ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน675หึงให้น้อยลง



ตอน675หึงให้น้อยลง

ตอนที่675 จึงให้น้อยลง

แม่ไก

เครื่องหมายคำถามปรากฏบนใบหน้าดราณี เห็นได้ชัดว่า ทุกคนที่เห็นเธอวันนี้ก็ชมว่าดี เมื่อมาถึงที่นี่จะกลายเป็นแม่ไก่ ไปได้อย่างไร

เช่นนั้น เธอจึงเถียงขึ้นด้วยเสียงเล็กๆ “ทุกคนก็บอกว่า สวยดี”

“คุณเข้าชมรมอะไรกัน หะ

ดราณีไม่ได้ตระหนักถึงขอบเขตของความไม่พอใจของ ชายผู้นี้ เธอเอ่ยปากพูดขึ้นอย่างหน้าตาเฉย “ชมรมหนึ่งของ ทางโรงเรียน มีเพื่อนหลายคนเพื่อนสมัครด้วยกันหลายคน และก็มีรุ่นพี่ด้วย”

ชมรม รุ่นพี่

เมื่อสองคำนี้ตกถึงหู เขาไม่ค่อยชอบใจนัก เมื่อประโยค นั้นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริง เหมือนกับการเทถังน้ำมัน ราดรดลง ในใจเขา

ชายคนนั้นเลิกคิ้ว “คุณมีความสุขมากรึไง”
“แน่นอนสิ ฉันมีเพื่อนใหม่ทั้งหลายคน แต่ละคนก็พูดคุย

กันอย่างถูกคอ”

“นักเรียนจะพูดคุยเรื่องอะไร วันนี้กินอะไร หรือพรุ่งนี้จะกิน อะไร หรือว่าคุณทำงานอะไรอยู่ เขาอ่านหนังสือไปกี่เล่มแล้ว

ดราณีได้ยินคำที่เขาพูดประชดประชัน เมื่อเธอเป็น นักศึกษามหาวิทยาลัยผู้ซึ่งได้ยินคำเย้ยหยันเหล่านั้น ปฏิกิริยา แรกของเธอก็คือการโต้เถียงขึ้นอย่างแน่นอน “ก็แน่นอนล่ะ ทุก คนยังอายุน้อยอยู่ รุ่นราวคราวเดียวกัน พูดคุยเรื่องเหล่านี้ก็ เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรอคะ อีกอย่าง จะคุยเรื่องอะไรก็ไม่ใช่ สาระสำคัญ สำคัญที่บรรยากาศ มันทำให้มีความสุขมาก!!

เมื่อได้ยินคำพูดนี้มันแปลได้แค่สามคำเท่านั้น — ว่าเขา

แก่

รุ่นราวคราวเดียวกันแล้วยังไง คุยกับเด็กเกรียนวัยยี่สิบ กว่ามันดียังไง คุยกับคนรุ่นเดียวกันมันดีตรงไหน

แต่เขาก็ไม่ได้พูดไป ถ้าเขาพูดเดี๋ยวจะฟังดูเหมือนว่าแคร์ มากเกินไป เขาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองแก่หรือไม่มีเสน่ห์ อย่าพูด ถึงวัยสามสิบกว่าเลย ต่อให้สี่สิบกว่า เขาก็ยังเป็นเช่นดอกไม้ มี แต่คนอยากจะดอมดม

ดราณีเป็นเหมือนเชื้อไฟ เธอไม่มีทักษะอื่นใด ทักษะใน การยั่วโมโหเขานั้นหาใครเทียบเธอไม่มี

ช่างเถอะ เขาไม่อยากหาเรื่องกับเด็กน้อย เธออยากจะพูด อะไรก็พูดไปเถอะ
ดังนั้น ชายคนนั้นจึงพ่นลมออกจากปากและสตาร์ทรถ วัน นี้เขาตั้งใจที่จะเปลี่ยนเอารถคันใหญ่มา ใช้เบนท์ลีย์เหมือนกับ เตชิต ปกติเขาชอบขับรถแข่งหรือรถสปอร์ต แต่เพื่อไม่ให้ สะดุดตาเขาจึงซื้อรถสเตชั่นแวกอนของเบนท์ลีย์มาแทน

เขาคิดแทนเธอแล้ว แล้วเธอล่ะ คิดแต่จะเข้าร่วมชมรมบ้า บออะไร!

ดราณีมองออกไปดูทิวทัศน์ที่นอกหน้าต่างรถ เธอพูดออก มาอย่างราบรื่น “เราจะไปไหนกันคะ

ปฏิกิริยาตอบสนองที่เธอได้รับก็คือความเงียบ

ปกติแล้วชนัยไม่เคยไม่พูดอะไร เธอจึงถามขึ้นอีกครั้ง “ตอนนี้เรากำลังไปไหนคะ ฉันถามคุณอยู่นะ” “สายขนาดนี้แล้วจะไปทำอะไรได้ ผมรอคุณตั้งนานแล้ว

ข้าวเย็นก็ยังไม่ได้กิน!!

ดราณีถูกเขาหงุดหงิดใส่จึงไม่กล้าพูดอะไรอีก ที่จริงแล้ว เธอรู้สึกอายเล็กน้อย ให้เขารออยู่ตั้งนาน ความตั้งใจเดิมของ เธอก็คือปล่อยเขาไป ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะรอสองชั่วโมง จนถึงตอนนี้

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ดราณีก็ถามเขาขึ้นด้วยความมั่นใจ “คุณ อยากทานอะไรคะ”

“คุณสนใจผมด้วยหรอ

“…ฉันแค่ถามดู”
“ทำไม คุณจะเลี้ยงผมหรือยังไง” ดราณีค้อนเขาด้วย ความไม่พอใจ “ร้านที่ผมจะไป นักศึกษาอย่างคุณเลี้ยงไม่ไหว หรอก”

สิ่งที่ดราณีเกลียดที่สุดก็คือคนที่ชอบพูดจาอวดรวย และ คนประเภทนี้ก็ดูถูกเธอเพราะเรื่องเงิน ถึงแม้จะเธอจะไม่ได้ แสดงออกอะไร และไม่ได้มีคำพูดใด

ชนัยรู้สึกเสียใจที่ตัวเองพูดเช่นนั้นออกมา เขาไม่ได้มี เจตนาต้องการจะหัวเราะเยาะเธอ แต่เป็นเพราะเกี่ยวพันกับ เรื่องชมรมเมื่อสักครู่

แต่ว่าบรรยากาศตอนนี้ให้เขาอธิบาย เขาก็ไม่อยาก เขายังไม่ได้โมโหเลย เขาเป็นคนที่ต้องโมโห เธอแอบไป เข้าชมรมอะไร ได้ทำตัวให้เหมาะสมกับการเป็นแฟนรึเปล่า

เขาไม่ชินกับเรื่องเหม็นโฉ่พวกนี้

ในใจเขาก็ให้กำลังใจตัวเอง อย่างไรก็ตามความจริงก็คือ แต่เดิมเขาได้จองร้านอาหารระดับมิชลินสามดาวเอาไว้ แต่ ตอนนี้เขาเปลี่ยนแผน ตัดสินใจไปร้านหม้อไฟแทน

ถามว่าวัตถุประสงค์เพื่ออะไร อาจจะเพื่อกลบเกลื่อนเรื่อง ที่เมื่อสักครู่จงใจพูดเพื่อนยั่วโทสะเธอแต่ว่าเขาไม่ได้คิดเช่นนั้น จริงๆ

รถจองที่โรงจอดรถ ชนัยปลดล็อคออก และหยิบบุหรี่ไฟฟ้ามาใส่กระเป๋าไว้

ดราณีเปิดประตูรถลงไป และยืนรอเขาอยู่ที่ด้านนอก กิริยาท่าทางนั้นดูเหมือนกำลังหงุดหงิดเขาอยู่

ชนัยแอบบ่นอยู่ค่หนึ่ง เขาลงจากรถและสาวเท้าก้าว ใหญ่ตรงไปที่ปากทางเข้าลิฟต์ ไม่ได้รอเธอสักนิด

เขาได้ยินเสียงผู้หญิงทางด้านหลังยิ่งเหยาะๆ ตามมา

ความยุ่งเหยิงในใจก็ค่อยคลายขึ้นมาบ้าง

ทั้งคู่ยืนอยู่ในตำแหน่งหน้าลิฟต์เช่นเดียวกัน ดราณีวิ่งมา จึงหอบหายใจ สายตาเธอจ้องไปที่เงาสูงใหญ่ทางด้านหน้า เธอรู้สึกยากที่จะเข้าใจ

ทำหรือไม่ทําอะไรก็โกรธ ชายวัยทอง

ทั้งคู่ขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นสอง เมื่อประตูเปิดก็ถึงห้องส่วนตัว ชนัยไม่ได้พูดอะไรกับเธอแม้แต่คำเดียว จนเมื่อบริการพาพวก เขาไปในห้องส่วนตัว เขาจึงนำอุปกรณ์สั่งอาหารอิเล็กทรอนิ กวางไว้ตรงหน้าเธอ “สั่งอาหาร

ความหยิ่งยโสไม่ได้ลดน้อยลงเลยระหว่างยื่นเมนูให้จน เกือบจะชนหน้าเธอ

ตั้งแต่ขึ้นรถมาก็ดูเหยียดหยามเธอ อยู่ดีๆก็โกรธ กระฟัดกระเฟียดอย่างไม่มีที่มาที่ไป จนเข้ามาในห้องส่วนตัว แล้วก็ยังทำหน้าจองหอง ดราณีทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ทำไม เขาถึงยังไม่พอใจอีก
เธอไม่ขยับ ไม่อยากจะสนใจเขา เธอหยิบโทรศัพท์ออก มาแล้วก็แกล้งทำเป็นส่งข้อความ ทั้งที่ความจริงแล้วเธอแค่กด มั่วไปบนหน้าจอ

เมื่อชนัยเห็นเช่นนั้นก็ยิ่งโมโหหนักกว่าเดิม เธอเพิ่งออก จากชมรมก็เริ่มส่งข้อความติดต่อกันอย่างสนิทสนมอย่างนั้น

ปกติเขาไม่ใช่คนใจแคบ ในการทำงานเป็นเช่นนี้ ใน ความสัมพันธ์ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน แฟนเก่าของเขาไม่ว่าจะทำ อะไรไม่เคยถูกเขาต่อว่า ไม่เคยห่วงว่าพวกเธอจะไปชอบคนอื่น แต่ตอนนี้เมื่อเห็นการกระทำของดราณี เขากลับจะระเบิดขึ้นมา

เขาโยนกระป๋องเปล่าข้างๆทิ้งไป ความจริงแล้วเพื่อ ต้องการเตือนเธอ ไม่คาดคิดว่าดราณีเงยหน้าขึ้นมามองพอดี กระป๋องไม่เอียงซ้ายเอนขวาพุ่งเข้าใส่ตรงหน้าผากด้านซ้าย ของเธอพอดี

“โอ๊ย” เธอส่งเสียงดังขึ้น ฟังแล้วคงจะเจ็บมาก

สถานการณ์ในตอนนั้น แม้แต่ชนัยเองก็ยังตกตะลึง เขาไม่ ได้คิดที่จะปาใส่เธอ แต่เขากลับมองเธอด้วยสายตาน้อยใจ อย่างไม่น่าเชื่อ เขารู้ว่าเธอจะต้องเข้าใจผิดแน่

อธิบายดีไหม

ขายหน้าจริงๆ

ไม่อธิบาย… ก็รู้สึกอึดอัดใจ

เมื่อเขากำลังคิดว่าจะพูดอย่างไรดี ดราณีก็ลดหัวต่ำลงเงียบไปครึ่งนาที จากนั้นหยิบอิเล็กทรอนิคส์มา และสั่งอาหารด้วยตัวเอง

ไม่ห้านาที อยู่ด้านและพูดอย่างเบาๆ เท่าก่อนค่ะ

ได้ค่ะ กรุณาสักครู่

หลังจากที่พนักงานเสิร์ฟไป ดราก็ยังคงก้มหน้าลง หน้าผากด้านซ้ายโดนปานั้นปูดอย่างเห็นได้ชัด เขา โยนออกไปโดยไม่ยังมือเช่นนั้นมันน่าทำให้เธอเจ็บมาก

ชนัยเลวร้ายขนาดไหน ว่าวันเป็นแรกเขาลงไม้ลงมือเธอ

เธอแค่ดูโทรศัพท์มือถือ ก็ต้องลงลงมือด้วยหรอ อยาก ปาปาเลยจริงจังกับเธอเลยจริง…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ