ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน613ที่แท้ก็คือเขา



ตอน613ที่แท้ก็คือเขา

ตอนที่ 613 ที่แท้ก็คือเขา

คราณีก็ตัวแข็งทื่อทันที เมื่อครู่ไม่ได้สนใจ ตอนนี้รู้แล้วว่า ด้านหลังยังมีผู้ชายคนหนึ่ง…….

หลังจากมีปฏิกิริยาโต้กลับ เธอก็หดตัวเข้าประตูรถทันที หันไปทางต้นเสียงอย่างกล้าๆกลัวๆ พอหันไปมองก็อึ้งอยู่กับที่ ชาย ชายคนนี้……

ชนัยเห็นความสั่นไหวในดวงตาของเธอ คิ้วคมขมวดขึ้น มาเล็กน้อย เทียบกับความกังวลของเธอแล้ว ดูสบายและพอใจ เป็นพิเศษ “จําได้ยัง?”

ไม่สามารถ โทษความจำที่ดีของดราณีได้ เพียงแต่วันนั้น ผู้ชายคนนี้พูดต่อหน้าเธอแบบนั้น เธอลืมไม่ลงจริงๆ

“ค คุณหรอ?”

เสียงผู้หญิงแผ่วเบา และสั่นไปด้วยความหวาดกลัว แต่น่า เสียดายที่ชนัยไม่ได้มีคิดสงสาร แกว่งคอแล้วพ่นออกมา “ฉันเอง”

“ค คุณจับฉันมาทำไม…… ดราไม่รู้ว่าทำไมเป็นเช่นนี้ มองเขาด้วยความระมัดระวัง

ได้ยินคำถามเธอ ชนัยก็หัวเราะเย็นชา ดวงตาดอกท้อสวยราวกับซ่อนทะเลสาบน้ำแข็งในหน้าหนาว แต่สิ่งที่ปลิวออกมา ไม่ใช่กลีบดอกแต่เป็นเกล็ดน้ำแข็ง

เอ่ยปากอย่างกึ่งสืบหากึ่งคุกคาม “ทำไมฉันมาหาเธอ เธอ ไม่รู้ตัวหรอ?”

ดราณียิ่งไม่เข้าใจ ใบหน้าเล็กกลัวจนหน้าซีด “ฉันไม่รู้ค่ะ ทะ ทำไมคุณรู้ชื่อฉันคะ…….

“ฉันไม่ได้รู้แต่ชื่อเธอนะ ฉันยังรู้ว่าบ้านเธออยู่ที่ไหน รู้ว่า เธอเรียนมหาวิทยาลัยศิลปกรรมศาสตร์ แล้วก็ยัง” พูดถึง ตรงนี้ ชนัยก็ต้องใจหยุด ปากบางกระตุกขึ้นแต่ไม่ยิ้ม ค่อยๆละ สายตาออกมาจากร่างเธอ “ยังรู้สัดส่วนเธอด้วย”

สําหรับเด็กน้อยใสซื่อที่ไม่เคยมีความรัก ดราณีใช้เวลา หนึ่งนาทีเต็มกว่าจะเข้าใจความหมายแฝงในคำพูดเขา

ดวงตากลมโตใสเบิกตากว้างอย่างไร้ความกลัว ใบหูแดง ขึ้นมา “คุณ……คุณ!”

ชนัยเห็นท่าทางทั้งโกรธทั้งกลัวของเธอ สายตาคมมอง เธอราวกับมีด ใบหน้าอ่อนเยาว์บริสุทธิ์จริงๆ มองไม่ออกว่า อายุยี่สิบปีสักนิด ไร้ที่ติอย่างไม่ต้องพูดถึง แม้แต่รูขุมขนก็ไม่มี ไฟที่กระทบลงมาสามารถเห็นเส้นผมสวย ริมฝีปากเล็ก แต่ ดวงตากลมโต จมูกเล็กแต่โด่ง หดลงเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว เพราะแรงอารมณ์
ผู้หญิงที่ดูแล้วไม่มีพิษมีภัยคนหนึ่ง แจ้งตำรวจจับเขาเพียง พริบตาเดียว

ชนัยละสายตากลับมา ขมวดคิ้วด้วยท่าทางเหมือนเดิม แล้วยิ้ม บังเอิญไปไหม? หรือว่ามีคนตั้งใจจัดฉาก? เขาไม่รู้ แต่ เขาไม่รีบร้อน เดี๋ยวก็ชัดเจนโดยเร็ว

ดรามองด้านข้างผู้ชายที่ไม่พูดอะไรออกมา เขาสวมสูท สีแดงเข้ม ไม่ได้ให้ความรู้สึกหรูหราสักนิด แต่กลับเพิ่มให้เขา เป็นปีศาจที่ไม่ธรรมดา

ใช่ ผู้ชายคนหนึ่ง ที่ให้ความรู้สึกดึงดูดคน ดูโรแมนติก ไม่จริงใจ คำพูดที่ดีและไม่ดีอยู่บนร่างเขาหมด

แต่สิ่งที่ดราณีสัมผัสได้ชัดเจนก็คือ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนดี แน่ๆ

เขาไม่พูดอะไร บรรยากาศในรถก็เย็นไปจุดเยือกแข็ง เหมือนกับว่ามีของหนักหลายร้อยหลายพันตันทับร่างกายเธอ อยู่ ทำให้หายใจไม่ออก

ดราณีไม่รู้ว่ารถจะขับไปที่ไหน เธอนั่งเงียบๆอยู่ข้างๆ มือขวาล้วงเข้าไปในกระเป๋าอย่างช้าๆ หยิบโทรศัพท์ข้างในขึ้น มา

พอปลายนิ้วแตะเข้า ในวินาทีต่อมา ก็ได้ยินเสียง สบายๆของดังขึ้น “มือ เอาออกมา

ดราณีเหมือนโดนของแหลมคนในทันที ไม่กล้าหายใจหนัก

“ถ้าเธอคิดว่าตำรวจมีประโยชน์ล่ะก็ ก็แจ้งตำรวจได้นะ แต่ฉันไม่รับประกันว่า หลังจากแจ้งความแล้วฉันจะโมโหไป มากกว่าตอนนี้”

เขาไม่ได้พูดเสียงดัง โทนเสียงอยู่ในระดับปกติ แต่กลับ ทําให้เราณีสั่นเทิ้มด้วยความกลัว

เขาดูเหมือนไม่ได้สนใจถ้าเธอจะแจ้งตำรวจสักนิด มีเบื้อง หลังอะไรกันแน่ แม้แต่ตำรวจก็ไม่กลัว หรือว่าเป็นพวกนอก กฎหมาย?

ดราณีเหงื่อออกฝ่ามือที่จับโทรศัพท์อยู่ แต่ก็ไม่กล้าทำ อะไรหุนหันพลันแล่นอีก

ต่อมารถก็เข้าไปในลานจอดรถชั้นใต้ดิน สุดท้ายก็จอดใน ช่องรถ คนขับรถเปิดประตูรถให้ผู้ชาย ร่างของเธอไม่ได้ถูก ควบคุมไว้ แต่ดราณีรู้ดีว่าตัวเองวิ่งไม่พ้นแน่

เห็นว่าผู้ชายคนนั้นเดินไปทางลิฟต์ ดราณียืนนิ่งอยู่กับที่ ถูกคนชุดดำด้านหลังดันไหล่ไป “เร็วเข้า

ดราณีไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงเดินตามเข้าไปในลิฟต์

ระหว่างทาง หยุดที่ชั้นสาม ประตูลิฟต์เปิดออก พรมชั้นดี อยู่ใต้เท้า วอลเปเปอร์สีทองแดง ให้ความรู้สึกหรูหรา สองข้าง ทางเป็นไฟสีเหลืองอ่อนสลัว
แม้ว่าเราจะกลัว แต่ก็ยังมีสติเต็มร้อย เธอสำรวจทุก อย่างของที่นี่

เดินไปไม่กี่ก้าว กลุ่มคนก็หยุดลงที่หน้าห้องส่วนตัวห้อง หนึ่ง มีคนผลักประตูออก เขาเดินเข้าไป ดราณามไปเป็นคน สุดท้าย ยิ่งเดินเข้าไปก็ยิ่งได้ยินเสียงเพลงเสียงดัง

พอเธอเข้าไปพบว่า ห้องนี้มีพื้นที่ประมาณสองร้อยตาราง เมตร มีบาร์ดื่ม มีเครื่องเล่นคาราโอเกะ โต๊ะปิงปองก็ยังมี

และคนที่นั่งอยู่กลางห้อง ข้างกายมีผู้หญิงสวมชุดเซ็กซี่นั่ง

ข้างๆ

ดราณีไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์นี้มาก่อน ก็อึ้งไปเลย โดยเฉพาะตอนที่เห็นชายหญิงจูบกันอย่างไม่ตั้งใจ ก็รีบหัน หน้าหนีทันที

พอหันไป ก็สบตากับดวงตาล้ำลึกคู่นั้นพอดี ชนัยมองหญิง สาวที่ใบหน้าแดงก่ำ มีความกระสับกระส่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า และไม่รู้ว่าแสดงดีเกินไปหรือเปล่า เธอช่างดูไร้เดียงสาจริงๆ

คนในห้องเห็นชนัยเข้ามา ก็ค่อยๆยืนแล้วทักทายเขา อย่างสุภาพเคารพ คนพวกนี้ให้ความเคารพชนัยมากก็เพราะ ว่าความหวาดกลัว

พวกผู้ชายชนแก้วกันคุยไปหัวเราะไป พวกผู้หญิงก็นั่ง ยั่วยวนอยู่ข้างกายอย่างสงบ แต่ก็แอบมองชนัยไม่ละสายตา

ประตูห้องส่วนตัวปิดอีกครั้ง ดราณียั่งยืนมุมห้องอย่างกระวนกระวาย ความรู้สึกกังวลได้กันเธอไว้ในพริบตา ความ ตื่นเต้นทั้งปีมารวมกัน ไม่สามารถเอาออกไปจากหัวได้

หัวใจเต้นรัว เธอเห็นว่ามีคะนองมาทางเธออย่างไม่เป็น มิตร เป็นการมองที่ไม่น่าไว้วางใจและเปิดเผย ทำให้เธอเกิด ความรู้สึกตัวเองล่อนจ้อน

ดราณีคิดจะหนี แต่ไม่มีทางไป นอกประตูต้องมีคนป้องกัน

อยู่แน่ๆ

ผู้ชายคนนี้…….คิดจะทำอะไรกันแน่?

เวลาค่อยๆผ่านไป ห้านาทีสำหรับคนที่กระวนกระวาย อย่างเธอ เหมือนนานเท่ากับครึ่งศตวรรษ

ขณะที่เธอลังเลว่าจะเดินเข้าไปคุยกับชนัยให้รู้เรื่องดีไหม ผู้ชายคนหนึ่งจู่ๆก็ลุกขึ้นมาจากโซฟา เดินมาหาเธอด้วยความ

เชอย่างเห็นได้ชัดหลังจากดื่มแอลกอฮอล์

“ยืนทำอะไร มานั่งนี่สิ……. เมื่อพูดจบ กลิ่นแอลกอฮอล์

ชัดเจน

ดราเอียงศีรษะอ้อมๆ พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาที่ได้ยิน แค่ตัวเอง ไม่ ไม่ดีกว่าค่ะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ