ตอน653ถือกุหลาบแล้วยืนอยู่หน้าประตูมหาลัย
ตอนที่653ถือกุหลาบแล้วยืนอยู่หน้าประตูมหาลัย
บ้านหนึ่งมีสุขอีกบ้านมีทุกข์คำนี้ใช้ที่โรงพยาบาลเหมาะ สมที่สุดแล้ว ในด้านนี้ที่ชีวภาเริ่มมีอาการดีขึ้นทางด้านอาการ ของคุณท่านก็เริ่มแย่ลง
ปรัณเป็นคนที่อยู่ตรงกลางและเป็นคนที่เคร่งเครียดมาก
ที่สุด
เขารู้สึกว่าเขาต้องหาวันหยุดให้ตัวเองสักวันแล้วไม่อย่าง นั้นเขาคงจะเป็นบ้าแน่ๆ
เพราะคิดแบบนี้หลังจากที่เขาเลิกงานเขาก็นัดกับชนัยเพื่อ ที่จะไปดื่มเหล้าที่ร้านของเขา
ชนัยยินดีอย่างยิ่งและเตรียมเหล้าที่ดีที่สุดแล้วก็แพงที่สุด ให้เขาทำความสะอาดห้องVIP ให้สะอาดหมดจดรอการมาถึง ของเขา
มันเป็นการนัดเจอระหว่างเพื่อนสนิทก็เลยไม่เรียกคนอื่น มามั่วปรัณมองไปทางห้องที่โล่งไปหมดจึงพูดขึ้นว่า “นายไม่ ต้องเกรงใจฉันอยากเรียกใครมานั่งเป็นเพื่อนก็เรียกมาเลย
ชนัยหัวเราะเบาๆจะดื้อขนาดไหนก็ดื้อขนาดนั้นจะดูไม่ได้เรื่องขนาดไหนก็ดูไม่ได้เรื่องขนาดนั้น ไม่เรียกแล้วเล่นทุกวัน จนฉันเหนื่อยแล้ว”
พอปรัณได้ยินแบบนี้ก็หัวเราะออกมา”นายไม่ต้องพูดกวน ถ้าวันไหนนายเหลือแต่ความว่างเปล่าขึ้นมาจริงๆนายจะได้รู้ว่า อะไรคือบาปของปาก!”
“พี่วางใจได้มีพี่ที่ดีเหมือนพี่ถึงฉันจะเป็นแบบนั้นก็เป็นไป ไม่ได้นี่!”พูดจบชนัยก็เทเหล้าให้เขา แล้ววันนี้นึกยังไงพี่ถึงมา หาฉันได้?”
พอพูดถึงเรื่องนี้ปรัณก็ยิ่งรู้สึกกดดันเขาจึงถอนหายใจ ยาวๆ “นอกจากนายฉันจะหาใครได้อีก ช่วงนี้ความรู้สึกของเต ชิตแย่กว่าฉันอีก”
“มันก็ถูกชนัยพยักหน้า “พี่มันเป็นผู้ชายที่ใจร้ายจริงๆ ไม่มีคนอยู่เป็นเพื่อนถึงจะนึกถึงฉันได้
ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจเขาควรจะเลิกงานแล้วกลับไปนอนที่ บ้านแต่ไม่ใช่มาฟังเขาพูดประชดประชันที่นี่
เขาใจร้อนไปหน่อยแล้ว
เสียงแก้วชนกันดังขึ้นเบาๆแสงที่อยู่ด้านบนส่องลงมา ทำให้เห็นเงาที่ขยับไปมา
ผู้ชายยกแก้วแล้วส่งไปที่ริมฝีปากลูกกระเดือกที่ดูเซ็กซี่นั้น ขยับไปมาจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นแล้วดื่มลงไปทั้งหมดทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรแต่สิ่งนี้ก็เป็นภาพที่สวยงามแล้ว
“ช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นระหว่างพี่กับสุวีรา?”ชนัยนึกถึงโพสต์ที่ เห็นวันนั้น เธอโพสต์ลงแล้วนะ”
“โพสต์?”ปรัณอึ้งไปครู่หนึ่งเหมือนเขาจะไม่รู้เรื่องอะไร เลย” โพสต์อะไร?”
ชนัยหยิบโทรศัพท์ตัวเองแล้วเปิดแอปแล้วไปกดที่รูป ประจำตัวของสุวีราจากนั้นก็ไปดูโพสต์ที่เธอเคยโพสต์
คนเราอยู่บนโลกใบนี้ตัวเองมีความสุขก็พอแล้วคุณอยาก ให้คนอื่นมีความสุขแต่เขากลับไม่สนใจความหวังดีของคุณเอา เวลาที่ไปยุ่งเรื่องคนอื่นมาดูแลตัวเองดีกว่า
ด้านหลังสุดของคำพูดมีรูปสติ๊กเกอร์หน้ายิ้มไม่ใช่เป็น เพราะอารมณ์ดีจริงๆ แต่เหมือนการประชดประชันมากกว่า
ปรัณเปิดดูที่โทรศัพท์ของตัวเองกลับไม่เห็นโพสต์นี้
ชนัยเห็นหน้าของเขาเริ่มดูแย่ส่วนตัวเขานั้นก็ดีใจเหลือ เกินนี่สรุปคือพี่ถูกบล็อกใช่ไหม?
“ไปไกลๆ”
“พี่ปรัณพี่ไปทำอะไรใส่เธอเนี่ยต่อไปคงอยาก แล้ว………
การที่บล็อกไลน์ไม่ให้เห็นการโพสต์ของตัวเองนั้นก็เป็น เรื่องที่ทำให้รู้สึกเจ็บเหมือนกันนี่จะเกลียดอะไรขนาดนั้นเนี่ยแม้ กระทั่งตอนที่ด่าเขาก็ยังไม่อยากให้เขาเห็น
นัยรู้สึกสงสาเขา
“ก่อนหน้านี้เธอบ่นฉันตลอดและช่วงเวลานั้นฉันก็ยุ่งมากๆ ด้วยฉันมีใจที่จะอยากทำอะไรก็ไม่มีเวลาที่จะไปทำก็เลยทำให้ เธอไม่พอใจฉัน ระหว่างที่พูดปรัณก็ดื่มเหล้าไปด้วย ตอนนี้ฉัน ไม่อยากจะพบหน้าเธอเรื่องของฉันเยอะเกินไปและฉันก็ พยายามควบคุมอารมณ์ไว้อยู่ถ้าเจอหน้ากันก็เป็นการทำร้าย ซึ่งกันและกันอยู่ดี”
ชนัยพยักหน้า “ก็ใช่อย่างที่พูดแต่ก็รู้สึกว่าน่าสงสารมาก
เลย
พอรับรู้ถึงสายตาที่จะฆ่าคนของคนบางคนได้ชนัยก็รีบ ยอมแพ้ทันที “พอแล้วๆถือว่าฉันไม่ได้พูดแล้วกันก็ฉันเห็นพี่ไม่มี ความสุขก็เลยแกล้งพี่วางใจได้ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้นแหละ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย”
“นายเข้าใจ?”
“แน่นอนสิกคนอย่างฉันไงที่เขาบอกกันว่าเดินอยู่ในสวน ดอกไม้ก็ไม่เคยมีดอกอะไรติดตัวมา”ชนัยไม่รู้สึกอะไรเลยแม้จะ น้อยตอนที่พูดเขาก็ยังรู้สึกได้ใจอยู่
ปรัณไม่อยากเห็นหน้าตาที่เขาได้ใจแบบนี้สุดๆก็เลยพูด มาว่า”เก่งขนาดนั้นทำไมยังเคลียร์เรื่องน้องนักศึกษาไม่ได้ ล่ะ?”
ชนัยที่หยิบสตรอเบอร์รี่มาจากจานกำลังจะใส่เข้าปากก็ อึ้งไปแป๊บนึงจากนั้นก็เหมือนแมวที่โดนเหยียบหางเหลือเพียง จะกระโดดขึ้นสูง3เมตรที่เขาไม่ได้ทำ “น้องนักศึกษาอะไรพวกพี่ พูดอยู่ทุกวันฉันยังไม่เคยพูดเลย?”
“นายไม่พูดแต่ก็แอบจีบเขาอยู่ไม่ใช่หรอ?”
“เปล่าสักหน่อย!”ชนัยปากแข็งไม่อยากจะยอมรับถ้าเขา ยอมรับเรื่องแบบนี้จะเอาหน้าไปไว้ไหน
“ไม่แล้วยังจะไปที่มหาลัยเธอทุกวัน?”
“ฉันไปเมื่อ………?”พูดถึงครึ่งชนัยรู้สึกว่าแปลกๆ “พี่รู้ได้ ไงว่าฉันไปโรงเรียนของเธอ?”
“นายทายดูสิ”
ชนัยรู้สึกมีเหงื่อไหลเต็มหลังมีความรู้สึกที่โดนคนอื่นจับ จ้องตลอดแต่ตัวเองกลับไม่รู้ตัว “ฉันจะทายได้ยังไงพี่คงไม่มี ทางว่างจนหาคนมาจับตามองฉันตลอดมั้ง?
“นายคิดว่าฉันคือนายหรือไงที่จะว่างขนาดนั้น?”ปรัณมอง ค้อนใส่เขา “นายไปรอคนอื่นเขาที่หน้าโรงเรียนลูกน้องของเต ชิตก็ไปเจอพอดีบอกว่านายถือดอกกุหลาบสีแดงหนึ่งช่อแล้ว ยืนอยู่ที่หน้ามหาลัย
หน้าของชนัยเหมือนจะเริ่มร้อนนึกถึงวันนั้นที่ตัวเองทำ เรื่องน่าอายที่หน้ามหาลัยก็รู้สึกไฟจะขึ้นหัวแล้ว
ถึงแม้จะใจร้อนจริงแต่หน้าก็ต้องเก็บไว้เลยรีบปรับท่านั่ง แล้วพูดว่า “ซิพี่ไม่รู้ว่าหลังจากที่เธอได้รับดอกไม้นั้นดีใจมาก ขนาดไหนผู้หญิงก็แบบนี้แหละปากบอกไม่เอาแต่การกระทำนั้น ซื่อสัตย์เหลือเกินตอนนั้นบอกว่าจะกลับไปที่ซีไมเนอร์กับฉันแต่ ฉันไม่ตกลง!”
ปรัณยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรแค่อยากจะทำให้เขาหน้าแตก ยากที่ชนัยจะเจอคนที่ชอบเขาก็ไม่อยากจะแกล้งเขามาก
พวกเขาทั้งสองพูดคุยกันเป็นระยะเวลาหนึ่งพี่น้องกันเวลา กินเหล้ากันก็ไม่ต้องคำนึงถึงอะไรมากตอนแรกปรัณยังดื่มหนัก อยู่เพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดสามารถพักผ่อนได้แต่หลังๆมาเขาก็ เริ่มควบคุมตัวเอง
เขาจะควบคุมตัวเองในตอนที่ใกล้จะอ้วกแต่ชนัยกลับ แตกต่างจากเขาคือยิ่งดื่มยิ่งมีความสุขตอนที่ดื่มเข้าไปแล้วก็ อดที่จะดื่มต่อไม่ได้
ตอนสุดท้ายปรัณยังมีสติอยู่แต่ชนัยนะที่เมา
เมาก็เมาไปแถมยังจะไปส่งคนกลับบ้านอีกผู้จัดการก็เลย ต้องพยุงผู้ชายคนนี้ที่เมาไปที่ประตูและมองดูปรัณขับรถออกไป
“ประธานชมัยครับคนกลับแล้วพวกเราเข้าไปกันเถอะ
ครับ”
แต่ไม่คิดว่าชนัยกลับส่ายหัวอย่างแรง ไม่กลับ!” ผู้จัดการอยากร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตาไม่กลับบ้านแล้วคุณจะไปไหนครับ?”
“ไป………………เขาพูดคำว่าไปตั้งหลายครั้ง ในตอน สุดท้ายทุกคนนึกว่าเขาจะพูดอะไรออกมาแต่เขากลับพูดมา
ว่าไปมหาลัยของดราณี!”
ผู้จัดการ……………..
บอดี้การ์ด”
ทุกคนสบตากันแล้วแอบพูดกันในใจว่าควรจะนึกได้ตั้งแต่ แรกแล้วๆตอนที่คุณดราณีทำงานที่นี่ไม่มีใครสังเกตแต่พอไป จากที่นี่ก็กลายเป็นจุดเด่น
ทำไมถึงบอกว่าจุดเด่นหรอเพราะโรงเรียนของเธอนั้นเป็น ที่ๆชนัยไปทุกวันตอนแรกคิดว่าวันนี้จะไม่ไปแล้วแต่สุดท้ายก็ หนีไม่พ้นอยู่ดี
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ