ตอน437ผู้ป่วยอนาจาร
ตอนที่ 437 ผู้ป่วยอนาจาร
นัชชาเห็นเขายังมีอารมณ์มาล้อเล่น ความโกรธและความ ร้อนใจภายในจิตใจก็พรั่งพรูออกมา “คุณกล้าพูดนะ ใครใช้ ให้คุณไปหาประทินคนเดียว คุณรู้หรือเปล่าว่ามันอันตรายแค่ ไหน ถ้าตอนนั้นเธอมีแผนการอื่นอะไรอีก แม้แต่คุณก็ป้องกัน ตัวเองไม่ได้นะ! ปกติคุณ ให้ความสำคัญกับตัวเองเรื่องความ สำเร็จ ตอนวิกฤติยังจะทำให้ตื่นเต้นอีก?”
เตชิตเห็นว่ารอบตาเธอแดง เพราะว่าเป็นห่วงเลยด่าตน ไม่เกิดความรำคาญสักนิด ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “ขอโทษครับ”
นัชชาได้ยินเขาพูดแบบนี้ ในใจก็ยิ่งโกรธ “ฉันไม่ได้อยาก ให้คุณขอโทษ ฉันแค่กลัวว่าคุณจะเกิดอุบัติเหตุ คุณเข้าใจ ไหม?”
เรื่องที่เกิดตอนนั้นเขาฟังมาจากชนัยหมดแล้ว ทั้งๆที่วิธี จัดการที่ปลอดภัยกว่านี้ แต่เขากลับไม่คิดจะสนใจ ลุยเดี่ยวไป คนเดียว “ต่อจากนี้ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้ คุณห้ามปิดบังอะไร ฉัน จะต้องคิดให้รอบคอบ
“นัชชา แต่นั่นไม่ใช่คนอื่น เขาเป็นลูกชายของเรา” ตอน นั้นเหตุการณ์มันเร่งด่วน เขาไม่มีเวลามาใส่ใจเรื่องอื่น แม้ว่าจะรู้ดีว่านั่นเป็นหลุมพรางที่เขากำลังหล่นลงไป
บางทีในสถานการณ์อื่นเขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญใน ผลลัพธ์อย่างแท้จริง แต่พอเผชิญหน้ากับสายเลือดตนเอง เขา กลับคิดไม่แยอะ แม้ว่าตอนนี้จะนอนอยู่บนเตียง เขาก็ไม่รู้ส สึกเสียดายที่ตัดสินใจไป ในตอนนั้น
นัชชาดูเหมือนว่าที่ด่าไปจริงๆแล้วก็คือความกลัว ถ้าหาก ธีมนต์กลับมาได้อย่างปลอดภัย แต่เขากลับเกิดอุบัติเหตุ สําหรับเธอนั้นมันเป็นผลลัพธ์ที่เหมือนกัน
ทั้งสองคน เสียใครไปสำหรับเธอแล้วมันคือความเจ็บปวด เหมือนโลกพังทลายลงมา
เตชิตรู้ความคิดในใจเธอทั้งหมด แต่ไม่สามารถ ปลอบโยนเธอได้ดี เพียงแต่รับฟังเธอพูด ดวงตาดำสนิทมอง ไปที่เธออย่างจริงจังและระมัดระวัง “ต่อจากนี้ไป พวกเราสาม คนจะไม่แยกจากกันอีก
ก่อนหน้านี้เพราะที่นาร์ พวกเขาเข้าใจผิดกันและกันและ แยกจากกันมาหลายปี ตอนนี้ก็เพราะเหตุการณ์ร้ายแรงจาก ประทินอีก แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม สุดท้ายพวกเขาก็ได้อยู่ ด้วยกัน แค่นี้ก็พอแล้ว
นัชชาได้ยินแล้วในใจก็ปรากฏความสุข ดึงฝ่ามือใหญ่ ของเขามาลูบแก้มตัวเองทั้งสองข้าง “งั้นคุณก็รีบๆหายดี ก่อน ฉันจะเปลี่ยนใจ”
เปลี่ยนใจ?
“คุณเป็นแม่ของลูกผมนะ ยังจะคิดแต่งงานกับใครอีก? เขาขมวดคิ้ว แววตาประกายเต็มไปด้วยการหยอกล้อ
นัชชา ใจเต้นกับคำพูดเขา ก็อดไม่ได้ที่จะล้อเล่น ขบริม ฝีปากก่อนจะมองเขาอย่างเขินอาย “คุณนอนป่วยเฉื่อยชาอยู่ บนเตียงยังจะสนอีกหรอว่าฉันจะไปแต่งกับใคร?
“ผมแค่ขยับไม่ได้ชั่วคราว ที่อื่นผมยังใช้ได้ อยู่นะ”
เขาเน้นสองพยางค์นั้นเป็นพิเศษ ท่ามกลางเครื่องหน้า หล่อสามมิติยึดใบหน้าร้ายกาจไว้
ทั้งๆที่ทั้งร่างนอนแข็งทื่ออยู่บนเตียงขยับไม่ได้ ได้เผชิญ หน้ากับผู้ชายที่ทำอะไรไม่ได้ แต่นัชชากลับใจเต้นแรงกับคำพูด ของเขา
มีเพียงเขาสองคนเท่านั้นถึงจะเข้าใจความหมายบริบท
อยากฆ่าให้ตายจริงๆเลย
“ยังจะไม่ยอมรับอีกนะ ตอนนี้นอกจากดวงตาที่ขยับได้ ตรงไหนก็ใช้การไม่ได้แล้ว!!
ได้ยินจบเขาก็หัวเราะขึ้นมา สีหน้าแววตาเปลี่ยนเป็นลึก ซึ้ง “คุณอยากลองไหม?”
นัชชาหมดความอดทน อยากจะผลักเขาเหลือเกิน แต่ไม่มี ที่ให้ลงมือ ทำได้เพียงกระทืบเท้า “พูดบ้าอะไรเนี่ย!
“ผมพูดอะไรหรอ?” เขาตั้งใจมองเธออย่างหยอกล้อ ราวกับว่าเธอเป็นอะไร “คุณคิดมากไปเองหรือเปล่า? จริงๆด้วย เขาว่ากันว่าผู้หญิงวัยสามสิบ ดุร้ายมาก คุณก็ใกล้จะอายุ
“เตชิต!” นัชชาขัดคำพูดเขาด้วยเสียงสูง รู้สึกอายแทน เขา “ทำตัวดีๆหน่อยได้ไหม โรคยังไม่ทันหายยังจะคิดอะไรสุ่ม สี่สุ่มห้าอีก!”
เพียงมองหน้าเธอที่แดงระเรื่อ เขายังรู้สึกไม่พอ มีความ ความหมายที่เธอจะสื่อผิดอีก “แปลว่าคุณรอให้ผมหายดี?”
พูดถึงการมีปากเสียงกัน หรือการมีปากเสียงที่มีสีสันแบบ นี้ นัชชาไม่ใช่คู่ปรับของเขาอย่างสิ้นเชิง ถูกเขาทำให้พูดไม่ ออก โดยทันที
หลังจากมองเธอโกรธจนเบิกตากว้างอย่างพออกพอใจ เตชิตถึงยับยั้งตัวเอง ปากบางก็พึมพำอะไรออกมา คลุมเครือ ฟังไม่ค่อยชัดเจน
นัชชาเอียงหู “อะไรนะ?”
เขาพูดอีกครั้ง ฟังไม่ชัดหรือไม่เข้าใจความหมายที่เขา
พูด
นัชชาไม่ได้สงสัยเขา กลัวว่าเขาจะไม่สบายตรงไหน เอา ศีรษะเข้าไปใกล้ เข้าไปใกล้จนระหว่างใบหน้ามีระยะห่างเพียง หนึ่งกำปั้น “คุณพูดอะไร ฉันฟังไม่ชัด”
“ผมบอกว่า————” เขาตั้งใจลากเสียงยาว สายตาจ้องเธอเป็นประกาย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเจ็บคอหรืออย่างอื่น เขาพูดสอง พยางค์อย่างช้าๆ “จูบผม”
นัชชาอึ้งไปสักพักก่อนมีปฏิกิริยาโต้กลับ สุดท้ายก็เข้าใจ แล้วว่าทำไมเมื่อครู่เขาถึงพูดไม่ชัด พูดไม่ชัดที่ไหนล่ะ ตั้งใจล่อ ให้เธอเข้าไปนั่นเอง!
เธออยากลุกขึ้นมาในทันที คนคนนี้ต้องอยู่ แล้วรีบพูด “คุณจะใจแข็งเห็นผมเป็นแบบนี้หรอ
” นัชชาสบสายตาชัดเจนนั่น มองเห็นลูกตาดำเหมือน
หินแร่ออบซิเดียน มองเห็นความโหยหาของเขาที่ส่งให้ตน
ใจแข็งไหม
แน่นอนว่า ใจไม่แข็ง
เธอถอนหายใจภายในใจอย่างไร้เสียง ถูกเขาเล่นงาน
อย่างราบคาบ
ไม่มีทางเลือก ต้องรีบโน้มศีรษะลงไปจุ๊บปากเขาไวๆ แต่ ตอนที่เธอจะละออกมา กลีบปากกลับถูกเขากัดไว้
เธอเจ็บนิดหน่อย ร้องเสียงสั่นออกมา “โอ๊ย!”
เตชิตได้ยินก็ปล่อย ลองหยั่งเชิงรุกเข้าไปในโพรงปากเธอ เห็นว่าเธอไม่ได้ยืนกรานปฏิเสธแถมแปรเปลี่ยนเป็นได้ใจขึ้น มา ลิ้นยืดหยุ่นก็เข้าไปสำรวจทุกซอกทุกมุม ราวกับจะกลืนกิน เธอทั้งตัวอย่างดุเดือด
นัชชาถูกเขาจูบจนค่อนข้างเจ็บ แต่ความเจ็บนี้กระตุ้นปฏิกิริยาให้เพิ่มขึ้น กลีบปากมีความรู้สึกซาและอ่อนปวกเปียก ทั้งร่าง จูบกันนับครั้งไม่ถ้วนทำให้เธอรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึก นี้ ร่างกายอยากแนบชิดมากขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
แต่ไม่ได้ เขากำลังป่วยอยู่
นึกถึงการฝากฝักของปรัณ นัชชาจึงยกศีรษะขึ้น ลม หายใจไม่มั่นคง “คุณ คุณต้องพักผ่อนนะ ไม่งั้นส่วนปอดจะได้ รับผลกระทบ
“ไม่เป็นไร” เขาพูดพลางคิดจะแนบลงมา
นัชชาเอียงศีรษะหนี ห่างออกมาไกลหน่อย “ฟังพี่ปรัณ กว่าเถอะนะ”
กันไว้ดีกว่าแก้ ป้องกันไว้ดีกว่าปล่อยปะละเลย นี่คือจุดยืน ของนัชชามาโดยตลอด
เห็นขอบตาเขามีเปลวไฟลุกไหม้ นัชชารู้ว่าตัวเองไม่ควร ทำแบบนี้อีก ยืนขึ้นมา อยากจะเดินออกไปสงบสติอารมณ์สัก ครู สายตาก็เลื่อนไปเห็นในระหว่างขาสองข้างที่อยู่ด้านล่าง ผ้าห่ม เค้าโครงชัดเจน………
ใบหน้าเธอร้อนขึ้นมา ไม่กล้าดูมาก หันตัวตรงออกจาก
ห้องไป
บาปจริง แบบนี้ก็ยังจะ……
เตชิตจ้องเขม็งที่แผ่นหลังเธออยู่ตลอด จนกระทั่งเธอออก ไปแล้ว ถึงหันกลับมามองเพดานบนศีรษะ หายใจเข้าและหายใจออก ที่จริงแล้วทางเดินอากาศยังค่อนข้างเจ็บอยู่ แต่ก็ คุ้มกับจูบนั้นอยู่
สิบนาทีต่อมา ประตูห้องผู้ป่วยก็เปิดออกอีกครั้ง คนที่เข้า
มาไม่ใช่นัชชา
ปรัณนายาตัวใหม่เดินเข้ามา มองรอบๆห้องอย่างไม่ คาดคิด “ทำไมมีนายคนเดียว นัชชาล่ะ?”
ร่างกายเตชิตค่อยๆสงบลง แต่ไม่ได้ตั้งใจไร้เหตุผล แต่ พอนึกถึงคำพูด ฟังพี่ปรณดีกว่าเถอะนะ” ของเธอเมื่อครู่สีหน้า ก็ไม่ค่อยดี
ปรัณเมื่อเห็นท่าทางเขาแบบนี้ ก็นึกว่าทั้งสองทะเลาะกัน ก็ รำคาญใจขึ้นมาทันที “อย่าบอกนะ? เพิ่งฟื้นขึ้นมาก็ทะเลาะกัน แล้ว?”
เขากังวลว่าหลังจากคนคนนี้ฟื้นขึ้นมาจะได้รับการโจมตี ไม่คิดว่าเขาจะเหมือนคนที่ไม่ใส่ใจ ความอดทนทางด้านจิตใจ ไม่ค่อยดีเอาซะเลย
“หุบปาก” เขาพ่นออกมาสองพยางค์เรียบๆ ไม่แม้แต่ อยากจะสนทนาด้วย
ปรัณยิ่งมั่นใจ วางยาในมือลง พุ่งเข้าไปที่หัวเตียงแล้วเริ่ม
สั่งสอน “เตชิต ไม่ใช่ฉันว่านายนะ ตอนนี้ร่างกายนายนอนยัง ไงก็นอนอย่างนั้น อย่าไปบอกว่าไม่เหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้นะ นัชชาก็อยากให้นายยอมรับว่าตัวเองบำเพ็ญตบะอยู่ ยังจะ ทะเลาะกับคนที่คอยอยู่เป็นเพื่อนสามวันสองคืนอีก มีสติหรือเปล่า…….
เขายังพูดไม่จบ นัชชาก็เดินเข้ามาจากข้างนอก ไม่กล้า ออกไปนาน แต่บังเอิญได้คำพูดนี้ เธอจึงไอออกมาอย่าง กระอักกระอ่วนทันที “พี่ปรัณคะ พวกเราไม่ได้ทะเลาะกันค่ะ”
ปรัณมองไปตามเสียง ขณะที่สบสายตากระอักกระอ่วน ของนัชชาที่แสดงถึงความไม่เป็นธรรมชาติออกมาเล็กน้อย ฝ่ามือ ใหญ่โบกไปมา “นัชชา เธออย่าแกล้งโง่หน่อยเลย ยังไง ตอนนี้มันก็ป่วยอยู่ เข้ามาใกล้ไม่ได้ มีอะไรไม่พอใจก็ปล่อย ออกมาเลย”
เตชิต “…………..”
นัชชา “..….……….…
เธอจะอธิบายอย่างไร? ให้บอกว่าตอนนี้ที่เธอเขินอายอยู่ นี่เป็นเพราะโดนเขาลวนลามหรอ?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ