ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน640เห็นเธอร้องไห้แล้วหงุดหงิด



ตอน640เห็นเธอร้องไห้แล้วหงุดหงิด

ตอนที่ 640 เห็นเธอร้องไห้แล้วหงุดหงิด

ดวงหน้าเล็กของดราณีส่ายหน้า เอ่ยเสียงแผ่วเบาเหมือน ยุงบิน “ไม่มีค่ะ”

เห็นว่าเป็นเช่นนั้น ชนัยก็ขมวดคิ้ว “ไม่มีจริงๆนะ?”

“อืม……”

บทสนทนาเพียงสั้นๆ ระหว่างทั้งสองก็ตกอยู่ในความ เงียบ เป็นเพราะตัวเองถึงกลายเป็นแบบนี้ ดราณีเหลือบมองไป ที่ประตูทางเข้ามคลับเฮาส์ แล้วเอ่ยเสียงเล็ก “คุณจะทำอะไร กับคนพวกนั้นคะ?”

ชนัยไม่คิดว่าเธอจะถามแบบนี้ นิ่งไปสักพักก่อนค่อยๆพูด ออกมา “ก็ไม่ยังไง

ไม่เหมือนกับตอนเข้ามาช่วยเธอในห้อง ชนัยในตอนนั้น มครีมอย่างเห็นได้ชัด เป็นความขุ่นมัวที่ทะลุออกมาจากใน กระดูก

ได้เจอชนัยที่เงียบขรึมแบบนี้ ดราก็ค่อนข้างหวาดกลัว แต่เธอต้องบังคับตัวเองให้พูดออกไป “อย่าทำอะไรพวกเขา เลยนะคะ…..

ความโกรธของชนัยทอดกลั้นอยู่ถูกคำพูดของเธอสะกิดขึ้นมาอีกครั้ง “เธอยังมีหน้าเป็นห่วงคนอื่นอีกหรอ? ดูสภาพเธอ ตอนนี้สิ เอาเวลามาห่วงตัวเองก่อนไหม?”

“ฉันกลัวทำให้เรื่องมันบานปลาย

“เรื่องอะไร?” ชนัยเอียงตัวไปจ้องเธออย่างอารมณ์เสีย “บอกฉันทีว่าเรื่องอะไร?”

ดราณีไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆเขาถึงได้โกรธ เธอมองเขา อย่างอธิบายไม่ได้ “ทำไมคุณโกรธอีกแล้ว”

ชนัยกลั้นไว้ในอก แบกความรู้สึกแย่ในสถานการณ์ที่ ลำบากอยู่นานก่อนจะเอ่ยออกไปด้วยเสียงทุ้ม “ดราณี ใน สมองเธอมีแต่ขี้เลื่อยหรอ? ไม่ใช่ห้องที่เธอรับผิดชอบเธอไปทำ บ้าอะไร? มีคุณธรรมช่วยคนอื่น ทำงานที่นี่มาหนึ่งเดือนไม่รู้เลย หรอ? หรือว่าปากบอกปฏิเสธ แต่จริงๆ ในใจก็อยากเกาะแกะ กับคนพวกนั้นด้วย?”

คำพูดเป็นพรืดก็เหมือนถูกระเบิดใส่ในใจของดราณี ใน แววตา สั่นไหวรุนแรงเหมือนกับแผ่นดินไหว เธอมองชนัยอย่าง ยากที่จะเชื่อ คิดไม่ถึงเลย เขาช่วยตนไว้แต่กลับสงสัยตน

เธอรู้สึกว่าตัวเองเสียหน้ามาก ถูกดูถูก

เกาะแกะ?

เขาคิดว่าตัวเองเป็นผู้ญิงเหมือนปานตาใช่ไหม?

ใบหน้าดราณีเห่อร้อน จ้องมองเขาเขม็ง “คุณเห็นฉันเป็นอะไร?”
“ตกดึงวิ่งไปหาคนอื่นในห้อง เขาให้เธอทำอะไรเธอก็ทำ เธอคิดว่าเธอเป็นคนยังไงล่ะ? เธอ……” ชนัยพูดถึงครึ่งหนึ่ง กำลังจะพูดต่อจู่ๆก็หยุดลง

ใบหน้าที่เดิมที่ขาวซีดจู่ๆหยาดน้ำตาใสก็ไหลลงมาเป็น ทางยาว และมีแนวโน้มว่าจะมากขึ้นเรื่อยๆ

หยดน้ำตาที่เหมือนเพชรไหลลงมาไม่ขาดสาย ไหลลงมา ตามใบหน้าเล็กลงไปถึงลำคอ

เธอร้องไห้เป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกก็คือตอนที่อยู่บนรถ

คิดเรื่องพวกนี้แล้ว ชนัยก็ยิ่งหงุดหงิด

เขาเอ่ยปากถามอย่างอารมณ์เสีย “เธอร้องไห้อีกแล้ว หรอ?”

ดราณีหดตัวร้องไห้เงียบๆ แม้แต่เสียงก็ไม่มี เธอกลัวชนัย อยู่หน่อยๆ เมื่อครู่ที่มองเขาเปลี่ยนไปนิดหน่อย พอเขาพูดใส่ แบบนี้ ก็กลับไปรู้สึกเหมือนเดิม

ชนัยเห็นว่าเธอไม่พูดไม่จา ก็ยกมือขึ้นเสยผมอย่าง หงุดหงิด “ถามเธออยู่นะ!”

“ฉันร้องไห้ไม่ได้หรือไง!” ในที่สุดดราณีก็พูดออกมาด้วย ความน้อยใจละโกรธ “คุณมาใส่ร้ายฉัน ฉันร้องไห้ไม่ได้เลย หรอ?”

ชนัยก็หมดคำจะพูดโดยสิ้นเชิง ปกติคนที่มีฝีปากคมคาย อย่างเขาตอนนี้กลับแสดงมันออกมาไม่ได้ สุดท้ายเขาก็มองออกแล้ว สำหรับดราณีคนนี้ เขาไม่มีทางเลือกจริงๆ ไม่มีเลย

“คุณบอกว่าฉันอยากไปเกาะแกะคนอื่น ฉันไปเกาะแกะ ใครล่ะ ก็ต้องขอบคุณคุณนะที่ทำให้ฉันได้ทำงานที่นี่ ถ้าไม่ใช่ เพราะคุณฉันก็ไม่ได้ติดต่อกับที่นี่หรอก ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่า ปานตาจะวางกับดักฉัน ฉันก็แค่คิดว่านั่นเป็นงานของฉัน ฉัน อยากหาเงิน แค่นั้นเอง” ดราณีไม่อยาให้คนอื่นเข้าใจตัวเอง ผิด เธอไม่อยากจะทำเรื่องแบบนั้น เธอรับไม่ได้

“ขอบคุณฉัน?” ชนัยหัวเราะ “ฉันบอกให้เธอไปได้ เธอ อยากอยู่เองนะ”

“ก็ไม่ผิด ฉันอยากอยู่เอง” ดราณีเงยหน้าไปมอง “นั่น เพราะว่าฉันอยากได้เงิน ฉันอยากทำงานหาเงินไม่ได้หรอ?!”

เสียงเข้มของเธอดังอยู่ข้างหู เต็มไปด้วยน้อยใจและความ

แน่วแน่อย่างอธิบายไม่ได้ แม้แต่ชนัยที่ฟังแล้วก็ยังรู้สึกว่าตัว

เองทําไม่ถูก

แต่พอนึกขึ้นมาได้ เธอเป็นอะไรกับตัวเองกันล่ะ เธอจะถูก คนอื่นรังแกหรือว่าถูกทิ้งไว้ ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาสักหน่อย

ชนัยคิดว่าตัวเองเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ ถึงได้มีเวลาว่างไป ใส่ใจเรื่องคนอื่น แถมยังเป็นผู้หญิงที่เขาเคยมีเรื่องด้วย ถ้าเป็น เมื่อก่อน เขาไม่แม้แต่จะไม่ใส่ใจ แต่ยังดีใจเมื่อเธอเดือดร้อน เลยด้วยซ้ำ

เขาเปลี่ยนไปเป็นจิตใจดีแล้วจริงๆ
แต่เพราะอะไรล่ะ?

ตอนที่เขาเดินเข้าไปเห็นดราณีถูกรังแกในห้องพระเจ้า เท่านั้นที่รู้ ว่าเขานั้นระเบิดมากแค่ไหน อยากจะจับผู้ชายสอง คนนั้นไปตอนทิ้ง เกิดความรู้สึกเหมือนของของตัวเองถูกคนอื่น ล่วงเกิน

แต่ก็ช่างมัน สิ่งที่ยิ่งน่ากลัวก็คือ เห็นดราณีน้ำตาไหลแบบ นี้ เขาพูดคำพูดแย่ๆไม่ออกเลย เขาไม่ได้เป็นคนที่อ่อนโยน ทะนุถนอมแบบนี้นะ!

เหมือนกับวันที่กลับจากงานแต่งของเตชิตและนัชชาเลย ความหงุดหงิดที่อธิบายไม่ได้มาอีกแล้ว

เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแต่สตาร์ทรถและขับไปที่ถนน

ใหญ่

ดราณีรู้สึกแย่จับใจ นึกว่าเขาจะพาตัวเองกลับบ้านอย่าง ไม่รู้ตัว ไม่ได้สนใจวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่าง พอเธอมีปฏิกิริยา ตอบกลับมา รถก็ขับไปบนลาดเขา

เธอเช็ดน้ำตาอย่างสะเปะสะปะ สายตาที่ร้องไห้จนบวม แดงมองไปนอกหน้าต่าง แล้วร้องออกมาด้วยความตกใจ “คุณ พาฉันไปไหนเนี่ย?”

เขาพ่นออกมาสองพยางค์อย่างกระชับได้ใจความ “กลับบ้าน”

กลับบ้าน?
ดราณีหันไปมองข้างนอกอีกครั้ง ตัวเองมองไม่ผิดแน่ “นี่ มันไม่ใช่ทางกลับบ้าน…….

“ใครบอกว่าไปบ้านเธอ?” ขณะที่พูด รถก็ขับข้ามเขาครึ่ง หนึ่งไปยังประตูอัตโนมัติ “เธอจะกลับไปสภาพนี้ได้ยังไง? ดราณีรีบพูด “ฉันอยู่ด้วยตัวเองได้ ฉันกลับได้

“มั่นใจนะว่าจะอยู่ที่ตึกอันตรายนั่น? เธอไม่กลัวเข้าตึกไป แล้วเจอผู้ชายสองคนเมื่อกี้มาแก้แค้นหรอ?” ชยพูดออกมา อย่างไม่สนใจ แต่ความหมายของทุกคำที่พูดแฝงคำขู่ไว้

ถ้าเป็นดราณีเมื่อก่อนคงเชื่อใจไปแล้ว แต่ตอนนี้เธอฉลาด ขึ้นมาหน่อยแล้ว ไม่ได้เก็บทุกคำพูดไว้ในใจ “พวกเขาสองคน นั้นไม่ได้ถูกคุณกักตัวอยู่หรอ จะมาแก้แค้นฉันได้ยังไง?

“เธอนึกว่ามีแค่พวกมันสองคนหรอ? ถ้ามีพรรคพวกล่ะ?” ชนัยพูดเรื่อยๆ เห็นแววตาสงสัยเธอกลายเป็นยิ่งกลัวขึ้นมา “พวกมันเป็นคนที่ไม่กลัวอะไร ฉันทำให้พวกมันเสียหน้า ไม่ กล้าเอาความไม่พอใจมาลงกับฉันหรอก ต้องเอามาลงที่เธอแน่ ถึงตอนนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ

ทันใดนั้นก็มีข่าวเกี่ยวกับลักลอบฆ่าพวกนั้นปรากฏขึ้นมา ในหัวดราณี เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ความกลัวของเธอยังไม่ได้ หายไปทั้งหมด ตอนนี้ชนัยพูดจาน่ากลัวแบบนี้ ก็ยิ่งรู้สึกสะพรึง กลัวหวาดผวาไปอีก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ