ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน756แม่นางฟ้าคนดีของเขา



ตอน756แม่นางฟ้าคนดีของเขา

ตอนที่756แม่นางฟ้าคนดีของเขา

แม่นางฟ้าคนนั้นแอบกลับมาที่นี่ตอนเขาไม่รู้

ชนัยหมุนตัวกลับสายตามองไปทุกๆมุมรอบบ้านอาศัย แสงสว่างจากไฟที่เหนือศรีษะของเขาทำให้เขาเห็นว่าชั้นนี้ สะอาดสะอ้านเพียงใด

เขามองไปที่โซฟาซึ่งอยู่ๆก็ผุดภาพของหล่อนที่กำลังพัก

ผ่อนอยู่บนโซฟาตัวนั้นสวมเสื้อผ้าที่สะอาดเรียบง่ายหายใจ หอบเบาๆ ผมเผ้ายุ่งเหยิงหล่อนก็ไม่ได้สนใจพอพักได้สักครู่ หล่อนก็ทําความสะอาดต่อ

เพียงเสี้ยววินาทีก็เหลือเพียงบ้านที่ว่างเปล่าตรงหน้าซึ่ง

อบอวลไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกต่างๆของมนุษย์

ในค่ำคืนที่แสนโดดเดี่ยวอ้างว้างนี้ภายในจิตใจที่เปล่า เปลี่ยวของชนัยก็ได้รับการปลอบโยนแล้ว

อยู่ๆก็เกิดอยากพบหล่อนขึ้นมาอยากพบคนที่ให้ความ อบอุ่นกับเขาได้ไม่รู้จบ

ชนัยเวียนศีรษะขึ้นมายืนไม่อยู่เซไปที่ด้านข้างโต๊ะหยิบ โทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดเบอร์โทรด่วนโทรออกไปเบอร์ที่ เขาโทรออกไปนั้นเป็นเบอร์ที่เขาจำได้ขึ้นใจ
ไม่เกินสองวินาทีปลายสายก็กดรับเสียงหวานอ่อนโยนปน ออดอ้อนของหญิงสาวดังขึ้นปลายสาย”ฮัลโหลคุณกลับบ้าน แล้วเหรอคะ”

ในช่วงนี้ชนัยไม่ค่อยเป็นฝ่ายโทรหาหล่อนมากนัก โดย เฉพาะกลางดึกอย่างนี้ดังนั้นเราจึงเดาได้ว่าเขาคงกลับบ้าน แล้วพบจดหมายที่หล่อนทิ้งไว้แล้วนั่นเอง

เพื่อนๆ ในหอพักล้วนหลับกันหมดแล้วหล่อนจึงลงจาก เตียงเดินออกมาคุยด้านนอกไม่อยากส่งเสียงดังจนทำให้คน อื่นตื่น

“อืมวันนี้คุณก็เข้ามาแล้วนี่”เขาไม่ได้ถามหล่อนแต่น้ำ เสียงก็บ่งบอกถึงความต้องการที่จะถามให้แน่ใจ “ใช่ค่ะตอนบ่ายฉันว่างก็เลยแวะไปเห็นว่ามันรกฉันก็เลย

ทำความสะอาดฉันคั้นน้ำผลไม้ไว้ให้คุณด้วยนะคะไม่เห็นเห รอ”ดราณีเดินมาถึงหน้าต่างที่อยู่สุดระเบียงทางเดินมองออก ไปในค่ำคืนที่มืดมิดในใจคิดถึงผู้ชายปลายสาย “ผมเห็นแล้ว”พูดพลางมองไปทางตู้เย็นประหนึ่งว่าจะ

สามารถมองเห็นหล่อน

ไม่ไหวไม่ได้ผลยังไงก็ต้องเห็นหล่อนด้วยตาตนเองได้กอด หล่อนด้วยมือของเขาเองเท่านั้น

ในขณะที่อีกฝ่ายยังคงบ่นพึมพำอะไรบางอย่าง”วันนี้ฉัน เข้าไปที่บ้านในตู้เย็นแทบจะไม่มีของสดอะไรให้กินได้เลยแบบนี้ไม่ไหวนะคะแล้วที่ห้องรับแขกก็รกมากฝุ่นจับเขรอะเลยฉันรู้ ว่าคุณยุ่งมากแต่ก็เรียกแม่บ้านมาทำความสะอาดบ้างก็ได้นะ คะ”

ชนัยไม่ได้คิดว่าหล่อนขี้บ่นน่ารำคาญแต่กลับรู้สึกอบอุ่น ในใจที่มีคนคอยเป็นห่วงเป็นใยเขาตลอดเขาไม่เคยได้รับ ความรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย

พวกเขาเพียงแค่ถามเขาว่าวันนี้งานยุ่งมั้ยเรื่องอื่นก็ไม่เคย มีใครให้ความสนใจอะไรแต่มันก็แค่เรื่องเล็กน้อยไม่สำคัญ อะไร

เขารีบตัดบท ในขณะที่หญิงสาวกำลังบ่นอยู่ตอนนี้คุณอยู่ ที่ไหน”

ดราณีนิ่งอึ้งไปสักครู่ก่อนจะตอบอย่างงงๆไปว่า “ฉันก็อยู่ที่

หอพักนะสิ”

“ผมไปหาคุณที่มหาวิทยาลัยนะ”

“คุณไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะเมื่อกี้ฉัน…ะอะไรนะคุณ บอกว่าจะมาหาฉันเหรอ”ดราณีเพิ่งจะได้สติว่าเขาพูดอะไร จิตใจว้าวุ่นขึ้นมา”นี่มันกี่โมงยามแล้วคุณไม่ต้องมาหรอกพอ คุณมาฉันออกไปก็เข้ามาไม่ได้แล้ว”

“ถ้างั้นก็ไม่ต้องเข้าไปแล้ว”ชนัยพูดพลางสวม เสื้อผ้า เดี๋ยวผมให้คนขับรถขับไปไม่เกินครึ่งชั่วโมงถึงคุณ เปลี่ยนเสื้อผ้ารอเลยนะ”
ดราณีหันไปมองนาฬิกาตอนนี้เสนานคงหลับไปแล้วและก็ คงไม่รู้ถ้าเธอหายไปแต่ว่า

“มันดึกมากแล้วนะพรุ่งนี้ตอนบ่ายฉันไม่มีเรียนเราค่อย….”

“ผมอยากเจอคุณตอนนี้เขาพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะ ถามหล่อนแกมบังคับว่า”ได้มั้ย”

ดราณีกัดริมฝีปากสับสนอยู่พักหนึ่งก่อนจะใจอ่อนยอมรับ ปากเขา”ก็ได้เดี๋ยวฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าคุณถึงแล้วโทรมานะ”

แต่ชนัยกลับตอบไปว่า “ไม่ต้องวางหู

“ต๊ะ”ดรางกระพริบตาถี่ๆ ใจที่เต้นแรงอยู่แล้วกลับเพิ่ม ความเร็วรัวขึ้นมาอีก”คุณสะดวกมั้ย”

“ไม่เป็นไร”

ทั้งสองจึงถือโทรศัพท์อยู่อย่างนั้นตั้งแต่เขาออกจากบ้าน ขึ้นรถระหว่างทางก็ไม่มีการวางสายดราณีจะเป็นฝ่ายพูดเสีย ส่วนใหญ่ส่วนชนัยจะนิ่งฟังเงียบๆ

อยู่ๆหล่อนก็รู้สึกว่ารูปแบบความสัมพันธ์ของพวกเขาสอง คนเปลี่ยนไปเมื่อก่อนเป็นเขาที่มายุ่งวุ่นวายกับหล่อนตลอด ไม่มีเรื่องก็หาเรื่องอยู่ไม่น้อย

เมื่อก่อนหล่อนเคยคิดว่าชนัยเป็นคนที่หนังหนาหน้าด้าน แต่ตอนนี้หล่อนเข้าใจแล้วว่าจริงๆแล้วการที่ต้องหาเรื่องขึ้นมา พูดนี่มันเป็นเรื่องที่เหนื่อยจริงๆ โดยเฉพาะเวลาที่คนรู้สึกว่าอีก ฝ่ายไม่ได้อยากจะพูดด้วยเลย
ครึ่งชั่วโมงต่อมารถขับมาจอดใกล้ๆกับหอพัก” ผมถึง แล้ว”เสียงต่ำของชายหนุ่มดึงออกมาจากปลายสายดราณีที่นั่ง รออยู่ตรงทางขึ้นบันไดชั้นหนึ่งได้ยินดังนั้นจึงลุกขึ้นเดินออกมา

ประตูใหญ่ของหอพักถูกปิดแล้วต้องรูดบัตรจึงจะสามารถ ออกมาไปได้และคืนนี้จะกลับเข้ามาไม่ได้อีกแล้ว

หล่อนขบกรามแน่นก่อนที่จะตัดสินใจเดินออกไป

ภายใต้ค่ำคืนที่มืดมิดรถมายบัคสีดำเปิดไฟหน้ารถจอด อยู่ข้างทางหล่อนเดินกึ่งวิ่งไปทางลำแสงที่สาดออกมาจากรถ คันนั้นเปิดประตูหลังก่อนจะเข้าไปด้านในผ่อนลมหายใจออก มา

หมุนตัวไปยังไม่ทันที่จะพูดอะไรก็ถูกดึงเข้าไปในอ้อมกอด แสนอบอุ่นทันที

ดราณีอึ้งไปชั่วขณะหลังจากนั้นหล่อนก็ได้กลิ่นแอลกอฮอล์

จากร่างของชายหนุ่ม”คุณดื่มมาเหรอ”

“อืมมีงานเลี้ยงเมื่อเย็น

ข้างๆหูความร้อนจากลมหายใจแผ่ไปทั่วฉาบไปด้วย ความรู้สึกเหนื่อยท้อแท้ที่บอกเป็นคำพูดไม่ถูกดราณีจับความรู้ นี้ของเขาได้จึงยกมือขึ้นมากอดเขาตอบเหนื่อยมากมั้ย”

“ยังพอไหว”

ชนัยที่ปกติดูแล้วเป็นพ่อพวงมาลัยแต่พอได้รักใครจริงๆ แล้วเขาก็กลายเป็นคนที่จริงจังรับผิดชอบต่อให้จะเหนื่อยจะยุ่งขนาดไหนแต่เขาจะไม่ยอมให้คนที่เขารักต้องมาเผชิญแบบที่ เขาเจอ

เขาจะไม่ยอมให้ตราณีต้องมาทนทุกข์กับเขาสู้เดี๋ยวมันก็ ผ่านไป

“คุณนึกยังไงถึงมาหาฉันคะ”

“กลับไปที่บ้านรู้ว่าคุณเข้ามาก็เลยอดใจไม่ไหว” พูดถึง ตรงนี้ชนัยก็บีบมือของหล่อนแน่นขึ้นแรงขึ้นเหมือนต้องการให้ ทั้งร่างหล่อนจมเข้าไปในอ้อมกอดของเขา

ก็เพราะความรู้สึกที่อยากจะพบหล่อนแม้หล่อนจะอยู่ที่ มหาวิทยาลัยก็เถอะต่อให้หล่อนอยู่ต่างประเทศเขาก็คงจะนั่ง เครื่องบินส่วนตัวไปหาจนได้

อดใจไม่ไหว

ดราณีได้ยินเขาพูดคำนี้ไม่รู้ว่าตนเองควรจะดีใจหรือ เสียใจดีดีใจก็ดีใจที่เขายังนึกถึงหล่อนแต่ก็เสียใจที่ต้องมาเห็น เขาในสภาพแบบนี้

แม้ว่าชนัยจะไม่ยอมพูดอะไรแต่หล่อนก็เดาได้ว่าช่วงนี้น่า จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่บ้านของเขาจึงทำให้เขาเหนื่อยขนาดที่ว่า ไม่มีเวลามาเจอกับหล่อน

ค่ำคืนที่เงียบสงัดคนขับรถยืนรออยู่ที่ใต้ต้นไม้ไกลๆดราณี ไม่รู้จะพูดปลอบประโลมชายหนุ่มอย่างไรดีจึงได้แต่เงียบอยู่ใน อ้อมกอดของเขามือเล็กๆค่อยๆลูบที่หลังของเขาอย่างแผ่วเบาให้ได้รับพลังความอบอุ่นไป

ชนัยๆสักพักเริ่มผ่อนคลายมากขึ้นค่อยๆคลายอ้อมกอด ออกเล็กน้อยเดียวดายอีกต่อไปแอบมา

ดราณีไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของเขา”ฉันว่างพอดี เลยเข้าไปช่วยคุณทำความสะอาดนิดหน่อย

“ผมจับปอยผมด้านข้างไว้ข้างหล่อนนัยตา ขลับประกายจนแทบไม่มอง ผมเป็นห่วง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ