ตอน411ปล่อยวางได้แล้ว
ตอนที่411ปล่อยวางได้แล้ว
หลังจากทานข้าวเสร็จหล่อนฉวยโอกาสตอนที่ธีมนต์กำลัง เพลิดเพลินกับการดูการ์ตูนนัชชาเดินไปที่ห้องครัวที่มืดสลัว โทรศัพท์หาเตชิต ให้เขามาหาเธอตอนนี้
หลังจากพูดโทรศัพท์อยู่สองสามประโยคก็วางสายพอเธอ
หันหลังกลับมาก็เจอกับณัชชนม์ที่ยืนอยู่ข้างหลังพอดี
เธอตกใจจนยกมือทาบอก”แม่ก็นะหนูตกใจหมดเลย!”
ณัชชนม์มาที่ห้องครัวเพื่อหยิบน้ำไม่คิดว่าจะได้เจอเธอ กำลังโทรศัพท์พอดีแม่เป็นคนรู้ใจลูกที่สุดเห็นท่าทางลุกลี้ ลุกลนของเธอก็เข้าใจได้ทันที”ลูกโทรหาผู้ชายนามสกุลจิวะ
พงษ์นั่นใช่ไหม?” “ค่ำมืดขนาดนี้ทำไมไม่ส่งเสียงเลยละคะ”นัชชาไม่ได้ตอบ ตรงๆได้แต่กลบเกลื่อนไปมา
ณัชชนม์จูงมือเธอไปที่ห้องนอนในห้องมีเพียงแม่ลูกเธอ พูดออกมาอย่างไม่มีเก็บงำคนเป็นแม่อดไม่ได้ที่จะกังวลเรื่อง ลูก”สรุปเรื่องของลูกกับเตชิตเป็นยังไงกันแน่?”
นัชชากำลังจะอ้าปากก็ถูกเธอขัดพูดต่อว่า “ลูกพูดออกมา ตรงๆเถอะอย่าโกหกแม่กับพ่อเลย”
“คำพูดเหล่านั้นเหมือนขวางคอเธออยู่ช่วยไม่ได้นัชชา จำต้องสารภาพ”ช่วงนี้ทัศนคติของเขาเปลี่ยนไปมากเรื่องของ ธีมนต์เขาก็จัดการเจรจาอย่างเรียบร้อยแล้วอีกอย่างตอนนี้ม นต์ก็ยอมรับเขาในฐานะพ่อซึ่งเป็นสิ่งที่หนูไม่คาดคิดมาก่อน”
“แล้วลูกล่ะ?”ณัชชนม์มองเธอด้วยความกังวล”ลูกคิดยัง
“หนูก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ….”
ไง?”
“เฮ้ยดูสิลูกก็เป็นซะอย่างนี้”ณัชชนม์พูดเพราะความห่วง กลับสับสนยิ่งไปใหญ่รู้สึกร้อนใจ”ทำไมลูกถึงไม่รู้ว่าตัวเองคิด อย่างไรละเตชิตมีท่าทีอย่างไรเขาอยากให้ลูกกลับไปอยู่กับเขา เหมือนเดิมหรอ?”
นัชชารู้สึกตอบยาก”เขาคิดอยู่นะ”
ณัชชนม์เห็นท่าทางที่ไม่เป็นธรรมชาติของเธอก็เข้าใจว่า รวมๆแล้วเป็นอย่างไรที่แน่ๆเธอกับเตชิตต้องมีความอาลัย อาวรณ์อยู่ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ตอบอย่างเคอะเขินขนานนี้
ณัชชนม์ถอนหายใจ”ลูกกับเขาเดี๋ยวคบเดี๋ยวเลิกมาห้าปี แล้วจนตอนนี้มีลูกด้วยกันมันคงเป็นชะตากรรมจริงๆ”
นัชชาคิดว่าแม่คงนึกถึงเรื่องเศร้า ในอดีตเธอรีบก้าวไป ข้างหน้ากอดแม่ไว้” แม่คะ…”
“แม่ไม่เป็นไรจ๊ะ”ณัชชนม์สูดหายใจเข้าลึก”ที่จริงห้าปีมา นี้เตชิตก็ไม่ได้อยู่เฉยๆเรื่องของลูกเขาก็เสียใจมากเขาติดต่อตำรวจตลอดเพื่อความคืบหน้าและยังส่งของมาแม่ พ่อตลอดเขาไม่เคยเรื่องเกี่ยวลูกเลยเพียงแต่แม่ กับพ่อรู้สึกไม่ค่อยไว้ใจฝากและหลานไว้เขา
แม้สิ่งเกิดขึ้นในนั้นจะไม่ได้เป็นเรื่องจริงนัชชาอยู่แต่ความเจ็บปวดการสูญเสียลูกไปมันตราตรึง ลึกเข้า
นัชชาเข้าใจความรู้สึกนี้แม้ที่เกิดขึ้นได้ไม่ต้องถึงณัชชนม์เมทนี คะรู้แม่ไม่ยอมรับเขาหนูจะไม่อยู่กับเขา”
ผ่านเรื่องราวมาเยอะไม่อยากจะหาเรื่องอะไรเข้ามา วุ่นวายอีกแค่ต้องการเลี้ยงมนต์เติบใหญ่แค่นั้นเอง
เมื่อได้ยินนัชชาอย่างนั้นณัชชนม์นิ่งเงียบเธอคิดมา นานแล้วก่อนเอ่ยปากพูดออกมานัชชาจริงกับอาจ จะความรู้สึกไม่สบายใจเพราะเรื่องเกิดเมื่อหลายจะขัดสนอิ่มนอนหลับแต่ใจคงว้าเหว่แม้ว่าลูกจะ ทนได้แต่ไม่ได้เป็นดีต่อหลานหากว่าเตชิตพ่อจะไม่พูดอะไรอีกแต่ลูกต้องรู้จัก และเลือก คน”
สิ่งพ่อแม่กลัวมากที่สุดการไม่มีความสุขในชีวิ ตนัชชาตกอยู่ในสภาวะเช่นนี้ณัชชนม์ก็รู้สึกไปตามกันเธอเป็นเด็กดีเป็นตัวของตัวเองเข้มแข็งและมีความรับผิดชอบ เวลาที่พวกเขาสามารถอยู่กับเธอน้อยเกิดไปไม่อยากให้ใน ที่สุดเมื่อเธอจากไปเหลือไว้เพียงลูกสาวคนเดียว
นัชชาฟังจบทั้งปวดใจทั้งตื้นตันคำพูดเหล่านี้เพราะเป็นแม่ ถึงสามารถพูดกับเธอได้” แม่คะเรื่องเมื่อห้าปีก่อนที่จริงเป็น เรื่องเข้าใจผิดหนูก็ผิดอยู่ส่วนหนึ่งไม่ใช่ความผิดของเขา ทั้งหมด”
ณัชชนม์ตบหลังมือของเธอเบาๆ “ถ้าลูกปล่อยวางได้พ่อ กับแม่ก็ปล่อยวางได้”
นัชชากอดเธอไว้แน่นเธอถึงพบว่าร่างกายของณัชชนม์นั้น ผอมกว่าเมื่อก่อนเยอะคนเมื่ออายุเยอะขึ้นร่างกายจะหดตัว ความสูงลดลงน้ำหนักเบาขึ้น
ห้าปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากเหลือเกินสำหรับ
พวกเขาเหมือนแก่กว่าเดิมเป็นสิบปีโดยไม่รู้ตัว
นัชชารู้สึกปวดใจมาก”แม่คะไม่ต้องกังวลทุกอย่างจะดีขึ้น เรื่อยๆค่ะ”
“แม่รู้จ๊ะ”ณัชชนม์ลูบหลังเธอเบาๆ “ตอนนี้ลูกก็เป็นแม่คน แล้วจะทำนิสัยเป็นเด็กๆไม่ได้แล้วนะเรื่องในอนาคตลูกต้องคิด ดีๆไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่แค่เห็นลูกของแม่มีความสุขแม่กับพ่อ ไม่มีอะไรเป็นห่วงแล้วละจ๊ะ”
นัชชาน้ำตาคลอเบ้าทำบุญมาขนาดไหนถึงได้เกิดมาเจอ พ่อแม่ที่ดีขนาดนี้”แม่คะขอบคุณค่ะขอบคุณพ่อด้วย”
“พูดอะไรแบบนั้นลูกครอบครัวแดนโพธิ์เรามีลูกสาวเพียง คนเดียวนหน้าก็ต้องหวังว่าลูกจะปลอดภัยตลอดรอดฝั่ง!”ณัช ชนม์ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่หางตาหัวเราะทั้งน้ำตา าตา”ตอนนี้ลูก กลับมาแล้วถ้าไม่ได้วางแผนที่จะกลับไปอีกตั้งสติจัดการกับ งานและสิ่งต่างๆที่นั่นแม่กับพ่อรอคอยที่จะอยู่ข้างลูกตลอดไป”
นัชชาพยักหน้า”หนูรู้แล้วคะ”
“เอาล่ะตอนนี้ก็เย็นมากแล้วเดี๋ยวแม่ไปเอาเกี่ยวที่เพิ่งทํา เสร็จมาให้เพื่อตอนเย็นๆลูกกลับไปแล้วเกิดหิวจะได้เก็บไว้กิน ณัชชนม์พูดพลางเปิดประตูเดินออกไปข้างนอกเธอเข้าไปที่ห้อง ครัวแล้วเอากล่องเก็บความร้อนออกมาเอาเกี้ยวที่นั่งสุกแล้วใส่ ลงไปตอนส่งให้เธอพูดกำชับอีกครั้ง” ให้ผู้ชายนามสกุลจิวะ พงษ์คนนั้นลองชิมดูด้วย”
นัชชารู้สึกประหลาดใจที่เธอยังนึกถึงเขาทำให้ใจของเธอ เจ็บแปรบๆพูดไม่ออกเหมือนกับสองคนที่เธอห่วงใยพวกเขาก็ ใส่ใจซึ่งกันและกัน
“แม่คะ…”
ณัชชนม์ผลักแขนของเธอเดินออกไปนอกห้องครัว”เอาล่ะ เดี๋ยวหลานจะมาเห็นเข้า
พูดคุยกันอีกพักหนึ่งเตชิตส่งข้อความบอกว่าเขามาถึงชั้น ล่างแล้วเขาไม่ได้โทรมาคงกลัวว่าอยู่กับครอบครัวไม่สะดวก รับสาย
ก่อนออกจากบ้านนัชชาทิ้งบัตรเอทีเอ็มเอาไว้”พ่อแม่คะในบัตรนี้เป็นเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากทำงานที่อังกฤษทุกเดือนจะมี รายได้คงที่เข้ามาที่บัตรใบนี้แม่กับพ่อเก็บไว้นะคะเผื่อว่ามีอะไร ต้องใช้
เธอรู้ว่าเมทนีและณัชชนม์ไม่ได้ลำบากอะไรแต่ก็อยากให้ พวกเขาในฐานะลูกคนหนึ่ง
“ไม่เป็นไรลูกลูกเก็บไว้เถอะพ่อกับแม่มีเงินไม่ใช้เงินของ ลูกหรอก”เมทนีกล่าวพลางเอาบัตรยัดใส่ในกระเป๋าของเธอ
นัชชารีบหลบ”เอาไว้ที่หนูๆก็ไม่ได้ใช้หรอกพ่อกับแม่ไม่ ต้องประหยัดเงินอะไรอยากได้อะไรก็ซื้อได้เลยนะคะเงินปอนด์ อังกฤษอัตตราแลกเปลี่ยนดีกว่าเงินหยวนเยอะ”
“ไม่ต้องหรอกลูก”เมทนียังคงยืนกรานไม่รับ
นัชชาเริ่มร้อนรน”พ่อคะรับไว้เถอะถือซะว่าให้หนูได้ ตอบแทนบุญคุณบ้าง
ณัชชนม์เห็นว่าลูกเริ่มร้อนรนเลยห้ามเมทนีไว้”พอเถอะลูก ให้ก็รับไว้เถอะคิดซะว่าเป็นน้ำใจจากลูก!”
“แต่ว่า…”
“ไม่มีแต่อย่าทำให้ชักช้าเลยตอนนี้สองทุ่มแล้วธีมนต์คง ง่วงนอนแล้วล่ะ”ณัชชนม์พูดพลางเดินไปส่งเธอที่ประตู”ลูกรีบ กลับไปเถอะถึงบ้านแล้วโทรกลับมาหน่อยนะลูก”
นัชชากลัวว่าเมทนีจะตามมาเอาบัตรเอทีเอ็มคืนเลยรีบ เดินออกจากบ้านโดยไม่หันกลับมามอง
เธอเดินจูงมนต์ลงมาจากบ้านตรงประตูทางเข้าชายหนุ่ม จอดรถอยู่ด้านข้างพวกเขาลงมารอด้านล่างเรียบร้อย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ