ตอน598ทํางานเก่งก็ต้องกิน
ตอนที่ 598 ทํางานเก่งก็ต้องกิน
นัชชาบอกว่าจะทําร้านดอกไม้ขึ้นมาใหม่ หล่อนจัดเตรียม ทุกอย่างขึ้นมา หล่อนหาความร่วมมือในการทำดอกไม้หรือวิธี การการนำเข้าดอกไม้เข้ามา แล้วก็เริ่มทานข้าวกับเจ้าของ กิจการที่ทำธุรกิจร่วมกัน ถึงแม้ว่าจะจำความทรงจำก่อนหน้า นั้นไม่ได้ แต่ว่าก็ใช้ใบเสร็จที่มีนำมาอ้างอิงแล้วมาติดต่อ สื่อสารระหว่างกัน
ก่อนหน้านี้ร้านดอกไม้ร้านเดิมที่มีอยู่ในระหว่างการทำ ระบบขั้นตอนการทําสาขา ความรู้ด้านนี้หล่อนเข้าใจไม่ได้มาก เท่าไหร่ และไม่มีประสบการณ์อีกด้วยได้แต่ไปขอข้อแนะนำ จากคนข้างๆที่สะดวกที่สุดแล้ว
ปัญหาเหล่านี้สําหรับนัชชาแล้วมันยากมากแก่การเข้าใจ แต่สำหรับเตชิตแล้วมันง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก แบบ เดียวก็รู้ว่าเรื่อง
ก็แน่แหละ นัชชาไปขอคำแนะนำจกเขาก็จ่ายไม่ใช่น้อยๆ เช่น เวลาที่หล่อนไปสอบถามอะไรก็จะหาโอกาสที่จะแตะองเธอ แน่นอนแหละ เรื่องที่สนิทสนมแนบเนื้อกันพวกเขาสองคนก็ทำ มาแล้ว ไม่มีอะไรที่จะไม่ได้
เช้าวันหนึ่ง นัชชานช้าหลังจากอาบน้ำเสร็จหล่อนก็เข้าไปห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและของที่เป็นลิมิเต็ดมาใหม่แขวนเต็ม ไปหมด จนหล่อนอารมณ์เสีย
วันนี้เป็นวันแรกที่หล่อนเข้าร้านดอกไม้ และเป็นวันแรก
ของการเปิดร้านที่เป็นสาขาลือได้ว่าเป็นร้านแรกที่ทำแบบนี้ไม่ ได้ไปนานแล้วต้องแต่งตัวสักหน่อย อย่าแต่ตามสบายมากและ ก็ตั้งใจแต่งมาก
นัชชาเดินไปยังแถวตู้ใส่เสื้อผ้าและในที่สุดก็หยิบเสื้อสี เม็ดข้าวตัวยาวออกมากและกระโปรงยาวสีขาวลายเชอร์รี่ กระโปรงเป็นทรงรัดเอว เพราะมีคอลึก ไม่ล้าหลังและก็ไม่ ธรรมดา และยังเป็นรสนิยมการแต่งตัวปกติของนัชชา
หล่อนไม่พูดอะไรรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อใส่เสร็จและกำลัง จะออกจากห้องแต่งตัวพอดีเจอเตชิตคนที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงเขา เพิ่งตื่นนอน
“คุณตื่นแล้วหรอ? ฉันทำให้คุณตื่นหรือป่าวเนี่ย ?
เขามองการแต่งตัวของเธอและมันไม่สามารถปิดบังความ พอใจได้ “จะรีบไปตั้งแต่เช้าเลยหรอ?”
ช่วงนี้หลังจากที่ใช้เวลาวุ่นวายในเรื่องที่จะต้องทำธุรกิจ กับเรื่องการเปิดร้านดอกไม้ หล่อนแทบไม่มีเวลาคุยกับเขาเลย
นี่แหละทำให้ใจของเตชิตไม่ปกติ รู้ว่าหล่อนไปทำงานแต่ ในใจก็มีความรู้สึกอยู่
เขาที่อยู่เป็นเพื่อนหล่อนไม่ได้ไปทำงานมานานมากแล้วมีครั้งหนึ่งที่ไปอาทิตย์เดียวที่บริษัทลงทุนหนึ่งครั้งแล้วก็หลังจาก นั้นไปเตนทลอว์เฟิร์ม เวลาที่เหลือก็อยู่บ้านประชุมทางวิดีโอ แทนหรือไม่ก็เป็นอนุมัติเอกสารและรายงานต่างๆ
ชีวิตที่อายุสามสิบกว่าไม่เคยคิดเลยที่จะอยู่สันโดษที่บ้าน ได้นานขนาดนี้ แล้วยังมีความสุขไม่เบื่อ
แต่ตอนนี้ นัชชาอยากออกไปทํางาน ท่านประธานเตชิต
รับไม่ได้
ถึงแม้ว่าภาระงานของเขาน้อยมาก แต่เงินในบัญชีก็เพิ่ม มากมาโดยตลอด ตัวเลขเหล่านั้นมันพอที่จะให้ใช้โดยที่เธอไม่ ต้องทําอะไรเลย แต่ว่านัชชาก็ยังอยากไปทำ
เตชิตถึงกับปวดหัว เขาไม่ค่อยอยากให้เธอไปแต่เห็นว่า หล่อนมีความสุขแบบนั้นเลยได้แต่อดทนเอาน้ำเย็นลูบไว้
ไปๆมาๆคนที่เสียใจที่สุดกลายมาเป็นเขานี่เอง
นัชชาเห็นสายตาเขาที่โกรธอยู่ มันทั้งไร้สาระและก็ตลก โตจนป่านนี้แล้วข้างนอกก็มีอะไรให้สวยงามมากมาย แล้ว ทำไมคนที่อยู่ตรงหน้ากลายเป็นหมาที่ต้องมีคนเฝ้าด้วยล่ะ?
หล่อนได้แต่ถอนหายใจ เลยเขย่งเท้าไปหอมคางเขาฟอ ใหญ่ตอนแรกอยากจะจูบสักหน่อยแต่เขากลับหลีกเลี่ยงขึ้นมา เฉยๆ
เมื่อก่อนผู้ชายคนที่ไม่ปล่อยให้หล่อนหลุดมือกับสัมผัส ทางกายแต่ไฉนมาปฏิเสธหล่อนจูบในตอนนี้หล่ะ
ชักจะมีปัญหาใหญ่แล้วสิ
นัชชาถอนเท้าลงที่เดิม เงยหน้ามองคนที่ไม่โกนหนวด เคราดูแล้วไม่มีความเซ็กซี่เลย
“ฉันไปทำงานคุณโมโหอะไรฉันอ่ะ วันนี้ฉันต้องไปเร็ว หน่อย วันนี้เปิดร้านวันแรกจะรีบกลับมานะ อย่าลืมไปรับธีมนต์ กลับมาด้วยนะ เข้าใจไหม?”
ร้านเปิดเธอไม่จำเป็นต้องไป ให้คนไปแทนก็ได้ หลังจาก นี้เธอจะมีเรื่องวุ่นวายอีกมากมายทั้งเรื่องการกำนดราคา การ ทำสาขา วิธีการเรียกลูกค้า เธอจะไปที่ร้านทำไม?” ยิ่งเตชิตพูด หล่อนยิ่งงงหนัก คิ้วขมวดกันเป็นปม
ลักษณะอาการเขาเหมือนกับเด็กที่อยากกินลูกอมแล้วไม่ ได้กิน ทั้งไร้เดียงสาทั้งน่ารัก หล่อนพยายามอดกลั้นยิ้มเอาไว้ พยายามอธิบายกับเขาแล้วโอเด็กชายตัวโตที่อยู่ตรงหน้า “ฉัน รู้แล้วเลยวันนี้ต้องไปหน่อย พรุ่งนี้ไม่ไปค่ะ จะอยู่เป็นเพื่อนคุณ กับธมนต์ในวันสุดสัปดาห์”
เตชิตฟังประโยคนี้แล้วถึงได้อารมณ์สงบลงมาบ้าง “จริง นะ?”
นัชชาพยักหน้า “อืม จริงค่ะ”
“ก็ถือว่าได้อยู่….” พูดเสร็จเขาก็รีบเดินเข้ามาถึงตัวเอามือ ชี้ไปที่ริมฝีปากด้านล่างของเขาเอง
การกระทำที่คุ้นเคย หมู่นี้นัชชาหลายวันนี้เห็นบ่อยๆเพราะฉะนั้นเลยไม่กลัวกับสิ่งที่เขาพูด แบบเดียวหล่อนก็จูบเขา ทันที
เวลาที่สองคนอยู่ด้วยกันนาน หากยิ่งเวลาผ่านไป มันจะ ส่งผลถึงขนาดนี้เลยหรอ หล่อนคิดว่าตัวหล่อนเองที่เปลี่ยนไป กล้าแสดงออกมากขึ้นและเตชิตก็ชัดเจนกว่าแต่ก่อนมาก
ไม่ใช่อะไรก็เก็บไว้ในใจใบหน้านิ่งไม่นิ่มอีกต่อไปเขามี การแสดงออกก่อนอย่างมากกลายเป็นอะไรที่สดใหม่ที่มากก
ว่าเดิม
นี่คือสิ่งที่พวกเขาระหว่างกัน นัชชารู้อย่างถ่องแท้
ดังนั้นยิ่งนับวันผ่านไปเรื่อยๆ หล่อนยิ่งไม่อยากไปจาก ผู้ชายคนนี้เลย เขาดีจริงๆ ดีจากข้างในและยังมีจิตใจที่ดีมาก
ช่วงเวลาที่หล่อนกำลังจะตายเขาเป็นคนไปช่วยหล่อน ออกมาจากดินแดนแห่งความสิ้นหวังนั้นกลับมา หล่อนรู้สึก ซาบซึ้งและชื่นชมเขามาก
สิบโมงเช้า ห้องทำงานของโรงพยาบาลประจำตระกูลของ
‘ก๊อก
ปรัณ
สุวีราเอาเอกสารมาหนึ่งเล่มแล้วเคาะประตูห้อง ก๊อก ก๊อก สามครั้งแล้วก็ไม่มีการตอบรับใดๆ
หล่อนไม่เพียงแต่ขมวดคิ้วและเคาะห้องเพิ่มอีกสองครั้ง ห้องที่ล็อกสนิทก็ไม่มีสิ่งใดที่เปิดออก
หล่อนยืนนิ่งสักพัก มือวางอยู่บนลูกบิดเบาแล้วหมุนขยับ ออกเสียง แกร๊ก เบาๆประตูเปิดออก
ไม่ได้ล็อกประตู?
หล่อนรีบเดินอ้าวเข้าไปแล้วปิดล็อกประตูกแล้วเห็นเขา ที่กำลังฟุบหน้าอยู่บนโต๊ะทำงาน เขาสวมเสื้อกราวน์สีขาว
หัวของเขาอยู่บนโต๊ะ ผมดำขลับ มือสองข้างที่วางอยู่บน โต๊ะ ท่าทางโอนไปเอนมาแต่แบบนี้แหละถึงบอกได้ว่านอนหลับ สนิท
ได้ข่าวว่าเพราะเรื่องการผ่าตัดของชีวภา เขาและแพทย์ ศัลกรรมประสาทสองคนได้ถกเถียงกันจนถึงตีสอง ดูแล้วจาก การถกประเด็นนี้เขายังทำโอทีต่ออีก คงจะเหนื่อยจนถึงที่สุด เลยหลับแบบนี้ไปได้
ไม่งั้นสิ่งของสำคัญของปรัณคงไม่หล่นไปยังด้านหน้าของ
โต๊ะทํางาน
สุวีราได้แต่ขมวดคิ้ว มือเล็กๆ ที่ถือเอกสารอยู่นั้นแน่น เดินมาถึงหน้าโต๊ะทำงานก้มลงมองเห็นชายหนุ่มที่หลับเป็น ตายอยู่ หล่อนอยากจะโยนเอกสารในมือลงบนโต๊ะด้วยความ โกรธที่อยู่ในใจ แต่ก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น
ยิ่งโกรธยิ่ง โทษคนอื่นแล้วได้อะไร หล่อนกลัวว่าแม้แต่ เวลาพักผ่อนเพียงเล็กน้อยของเขาก็จะไม่มี
สุวีรานำเอกสารวางไว้อีกทาง หน้าต่างในห้องทำงานยังคงเปิดอยู่ หล่อนเดินไปปิดหน้าต่างทีละบาน จากนั้นหยิบ ผ้าห่มผืนบางๆมาคลุมบนตัวชายหนุ่ม
อดนอนหลายคืนบวกกับร่างกายอ่อนเพลียจากการ ทำงานทำให้ใต้ตาเขาดำคล้ำ สุวีรามองเขาอย่างเป็นห่วง และ ไม่สนว่าตอนนี้เขาคงจะไม่ได้ยินสิ่งที่หล่อนพูด” ตาบ้าเอ๊ย ตัว เองเป็นหมอแท้ๆ ยังดูแลตัวเองไม่ได้เลยแล้วยังจะคิดไปดูแล รักษาคนอื่น”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ