ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน449จูบอันคุกคาม



ตอน449จูบอันคุกคาม

ตอนที่449 จูบอันคุกคาม

นัชชาถูกเขาถามจนใจเต้น ตึกตัก สบตากับเขา ในใจ เต้นจนสับสน “ก่อนหน้านี้พี่ปรัณเคยบอก……..

เธอพูดไปพลางเบนสายตาหนี กลัวว่าจะเผยความร้อนรน ออกไป

เตชิตจับคางเรียวสวยของเธอไว ใช้แรงเพียงนิดเดียวให้ เธอขยับไปไหนไม่ได้ ทำได้แต่ทนกับนัยน์ตาดำที่ชัดเจนของ เขา นัชชาทำได้เพียงทำหน้าให้นิ่งปกติที่สุด แต่เผชิญหน้ากับ ชายผู้ที่ทำให้คนกดดันเป็นสองเท่า ก็ทำไม่ได้อย่างที่ต้องการ

ครึ่งนาทีผ่านไป นัชชาถูกเขามองจนขนหัวลุกเกรียว ยกมือขึ้นกุมฝ่ามือเขาแล้วพูดอย่างอ่อนโยน “เตชิต คุณเป็น อะไร?”

“นัชชา” เขาตะโกนเรียกชื่อเธอในทันที ความกดดันทาง สายตาทำให้อากาศรอบข้างเบาบางลง “คุณปิดบังผม?”

“เปล่านะ!” นัชชาไม่อยากจะปฏิเสธ พูดจบก็พว่าท่าทาง ของตนนั่นโอเวอร์เกินไป ยิ่งทำให้น่าสงสัย จึงรีบเปลี่ยน อารมณ์อย่างรวดเร็ว “ฉันอยู่บ้านกับคุณทุกวัน จะไปบิดบัง อะไรคุณ?”
“ผมเป็นโรคอะไรกันแน่” เขาตั้งใจจะซักถาม ภาพที่เกิด ขึ้นวันนี้ที่ห้องประชุมโดยฉับพลันทำให้เขารับรู้ว่าเหตุการณ์มัน ไม่ได้ปกติอย่างที่นัชชาและปรัณได้เคยบอกไว้

ร่างกายของเขาเกินกว่าที่ยาจะคุมอยู่ กระอักกระอ่วนต่อ หน้าทุกคนและต่อหน้าเธอ บางครั้งยังทำร้ายเธอด้วย แม้ว่าจะ ไม่ร้ายแรง แต่สำหรับเตชิตแล้วมันคือการทรมาณอย่างหนึ่ง

“ก็อย่างที่พี่ปรัณบอก การฟื้นฟูต้องมีวิธีดำเนินการ ระยะ สุดท้ายร่างกาย สิ่งที่บรรจุในร่างกายจะหนักหน่อย ตอนนี้คุณ อยู่ในลำดับนี้ แต่มันเป็นเรื่องปกติ ฉันเข้าใจว่าคุณเจ็บปวด มาก แต่มันไม่มีเหตุผลอื่นจริงๆ” นัชชา กัดริมฝีปากยังไงเธอก็ บอกเขาไม่ได้ว่าเป็นเพราะติดยา เพราะเธอรู้ว่าถ้าหากพูดออก ไป ชายคนนี้จะต้องตัดสินใจทำในสิ่งที่เธอไม่อยากจะเห็น

เขาเห็นใบหน้าเล็กซีดเซียวเล็กน้อย ก็ยิ้มเยาะออกมา “ร่างกายขาดการควบคุมนี่คือปฏิกิริยาปกติหรอ?”

นัชชารู้ว่าในใจเขาสงสัย อยากจะเบี่ยงเบนความสนใจ เขา ยื่นมือไปจับฝ่ามือใหญ่ของเขา เอนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย เคลื่อนศีรษะเข้าไปใกล้ริมฝีปากเขา

คิดไม่ถึงว่าพอเธอเข้าไปใกล้ เขาก็ขยับลำตัวออกไปด้าน หลังเล็กน้อย หลีกเลี่ยงจูบของเธอ

ขนตานัชชาสั่นไหว เห็นท่าทางเลี่ยงของเขา นึกถึงตั้งแต่ ช่วงนี้กลัวว่าจะถูกเขามองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง ไม่รู้ทำไม ใน อกก็ท้วมล้นไปด้วยความน้อยใจทันที ขอบตาเต็มไปด้วยความพร่ามัวอย่างรวดเร็ว เธอก้มศีรษะหมายจะถอยหลัง แต่กลับถูก เขาล็อคศีรษะไว้

เตชิตลดสายตาลงมองขอบตาแดงของเธอ ความโกรธ หายไปในพริบตา “ร้องไห้ทำไม

“ไม่ได้ร้อง”

เขาขมวดคิ้ว เปิดเผยคำพูดปดที่ชัดเจนของเธอ “ไม่ได้ ร้องแล้วทำไมตาแดง?”

……..ไม่เชื่อใจฉัน

“ไม่ใช่ไม่เชื่อใจ” เขา โน้มศีรษะลงมาเข้าใกล้ให้เธอมอง เห็นดวงตาเขา “แต่ร่างกายมันผิดปกติเกินไป ผมค่อนข้าง กังวล”

“ฉันเคยถามพี่ปรัณ เขาบอกว่าพวกนี้คือปฏิกิริยาที่อาจจะ เกิดขึ้น ฉันไม่ได้พูดเล่นกับสุขภาพของคุณ” เธอยกสายตา สดใสขึ้นมองเขา ดวงตาดำสนิทราวกับถูกชำระล้าง

เธอเป็นห่วงสุขภาพตนมาก ไม่ต้องพูดเตชิตก็รู้ และไม่ เคยสงสัยในข้อนี้มาก่อน เขาเพียงสงสัยเกี่ยวกับสภาพของตน

บรรยากาศค่อนข้างเคร่งเครียด ตอนนี้ โทรศัพท์มือถือใน กระเป๋าของนัชชาก็พลันดังขึ้นมา

เสียงสั่น ครืดๆ ทำลายความนิ่งของเวลานี้ เธอถอน หายใจกำลังจะยกขึ้นมา หยิบขึ้นมาพอดูหน้าจอก็เป็นชื่อของ ปรัณอย่างคาดไม่ถึง
นัชชาอึ้งไปสักพัก ยังไม่ทันโต้ตอบอะไรโทรศัพท์ในมือก็

ถูกฉกไป

“เฮ!” เธอถอนหายใจออกมา โทรศัพท์ตกไปอยู่ในฝ่ามือ หนาของเขา

เตชิตไม่รอให้เธอโต้ตอบกลับมา กดรับโทรศัพท์โดยตรง น้ำเสียงกังวลของปริณถามตามสายมา “อาการเตชิตเป็นยังไง บ้าง?”

“ไม่เป็นยังไง” เตชิตนานมากกว่าจะตอบ อารมณ์ที่เพิ่ง สงบลงกลับมาเคร่งขรึมอีกครั้ง “นายกับนัชชาสองคน กำลังทำ อะไรอยู่กันแน่?”

อีกด้านหนึ่ง ปณคิดไม่ถึงว่าคนรับสายจะเป็นเตชิต ก็ ตกใจจนนั่งขึ้นมาบนโซฟา แต่เขาเป็นคนที่เจ้าเล่ห์ ไม่ได้ตื่น ตระหนกกับเรื่องแบบนี้ “ทำอะไรล่ะ สุขภาพของแกไง ฉัน วางใจไม่ลง”

“ไม่เรื่องปกติหรอกหรอ?” เขาพูดไปด้วยพลางกดเปิด ลำโพง นิ้วเรียวยาวเลื่อนไปที่สมุดรายชื่อ เห็นประวัติการโทร ในช่วงนี้ก็เห็นชื่อของปรัณ รวมจำนวนโทรเข้าออกเยอะจน ทําให้เขาโกรธ

นัชชาเห็นการกระทำของเขา ในใจก็บีบรัดแน่น เธอยื่น

มือไปจับโทรศัพท์ก็ถูกเขากุมข้อมือ สายตาคมถูกส่งไปที่ ใบหน้าเธออีกครั้ง แต่พูดกับปรัณว่า “โทรหากันวันละกี่ครั้ง เนี่ย ปรัณ นี่ความสัมพันธ์เธอกับนายดีขนาดนี้ตั้งแต่ตอนไหน?”

เขารู้ว่าปรักดีต่อนัชชา แต่มีขนาดว่าทุกวัน โทรหากัน

มากกว่าห้าครั้ง จำนวนเท่านี้เขายังไม่เคยเลยสักครั้ง ปรับขมวดคิ้ว แล้วตั้งใจกล่าว “เตชิต นายหมายความว่า

ยังไง?”

“ไม่ได้หมายความว่าอะไร แค่ถาม” เขาพูดอย่างสบายๆ แต่ทุกถ้อยคำทำให้อีกฝ่ายหายใจไม่ออก

ความรู้สึกของนัชชาตึงเครียดมาก มองการกระทำของ เขาอย่างไม่กะพริบตา ยิ่งไม่มีความมั่นใจ ริมฝีปากยิ่งแข็งทื่อ “เตชิต ส่งโทรศัพท์มาให้ฉัน

คราวนี้ เกินความคาดหมายของเตชิต พูดตรงๆว่า ค่อย คุยกันทีหลัง แล้วคืนโทรศัพท์เธอ

เธอรับมา ไม่กล้าพูดอะไรมากก็วางทันที ภายในห้องทำงานตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ทั้งคู่สบ สายตากัน ความรู้สึกสับสนในใจซ่อนยังไงก็ซ่อนไม่มิด

การโกหกก็เป็นแบบนี้ ถ้าถูกจับได้ ก็เหมือนกับโดนเทถุง ทราย ไหลออกมาทั้งหมด กั้นไว้ก็กั้นไม่ยุ่

“เตชิต………” นัชชากำลังจะอ้าปากพูดอะไร ยังไม่ทัน ได้เปล่งเสียงก็ถูกเขากลืนคำพูดไป

ปากบางที่เย็นเล็กน้อยของเขาประทับลงมา ไม่อ่อนโยน และไม่อดทน รุกล้ำเข้าไปในโพรงปากเธอ เกือบจะปลุกเร้าพื้นที่ในปากเธออย่างหยาบคาบ กลีบปากเธอถูกดูดดึงจนเจ็บ เสียงเปล่งร้องถูกเขากลืนเข้าปากทั้งหมด

มืออีกข้างประคองที่ลำคอและปกคอเสื้อเธอที่เผยให้เห็น เนื้อขาว นิ้วกดลงไปบนผิวหนังอย่างรุนแรง ทำให้ร่างสั่นไหว การกระทำของเขาเต็มไปด้วยกามารมณ์แต่ขณะที่ดวงตาว่าง เปล่า

เธอรู้ว่าเขาใช้วิธีนี้ปลดปล่อยอารมณ์ ให้เธอได้รู้ความ รู้สึกของเขา

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน นัชชาถูกจูบจนขาดอากาศ

หายใจจนเขาต้องค่อยๆคลายออก กลีบปากถูกเขากัดจนบวม แดง ด้านบนแวววาว เตชิตยกมือขึ้นปิดผมข้างหูเธอไปด้านหลัง สิ่งที่เห็นตรง

หน้ามีเพียงใบหน้าเล็กขาวเนียน นานแล้วที่ไม่ได้ใบหน้าแดง

ของเธอ เพื่อเขา เธอทรมาณมาโดยตลอด

อาการป่วยของเขานี้ เธอไม่ได้พอใจไปมากกว่าคนเลย

“พรุ่งนี้พาผมไปหาปรัณหน่อย” ลูกกระเดือกของเขาขยับ น้ำเสียงมีความสั่นเทิ้มตรงอก “ไปตรวจสอบ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ