ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน663รักษาคนที่อยู่ตรงหน้าไว้



ตอน663รักษาคนที่อยู่ตรงหน้าไว้

ตอนที่633รักษาคนที่อยู่ตรงหน้าไว้

“มีบุหรี่ไหม?”

ปรัณเอาบุหรี่ที่ในลิ้นชักให้เขาทั้งกล่อง

ผู้ชายรีบแกะกล่องระหว่างที่เขาทำนั้นการกระทำของเขา เห็นได้ชัดเจนว่ากำลังความกระวนกระวายนัชชานั่งอยู่ข้างๆ เขาเห็นได้ชัดว่านิ้วของเขานั้นสั่นทุกนิ้ว

ในตอนที่เขาคีบบุหรี่เอาไว้ที่ปากนั้นก้นบุหรี่กับปลายบุหรี่ ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย

นัชชารู้ว่าเขากำลังทนและทนอย่างยากลำบาก

หลายปีผ่านมานี้เขาทำงานแล้วใช้ชีวิตคนเดียวมีเวลาที่ อยู่กับครอบครัวน้อยเพราะเขาอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวยจึง ทําให้เขาโดดเดี่ยว

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เคารพความสัมพันธ์กลับ กันเขาเป็นคนที่เห็นความสัมพันธ์นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดแต่แค่ เขานั้นพูดไม่เป็นและไม่รู้จะทำยังไงเท่านั้นเอง

ก็เลยเอาทั้งหมดมาเก็บไว้ในใจตอนที่ประชุมเกี่ยวกับ ปัญหาพวกนี้ก็จะรู้สึกเศร้ามากๆ

เตชิตดูดบุหรี่เงียบๆที่จริงเขานั้นก็ไม่ได้คิดมากหรือบอกว่าไม่รู้ต้องคิดยังไงจะดีกว่าตอนนี้ตัวของเขานั้นเหมือนโล่งไป หมด

แค่นึกไปถึงสุขภาพร่างกายของคุณท่านเขาก็ไม่รู้จะทำยัง ไงต่อแล้ว

ดับไฟบุหรี่ที่เหลืออยู่สุดท้ายเตชิตก็ยอมพูดปรัณพวกเรา เตรียมตัวไว้เถอะ

ปรัณไม่คิดว่ารอมาตั้งนานจะได้ยินเขาพูดแบบนี้ทีแรกนึก ว่าเขาจะเหมือนเมื่อก่อนที่ไม่ยอมเชื่อความจริงและหลอกตัว เองและจะให้ตัวเขานั้นคิดหาแผนวิธีที่รักษาต่อไม่คิดว่าคำที่ เขาจะพูดคือเตรียมตัวไว้

อาจจะเป็นเพราะไม่คาดคิดเกินไปพอได้ยินคำนี้ปรับเองก็ อึ้งไปเลยผ่านไปสักพักถึงจะพยักหน้า “โอเคฉันจะพยายาม”

ผู้ชายไม่ได้แสดงอารมณ์ออกมานิ่งเหมือนน้ำที่ไม่มี คลื่น ส่วนทางนั้นเขาเองก็คงคงเข้าใจ

“อืม”

ถ้าจะบอกว่าร่างกายของตัวเองใครเข้าใจมากที่สุด นอกจากหมอก็คงจะเป็นตัวของท่านเองแล้วสมองของเขานั้น อยู่ปกติดีไม่ว่าพวกเขาจะปลอบใจยังไงคุณท่านก็รู้สถานการณ์ ของตอนนี้ดี

คงจะอยู่ได้อีกไม่นานถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปท่านเองก็คงจะ ทุกข์ทรมานจนทนไม่ไหว
เตชิตหลับตาไม่กล้าคิดว่าช่วงเวลาที่เหลือนี้คุณจะต้อง ผ่านอะไรบ้างสิ่งที่เขาสามารถทำได้ก็คือยอมรับความจริงและ เคารพสิ่งที่จะเกิดขึ้น

“ฉันไปแล้ว”

ปรัณไม่รู้ควรจะอยู่ยังไงเหมือนตอนนี้ไม่ชอบเวลาที่ควรจะ ยื่อไว้ก็เลยต้องพูดไปว่า ระหว่างทางก็ระวังความปลอดภัย ด้วย”

พูดจบเขาก็ส่งสายตาให้นัชชากำลังบอกเธอว่าดูแลผู้ชาย คนนี้ที่อ่อนแอดีๆ

นัชชารู้แล้วก็เลยเดินตามหลังผู้ชายคนนี้ไป

ทั้งสองคนคนหนึ่งเดินหน้าอีกคนเดินหลังไปถึงประตูห้อง ทำงานอยู่ดีๆเตชิตก็หยุดเดินแต่โชคดีที่นัชชาหยุดทันไม่อย่าง นั้นเขาคงไปชนที่หลังเขาแล้ว

เธอมองไปทางเขาอย่างเป็นห่วงเป็นอะไร?”

เตชิตหลับตาไม่ได้พูดอะไร

วันนี้ออกจากประตูนี้ก็ไม่สามารถที่จะฝันได้อีกว่าคุณท่าน จะหายดีกลับมาแต่จะต้องเตรียมตัวทำเรื่องภายหลังเตรียมตัว ส่งท่านครั้งสุดท้าย

ประตูบานนี้เหมือนประตูความเป็นความตายเตชิตต้องใช้ แรงสุดตัวถึงจะก้าวไปได้

หยุดหายใจหลับตาทั้งหมดกลับสู่ความมืด
ผ่านไปนานมากแล้วเขานั้นยืนอยู่ตรงหน้าประตูเกือบจะ

ห้านาทีแล้วถึงจะยอมยกเท้าเดินออกไปแต่วินาทีที่ก้าวไปนั้น น้ำตาที่อยู่ในตานั้นไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้

นัชชาเดินอยู่หลังของเขาตั้งแต่ต้นจนจบตลอดจนทางเดิน สุดท้ายเขานั้นมองไปทางหน้าต่างตัวที่สูงอย่างนั้นเริ่มงอตัวลง มาเหมือนเสียที่ยึดไปอีกนิดเดียวก็จะล้มสู่พื้น

ไหล่ที่กว้างใหญ่นั้นสั่นเบาๆแค่ดูเธอก็รู้ว่าเขากำลังร้องไห้

เพราะเขาอยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้จำนวนครั้งที่นัชชา เห็นผู้ชายคนนี้ร้องไห้ใช้มือเดียวนับก็เหลือเฟือช่วงเวลานี้ที่คุณ ท่านไม่สบายตาของเก็แดงบ่อยๆ

เลือดข้นกว่าน้ำพอได้ยินคำพวกนี้ต้องส่งคนที่สนิทและ ใกล้ชิดกับเราจะเป็นเรื่องที่ทรมานมากขนาดไหน

ลมพัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างผมที่อยู่ตรงหน้าผากพริ้ว ไหวตามแรงลมนัชชายืนดูอยู่ที่เดิมทั้งสองไม่ได้พูดคุยกันแม้ กระทั่งเขาก็ไม่ได้หันหลังแต่ความโศกเศร้าของเขานั้นเธอเองก็ รับรู้ได้

อยากให้เขาสงบสติอารมณ์ด้วยตัวเองที่เขากลั้นและ อดทนไว้มือของเธอที่อยู่สองข้างนั้นกำหมัดแน่นแม้กระทั่งเล็บ แทงเข้าไปในมือเธอเธอเองก็ไม่รู้สึกตัว

หายใจเข้าลึกๆแล้วหายใจออกสุดท้ายก็ทนไม่ไหวเดิน เข้าไปตรงหน้าไปกอดผู้ชายคนนี้ที่กำลังอยู่ในความโศกเศร้า เข้าไปในอ้อมกอดเธอ
มือไปกอดที่เอวของเขาแน่นๆหน้าของเธอติดกับแผ่นหลัง ที่เย็นเฉียบของเขาตัวเธอนั้นติดกับตัวเขาอยากจะให้เขาได้ยิน เสียงหัวใจของตัวเองอย่างชัดเจน

“ฉันจะอยู่เคียงข้างนายตลอดไป”

ไม่รู้ว่าเอาความกล้ามาจากไหนแค่อ้าปากก็บอกว่าตลอด ไปแต่อย่างน้อยเธอก็มีความคิดแบบนี้ไม่ว่าโลกใบนี้ใครจะมา หรือไปเธอนั้นจะอยู่เคียงข้างเขาตลอด

“ตลอดชีวิตยาวเกินไป……….เสียงของผู้ชายแหบจนไม่รู้ จะพูดยังไงทุกคำพูดที่เขาพูดออกมานั้นเต็มไปด้วยความโศก เศร้า”ฉันไม่สามารถที่จะซื้อเขาไว้ได้…..…….ไม่ได้เลย

นัชชารู้สึกเอ็นดูเขามาก “คนเราเกิดมาก็ต้องตายเตชิต นายไม่สามารถที่จะตัดสินการเป็นการตายของคนอื่นได้รวมไป ถึงนายและฉันสิ่งที่พวกเราทำได้คือรักษาทุกวินาทีที่เหลืออยู่

เขายิ้มออกมาเล็กน้อย “ฉันไม่มีเวลาแล้วและไม่มีโอกาส แล้ว”

นี่ถึงจะเป็นจุดที่ทำให้เขารู้สึกลำบากที่สุดเมื่อก่อนเขา เพื่องานคิดว่าสิ่งที่ทำให้คนในบ้านได้มากที่สุดก็คือด้านการ เงินและมีอยู่ช่วงเวลาหนึ่งเขาคิดว่าครอบครัวนี้ไม่ต้องการเขา เขานั้นเป็นส่วนเกินหลังจากที่คุณแม่สร้างครอบครัวใหม่เขาก็ ยิ่งหลบๆซ่อนๆจํานวนครั้งที่เขากลับบ้าน ในปี ใช้แค่มือเดียว นับยังได้

แต่ถ้าวันนั้นที่ไปรับของในบ้านเก่าตอนที่คนใช้เปิดลิ้นชักของคุณท่านเขาเห็นเกียรติบัตรทั้งหมดนั้นตัวเขาก็อึ้งไปเลย

นั่นคือเกียรติบัตรที่เขาได้ตอนสมัยเรียนมีอยู่บางอันที่เขา ก็จำไม่ได้แล้วแต่คุณท่านกลับเก็บไว้ตลอด

ในความทรงจำสมัยเด็กคุณท่านเป็นคนที่เข้มงวดมากเขา ไม่เหมือนผู้ปกครองของคนอื่นที่เมตตาเข้มงวดกับเขาตลอด

คิดไปคิดมานานมาแล้วที่คุณท่านก็หวังไว้ว่าเขานั้นจะเป็น คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต

ท่านภูมิใจในตัวเขาขนาดไหนถึงเก็บเกียรติบัตรเก่าๆถึง

ทุกวันนี้ได้?

เตชิตไม่กล้าคิดหัวใจของเขาเจ็บเกินไปแล้วเหมือนมีคน กำลังใช้ค้อนทุบอยู่แม้กระทั่งหายใจก็ยังลำบาก

เขาเหมือนจะมองข้ามความห่วงใยและความรักที่คนแก่

คนนั้นให้มาและคนแก่คนนั้นก็ไม่เคยที่จะพูดถึง

รักษา?

เขาไม่มีเวลารักษาแล้วสิ่งที่โหดร้ายที่สุดในโลกใบนี้ก็คือ ในตอนที่เขาอยากจะไปรักษาคนๆหนึ่งแต่คนๆนั้นกลับไม่อยู่ แล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ