ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน550แม่ของผมก็ชอบ



ตอน550แม่ของผมก็ชอบ

ตอนที่ 550แม่ของผมก็ชอบ

วันที่2ที่กลับไปถึงโรงพยาบาลชีวภาก็ไปที่โรงพยาบาล เลยตั้งแต่ชนุดมจ่ายค่าผ่าตัดไปดุลยาก็ได้รับการรักษาทันที หลังผ่าตัดแผลก็ฟื้นดีมากตอนนี้ก็กำลังรักษาอยู่

ช่วงเวลาที่เธอไม่ได้อยู่ในประเทศดุลยาคิดว่าเธอออกไป ทำงานต่างจังหวัดก็ต้องคิดถึงลูกสาวอยู่แล้วแต่ก็กลัวจะ รบกวนงานเธอก็เลยเก็บความอยากไว้ในใจแต่พอเห็นเธอ กลับมาก็ตาแดงไปหมด

“ชีวภาเธอกลับมาตั้งแต่ตอนไหน?”ดุลยาลุกขึ้นจากเตียง ทันทีจากนั้นจับมือของเธอไม่ปล่อย

ตั้งใจของศิลปะซึ้งมากมองเห็นอาการของดุลยาที่ถือว่าดี ในใจก็โล่งอกไป “แม่หนูกลับมาเมื่อวานค่ะแล้วกลับบ้านไปไป คุยกับน้องมาร่างกายของแม่เป็นไงบ้างคะ?”

“ก็ดีนะก็ดี”ดุลยาพยักหน้า “ตัวแม่รู้สึกเบาขึ้นเยอะมาก แล้วการฟื้นฟูก็ดีเมื่อวานหมอคุยกับแม่บอกว่าถ้าสัปดาห์หน้า ทำการตรวจสอบไม่มีอะไรก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ แล้ว”

“จริงหรอคะ?”ชีวภารู้สึกดีใจมาก “หนูยังไม่เคยเห็นหมอ คนนั้นเลยเดี๋ยวหนูจะไปถามเขาดูนะคะ”
“จริงสิ”ดุลยามองหน้าที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ลูกสาวคนที่เป็นแม่ก็เป็นห่วงขึ้นมาทันที ที่ผ่านมามีแต่เธอที่ ดูแลฉันกับน้องตอนนี้ฉันดีแล้วก็ไม่ต้องเปลืองเงินอยู่ที่โรง พยาบาลต่อจะได้ออกไปทำงานมาช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในบ้าน ภาระของเธอก็จะได้เบาลง

“แม่พูดอะไรเนี่ย!”ชีวภาทำหน้าโกรธแล้วมองไปทาง เธอ”แม่เป็นแม่ของหนูการกตัญญูกับแม่เป็นหน้าที่ของหนูมัน ไม่ได้ยากอย่างที่แม่พูดแม่รีบหายไวๆนะหนูกับน้องจะได้ วางใจ!”

การพูดคุยของทั้งสองทำให้น้าที่อยู่ข้างเตียงได้ยินมองมา อย่างอิจฉา “ดุลยาลูกสาวของเธอนี่ไม่เสียแรงที่เลี้ยงมาเก่งกว่า ผู้ชายเสียอีก!”

ชีวภามีอายุน้อยแต่ก็ยุ่งเรื่องของดุลยาตลอดเวลาไม่เคย บ่นแม้แต่ครั้งเดียวเพื่อนที่อยู่ในห้องด้วยกันก็ชมเธอไม่หยุด ตอนนี้อาการของดุลยาดีขึ้นพวกเราก็ดีใจแทนเธอ

พอได้ยินคนอื่นชมชีวภาในใจของเธอนั้นก็ดีใจ” ใช่นะสิ ชีวิตนี้ฉันมีลูกที่ดีแบบนี้ก็ดีแล้ว!”

ไม่ได้เจอกันตั้งนานยังมีอะไรที่จะพูดกับเธอมากมายจน กระทั่งถึงเวลากินข้าวร่างกายของดุลยาดีขึ้นแล้วก็เลยไปกิน ข้าวกับเธอที่โรงอาหารถือเสียว่าเดินเล่นแล้วกัน

พอถึงเวลากินข้าวที่โรงอาหารก็จะมีผู้คนมากมายชีวภา ซื้อโจ๊ก2ถ้วยถ้วยหนึ่งเป็นดอกอัญชันอีกถ้วยหนึ่งเป็นไข่เจียวมะเขือเทศอีกชุดหนึ่งคือเนื้อทั้งสองจับกล่องรักษาอุณหภูมิกลับ ไปในระหว่างทางดุลยาจับที่แขนของเธอแล้วถามว่า”ชีวภา ก่อนหน้านี้ที่ลูกไปต่างประเทศไปทำงานอะไรเหนื่อยไหม?”

ในตอนนั้นเธอเกิดอุบัติเหตุกะทันหันก็เลยออกประเทศ เมื่อถึงที่อังกฤษถึงจะติดต่อกับดุลยา

พอนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาในตาของชีวภาก็ไม่มีสีสันขนาด นั้นก็เป็นprojectหนึ่งไม่ได้ยากมากหรอกส่วนมากก็เกี่ยวกับ การออกไปต่างประเทศมีคนมากมายที่มีครอบครัวไปไม่ได้หนู ก็เลยต้องไป

“หลังจากกลับมาลูกจะทำยังไงต่อ?”

ทํายังไง?

ไม่รู้เพราะอะไรชีวภานึกว่าถึงเฉพาะที่กินข้าวครั้งสุดท้าย กับชนุดมครั้งนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเธอเจอกันต่อไปถ้า อยากจะเจออีกก็คงเป็นไปไม่ได้แล้ว

เธอตาตกน้ำเสียงก็เศร้าๆ “งานมันไม่ค่อยเหมาะกับหนูค่ะ เลยลาออกแล้ว”

“มันก็ใช่”ดุลยาไปตบที่หลังมือเธอเบา “ชีวภารอแม่หายดี ออกจากโรงพยาบาลได้ลูกก็วางแผนชีวิตข้างหน้าไว้ได้แล้วลูก ลาออกตอนปี2มันเป็นเรื่องที่อยู่ในใจของแม่ตลอดตอนนี้ที่ บ้านไม่ได้ยุ่งยากขนาดนั้นแล้วเธอก็ควรจะกลับไปเรียนได้ แล้ว”
ชีวภาไม่คิดว่าเธอจะพูดถึงเรื่องเรียนตอนที่เธออยู่ปี2 เลือกที่จะหยุดพักการเรียนตอนนี้ผ่านไปแล้วปีกว่าในระหว่างนี้ นอกจากดุลยาที่ไม่เห็นด้วยก็ไม่มีใครพูดแบบนั้นอีกเธอคิดว่า แม่โดนโรคร้ายทรมานจนไม่มีเวลาไปคิดเรื่องอื่นแต่ตอนนี้เธอ ถึงจะรู้ว่าที่จริงแม่ไม่เคยลืมแค่รอร่างกายของตัวเองนั้นหายดี

“แม่……”ชีวภาจับกล่องข้าวในมือแน่นๆกลัวว่าแม่จะ คิดมากจึงพูดออกไปว่า “ลูกไม่เป็นอะไร

“แม่รู้ว่าลูกนั้นเก่งแต่ว่าชีวภาการเรียนเป็นเรื่องสำคัญเธอ จะหัวดื้อไม่ได้แม่ไม่สามารถให้สิ่งที่ดีกับลูกได้ตั้งแต่แรก สำหรับเธอกับน้องแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือใบจบกว่าที่เธอจะ สอบเข้าได้มันก็ยากลำบากแล้วแม่ไม่สามารถที่จะให้เธอท้อ กลางทางได้”

เห็นชีวภาจะพูดอะไรอีกดุลยาก็รีบพูดต่อว่าเรื่องแค่นี้แม่ ตัดสินใจเองรอแม่ออกจากโรงพยาบาลแล้วลูกก็ควรไปเรียน ได้แล้ว”

คำพูดที่อยู่ในใจที่ซ่อนไว้ไม่เคยพูดแต่วินาทีนี้ได้พูดออก ไปเธอก็รู้สึกสงสารตัวเองไม่มีใครไม่อยากจะเรียนหนังสือโดย เฉพาะคนอย่างเธอเธอเข้าใจมากกว่าทุกคนว่าการเรียน หนังสือนั้นสำคัญมากแค่ไหน

แต่ว่าชีวิตนั้นลำบากหรือไม่แค่นี้เขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือก

มาดูทางสีหน้าของดุลยาที่เริ่มดีขึ้นเธอก็เริ่มรู้สึกโล่งอกถ้า หลายเดือนที่ผ่านมาไม่ใช่เป็นเพราะค่ารักษาของชนุดมการผ่าตัดของแม่อาจจะไม่สำเร็จและเธอก็ไม่รู้ว่าจะต้องทรมานอีก เท่าไหร่

ชีวภาถอนหายใจยาวๆไม่ว่ายังไงตอนนี้ชีวิตของเธอก็ดี ขึ้นแล้วไม่ว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นใครฐานะยังไงสำหรับเธอแล้วก็ เป็นคนที่เธอควรจะขอบคุณ

หลังจากที่ชนุดมอยู่ที่เมืองเวลาส่วนใหญ่ก็ใช้กับร่วมกับ ธีมนต์งานก็ไม่ได้เอากลับมามีคนมากมายที่รู้ว่าเขากลับไป ประเทศที่มีคนอยากจะพบเขามากมายเขาก็ปฏิเสธไปทุกคน

ถ้ามีเวลาก็จะให้จินต์พาธีมนต์ออกมากินเล่นดูแลอย่าง เป็นพิเศษแม้กระทั่งผู้ช่วยของเขาที่ทำงานมา10ปีก็รู้สึกตกใจ

นี่ยังเป็นชนุดมที่ทำงานวันละ18ชั่วโมงไม่มีการหยุดพัก

หรอ?ตอนนี้กลับกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กแล้วหรอ

ในคืนวันศุกร์ชนุดมพาเด็กน้อยไปร้านหมูกระทะที่เขา อยากไปมากที่สุดคนที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศอย่างเขาก็คาด หวังที่อยากจะกินแบบนี้เหมือนกัน

ธีมนต์เองก็ชอบเขาก็เลยต้องอยู่เป็นเพื่อน

ชนุดม ให้ผู้ช่วยของร้านอาหารที่ดีที่สุดในเมืองก็ถือว่าไม่

ได้เสียงดังมาก

ธีมนต์สั่งแกงจืดธรรมดากับแกงต้มแซบจากนั้นก็เอาเนื้อ ชั้นดีเนื้อแกะชั้นดีมาพร้อมกับลูกชิ้นผักสดและสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไส้กรอกและของอื่นๆอีกมากมาย

ตั้งแต่ของมาทั้งหมดนอกจากเนื้อวัวแล้วชนุดมไม่ได้แตะ

ต้องอย่างอื่นเลยตาก็มองไปในหม้อที่เต็มไปด้วยไส้กรอกที่จริง

เขาไม่มีความอยากอาหารเลย ธีมนต์ก็กินอย่างเอร็ดอร่อยตักอาหารใส่ปากไม่หยุดทั้ง ปากก็ดูแดงไปหมด”ลุงทำไมไม่กินหรอครับ?”

“กินแล้ว”

“ผมหมายถึงพวกนี้ครับ”ธีมนต์ชี้ไปทางเครื่องในที่อยู่ตรง หน้า”ลุงกลัวใช่ไหมครับ?”

ชนุดมตอบอย่างไม่ค่อยสนใจว่า “ลุงแค่ไม่ชอบเท่านั้นเอง”

“ลุงไม่ชิมแล้วจะรู้ได้ไงว่าไม่ชอบครับ?”ธีมนต์ใช้ตะเกียบ พิเศษที่ยาวๆคีบไส้เป็ดไปที่ถ้วยของเขา”อันนี้อร่อยมากเลย ครับผมกับแม่ชอบกินมากลุงลองชิมดูสิครับ!”

คำพูดปฏิเสธของชนุดมอยู่ข้างปากจะพูดแล้วแต่พอได้ยิน เขาพูดถึงแม่ก็เลยเลือกที่จะไม่พูดออกไปไม่ได้เจอเธอนานมาก แล้วตอนนี้กลับรู้สึกเบื่อหน่าย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ