ตอน569 กังวล กับศัตรูหัวใจ
ตอนที่ 569 ‘กังวล’ กับศัตรูหัวใจ
ปากเล็กของเมนต์กระตุกขึ้น ไม่พอใจอย่างชัดเจน “พ่อ เคยพาผมไปหรอ ผมลืมไปแล้ว
มือของเตชิต พวงมาลัยแน่น เด็กน้อยโทษที่เขาไม่พา ไปนาน
อิจฉาไปก็ไม่ได้อะไร ทั้งหมดก็เขาก็ทำตัวเอง โทษใครไม่
ได้
สัญญาหลายครั้งเกิดไป แต่ก็ผิดสัญญาครั้งหนึ่ง จนถึงวัน นี้ เขาในฐานะพ่อไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรออกไปง่ายๆ ได้แต่ตัดสิน ใจเงียบๆ ว่าต่อจากนี้ไปจะดูแลเป็นสองเท่าอย่างแน่นอน
นัชชาได้ยินบทสนทนาระหว่างพ่อลูก สายตามองไปที่ ใบหน้าเล็กที่อ่อนเยาว์ ปากเล็กพูดไปสุดท้ายก็พ่ายแพ้ เลย ออกปากอธิบายแทนเขา “ธมนต์ ที่จริงครั้งนี้เป็นเพราะแม่เอง เลยกลับมาช้าขนาดนี้ พ่อต้องดูแลแม่ ที่จริงเขาคิดถึงหนูมาก นะ”
ธีมนต์เป็นเด็กที่ฉลาดและเชื่อฟังอยู่เสมอ แต่ครั้งนี้มัน นานเกินไป ในใจเขามีหลุมดำเล็กๆ “แม่ครับ แม่เคยบอกว่าจะ ไม่ให้ผมอยู่คนเดียวไงครับ”
เขาโตมากับนนัชชา สถานการณ์เดียวกันกับเตชิต สามารถงอแงได้ เมื่อเผชิญหน้ากับเธอกลับแค่น้อยใจ
นัชชาจำไม่ได้ว่าครั้งหนึ่งเคยพูดกับเขา ความทรงจำที่ หายไปรวมถึงข้อมูลของเด็กน้อยคนนี้ทั้งหมด แต่พอสบตาที่น่า สงสารของเขา ในใจก็อ่อนยวบลง “แม่ไม่ดีเองครับ แม่ขอโทษ นะ”
เธอจําได้ตอนที่ฟื้นขึ้นมา รู้ว่าตัวเองมีลูกหนึ่งคน เธอก็ รู้สึกขัดแย้งและตกใจกลัวเหลือเกิน ตอนนั้นเธอคิดจะไม่สนใจ เด็กคนนี้ รอจนกว่าเธอจะจำได้ค่อยว่ากัน
แต่ตอนนี้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นตรงหน้า เธอรู้สึกผิดที่ครั้ง หนึ่งเคยคิดแบบนั้น
บางทีอาจจะมาจากสัญชาตญาณความเป็นแม่ล่ะมั้ง เธอ ไม่อาจเพิกเฉยกับเด็กคนนี้ได้ และทนเห็นเขาเจ็บปวดไม่ได้ ความรู้สึกใดๆที่ปรากฏบนหน้าเขา ก็มีผลกระทบต่อจิตใจเธอ อย่างง่ายดาย
ระหว่างทางที่ไปร้านอาหาร นัชชาก็ปลอบประโลมเด็ก น้อยอยู่ตลอด ความกดดันของนัชชาตั้งแต่แรกจนถึงลงรถมา สุดท้ายก็ดีขึ้นมาหน่อย
เตชิตสุดท้ายก็เลือกจองร้านอาหารหรูเป็นที่สำหรับทาน อาหาร เขาและนัชชากลับมาได้สามวันแล้ว สายตามากมาย จ้องมาที่พวกเขา แต่ถ้าถูกถ่ายรูปจะต้องลงข่าวหน้าหนึ่ง เขา ชินชากับมันแล้ว แต่กับนัชชาและลูก เขาไม่อาจให้เป็นกระแสลมปากคนอื่นหรอก
ร้านอาหารแห่งนี้ต้อนรับผู้นำมามากมาย ความเป็นส่วน ตัวและมาตรฐานของพนักงานสูงมาก จึงทำให้สบายใจ หลังจากได้นั่งในที่ส่วนตัว มองออกไปนอกหน้าต่างเห็น เมฆที่เป็นสีแดงจากแสงพระอาทิตย์ตก ในใจก็รู้สึกสดใสขึ้นมา
ในที่สุด
หลังจากสั่งอาหารแล้ว เตชิตก็เพิ่มพุดดิ้งคาราเมลมาอีก หนึ่งที่ เป็นของที่เขาชอบ แต่ก่อนเพื่อปัญหาด้านสุขภาพเลยไม่ ให้เขากินเยอะ ครั้งนี้เพื่อเอาใจลูกเลยต้องแหกกฎ
“ลูกเพิ่งบอกว่าอาชนุดมพาไปเที่ยวหรอ? เขาพาลูกไป ไหนล่ะ?” ระหว่างที่ทานอาหาร เตชิตก็อดถามออกไปไม่ได้
ธีมนต์ตอบอย่างตรงไปตรงมา “เมือง Q ครับ”
เมือง Q ไม่ได้ห่างจากเมือง 3 มากเป็นพิเศษ เป็นเมืองที่ ใกล้กับทะเลสามด้านสิ่งแวดล้อมดีมาก เหมาะกับไปเที่ยวผ่อน คลาย
“ไปกี่วัน สนุกไหมครับ?”
“สองวันครับ อาพาผมไปทานอาหารทะเล แล้วก็พาไปเดิน เล่นชายหาดด้วย ได้นั่งบนกระเช้าลอยฟ้าอันใหญ่มากๆ …….. จริงด้วย!” ขณะที่พูดอยู่ จู่ๆ ธีมนต์ก็คิดอะไรได้ขึ้นมา ดวงตา เป็นประกาย “มีน้าชีวภาด้วย เธอมากับพวกเราด้วยครับ!”
“น้าชีวภา?” ได้ยินชื่อแปลกๆ เตชิตก็ขมวดคิ้วขึ้นมา “เธอเป็นใคร?”
“เป็นเพื่อนอาชนุดมครับ เธอดีกับผมมากๆๆ ซื้อของขวัญ ให้ผมด้วย ดูแลผมดีเหมือนแม่เลยครับ” พูดถึงชีวภา ใบหน้า นัชชาก็หุบยิ้ม จิตใจของเด็กน้อยนั้นบริสุทธิ์จริงๆ ใครดีกับตน ใครไม่ดีกับตน ก็แสดงออกมาได้อย่างชัดเจน
เพียงแต่……
เตชิตกระตุกคิ้ว แปลกมากที่มีผู้หญิงอยู่ข้างกายชนุดม มี เหตุผลอะไรกันแน่
“ลูกแน่ใจนะว่าน้าชีวภาท่านนี้เป็นเพื่อนของอาชนุดม?” เผชิญหน้ากับเด็กน้อย เตชิตไม่อาจถามตรงๆได้ ถามออกไป อย่างอ้อมๆ
ธีมนต์พยักหน้าตอบแบบไม่คิด “ใช่ครับ แต่ผมคิดว่า
อาชีวภาชอบอาชนุดมมาก
ปากเด็กน้อยบอกว่าชอบ ไม่เหมือนกับที่ผู้ใหญ่พูด แต่ถ้า อีกฝ่ายคือชนิดมล่ะก็ เตชิตมั่นใจมาก ถ้าเป็นความสัมพันธ์ ธรรมดา เขาไม่ให้น้าชีวภาได้เจอกับธีมนต์แน่
แม้ว่าความสัมพันธ์กับนัชชาจะมั่นคงมาก แต่ว่า ชนุดม เป็นผู้ชายที่อยู่ข้างกายเธอมาตลอดห้าปี ยังไงเขาต้องคอย ปกป้องอยู่ตลอด
จึงอดถามไม่ได้ “แล้วชนุดมล่ะ ชอบน้าชีวภาที่ดีกับหนู ไหม?”
ดวงตาโตของธีมนต์กรอกไปมา หยักหน้าแล้วก็ส่ายหน้า พูดออกมาอย่างลังเล “ไม่น่านะครับ……..ตอนที่อยู่เมือง 9 อา ชนุดมทำให้น้าชีวภา โกรธจนหนีไปเลย
โอเค ดีใจเสียเปล่า
เขาบอกว่า จากที่เขารู้จักผู้ชายอย่างชนุดม เขาไม่ใช่คนที่ ชอบคนหรือให้ใจคนง่ายๆ
สายตาซับซ้อนของผู้ใหญ่ธีมนต์ไม่เข้าใจ เขาตัดเสต็ก เนื้อวัวเข้าปาก มองนัชชาที่นั่งอยู่ข้างๆตน “แม่ครับ ทำไมแม่ ไม่พูดอะไรเลย?”
นัชชาเขียข้าวโพด ในจานอย่างเงียบๆ จู่ๆก็ถูกเรียกชื่อ ในมือถือมีดอย่างสั้นๆ ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากพูด แต่ว่าทุกอย่าง มัน…….ติดอยู่ที่ปาก
อาชนุดม น้าชีวภา เธอไม่รู้จักทั้งหมด ตอนนี้จึงยิ้มออกมา อย่างเนืองๆ “แม่ทานข้าวอยู่น่ะ รู้สึกหิวนิดหน่อย
“อ้อ” ธีมนต์ไม่ได้สงสัย เพียงเคี้ยวเสต็กเนื้อวัวสองคำ ถามขึ้นอีกครั้ง “แม่ครับ แม่ไม่ได้เจออาชนุดมนานแล้วไม่ใช่ หรอครับ? ช่วงนี้เขาก็ดูเหมือนจะอยากเจอแม่ตลอดเลย บาง ครั้งผมก็ได้ยินว่าถามเรื่องของแม่ด้วย
นัชชารู้สึกได้ว่ารอยยิ้มบนหน้าตัวเองตึงขึ้นมา ทำได้เพียง บังคับตัวเองให้พูด “อ๋อ ใช่ ไม่ได้เจอพวกเขานานแล้ว
เตชิตเห็นแบบนี้แล้ว เป็นอีกครั้งที่เปลี่ยนเรื่อง “ช่วงนี้ เรียนเป็นยังไงบ้าง?
นัชชาโล่งอก ถึงได้พบว่าข้าวโพดในจานถูกหั่นออกเป็น หลายชิ้นอย่างไม่รู้ตัว เธอรีบใช้ช้อนใส่ปากตัวเองทันที กลัวว่า จะถูกเห็นอะไรผิดปกติ
มันเป็นแค่มื้ออาหารธรรมดาเท่านั้น แต่เธอกินด้วยความ
หวาดกลัว
หลังจากทานอาหารเสร็จก็เดินเล่นในห้างชั้นล่าง ซื้อของ เล่นและรถคันเล็กๆ ที่เขาชอบหลังจากนั้นก็ขับรถกลับบ้าน
ยังดีที่ระหว่างทางธีมนต์ทนความง่วงไม่ไหว จึงงีบหลับอยู่ หลังรถ เตชิตจึงฉวยโอกาสนี้พูดอะไรกับเธอสักหน่อย ถูกเธอ ทำท่าขัดไว้ กลัวว่าจะปลุกธีมนต์และกังวลกับคำถามเขา
กลับถึงบ้านไม่ง่ายนัก น้าในพาธีมนต์ไปล้างหน้าแปรงฟัน นัชชาเข้าไปในห้องใหญ่แล้วปิดประตู จากนั้นก็หายใจออกมา อย่างหนักหน่วง หนึ่งวันที่ตึงเครียดสุดท้ายก็คลายลง แล้วเงย หน้าขึ้นมามองผู้ชายที่กึ่งนอนและยิ้มอยู่บนเตียง
เธอรีบเดินเข้าไป เร็วเหมือนกระโดดบันจี้จัมพ์ “อาชนุดม และน้าซีวภาคือใครกันแน่ ฉันสนิทกับพวกเขาไหม? ธีมนต์ บอกว่าแม่ทูนหัวคือจินต์ใช่ไหม? นอกจากจินต์แล้วเขายังมี ใครอื่นเป็นแม่ทูนหัวไหม?”
เตชิตวาง โทรศัพท์ในมือลง ยืดตัวขึ้นมา ขากอ้าออก นิดหน่อย ให้เธอแทรกมาระหว่างขา เขาเชยใบหน้าเล็กที่ดูกังวลและสดใสนั้นขึ้นมา “ถามเยอะจัง ผมไม่รู้จะเริ่มตอบตรง ไหน”
“ก็บอกฉันเท่าที่คุณรู้ ไม่งั้นฉันกลัวว่าตัวเองจะโป๊ะแตก เมื่อเย็นนี้ฉันไม่กล้าพูดอะเลย ทุกครั้งที่มีมนต์พูดฉันกังวลมาก คุณรู้……อื้อ!”
ยังไม่ทันพูดจบ ด้านหลังของศีรษะก็ถูกฝ่ามือใหญ่กดลง มาเล็กน้อย เธอเงยหน้าขึ้นมาเบาๆก็ถูกปิดลงมา……..
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ