซทนายหายใจเข้าไปมีส่วนประกอบสามชนิด ทั้งหมด ล้วนเป็นสิ่งที่ระเหยได้ นายอยู่ในห้องเป็นระยะเวลามากกว่า ยี่สิบนาที ผลข้างเคียงเลยค่อนข้างมากหน่อย ร่างกายเป็น อัมพาตชั่วคราวก็นับเป็นหนึ่งในนั้น” ปรัณพูดจบก็ยกมือขึ้นมา ดูนาฬิกาข้อมือ “คืนนี้นายก็ใกล้จะลงจากเตียงได้แล้ว แต่ถ้า อยากจะเดินขยับสะดวกจะต้องทำกายภาพ

เตชิตฟังอยู่ ไม่ได้อารมณ์ขึ้นๆลงๆเป็นพิเศษนัก ดวงตาดำ สนิทคู่นั้นกลับครุ่นคิดอะไรอยู่ ความเพิกเฉยของเขาทำให้หมอ และพยาบาลค่อนข้างประหลาดใจ แต่คิดอีกทีผู้ชายแบบนี้ไม่ เหมือนคนปกติอื่นอยู่แล้ว

“นายเพิ่งฟื้นต้องพักผ่อนเยอะๆ มีปัญหาอะไรก็เรียกฉัน

ปรัณพูดไปก็ส่งสายตาให้นัชชา “นัชชา ออกมาฉันมีเรื่องเรื่อง สําคัญจะคุยด้วย”

“โอเค”
ประตูห้องผู้ป่วยปิดลง ปรัณเดินไปสุดทางเดินของโรง พยาบาล นัชชาอยู่ด้านหลัง ทั้งสองยืนอยู่ต่อหน้ากัน ภายใน ใจรู้สึกเข้าใจโดยไม่ต้องพูดออกมา

“เตชิตแม้ว่าจะฟื้นมาครั้งนี้แต่ร่างกายก็ไม่เหมือนแต่ก่อน นัก การฟื้นฟูของการทำงานในร่างกายต้องคงไว้ระยะเวลา ประมาณหนึ่งสัปดาห์ ก็ยังดี แต่ว่าความรู้สึกของร่างกายเป็น อัมพาตจะค่อยๆหายไปการเสพติดที่ฉันเคยพูดกับเธอก่อน หน้านี้จะค่อยๆเพิ่มขึ้น

สีหน้าแววตาปรับไม่ค่อยผ่อนคลาย นัชชารับรู้ถึงความ รุนแรงของเรื่องนี้ “พี่ปรัณ สบายใจได้ ฉันจะอยู่เคียงข้างเขา อยู่เสมอ”

ในประเด็นนี้ปรัณไม่ได้สงสัยเลย เพียงแต่……..เขาเห็น ความกังวลในแววตานัชชาเพียงเสี้ยววิ จึงรุกถามอย่างใกล้ชิด “เธอมีปัญหาอื่นอะไรถามได้นะ

นัชชากัดริมฝีปาก ลังเลสักพักถึงพูดออกมา “ฉันไม่รู้ว่า ควรพูดเรื่องนี้กับเขายังไงดี เขาเป็นคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรี หากรู้ เรื่องพวกนี้..………

พูดถึงตรงนี้เธอก็เงียบลง เธอกังวลในสิ่งที่ปรัณเคย ใคร่ครวญมาก่อนแล้ว ที่จริงแล้วเขาก็รู้สึกขัดแย้งมาก แต่เรื่อง มันก็เกิดขึ้นแล้ว พูดมากก็ไร้ประโยชน์ ทำได้เพียงดำเนินต่อไป อย่างไร้แผนการ

“ค่อยๆไปทีละก้าวกันเถอะ ทำกายภาพร่างกายก่อนสำหรับเรื่องอื่น ค่อยๆทำให้อารมณ์ของเตชิตมั่นคงช้าๆกันเถอะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ