ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน73จงใจปิดบังมัน



ตอน73จงใจปิดบังมัน

ตอนที่ 73 จงใจปิดบังมัน

ตอนตีสอง คนขับรถไปที่สวนสาธารณะ สวนที่มืดสนิท มีเพียงแสงไฟอ่อนๆจากไฟทางเดิน ภายใต้ความมืดก็ยังมอง เห็นความแค้นที่ไม่หวังดี

ไม่ไกลมีรถสีดำที่ถูกจอดทิ้งไว้เริ่มมีฝุ่นเกาะ ควินตรวจ ทะเบียนรถว่าตรงกับทะเบียนที่อยู่ในข้อความ ลงจากรถ ดึง ประตูออกมันไม่ได้ล็อค

มีซองถูกวางไว้ที่นั่งคนขับ เป็นรูปถ่าย ไม่ใช่รูปถ่ายของ ใครมันเป็นรูปนัชชากับเตชิต

ดวิษเปิดดู แล้วหยิบรูปกลับไปที่รถ แล้วกดโทรหาเบอร์

เติม

“ฉันเจอของแล้ว แต่มันยังน้อยไป” เตชิตพูดด้วยน้ำเสียง หอบๆ ร้อนตัวและตื่นเต้น

“คุณรีบเอา เป้าหมายเราไม่ใช่คนธรรมดา มันจะเสี่ยงกิน ไปถ้าเราตามติด ได้แค่นี้ก็

“คุณรีบเอาเป้าหมายเราไม่ใช่คนธรรมดา ถ้าตามติดเกิน ไปผมกลัวเขาเตชิตจะไหวตัวมัน แค่นี้ก็เสี่ยงมากแล้ว ถ่ายได้ ขนาดนี้เราทำสุดความสามารถแล้ว” ฟังก็รู้ว่าใช้เครื่องดัดแปลงเสียง

ตวิษกัดฟันแน่น หยิบรูปออกมาดู ในรูปเดชิดพยุงนัชชา เดินออกมาจากร้าน มันเหมือนแต่การพยุงธรรมดา ถ้าอยาก เอามาเป็นหลักฐานในการเอาผิด มันค่อนข้างไม่แน่ชัด

“เอางี้ ฉันให้เวลาแกอีกหนึ่งเดือน เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา แต่ต้องได้รูปที่สามารถเห็นความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสอง คนได้ชัดเจนแบบดิ้นไม่หลุด เข้าใจมั้ย

“ครับ ผมจะพยายาม

หลังจากวางสาย ยังไม่ทันที่เขาจะได้พักหายใจ ก็มีสาย เข้าจากปณิตา

เขารู้สึกรำคาญ พูดด้วยน้ำเสียงหยาบกระด้าง “ดึกขนาด

นี้เธอต้องการอะไรอีก

ปลายสายชะงักค้าง ตอบกลับด้วยน้ำเสียน้อยใจ “ดึก ขนาดนี้คุณยังไม่กลับ แม่บอกให้ฉันถามว่าคุณอยู่ไหน……..

หลังจากที่นัชชาออกจากบ้านอย่างเป็นทางการ จรรยา

ให้เธอเปลี่ยนเป็นเรียกเขาว่าแม่

เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ยังไม่ได้เป็นภรรยาถูกกฎหมาย จรรยาก็ดีกับเธอเป็นร้อยเท่าพันเท่า

“เธอบอกแม่หรอ” สีหน้าเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว “ฉัน บอกเธอแล้วอย่าบอกแม่ว่าฉันออกมาข้างนอก ฟังภาษาคน ไม่รู้เรื่องหรอ”
เธอจะเอาเรื่องของเขาไปบอกจรรยาตลอด ทำให้ตน รู้สึกไม่พอใจ และยังเป็นการถูกบังคับ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่ โอเค อีกทั้งยังรู้สึกเหมือนจะมองปณิตาง่ายไป

ตอนอยู่กับนัชชาเธอไม่เคยทำแบบนี้ จะคอยปิดเรื่องเขา ถึงแม้ว่าจะโดนจรรยาค่าแรงแค่ไหนเธอก็ไม่เคยพูดร้ายให้เขา

ปณิตาพูดน้ำเสียงอ่อนลง “ดวิษ ช่วงนี้คุณยุ่งอะไรหนัก หนา ฉันรู้ว่าข่าวทำให้คุณเสียหาย นัชชาผู้หญิงเลวคนนั้น….. “พอแล้ว” คนไม่อยากฟังเธอพูดต่อ “คุณเข้านอนก่อน

เลย ฉันกำลังจะขับรถกลับไป

ปณิตาทำตามอย่างว่าง่าย “งั้นคุณขับรถระวังด้วย ดษไม่แม้แต่ตอบกลับ ก็กดตัดสายทิ้ง

เขาโยนโทรศัพท์ทิ้ง เขาจึงตัวไปพิงบ่อเก้าอี้ ปิดตา เขา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดอีกครั้ง แล้วสะดุดเข้ากับชื่อของนัชชา เขาหยุดชะงักไปเล็กน้อย เขาย้อนคิดถึงตอนที่ทั้งสองตกลง ปลงใจคบกัน

นัชชาขอร้องให้เขาตั้งเบอร์เธอเป็นรายการโปรด

เขาตอบตกลง เธอยิ้มดีใจ แต่ในใจเขากลับคิดว่าคำขอ ร้องแบบนี้มันช่างไร้สาระ มาถึงวันนี้เขากลับจำได้ขึ้นใจ

เมื่อก่อนที่เขานึกว่ามันดูตลก น่าเบื่อ ไร้สาระ เขายังจำ มันได้ จนเริ่มสงสัยความรู้สึกของตัวเองในตอนนั้น มันอาจจะ เป็นเขาเองที่รู้สึกไปเอง เขาเป็นคนที่ชอบเอาเปรียบเธอมาโดยตลอด

ถ้าเกิดตอนนี้นัชชาขอคืนดี เขาจะยอมตอบตกลงมั้ย ตนยกมุมปาก ถึงแม้เขาจะไม่อยากยอมรับแค่ไหนก็ต้อง

ตอบว่าเขาตกลง

เขาจะตอบตกลงทันทีโดยไม่ลังเล

ถ้าทุกอย่างกลับไปที่จุดเริ่มก่อนหน้าที่ทั้งสองกำลัง ทะเลาะจะหย่ากัน เขาอาจจะยอมลดตัว ยอมให้สิ่งที่นัชชา ต้องการ

แต่มาตอนนี้ ทุกอย่างมันสายไปแล้ว เธอมีเตชิตอยู่ข้าง กายแล้ว คนที่เก่งกว่า อำนาจกว่า ยิ่งใหญ่มากพอที่ไม่ สามารถล้มเขาได้

เธอเดินจากไปไกลมาก ถึงตอนนี้เขากลับไปที่จุดเดิมทุก อย่างก็ยังว่างเปล่ามันไม่เหลืออะไรแล้ว

ดวิษนั่งเงียบไปสักพัก แล้วสตาร์ทเครื่อง เปิดไฟหน้ารถ มองดูทางที่มืดมิด ไม่นานเขาก็กลมกลืนไปกับความมืด

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนมาถึงวันที่นิพิทจะขึ้นศาล นภันต์พานิชชาไปพบคนของจรณ์อีกรอบ

นัชชาถูกความรู้สึกแปลกครอบงำอีกครั้ง ออกจากบริษัท เธอรายงานเดซิตแล้วรวดกลับหมู่บ้านมีสุข
เธอไม่ได้กลับบ้านมานาน รู้ว่าเธอจะกลับมา เมทนีกับณัช ขนมก็ทําอาหารที่เธอชอบไว้ให้

“ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน ลองชิมดูพ่อเขาเป็นคนทำ

“นี่เป็นมันเทศผัด จิ้มน้ำหน่อยแล้วค่อยกิน ตอนเด็กลูก ชอบกินมาก ตอนนั้นลูกสามารถกินจานหนึ่งหมดคนเดียว

“กุ้งนี้ซื้อมาเมื่อเย็น อาจจะไม่ค่อยสดแต่ก็น่าจะยังพอได้ ผสมกับซอสมะเขือเทศ……………

ณัชชนม์คืบกับข้าวให้เธอแบบไม่หยุด แต่ตั้งแต่นั่งมาเธอ กลับยังไม่ได้ทานอะไรสักค่า

นัชชารู้สึกอุ่นใจและรู้สึกเจ็บจี๊ดๆที่ใจ รู้สึกว่าตัวเองโด ขนาดนี้แล้วแต่ยังทำให้พ่อแม่เป็นห่วง ทำผิดกับพวกเขา มากมาย

“แม่ เดี๋ยวหนูคืบเอง แม่รีบกินเถอะ

ได้ยินดังนั้นณัชชนม์ก็คืบผักใส่จานตัวเอง “แม่กินแล้ว ลูก กินเยอะๆ นานที่ลูกจะกลับมา แม่กับพ่อรู้สึกว่าลูกผอมลง

เพราะตอนนี้เขากำลังจะหย่ากับดวิษ ด่าไปยังไงสุดท้ายก็ ยังรักและเป็นห่วงลูกสาวของตนเอง ยิ่งไปกว่านั้นมันเป็นความ ผิดของดวิษ พอนึกได้ว่านัชชาถูกเอาเปรียบ สองสามีภรรยาก็ รู้สึกเจ็บใจ

เมทนีไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่ตักน้ำซุปใส่ถ้วยแล้วยื่นให้เธอ

“รีบกินตอนมันยังร้อนๆ
นัชชามองดูเมทนีที่ตอนนี้ผมเริ่มขาว ใจเธอรู้สึกแปลก หลังกินข้าวกันเสร็จ มานั่งกันที่โซฟา เธอหยิบบัตรเอทีเอ็ม ใน กระเป๋าออกมาวางไว้บนโต๊ะ

“ลูกทำอะไร” ณัชชนม์ไม่เข้าใจว่าเธอหมายความว่ายังไง

นัชชาเอ่ยปากพูด “พ่อ แม่ นี่เป็นเงินเก็บหลายเดือนที่ ผ่านมาของหนู ปกติหนูกินข้าวที่โรงอาหาร ไม่ได้ใช้เงินอะไร มาก มีเงินทั้งหมดไม่ถึงสองหมื่น พ่อกับแม่เอาเงินไปซื้อ ของใช้ในบ้าน

“ไม่เอา ไม่รอให้ณัชชนม์ได้พูดอะไร เมทนีก็ปฏิเสธไป แล้ว “ลูกไม่มีเงินติดตัวเลย พ่อกับแม่ยังมีเงินเก็บ ไม่ต้องการ เงินลูก ลูกใช้ชีวิตแบบสบายๆ ไม่ต้องให้พ่อกับแม่เป็นห่วงแค่นี้ ก็พอแล้ว”

“พ่อ

“พอ ลูกไม่ต้องพูดอะไรแล้ว พ่อกับแม่ไม่มีทางรับเงินไว้ ถ้าอยากให้พ่อกับแม่สบายใจจริงรีบไปหย่าให้เรียบร้อย เมทนีเก็บบัตรเข้าไปในกระเป๋าตามเดิม

เธอรู้ว่าดื้อดึงไปก็ไม่มีประโยชน์ ได้แต่ทำตามความ ต้องการของเมทนี

“พ่อ หนูมีเรื่องอยากถาม” กลับมาครั้งนี้ มันยังมีอีกเรื่อง ที่เธอไม่เข้าใจ

เมทนี เรื่องอะไร”
นัชชาถามเสียงเบา เป็นเรื่องเกี่ยวกับคดีของพ่อ

พูดถึงเรื่องคดี เมทนีก็เงียบไปสักพัก “ผ่านมานานแล้ว ลูกถามเรื่องนี้ขึ้นมาทำไม

อาการของเมทนี มันยิ่งทำให้นัชชาสงสัย “พ่อ รู้จักจรณ์

ได้ยินดังนี้ เมทนีก็เผลอทำแก้วชาหลุดมือ แก้วแตก

กระจาย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ