ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน725แฟนสาวต้องการปิด



ตอน725แฟนสาวต้องการปิด

ตอนที่ 725 แฟนสาวต้องการปิด

วันนี้ ดราณีไม่ได้อารมณ์ดีนัก ด้านหนึ่งคือเพราะอยู่ที่โรง พยาบาล มีคนป่วยอยู่รอบกายเยอะเกินไป ผ่านไปผ่านมามอง ดูแล้วไม่อาจอารมณ์ดีได้ แต่หลักๆเลยก็เพราะว่าคำพูดพวกนั้น ของเสนานี

ตั้งแต่เล็กจนโตเธอสิ่งที่เธอถูกชมมากที่สุดคือเชื่อฟังไม่ ทำให้เป็นห่วง แต่ข้อดีของเธอก็เป็นข้อเสียของเธอด้วย เพราะ คิดว่าเสนานและทยุติเลี้ยงเธอให้โตมาไม่ง่ายเลย เลยเชื่อฟัง คําสอนของพวกเขาอย่างมาก

ตอนเล็กๆก็ไม่ได้รู้สึกอะไร พอโตขึ้นก็พบว่า คำพูดของ คนในครอบครัวทำให้เธอกดดันจิตใจมากๆ เหมือนตอนนี้ แม้ว่าเธอจะไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเสนานี ถึงขนาดรู้สึกว่ามัน กดดันมาก แต่ในความเป็นจริงเธอก็ต้องตอบตกลงโดยไม่มี เงื่อนไข

การตอบตกลงนี้แม้ว่าจะลดความรู้สึกผิดที่มีต่อครอบครัว ได้ แต่สำหรับตัวเอง มันคือความกดดันและภาระชนิดหนึ่ง ตั้งแต่ต้นจนจบ

ดราณีไม่เคยรู้สึกถึงประเด็นนี้ แต่ตอนนี้รับรู้อย่างชัดเจน แล้ว เธออยากเจอชนัยมาก และเพราะเหตุนี้ทำให้เธอได้รู้ความคิดที่แท้จริงของตัวเองล่ะมั้ง

แต่จะให้เธอไม่ดูแลครอบครัวตอนนี้จริงๆ เธอทำไม่ลง และทำได้เพียงเท่านี้

เย็นวันนั้น ดราณีทานข้าวที่โรงอาหารของโรงพยาบาล เสร็จกำลังนอนในห้องผู้ป่วย ล้างหน้าแปรงฟันไม่ได้สะดวกเท่า ไหร่ แต่ก็ผ่านมันไปได้ ทางด้านโรงพยาบาลนั้นเพราะว่าชนัย ดูแลอยู่ เลยสะดวกขึ้นมาก

ห้าโมงครึ่ง ชนัยโทรศัพท์มาพอดี ดราณีหาข้ออ้างออก จากห้องผู้ป่วย เดินไปบริเวณมุมๆมั่นใจว่าด้านหลังไม่มีคน แล้วถึงกล้ารับสาย

“ฮัลโหล?”

“อยู่โรงพยาบาลหรอ?” เทียบกับเสียงหดหูของเธอ เสียง ของเขาผ่อนคลายอย่างเห็นได้ชัด

ดราณีกดเสียงต่ำลง “ใช่ ฉันอยู่เป็นเพื่อนพ่อนะ

“ตอนเย็นทานอะไร ฉันจะไปรับเธอไปทานข้าว แล้วเดี๋ยว มาส่ง” ชนัยพูดไปด้วย ตัวเขาก็เข้าไปในรถแล้ว ส่งสายตาให้ กับคนขับรถ อีกฝ่ายก็เข้าใจโดยปริยายว่าให้ขับไปที่โรง พยาบาล

แต่ในวินาทีต่อมา เสียงหญิงสาวในลำโพงกลับพูดอย่าง ตะกุกตะกักกระอักกระอ่วนใจ “ฉัน ฉันอาจจะไม่ทานข้าวกับ คุณไม่ได้แล้วเย็นนี้”
ปฏิเสธมาอย่างไม่ทันคาดคิด ชนัยรู้สึกงงนิดหน่อย

อึ้งไปหนึ่งวินาที พอได้สติกลับมาก็นึกถึงสถานการณ์ที่ บ้านของเธอทันที “ทำไม ที่โรงพยาบาลมีเรื่องอะไรหรอ?”

ดราณีไม่อยากให้เขารู้เรื่องที่เสนานี้ไม่อนุญาตให้ตนเจอ กับขา ยังไงพอลองคิดกลับกัน มันช่างทำลายความเชื่อมั่น

อย่างมาก

เธอกัดริมฝีปาก หยุดไปสักพักก่อนจะตอบกลับ “ใช่ พ่อ ต้องตรวจร่างกายเยอะมาก แม่ก็อยู่โรงพยาบาลตลอดจนช่วง หนื่อยมาก ลุงป้าก็ต้องไปทำงาน ฉันต้องมาแทนที่นี่สัก หน่อย”

ชนัยพยักหน้า นึกถึงวันที่เจอคนแปลกหน้าสองคนที่นอก ห้องฉุกเฉิน คงจะเป็นลุงป้าเธอล่ะมั้ง?

แม้ว่าความประทับใจไม่ได้ลึกซึ้งอะไร แต่พอนึกดูก็ สามารถจำรูปร่างคร่าวๆได้ ในหลายปีมานี้เขาเจอคนมาทุก ประเภท ลุงป้าของดราณีเป็นคนอย่างไร แค่ดูแวบเดียวก็พอจะ เดาได้

แค่อย่ายุ่งจนลืมทานข้าว

“อยากทานอะไร ฉันจะซื้อแล้วเอาไปส่ง

ดราณีพอได้ยินว่าเขาจะมา เธอก็กังวลทันที “เอ่อ…….ไม่ ต้องหรอก ไม่ต้องจริงๆนะ ฉันทานอะไรนิดหน่อยที่โรงพยาบาล ก็พอแล้ว โรงอาหารมีทุกอย่าง
ชนัยรู้ว่าทำไมเธอถึงปฏิเสธตนอย่างหวาดกลัว เลยถอน หายใจอย่างอดไม่ได้ “ฉันส่งไปให้เธอ เธอทานที่โรงอาหาร เสร็จแล้วค่อยขึ้นไป ไม่ถูกพบหรอก”

ถูกจับได้ว่าคิดเล็กคิดน้อย ดราณีแอบประทับใจและรู้สึก ผิด เธอพึมพำกับตัวเองอยู่นานแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป สุด ท้ายชนัยก็กลัวเธอจะกระอักกระอ่วน เลยพูดต่อไปว่า “งั้น ก็ตามนี้ เดี๋ยวเจอกันแถวๆโรงอาหาร ฉันไม่ขับรถเข้าไป

เพื่อไม่ให้ถูกจับได้ เพื่อให้เงียบๆ เขาได้ทำในสิ่งที่ตัวเอง สามารถทำได้ทั้งหมด

ดราณีทำได้เพียงตอบรับ “งั้นก็หกโมงครึ่ง ฉันรอคุณ

หลังจากวางสาย เธอไม่กล้าชักช้านานเกินไป รีบหมุนตัว กลับไปที่ห้องผู้ป่วย เพิ่งก้าวเท้าเข้าไปก็ได้ยินเสนานีพูดขึ้น “ดราณี รีบไปทานข้าวที่โรงอาหารเถอะ เดี๋ยวคนจะเยอะแล้ว ต่อคิวนาน”

เธอเดินเข้าไปข้างเตียง โดยไม่ได้เปลี่ยนท่าที ยื่นมือไป ซ่อนในปลายผ้าห่มของทยุติ “แม่ไปทานก่อนเถอะ เดี๋ยวหนูลง ไปทานเกี๊ยวน้ำก็พอแล้ว”

เกี๊ยวน้ำในโรงอาหารเป็นแค่ร้านเล็กๆ ปกติไม่ต้องต่อคิว คนซื้อก็ค่อนข้างน้อย

เสนานีเหลือบมองมา “ลูกไม่หิวหรอ?”

“ยังไม่ค่อยค่ะ”
“งั้นแม่ไปก่อน ซื้อได้ทาร์ตไข่ขึ้นมาให้พ่อพอดี” เสนานี พูดไปพลางหยิบบัตรโรงอาหารขึ้นมาจากกระเป๋าแล้วเดินออก ประตูไป “ลูกดูอยู่ที่นี่สักพักนะ”

ดราณีรีบพยักหน้า “รู้แล้วค่ะ”

หลังจากไปแล้ว เธอหันไปมองอีกครั้ง ก้มศีรษะถอน หายใจออกมาอย่างคุมไม่อยู่ ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน คำโก หกเล็กๆน้อยๆเกือบจะกระโดดออกมา

แต่ตั้งแต่เล็กจนโต ดราณีไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่ตัวเองจะ ปิดบังตัวเองเพื่อผู้ชายคนหนึ่งจริงๆ

เสนานีทาอาหารเสร็จก็แค่หกโมงนิดๆเท่านั้น หลังจากด ราณีและเสนานี้ช่วยหยุติทานข้าว ก็เป็นเวลาหกโมงครึ่ง ใน ที่สุด

เสนานรีบเร่งให้เธอไปทานข้าว ก็ถือข้ออ้างนี้พอดี ดราณี ก็ไม่ได้ยืดเยื้อต่อ เดินออกจาห้องไปด้วยใบนห้าเรียบเฉยแต่ ภายในใจตื่นเต้น

เธอก้าวเท้าเร็วๆไปถึงประตูลิฟต์ มองเห็นเล็กด้านบน อย่างชัดเจน ในใจเหมือนมีมือเล็กๆมาส่วน

เร็วหน่อยสิ……

ไม่ง่ายเลยที่จะลงลิฟต์มาถึงห้องโถงชั้นหนึ่ง ดราณีแทบ จะกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปบริเวณโรงอาหาร เธอยกโทรศัพท์ขึ้นมา โทรหาชนัย
โทรศัพท์ดังไม่กี่ทีก็มีคนรับสาย เธอถามขึ้นอย่างหอบๆ “ฉันอยู่ประตูทางเข้าโรงอาหาร คุณอยู่ไหน?

น้ำเสียง ใจเย็นของเขาดังเข้ามาในหู เขาพูดออกมาง่ายๆ สองพยางค์ หันมา

ดราณีใจกระตุก รีบหันกลับไปอย่างรวดเร็ว ใต้ต้นไม้ถุง ที่ไม่ไกล เห็นแค่ร่างสูงยาวยืนอยู่ข้างถนนเล็กๆ เขาสวมเสื้อกัน หนาวคอกลมสีเทาเข้ม คอปกเผยให้เห็นเสื้อเชิ้ตสีขาว แค่เห็น ก็รู้แล้วว่าถูกจัดมาอย่างดี

หากเขาสวมชุดสูททั้งตัวจะดูเด่นตามาก เขาเลยตั้งใจ พรางตัวเสียหน่อย

ดราณีไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี แต่หันไปก็เห็นเขาก็ ใจเต้นแรงเกินขีดจํากัด เธอยิ้มออกมาอย่างมีความสุข วิ่งไป หาเขา ลมพัดผมตรงหน้าผากเธอ ใบหน้าที่น่าประทับใจลอย ขึ้นมา

ดวงตากลมโตยิ้มจนเกิดรอย แต่มันดูน่าประทับใจเป็น

พิเศษ “คุณมาแล้ว”

ชนัยมองใบหน้าที่เปื้อนยิ้มตรงหน้าเกือบจะละสายตาไม่ ได้ ความรู้สึกประหลาดใจปนยินดี ความตื่นเต้น สีหน้าท่าทาง ที่เขารัก ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นสถานการณ์ไม่เหมาะสม เขาจะดึง เธอเข้ามาในอ้อมกอดแล้วจูบทันทีแต่ ตอนนี้ไม่ได้ ทำได้แต่อดทน
ชนัยส่งถุงกันความร้อนสีดำให้เธอ ด้วยสีหน้าที่ไม่ได้ว่าดี หรือร้าย อดกลั้นความยากลำบาก “ข้าวเธอ

ดราณีรับมา และเอ่ยถามอย่างไม่คิดอะไร “คุณอารมณ์ไม่

ดีหรอ?”

ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นเรื่องงาน “ที่บริษัทเกิดอะไรขึ้นอีก

หรือเปล่า?”

“เปล่า” ชนัยหัวเราะเยาะตัวเองอย่างประหลาด “มีแฟน แต่ต้องคอยหลบๆซ่อนๆ เลยรู้สึกแย่นิดหน่อย”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ