ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน112กับดักของปณิตา



ตอน112กับดักของปณิตา

ตอนที่ 112 กับดักของปณิตา

ทยา หลังจากกลับถึงบ้านในเย็นวันนั้น เขาก็รีบเรียกต วิษไปที่ห้องหนังสือทันที สองพ่อลูกเผชิญหน้ากัน โดยมีโต๊ะกัน กลาง อากาศภายในห้องเหมือนจะกลั่นตัวเป็นไอน้ำหมดแล้ว

จรรยารออยู่หน้าประตูห้องหนังสือ ร้อนรนจนอยากจะเปิด

ประตูเข้าไป

คราวก่อนเห็นทยาวีร์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เรื่องสภาพ คล่องทางการเงินของบริษัท ครั้งนี้ก็คงจะไม่ใช่เรื่องเล็กแน่

“ได้ แกเก่งนักใช่มั้ย ถึงได้ไปโผล่ที่บริษัทไอ้เตชิต โน่น แกหย่าแล้วสมองก็ไม่มีแล้วเหมือนกันใช่มั้ย”ทยาวีร์แผดเสียง กร้าว

ตวิษไม่รู้สึกสะทกสะท้านแม้แต่น้อย สีหน้ายังคงนิ่งเฉย

“พ่อ หรือว่าเพราะพ่ออายุมากแล้วเลยทำให้ความอดทนต่ำลง เรื่องแค่นี้ก็ต้องโวยวายใหญ่โต หรือว่าพ่อกลัวไอ้เตชิต

“เจี๊ยะ”

ทยาวีร์ฟาดฝ่ามือลงบนโต๊ะอย่างแรง “แกไม่กลัว แกมัน ก็ดีแต่สร้างปัญหา ตั้งแต่แกเข้ามาบริหารแกเคยทำผลงาน อะไรบ้างมั้ย หรือเคยทําเรื่องอะไรดีๆบ้าง บริษัทตอนนี้ก็เข้าตาจน ถ้าจะให้ดีแกรีบไปหาเดชิดโดยด่วนไปซะวันนี้ตอนนี้เลย

ไม่บ่อยที่จะมีโอกาสได้พูดคุยธุรกิจกับหุ้นส่วนด้วยรอยยิ้ม แต่อยู่ๆเตชิตก็มายกเลิกกระทันหัน ตอนนี้สถานการณ์ของ บริษัทก็ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก หากถูกยกเลิกอีก เกรงว่าจะประคอง ไปไม่รอด

“เตชิตเรียกไปที่บริษัทแล้วหรือ”ดวินัยตาบีบเกร็งนึกไม่ ถึงว่าเพื่อนั่งสารเลวนั่นเตชิตจะยอมทำถึงขนาดนี้ “ก็แค่ของ ที่ผมทิ้งไปแล้ว แต่ไอ้เตชิตมันอยากได้ขึ้นมา

“มันไม่ใช่แค่อยากได้ ตอนนี้ไอ้เตชิตหลงนังนั่นจนโงหัว ไม่ขึ้นแล้ว ถ้าแกยังไปหาเรื่องแม่นั่นอีก สิ่งที่แกต้องสูญเสียมัน จะไม่ใช่แค่นี้ บ้านหลังนี้ บริษัทอีกหน่อยก็คงต้องไปอยู่ในมือ ของไอ้เตชิต” คิดถึงเรื่องที่อาจจะเกิด ทยาวีร์ก็รู้สึกหายใจไม่ สะดวก แล้วก็ไอออกมาอย่างรุนแรง

ในใจดวิษก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้สึกกังวล แต่เขาก็ยังไม่ยอม “พ่อ พ่อเห็นไอ้เตชิตมันยิ่งใหญ่คับฟ้าขนาดนั้นเลยเหรอ เมือง นี้ไม่ใช่ของมันคนเดียวนะพ่อ”

“ห์ “ทยาวีร์ส่งเสียงเย็นในลำคอ แกคิดอย่างนั้นเหรอ ใช้ เมืองนี้ไม่ใช่ของมันคนเดียว แต่มีใครในเมืองนี้กล้าเป็นศัตรู กับมันมั้ย”

ตนิ่งเงียบไม่กล้าพูดอะไร หลังจากทยาวีร์พูดจบทำให้ เขาเองหายใจไม่ทั่วท้อง
“ฉันรู้ว่าแกเจ็บใจ แต่ในเมื่อเราสู้เขาไม่ได้เราก็ทำได้แค่ ก้มหน้าต่อไป ตาษ บริษัทบอยเทคโนโลยีมันคือผลตอบแทน ของการต่อสู้มาตลอดชีวิตของฉัน ถือซะว่าทำเพื่อพ่อ เลิกไป ตามจ้องล้างจองผลาญเดชิดซะเถอะ” ทยาวีร์ใช้ทั้งไม้อ่อนไม้ แข็งในการโน้มน้าว ดาษ น้ำเสียงแฝงความอ้อนวอน แกกับนัชชาจะดีจะร้ายมันก็คืออดีตที่ผ่านไปแล้ว อย่าให้ต้อง สูญเสียไปมากกว่านี้เลย แค่นี้ก็ไม่เหลือให้แกผลาญแล้ว”

“พ่อ แต่ว่า…”

ไม่มีใครจะเข้าใจลูกตัวเองได้ดีไปกว่าคนเป็นพ่อแล้ว เขา รู้ว่าดวิษจะพูดอะไร จึงรีบยกมือขึ้นห้าม แล้วดึงเอกสารฉบับ หนึ่งจากในลิ้นชักส่งให้ดวิษ

“แกลองดูเอง”

ดวิษรับเอกสารนั้นมาเปิดดูทีละหน้า มันคือเอกสารแสดง สถานะทางการเงินของบริษัทในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาอย่าง ละเอียด

เขาค่อยๆอ่านทีละบรรทัด ยิ่งดูสีหน้าก็ก็ยิ่งเคร่งเครียดขึ้น

พออ่านจบเขาถึงเข้าใจว่า ทำไมเมื่อสักครู่พ่อของเขาถึง ใต้โมโหเกรี้ยวกราดขนาดนั้น

สถานการณ์ของบริษัทตอนนี้ เลวร้ายกว่าที่เขาคิดไว้มาก

“พ่อ ทำไมบริษัทถึงกลายเป็นแบบนี้

“แกดูไม่ผิดหรอก” ทยาวีร์สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “เพราะฉะนั้นแกเลิกก่อเรื่องได้แล้ว ถ้าแกยังไม่หยุด แม้แต่บริษัทก็คงไม่เหลือ เข้าใจมั้ย

ในใจคพิษตอนนี้ตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก พูดอะไรไม่ออก หากไม่นับเรื่องของบริษัทกับเรื่องการหย่า เรื่องอื่นเขายังพอทนรับไหว

แต่ว่า…

“แล้วเราจะปล่อยนัชชาไปง่ายอย่างนี้เหรอ ถ้าไม่เพราะนั่ง แพศยาน บ้านเราคงไม่ต้องเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้ ทยาวีร์ค่อยๆถอนหายใจ “ช่างมันเถอะ ด

หลังจากออกจากบ้านฤทธิเดช ดาษขึ้นรถด้วยจิตใจหดหู

บนรถ ปณิตานั่งรออยู่บนที่นั่งข้างคนขับ หลายวันมานี้ด วิษอารมณ์แปรปรวน โวยวายโดยไร้เหตุผล ตอนนี้ไม่ว่าเธอจะ พูดอะไรก็ต้องคอยสังเกตสีหน้าของเขาก่อน แม้ว่าตอนนี้เธอจะ เข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ที่นัชชาเคยอยู่ได้อย่างราบรื่นแล้ว แต่ เธอกลับรู้สึกหวาดระแวง จิตใจว้าวุ่นตลอดทั้งวัน

ตอนนี้สีหน้าของเขาไม่สู้ดีนัก แม้แต่จะหายใจเธอก็ยังไม่ ค่อยกล้า

ดวิษขึ้นมานั่งบนรถ ยังไม่ได้สตาร์ทเครื่องยนตร์ แต่เขา กลับใช้มือขวาทุบลงบนพวงมาลัยอย่างแรง จนเสียงแตรดังขึ้น หนึ่งที”ปริ๊น”
ปณิตาตกใจจนสะดุ้ง ถามเขาด้วยเสียงเบาว่า “ควิน คุณ เป็นอะไรไป

“แม่งเอ๊ย นัชชา นัชชา นัชชา” ตามสบถ อนัชชาออก มาสามครั้ง แต่ละค่าคบเขียวเคี้ยวฟัน โกรธจนกินไปถึง กระดูก

“นัชชา แม่นั่นทำอะไรอีกล่ะ”

“เรื่องแบ่งสินสมรส คุณพ่อให้ผมยอมรับข้อตกลง ดวิษน้ำเสียง โกรธข็ง นึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาเขายิ่งโกรธ จนแทบระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่

เงินและบ้านของเขาครึ่งหนึ่งต้องตกเป็นของนัชชา

ทรัพย์สินเหล่านี้ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ แบบนี้ก็เหมือนเขาถูก

เชือดเนื้อเฉือนหนังดีๆนี่เอง

ปณิตากังวลอยู่ในใจ “ไม่มีวิธีอื่นเหรอคะ”

“จะมีวิธีไหนอีก วันนี้ไอ้เตชิตมันมาหาผมถึงบริษัท ตอนนี้ อำนาจต่อรองทั้งหมดอยู่ที่มัน ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป แม้แต่บริษัท ก็อาจจะตกไปอยู่ในมือมัน

“เลวร้ายขนาดนั้นเลยเหรอคะ”ปณิตากรอกตา มองคฤหา สน์ฤทธิเดชตรงหน้า เกิดความกลัวขึ้นในใจอย่างฉับพลัน

หรือดาษจะยอมแพ้ราบคาบเสียแล้ว ผู้ชายที่ชื่อเตซิตดูท่าจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว ขนาดสองพ่อลูกทยาวีร์และดาษยังต้องกลัวเขา ถึงเวลานั้นเธอไม่เท่ากับควา น้ำเหลวเหรอ

คิดถึงตรงนี้เธอก็ตัวสั่นเล็กน้อย แล้วค่อยๆหันมามองด ที่นั่งข้างๆ เมื่อก่อนเธออิจฉานัชชาที่อยู่กับดวิษ เพราะคนทั้ง หนุ่มทั้งรวย หน้าตาก็ไม่เลว เธอจึงเลือกทรยศเพื่อน แล้วเลือก ที่จะอยู่กับดวิษ

แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกถึงความหมดอาลัยตายอยากบนตัว ของเขา เหมือนเธอเดินมาเจอทางตันเสียแล้ว

แม้ว่าเขาจะโกรธแค่ไหน อยากจะคว่ำฝ่ายตรงข้ามยังไง แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้

หากว่าทรัพย์สินต้องถูกแบ่งไปครึ่งนึงจริงๆ บ้านฤทธิเดช จะเหลืออะไร ไม่ใช่สิ ต้องถามว่าบ้านฤทธิเดชจะให้อะไรเธอได้ บ้าง

ด้วยนิสัยเสแสร้งของจรรยาและเมทนี ซึ่งจะเป็นอุปสรรค ต่อเธอมากเป็นสองเท่า

ปณิตาที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จึงไม่รู้เลยว่าดวิษขับรถ กลับมาถึงนิเวศน์วิลล่าตั้งแต่เมื่อไหร่

“เหม่อลอยอะไรอยู่ ลงได้แล้ว” เสียงดวิษตะคอกออกมา ไม่สนใจว่าเธอมีปฏิกริยาตอบกลับอย่างไร เขาก็เปิดประตูลง จากรถทันที ปากก็ยังคงสบถออกมาไม่หยุด “แม่งเอ๊ยทำไม โชคร้ายจังวะ”
ปณิตาเม้มริมฝีปากแน่น ข่มความรู้สึกทั้งหมดไว้แล้วเดิน ตามเขาเข้าไปในบ้าน

สองวันนี้คุณก็เก็บข้าวของให้เรียบร้อย ผมกับพ่อตัดสิน ใจยกบ้านหลังนี้ให้ศาล” ดาษใช้มือดึงเนคไทออก ระหว่างคิ้ว กับตาเหมือนถูกรัดแน่นด้วยความเครียด

ปณิตาที่กำลังเปลี่ยนรองเท้าอยู่ถึงกับชะงัก อะอะไรนะ

“ผมบอกให้คุณเก็บข้าวของ หูตึงรึไง”น้ำเสียงของ วิษแข็งกร้าว เหมือนกับว่าเธอเป็นแค่ที่รองรับอารมณ์ของเขา เท่านั้น

“แล้วพวกเราจะไปอยู่ที่ไหนล่ะคะ”

“ไม่รู้ ” ควินตอบแบบตัดรำคาญ ไม่อยากจะพูดให้มาก ความ “คงไปหาตอนโดอยู่ละมั้ง

จากคฤหาสน์กลายเป็นคอนโด ในใจปณิตาเคร่งเครียด ขึ้นมาทันที เหมือนเชือกเส้นนึงที่ขาดลงหลังจากดวิษพูดจบ

ประโยค

ปณิตาเงยหน้ามองไปรอบๆบ้าน แล้วหันมามองด

จบแล้ว ทั้งหมดมันจบแล้ว คดีฟ้องหย่าแพ้แล้ว สิ่งที่ต้อง สูญเสียไม่ใช่แค่เงิน แต่เป็นทุกอย่าง

ปณิตาจิต ใจสับสนวุ่นวาย หมุนตัวเดินขึ้นชั้นสอง สีหน้า ของเธอแย่ขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเข้าไปในห้องนอน นึกถึงนัชชา คนที่เธอเกลียด ทำให้นึกถึงเตชิตไปด้วย
เธอเลื่อนหาบางสิ่งในโทรศัพท์มือถือ และแล้วเธอก็หา เจอสัญลักษณ์ที่เธอตั้งขึ้นเพื่อบันทึกเบอร์โทรสำคัญเบอร์นึง เมื่อก่อน เคยหานักสืบเอกชน เธอเคยลองใช้บริการด้วย ตัวเองแล้ว

ตอนนี้ ได้เวลาออกโรงแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ