ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน696ครอบครัวอยู่ที่โรงพยาบาล



ตอน696ครอบครัวอยู่ที่โรงพยาบาล

ตอนที่696 ครอบครัวอยู่ที่โรงพยาบาล

ชนัยพูดอย่างไม่เขินอาย ใจของดราณีนั้นไม่ค่อยมี ภูมิคุ้มกัน และเมื่อคำพูดออกมาจากปากลุง นั่นทำให้เธอยิ่ง รู้สึกอายมาก

ใบหน้าของเธอแดงจนมองเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่า ปฏิเสธ คำพูดของลุงวู “ไม่หรอกค่ะ เขาจะมีเวลาที่ไหนมาคิดถึงหนู

ดราณีแค่ต้องการจะพูดให้เข้าใจ ไม่คิดว่าเมื่อชนัยฟัง แล้วก็รีบพูด “ผมจะไม่มีได้อย่างไร แต่ให้ทำงานหนัก ธุระจะ เยอะ ขอแค่คุณยินดี ผมมีเวลาเกินพอที่จะคิดถึงคุณ

เมื่อได้ยินคำพูดหน้าไม่อายของชายคนนั้น ดราณีก็รู้สึกว่า

น่าขันและทำอะไรไม่ถูก “คุณอย่าพูดจามั่วชั่วได้ไหม”

“ผมพูดมั่วที่ไหนกัน ผมจริงจังทุกคำ มีแต่คุณเท่านั้นที่ไม่ เชื่อ” ชนัยพูดจบก็รู้สึกน้อยใจ “คุณลองถามลุงวูด นอกจากคุณ แล้วผมเคยไปส่งผู้หญิงที่ไหนไปโรงเรียนอีก อย่าว่าแต่ไป โรงเรียนเลย ต่อให้ไปช็อปปิ้งก็ไม่ไปส่งหรอก คุณโชคดีแค่ ไหนแล้วยังไม่รู้ตัวอีก”

ลุงวูสังเกตการเคลื่อนไหวด้านหลังของเขา เขาขับรถให้ ชนับมาเป็นเวลาหลายปี แน่นอนว่าต้องเข้าหาเขาอยู่แล้ว “ใช่ แล้วครับคุณดราณี นอกจากคุณแล้วคุณชนัยก็ไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมาขึ้นรถของผมเลย

ถึงแม้ดราณีจะไม่เชื่อคําพูดชนัย แต่ถ้าเป็นคำพูดของลุงวู เธอก็ค่อนข้างเชื่อถือ

จริง

เขาไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนขึ้นรถของลุง เธอเป็นคนแรก อย่างนั้น

ความคิดนี้แวบเข้ามาในหัวสมอง หัวใจของเรารู้สึก ปลอดโปร่ง แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไม

การคบหากับชนัยในช่วงเวลาหลายวันนี้ เธอสัมผัสได้ ถึง แม้ผู้ชายคนนี้จะมีผู้หญิงมาแล้วหลายคน แต่ความรู้สึกภายใน ใจของเขายังบริสุทธิ์อยู่ ไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่เหมือนเด็กเช่น

นี้ เปลี่ยนวิธีซ้ำแล้วซ้ำเล่า แค่หลายปีมานี้ เขาได้ก็อายุสามสิบกว่าแล้ว ไม่มีใครที่

เขาพากลับบ้าน

จะบอกว่าเพราะเขามีวิสัยทัศน์ดีหรือเพราะว่าปรับตัวเข้า กับคนอื่นไม่ได้

ความน่าจะเป็นมากที่สุดสำหรับอดีตของเขาก็คือ ที่สุด แล้วชนัยเข้มงวดกับทุกสิ่งเสมอ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความรู้สึก เขากลัวว่ามันจะเป็นอันตรายร้ายแรงเกินกว่าที่เป็น

เมื่อคิดได้ดราณีก็ไม่ต้องการที่จะแหย่เขาอีก “ความจริง แล้วคุณเป็นอย่างนี้ก็ไม่ค่อยดีนักนะ”
ดูเหมือนเขาจะรู้ว่าเธอกำลังจะพูดอะไรต่อไป เขาไม่รอให้ เธอเปิดปากก็รีบพูดขัดขึ้นทันที “เอาล่ะ คุณไม่ต้องพูดแล้ว คุณ ไม่พูดผมยังพอทำใจง่ายหน่อย

ดราณีเบ้ปาก ปล่อยผ่าน

รถขับไปอย่างราบรื่นตลอดทาง เมื่อขับไปถึงประตู โรงเรียนก็ยังเป็นมาถึงเร็วเกินไป ดราณีหาจุดที่ไม่เป็นเป้า สายตาให้ชนัยจอดรถ

เธอหยิบกระเป๋าและกล่าวลาชนัยซึ่งอยู่ด้านข้าง “ฉันไป

ละ”

“อื้อ” ชนัยเสียงอ่อยและถามกลับไป “พรุ่งนี้คุณจะยังมา บ้านผมไหม”

เสียงนั้น ท่าทางนั้น เหมือนกำลังจะขาดใจอยู่หน้า

โรงเรียนอนุบาล กล่าวอำลาเพื่อนนักเรียนอย่างนั้น

น่าเสียดายที่ดราณีไม่เดียงสาเหมือนกับเด็กด้วย สายตา เธอแน่วแน่ “ฉันไม่ไปแล้ว

บาดแผลบนร่างกายของชนัยนั้นดีขึ้นแล้ว เธอจะไปอีกมัน ก็ไม่ใชเรื่อง

ที่จริงแล้ว ในสองวันนี้เขาก็สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เพียงแค่ใจไม่อยากเองเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่อยากบังคับตัว เองออกไปข้างนอก

ตอนนี้เขาไม่มีปัญหาอะไรในการพักฟื้น เธอก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไป

แต่ชนัยกลับไม่คิดอย่างนั้น หลายวันมานี้เขาคุ้นเคยกับ กับการที่ต้องมาเปิดประตูตอนเช้า หรือว่าฉากที่เมื่อกลับถึง บ้านก็จะเห็นเธอ อยู่ๆก็ต้องกลับไปใช้ชีวิตอย่างชายโสด

เขาปรับตัวไม่ได้รู้สึกอึดอัดมาก แค่คิดก็รู้สึกแย่แล้ว

“คุณช่างโหดร้ายเหลือเกิน” ชนัยต้องการว่าเธอให้เกิน จริง จะได้ทำให้เธอรู้สึกละอายใจ

ตราณีไม่ฟังเขาพูดไร้สาระ “ฉันจะไปแล้ว เดินทางไป บริษัทดีๆค่ะ”

ชนัยมองตามไปตลอด เขามองเธอสะพายกระเป๋านักเรียน ขึ้นหลังและเปิดประตูรถออกไป

ลุงวูเห็นผู้หญิงตัวน้อยเดินห่างไปไกลแล้ว แต่ชายร่าง

ใหญ่กลับยังไม่สามารถละสายตาจากเธอได้ เขาก็อมยิ้มขึ้นอยู่

ครู่หนึ่ง “นายน้อยครับ คุณดราณีไปไกลแล้ว เราไปกันนะครับ

“อื้อ” เมื่อได้ยินชนัยถึงหยุดมอง และหันกลับมานั่งตัวตรง สายตากลับไปดูที่ เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง สาย ข้อมูลตัวเลขการขึ้นลงของตลาด

ลุงวูสตาร์ทรถ เมื่อล้อเริ่มหมุน ขณะที่กำลังจะเพิ่ม ความเร็วเล็กน้อย ทันใดนั้นรถก็ถูกกระแทก รถกระตุกสองสาม ครั้งและนิ่งไป รถสั่นรอบด้าน

ชนัยที่นั่งอยู่ด้านหลังก็ตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหากว่าบนตัวเขาไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ ตอนนี้คงถูก กระแทกไปที่ด้านหลังเบาะ

เขาขมวดคิ้วและมองไปยังหน้าจอสีดำ “เกิดอะไรขึ้น”

ลุงขับรถให้เขามานานหลายปี ไม่ต้องพูดถึงอุบัติเหตุ แม้แต่รอยขีดข่วนก็ไม่เคยมี

เมื่อเทียบกันแล้วลุงค่อนข้างสงบนิ่ง เขามองเห็นเด็กผู้ หญิงกำลังวิ่งมาจากการมองที่กระจกมองหลัง “นายน้อย คุณ ดราณีกำลังวิ่งตามรถมาทางด้านหลัง

วิ่งตามรถรี

ดราณีวิ่งตามรถเขารี

เธอวิ่งตามรถมาทำไม เมื่อครู่ถ้าหากลุงไม่พูดประโยคนี้ ยังไงเขาก็ไม่มีทางมองเห็น

ระหว่างที่ชนัยกำลังขบคิดอยู่นั้น ร่างเล็กๆ ในกระจกนั้นน่า จะวิ่งไม่ไหวแล้ว มือทั้งสองของเธอจับที่หัวเข่า หัวตกลงและ หอบหายใจ

ชนัยรีบบอกลุงวูทันที “กลับรถ

“ครับ!”

ดังนั้น บนถนนที่แคบผิดปกติสายนี้ รถเบนท์ลีย์ก็จอด

ข้างๆเธอ

ดราณีเดินมาหยุดอยู่ที่ข้างหน้าต่าง เมื่อเงยหน้าเธอก็เต็มไปด้วยน้ำตา เธอไม่รอให้เขาพูดอะไร “ชนัย ส่ง ส่งฉันที่โรง พยาบาลหน่อย”

เมื่ออยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ชนัยคิดว่าตัวเธอเองไม่สบาย ตรงไหน รอยยิ้มและความขี้เล่นบนใบหน้าก็หายไปหมดสิ้น “คุณเป็นอะไร”

ในขณะที่พูดล็อคของรถก็ปลดออก ดราณีกลับเข้าไปนั่ง ในรถอีกครั้ง เธอยังคงหอบหายใจอยู่เล็กน้อย แต่ว่าไม่ได้วิตก ลังวลมาก

ดราณีสายหัวพร้อมตาสีแดง “ไม่ใช่ฉัน พ่อของฉัน พ่อ ฉันเลือดออกในสมองตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว

ชนัยขมวดคิ้ว มิน่าถึงรีบร้อนขนาดนี้ ที่แท้คนใน ครอบครัวประสบอุบัติเหตุ

“โรงพยาบาลอะไร

“โรงพยาบาลธัญมน”

เมื่อเห็นใบหน้าเกือบจะขาวซีดของหญิงสาว ชนัยก็ยื่นมือ ไปจับมือไปจับมือน้อยอันสับสนสั่นเทาของหญิงสาว ครู่เดียวก็ ถึงมันอยู่ใกล้มาก ผมจะประสานงานกับทางคณบดีที่นั่นให้ พ่อ ของคุณจะไม่เป็นไร”

แม้จะไม่รู้ว่าตอนนี้พ่อของเจอจะอาการหนักเพียงใด ชนัย ได้แต่ปลอบใจเธอเท่านั้น

เมื่อพูดจบเขาก็กดโทรศัพท์หาคณบดีของโรงพยาบาลธัญมนเป็นคนแรก

โทรศัพท์ดังไม่นานก็มีคนรับ “นายน้อยชนัย สวัสดีครับ ตื่นแล้วก็โทรหาผมเลยหรือ

ชนัยไม่อ้อมค้อมกับเขา เขาบอกไปตรงๆ “มีผู้ปกครอง ของเพื่อนต้องการเตียงและห้องผ่าตัด คุณช่วยจัดการให้ หน่อย”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ