ตอน783อดทนอีกหน่อย
ตอนที่783 อดทนอีกหน่อย
พูดจบ เหมือนไม่อยากเผชิญหน้ากับชนัย กลัวว่าตัวเอง จะเสียใจภายหลัง ชายชราเลยไม่คิดที่จะอยู่ต่อที่โรงพยาบาล
จนกระทั่งมองไม่เห็นหลังของเขา ชนัยถึงนึกได้ว่าเมื่อสิ่ง ที่ตัวเองได้ยินมันไม่ใช่จินตนาการ
อารมณ์ในร่างกายเขากำลังปรับอารมณ์ขึ้น นลง เขาเงย หน้าหลับตา แสงไฟที่อยู่เหนือหัวเขากลับส่องทะลุเปลือกตา เข้ามา
รู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ยินดี แต่หางตาของชนัยกลับเปียกชุ่ม
ชายชราตกลงให้เราอยู่ด้วยกันแล้วแต่ผลลัพธ์ที่ได้มัน ต้องแลกมาด้วยชีวิตของเราณี แค่คิดแบบนี้ หัวใจเขายิ่งปวด ร้าวเหมือนจะคนจะตาย
เขาชื่อใจปรัณ หากปรัณอยู่ ดราณีก็ยังไม่ตายยังรักษา ชีวิตไว้ได้ ร่างกายของเธอของไม่แข็งแรงเหมือนแต่ก่อนเพราะ มีบาดแผลเยอะ
บาดแผลรักษาได้แล้วใจล่ะ?
ชนัยไม่กล้าคิด ชีวิตนี้จะเอาอะไรมาถึงทำให้เธอบาดเจ็บ
ไม่รู้ว่ารอนานขนาดไหน ไฟที่หน้าประตูห้องผ่าตัดดับลง ชนัยเหมือนถูกเปิดสวิตซ์เขาเดินไปข้างหน้าประตูอย่างร้อนรน และรีบไหล่ของปรัณ เป็นไง?คนไม่ได้เป็นไรใช่ไหม?
การผ่าตัดที่ยาวนานสามชั่วโมง ปรัณเริ่มเหนื่อยล้าแต่ก็
ต้องเริ่มปลอบใจชนัยก่อน “คนไม่เป็นไรแล้ว ดีที่รอยมีดไม่ลึก มากไม่แทงเข้าอวัยวะภายใน หากมันยาวขึ้นอีกหนึ่งเซนติเมตร ไม่อยากจะคิดถึงผลที่
ออกมาเลย
ชนัยกลับรู้สึกว่าก้อนหินที่มันหนักอึ้งอยู่ในใจได้หล่นลง ไปที่พื้นแล้สว เสียงสั่นพร่า “ขอบคุณ”
“อย่ามาเสียเวลา เดี๋ยวคนป่วยออกมาไปพักฟื้นที่ห้อง
ห้องพักผู้ป่วย แกต้องดูแลให้ดีอยากให้เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้น
อีก เข้าใจไหม?”
“เรื่องนี้แกห้ามโทษตัวเองมากนัก ฉันได้ยินเตซิตบอก แล้วว่าดราณีนั้นเป็นเด็กสาวที่ดีคนหนึ่ง แกดูแลเขาให้ดีๆ ปรัณไม่รู้ว่าจะปลอบใจผู้ชายที่มากกว่าเสียใจคนนี้อยู่ ถึงได้ใช้ ประโยคแบบนี้มากระตุ้นเขาบ้าง
ตีห้า ดราณีถูกเคลื่อนย้ายไปยังห้องพักผู้ป่วย ชนัยเห็น ใบหน้าเล็กๆของหล่อนที่ขาวซีดกว่าหมอนในห้องนั้นอีก ใจเขาแทบจะแตกสลาย
เขาเดินไปข้างเตียง จับมือด้านข้างที่ไม่ได้ห้อยสายอะไร เขาวางภาพพจน์เสียหมดสิ้น ได้แต่แสดงออกด้านที่ความ อ่อนแอของตัวเอง และขอร้องไม่หยุด “รีบตื่นมานะ ขอร้อง แหละ….
เตชิตกับนัชชามาที่โรงพยาบาลในวันที่สองตอนเช้า หลัง จากฟังเรื่องที่ปรับบอกมาตั้งแต่คืนนั้นเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ เกิดขึ้นแต่ไม่ได้มาด้วยตนเอง
เรื่องแรกคือต้องการให้เวลากับชนัยได้พักก่อน สองไม่ อยากจะรบกวนพวกเขา หากว่าอาการของดราณีที่ผ่านการ ผ่าตัดมานั้นไม่ดีขึ้นจริงๆ พวกเขาค่อยมาก็ไม่สายเกินไป
ยังดีที่เราไม่ได้อันตรายถึงชีวิต
ตอนที่มาโรงพยาบาล นัชชาไม่อยากให้บรรยากาศดูอิ่ม ครีมมากนักเธอเลยพาธีมนต์มาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ซาละเปา น้อยใส่ชุดกีฬาสีเข้มทั้งชุด ในมือถือช่อดอกไม้สีชมพูอ่อน เมื่อ เข้ามาห้องพักคนป่วยก็เรียก “สวัสดีครับคุณอาอย่าง นอบน้อม
ยิ่งได้ยินเสียงเด็กน้อยที่กระตือรือร้น ชนัยผ่อนคลายพยัก หน้าลง “สวัสดีครับ
ถึงแม้ว่าน้ำเสียงจะแข็งไปนิด แต่สามารถตอบรับเด็กน้อยใต้ในสถานการณ์แบบนี้ได้ นัชชาถึงกับซึ้งใจ
หนึ่งครอบครัวสามชีวิตมาถึงห้องพักผู้ป่วย เตชิตมองด ราณีที่ยังคงหลับสลบไสลอยู่ เขาได้แต่ตบบ่าชนัย “ออกไปสูบ บุหรี่หน่อยไหม?”
ธรรมชาติของผู้ชายไม่เหมือนกับผู้หญิงที่มีอะไรก็สามารถ พูดออกมาได้ หากในใจมีความทุกข์ก็สามารถกอดฝ่ายตรง ข้ามร้องไห้โหได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่รู้จะแสดงอารมณ์ ที่ฝังลึกของตัวเองนั้นออกมาอย่างไร
เวลานี้ หากอยู่ในห้องต่อไปชนัยยิ่งทุกข์หนักกว่าเดิม ออกไปสูบบุหรี่สักมวนก็ยังดี
ผู้ชายตัวใหญ่สองคนเดินเข้าห้องสูบบุหรี่ เตชิตยื่นบุหรี่ที่ แรงหน่อยมวนหนึ่งให้เขา “ทั้งคืนไม่ได้นอนเลย สูบนี้ไปจะ ได้สติขึ้นมาหน่อย
แม้ว่าวิธีการแบบนี้มันจะไม่ดีต่อสุขภาพก็ตามที แต่ว่าดู จากสถานการณ์แล้วก็มีแต่วิธีการแบบนี้แหละถึงจะได้ผลที่สุด ชนัยรับมาไว้ที่ริมฝีปากจุดและสูบอัดเข้าไปไปในปอด แน่น มันช่วยดึงสติได้จริงๆ
เดิมทีเตชิตอยากถามอาการของเราณีว่าเป็นไงบ้าง ยัง ไม่ทันได้อ้าปากถามเลยเขาก็พูดออกมา “ชายชรานั้นพูดออก มาแล้วว่าหากครั้งนี้เธอตื่นขึ้นมา เขาจะไม่ขัดขวางพวกเราให้ อยู่ด้วยกันได้แล้ว”
เตชิตยนคิ้วอย่างประหลาดใจ ยากนักที่ชายชราแห่งตระ กูลธิสกุลจะใจอนกับเรื่องนี้
แต่เขาคิดทบทวนดูแล้วเขาก็เข้าใจ ในความจริงแล้วนั้นที่ บอกว่ายอมรับไม่ใช่ว่าทราบซึ้งอะไรแต่รู้ดีว่าชนัยไม่สามารถ ปล่อยให้คราณีหลุดลอยออกไปเลย เลยตกลงยอมรับ
“ถึงแม้ประโยคนี้จะไม่เข้ากับสถานการณ์แต่ก็ถือว่าเรื่อง ร้ายกลายเป็นดีแล้วนะ?”
“หรอ?” ชนัยเงยหัวขึ้นจากการอัดบุหรี่เข้าไปแล้วพ่นมัน
ออกมา สายตาดูมึนงง แต่ข้าดูไม่มั่นใจว่าจะไปต่อดีไหม
เตชิตฟังเขาแล้วถึงกับยนคิ้ว “พูดแบบนี้หมายความว่า ไง?”
“เห็นหล่อนบาดเจ็บแบบนี้ ผมรู้สึกผิดหวังกับตัวเองมาก หมดแล้วความเชื่อใจ ครั้งเอาชีวิตกลับมาได้ แล้วครั้งหน้า ล่ะ? ผมสามารถที่จะปกป้องเธอได้จริงหรอ หากทำไม่ได้ละ เอาเธอมาผู้กับความอันตรายไว้ข้างตัวแบบนี้มีแต่อันตราย
เมื่อคืน ทั้งจากเป็นเธออกมาจากห้องผ่าตัด ชนัยก็คิด ปัญหานี้มาโดยตลอด เขาคิดแล้วคิดอีก ทุกครั้งที่คิดว่าจะ อดทนต่อไปแต่เมื่อมองใบหน้าที่อยู่ด้านหน้าที่ไม่สีเลือดแล้ว เขาก็รู้สึกหวาดกลัว
ชีวิตของเขาเองเขารู้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่เราไม่ได้เพราะ หล่อนเป็นผู้หญิงที่เขาเป็นห่วงที่สุด
เตชิตมองตาเขาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและขัดความแย้ง ต่างๆ ในนั้น เขาถอนหายใจอย่างไม่มีเสียง “ชนัย กว่าจะมาถึง จุดนี้ไม่ง่ายเลยนะ อดทนอีกนิด ฉันรู้ว่าแกอ่ะเป็นห่วงหล่อน แต่ว่าผู้หญิงที่เอาชีวิตตัวเองมาทำทุกอย่างก็เพื่อแก หล่อนยัง ต้องคิดเรื่องแกอื่นๆอีกหรอ ? คนที่หล่อนต้องการคือแกคน เดียว”
“แต่ว่า…”
“ไม่มีเรื่องอะไรที่จะกดดันแกได้ สายน้ำที่ได้รับสารปน เปื้อนมันยังต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากอีกมากมาย เพราะงั้นแกต้องอดทนอีกนิด เพื่อหล่อน และเพื่อตัวแกเอง ด้วย”
ดราณีจําได้ตอนใกล้จะหมดสติว่า เธอเห็นชมัยพุ่งมาหา ตัวเธอเอง เห็นสีหน้าเขาที่เครียดหนักมาก นอกจากนั้นก็จ อะไรไม่ได้แล้ว
เหมือนตัวทั้งตัวถูกยัดบรรจุลงในขวดโหลและปิดฝาสนิท ไม่มีเสียงๆ ไม่มีอากาศหายใจ หล่อนพยายามที่จะต่อสู้กับกับ ผนังขวดนั่นแต่พ่ายแพ้ทุกครั้ง
ครั้งแล้วครั้งเล่า พยายามสู้จนไม่รู้ว่าผ่านมานานเท่าไหร่ แล้ว หล่อนก็ทำให้ขวดนั่นแตกจนได้แล้ววิ่งออกมา หล่อนได้ยินเสียงมากระทบข้างหู มีทั้งไม่รู้จักและคุ้นเคยท้ายสุดแล้วหล่อนใช้พลังที่มีทั้งตัวลืมตาขึ้นมา
หล่อนเห็นผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆหัวเตียงดูคุ้นเคยมาก คิด อยู่ตั้งนานก็นึกออกว่าคือนัชชา
เป็นนัซาได้ไง?
สมองดูสับสนว่างเปล่า ก่อนที่เธอจะหมดสติเรื่องต่างๆ มัน ดูไม่ชัดเจนอะไรมากนัก แต่หมอที่เข้ามาตรวจดูจากที่อุปกรณ์ ต่างๆเชื่อมต่อเธออยู่และเห็นเธอลืมตาขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง เขารีบตกใจตะโกนดังลั่น “คนไข้ฟื้นแล้ว!
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ