ตอน710ฉันอยู่ในกำมือเธอแล้ว
ตอนที่ 710 ฉันอยู่ในมือเธอแล้ว
“อะไร?” ดราณีเกือบจะไม่ได้ตอบโต้กลับ
โพสต์อินเตอร์เน็ต
เขาเตรียมจะเอารูปคู่ของพวกเขาโพสต์อินเตอร์เน็ต
เธอกำลังคิดอยู่ ชนัยก็จัดการทุกอย่างเสร็จแล้วด้วย ความเร็วสูงสุด เขาเปิดแอพพลิเคชั่นโซเชียลขึ้นมา เทรนด์แรก ที่ปรากฏขึ้น คือสิ่งที่เขาโพสต์
รูปภาพที่สิบนิ้วกุมเข้าด้วยกันเมื่อครู่นี้ แคปชั่นมีเพียง
หัวใจสีแดง
ไม่ได้ป้องกัน ใครใดๆ โพสต์ออกไปแล้วจริงๆ ทุกคนเห็น หมดแล้ว ภายในหนึ่งนาที ดราณีเห็นคอมเมนต์อุทานนับไม่ ถ้วน
“ใครน่ะ พี่น้องก็โอเค อย่าเอกทำเป็นเรื่องใหญ่โต”
“คนที่ไม่คิดจะมีแฟนประกาศตัวซะแล้ว?”
“จู่ๆก็มีแฟน ฉันรู้สึกเหมือนโดนหักอก…….
ดราณีดูคำอวยพรที่เย้าแหย่ผสมปนเปพวกนี้ เธอก็มึนงง “คุณ คุณโพสต์ไปจริงๆหรอ ไม่กลัวคนอื่นจะพูดยังไงหรือไง?
ปกตชนัยคนที่ดูเหมือนท่าตัวเหลวไหลเป็นพิเศษ แต่ว่า เขาอัพเดตกับในกลุ่มแซทน้อยมาก เมื่อก่อนเธอเคยถาม เหตุผล เขาก็บอกกับเธอว่า ไม่อยากจะเผยความเป็นส่วนตัว มากเกินไป จะไม่มีเวลาผ่อนคลาย
คิดๆแล้วก็จริง คนที่ชีวิตยุ่งขนาดนี้ ไม่มีเวลามาคิดจะ โพสต์อะไรหรอกมั้ง
แต่เธอก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะยอมให้คนรู้เรื่องความสัมพันธ์ ที่เป็นทางการในวันแรกของพวกเขา ในระดับที่มั่นคง ทำให้ เธอรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น
ชนัยไม่ได้รู้สึกว่าไม่มีตรงไหนที่ไม่เหมาะสม มองคอมเมน อุทานหลากหลายชนิดอย่างพอใจ มองดูไปด้วยแล้วก็ส่าย หน้าถอนหายใจไปด้วย “พวกกลุ่มคนโสดนี่ต้องอิจฉาตาย แน่ๆ……
“คุณรู้ได้ไงว่าคนอื่นอิจฉา?”
“พวกเขาก็แบบนี้แหละ ปากก็ร้องไห้โฮแต่ในใจก็โหย หาความรัก” ชนัยพูดไปพลางวางโทรศัพท์ลงไป “เดี๋ยววันหลัง พาเธอไปเจอพวกเขาเธอก็จะรู้เอง
พอคิดว่าจะได้ไปเจอเพื่อนของเขา ดราก็รู้สึกกังวล “ถ้า พวกเขาไม่ชอบฉันล่ะ?”
“เป็นไปไม่ได้” เขาพูดอย่างไม่คิด “หลังจากเจอเธอ คน พวกนั้นจะต้องยิ่งอิจฉา
คำชมอ้อมๆ ทำให้ตราณีแก้มแดง และไม่รู้ว่าคนคนนี้เอา ความมั่นใจมากจากไหน ถึงได้ออกปากว่าคนอื่นจะชอบเธอ
แต่เมื่อได้ยินคำพูดพวกนี้ เธอก็มีความสุขมาก เธอก็รู้สึก ถึงความจริงใจในคำพูด ไม่ใช่ว่าพูดเพราะอยากเอาใจหรือ ประจบประแจง แต่คิดแบบนั้นจริงๆ
เธอไม่แน่ใจมาตลอดว่าชนัยชอบเธอตรงไหน แต่ก็ค่อยๆ เห็นว่าเขาปฏิบัติต่อเธอไม่เหมือนกับคนอื่น เธอก็ยิ่งเชื่อมั่นใน ความรู้สึกนี้
จะพิสูจน์อะไรก็ต้องให้เวลา สำหรับตอนนี้ เธอเลือกที่จะ เชื่อใจ
อารมณ์ผ่อนคลายลง อาการเหนื่อยล้า ในหนึ่งวันพุ่งเข้า มาในใจ ดราณีลืมตาไม่ค่อยขึ้นแล้ว ชนัยรู้สึกได้จึงเอ่ยถาม เสียงต่ำ “ง่วงหรอ?”
“อืม นิดหน่อย”
“โอเค ฉันไปห้องข้างๆนะ กลางคืนมีอะไรก็เรียกฉันได้ ตลอด” พูดจบ เขาก็โน้มศีรษะลงมาจูบบริเวณหว่างคิ้วเธอ “ถึง ยังไงเธอก็ไม่ได้จิตใจคงไม่ให้กลับไปครั้งสองครั้ง ไม่ทำให้ เธอน้อยใจหรอก”
ดราณีมองไปด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ “ใครจิตใจ……….
“ทั้งๆที่อยู่ใต้หลังคาเดียวกันแท้ๆ แต่ให้แฟนตัวเองไป นอนอีกห้องหนึ่ง มันเรีกว่าใจหรือเปล่า?” ชนัยขมวดคิ้วใบหน้าเต็มไปด้วยความหดหู แต่ก็ไม่เป็นไร ต่อไปเธอต้อให้ คืนเป็นสองเท่า
เขาจงใจเน้นคำสุดท้าย กลัวเธอฟังความหมายที่แฝงอยู่
ไม่ออก
แม้ว่าเราไม่เคยมีแฟน แต่ก็ได้ยินอะไรพวกนี้มาไม่น้อย ถ้าฟังไม่ออกก็โง่บรมแล้ว
เธอยกแขนขึ้นมาผลักร่างผู้ชายตรงหน้าอย่างอารมณ์เสีย “พอเลย คุณรีบไปนอนเร็ว
“พรุ่งนี้ฉันจะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลกับเธอสักหน่อย
ดราณีอึ้งไปสักพัก “คุณจะไปกับฉันทำไม?”
เทียบกับความกังวลของเธอ เขาช่างเฉยๆ ก็ไปเยี่ยมพ่อ ของแฟนว่าฟื้นตัวเป็นยังไงบ้าง งั้นจะให้ไปทำอะไร?
“ยังอีกสักพักเลยนะ ถ้าพ่อฉันเจอคุณ จะต้องซักไซ้แน่ๆ เลย….”
“งั้นเธอก็บอกไปตรงๆ ว่าฉันเป็นแฟนเธอ ไม่ได้น่าอาย สักหน่อย?”
ดราณีแค่คิดในใจก็เต้น ตึกตัก ตั้งแต่เด็กจนโตเธอไม่ เคยมีแฟน อย่าว่าแต่บอกให้คนในครอบครัวรู้เลย เธอเพิ่งขึ้น ปีหนึ่ง อายุยังไม่ถือว่าเยอะ ตอนนี้มีแฟนอย่างชนัยที่อายุเท่านี้ ทยุติจะมีปฏิกิริยาอย่างไรเธอไม่กล้าคิด………
“ฉันยังไม่ได้เตรียมใจ……
ชนัยคิดว่าเธอคงไม่อยากข่าวประกาศให้คนอื่นรู้ จึงค่อน ข้างตะลึง “เรื่องนี้มันมีแค่พูดกับไม่พูดสองทางเลือก ต้องเตรี ยมพร้อมอะไร?”
“ไม่ใช่ ฉันกลัวว่าคนในครอบครัวฉันจะ…….” เธอพูดได้ ครึ่งเดียวก็หยุด อยากจะพูดออกมาแต่ก็ลังเล
ชนัยเอ่ยถาม “จะอะไร?”
ดราณีไม่อยากจะพูดให้ชัดเจนนัก แต่เห็นได้ชัดว่าเขา ทำท่าอยากจะรู้ จึงได้แต่กัดฟันพูดความจริง “กลัวว่าจะรับไม่ ได้”
พูดประโยคนี้จบ ชนัยก็ไม่ได้เจ้ากี้เจ้าการต่อ แต่อึ้งไปเลย
ดูเหมือนว่าตอนนี้ได้คิดถึงความแตกต่างและช่องว่าง ระหว่างทั้งคู่ คนหนึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่มีหน้ามีตา คนนหนึ่งเป็น นักศึกษาที่น่ารักบริสุทธิ์ ในส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร แค่ สองเรื่องนี้ก็ทำให้คนนอกเกิดความคิดผุดขึ้นมาไม่ขาดสาย
เขาก้มศีรษะ “ฉันลืมไปว่าอาจจะสร้างปัญหาให้เธอได้
ดราณีนึกว่าเขาจะรำคาญเสียอีก จนกระทั่งเธอเห็นด้วย สถานะ ก็ไม่คิดว่าเขาจะพูดประโยคแบบนี้ออกมา
ชินกับอารมณ์รุนแรงของเขาไปแล้ว จู่ๆก็เปลี่ยนไปตราณี จึงค่อนข้าง……..กระอักกระอ่วน
เหมือนกับทำให้เขาน้อยใจ ในใจรู้สึกผิดอย่างมาก นอกจากนั้นเขาก็เพิ่งโพสต์รูปภาพพวกเขาจับมือกัน ท้ายที่สุดแล้ว เธอจะไม่ตอบรับได้อย่างไร ยิ่งทำให้ตราณีรู้สึกขาด ดุล
ถ้าเขาเถียงกลับมาเสียยังดีกว่า ยิ่งเขาทำเหมือนเห็นอก
เห็นใจเธอยิ่งรู้สึกแย่
เงียบอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไร จึงเอ่ยถามเสียงเบา “คุณไม่โอเคหรอ?”
ชนัยก็ไม่ได้ปิดบัง นัยน์ตาที่ตื่นเต้นเมื่อครู่หายไปแล้ว กลายเป็นเย็นชา “อืม”
ในใจดราณีไม่ได้หงุดหงิด “บอกกับฉันได้นะ ไม่ต้อง เห็นใจกันก็ได้”
“ฉันพูดแล้วเธอจะเห็นด้วยหรอ? แถมเธอก็พูดถูก ฉันไม่ คิดรอบคอบเองแหละ” พูดจบ เขาก็เสริมประโยคที่เป็นแง่ลบ “ฉันไม่ได้แค่อยากป่าวประกาศหรอกนะ ไม่อยากเลิกกับแฟน ฉันเพราะครอบครัวต่อต้านด้วย”
ถ้าให้คนในครอบครัวเธอรู้ ไม่ได้รับการยินดีด้วย เขาก็ ยินยอมให้อีกฝ่ายไม่รู้ดีกว่า
เห็นท่าทางหญิงสาวที่โทษตัวเอง ชนัยก็ไม่มีกระจิตกระใจ จะพูดอะไร ทำได้เพียงถอนหายใจ “ดราณี เมื่อก่อนฉันไม่เคย กลัวอะไร แต่ตอนนี้ฉันกลัวที่จะเสียเธอไปมากๆ ฉันเลยไม่ พอใจแต่ฉันทนได้ แค่เธอพอใจก็ดีแล้ว
“คุณอย่างพูดแบบนี้สิ…….
“แล้วให้ฉันพูดยังไงล่ะ?” จู่ๆเขาก็หัวเราะออกมา อารมณ์ ทั้งผิดหวังและอื่นๆที่เธอดูแล้วไม่เข้าใจ “ฉันอยู่ในกำมือเธอ แล้ว”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ