ตอน534ภาพความทรงจำที่เป็นเศษเสี้ยว
ตอนที่534ภาพความทรงจำที่เป็นเศษเสี้ยว
นัชชาไม่คิดว่าแค่คำพูดสั้นของตัวเองจะมีผลต่อเขาขนาด
นี้เธอมีอาการอึ้งเล็กน้อยเลยพูดตะกุกตะกัก “ฉันฉันแค่อยากจะ ถามดูเอง”
“OK”สายตาของผู้ชายร้อนแรงเหมือนไฟและบอกกับเธอ ไปว่า “ฉันอารมณ์ไม่ดีจริง
“เพราะอะไร?”
เขาอยู่ใกล้ขนาดนี้แววตา………….ความรักทั้งๆ ที่กำลัง พูดค่าธรรมดาแต่เหมือนเขากำลังพูดสารภาพรักเลยนัชชารู้สึก กะทันหันว่าหลังของเธอเริ่มกันอีกแล้ว
“เพราะคนพวกนั้นที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ตอนนี้ยังจะให้ฉัน ไปเผชิญหน้าอีกครั้งนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อครึ่งเดือนที่ แล้วเตชิตยังกลัวอยู่เลยสายตาของเขาเริ่มเย็นชาลงไปอีกครั้ง
นัชชาไม่เคยเห็นสายตาที่เฉียบคมขนาดนี้ของเขาก็เลย พูดไปแบบไม่ค่อยเป็นธรรมชาติว่า “นายนั่งแล้วพูดได้ไหมถ้า แบบนี้ฉันเหนื่อยมากรู้สึกหายใจไม่ค่อยออก
เตชิตเห็นสายตาของเธอหลบไปหลบมาสุดท้ายเขาก็ลุกขึ้นนั่งข้างๆเก้าอี้มองไปยังใบหน้าที่ขัดขาวของเชอริมฝีปากที่ แห้งในใจของเขาก็ยังกลัวเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครึ่งเดือนก่อนอยู่ดี
“ไหนบอกกับฉันหน่อยว่าแผลของฉันนี้มียังไง คิดไปสัก แบบนัชชา เปิดปากถามตั้งแต่ที่เธอตื่นมาไม่มีใครยอมพูด เรื่องของเธอแม้แต่คำเดียวเธอรู้ว่าถ้าอยากรู้ความจริงก็ต้อง ถามเช็ดเท่านั้นแต่เธอยังไม่พร้อมก็เลยไม่ได้เปิดปากถาม ตอนนี้เห็นสีหน้าของเขาจริงจังเธอรู้สึกว่าตัวเองถึงเวลาที่ควรรู้ แล้ว
“ครึ่งเดือนก่อนเธอถูกคนในเมือง จับตัวไปและคนที่จับ ตัวเธอคือผู้ก่อการร้ายคดีที่ฉันรับผิดชอบอยู่”เตชิตพูดช้าๆ พยายามไม่ทำให้เรื่องราวที่เขาจะพูดนั้นยากที่จะรับได้ พวก เขาจับตัวเธอไปเกือบครึ่งเดือนระหว่างนั้นเธอก็ได้รับ ประสบการณ์ที่แย่มากเรายากที่จะหาตัวเธอแต่พอหาเจอกลับมี อุบัติเหตุระเบิดเธอถึงได้มีแผลที่หลังอาการหนักขนาดนี้
นัชชานิ่งแล้วก็ฟังจากนั้นถามต่อไปว่า “เมื่อกี้คนที่มาหา นายคือตำรวจสินะแล้วทำไมนายถึงไม่ดีใจ?”
พูดตามหลักการแล้วพวกเขาควรจะเป็นคนที่อยู่ฝ่าย เดียวกันกับเราไม่ใช่หรอ?
พูดถึงหัวหน้าสายตาของเตชิตเต็มไปด้วยความยุ่งยาก เขาก้มหัวลงเล็กน้อยผมที่อยู่หน้าผากไปปิดตาของเขาก่อนที่ เขาจะออกไปทำภารกิจเขาตกลงกับฉันว่าจะรักษาความ ปลอดภัยของเธอให้เธอกลับมาอย่างปลอดภัยแต่ตอนที่เกิดเรื่องเขาไม่ทำตามที่พูดแต่กลับใช้เธอเป็นตัวล่อฉันเข้าใจที่เขา ทำแบบนั้นแต่ฉันไม่สามารถที่จะให้อภัยได้เขาได้
ไม่มีใครรับรองได้ว่าต่อไปนี้นัชชาจะไม่มีผลข้างเคียง ผิวหนังของเธอที่ถูกไหม้ไปนั้นจะสามารถกลับมาเป็นเหมือน เดิมได้ไหมหรือเธอต้องอยู่กับความทุกข์ทรมานแบบนี้ไปทั้ง ชีวิต
ไม่ใช่เพราะเขาไม่ยอมให้อภัยแต่เป็นเพราะเขาไม่มีสิทธิ์ที่ จะไปให้อภัยแทนเธอ
นัชชาไม่รู้ว่าเป็นเพราะตัวเองความจำเสื่อมจึงนึกไม่ออก หรือเป็นเพราะสาเหตุอื่นพอได้ยินเตชิตพูดเรื่องราวพวกนี้ในใจ ของเธอไม่มีความรู้สึกที่ทรมานอย่างที่เคยคิดไว้แต่เหมือน กำลังฟังเขาพูดเรื่องของคนอื่นอยู่
เธอเข้าใจความหมายของเขาแต่ก็รู้สึกประหลาดใจนิดๆที่ เขาทำเพื่อเธอได้มากขนาดนี้
สรุปแล้วความสุขและความทุกข์ของเขานั้นเกี่ยวกับตัว เธอทั้งนั้น
นัชชาเองก็ซึ้งน้ำเสียงของเธอก็อ่อนลงเยอะมาก ที่จริง เขาก็ไม่ผิดถ้าไม่มีพวกเขาตอนนี้ฉันอาจจะตายไปแล้วอาจจะ ไม่มีแม้กระทั่งเวลาที่จะได้มาทรมานตอนนี้
คำพูดแบบนี้เตชิตเคยได้ยินทุกๆคนพูดไม่ซ้ำหน้าแต่พอ เขานึกถึงสภาพที่มีควันดำเต็มไปหมดรอบๆตัวเขาก็รู้สึกแน่น หน้าอก
“สำหรับฉันแล้วไม่มีอะไรสำคัญมากกว่าเธอ”เขาพูด ความรู้สึกที่มีต่อเธอไปตรงๆไม่มีการปกปิด ใดๆทั้งสิ้น อย่าพูด คำว่าตายง่ายๆฉันไม่มีทางที่จะให้เธอเกิดอุบัติเหตุเป็นครั้งที่ สองแน่”
น้ำเสียงของเขาจริงจังมากสายตาคู่นั้นเต็มไปด้วยหลาก หลายความรู้สึกและความรู้สึกเหล่านั้นพุ่งตรงเข้าไปในใจของ เธอ
สมองของเธอปวดขึ้นมาทันทีในพริบตามีความทรงจำ เศษเสี้ยวหนึ่งที่เธอมองเห็นร่ายกายของตัวเองเต็มไปด้วย โคลนและเห็นตอนที่เขาจับปืน
ดูแลตัวเองดีๆห้ามให้เกิดเรื่องเด็ดขาด
เสียงผู้หญิงที่ไพเราะดังขึ้นมาข้างหูใครกำลังพูด? ทำไม เสียงนี้เหมือนเสียงของเธอมากขนาดนั้น?
ภาพทุกอย่างพุ่งเข้ามาทางเธออย่างรวดเร็วเป็นแค่เศษ เสี้ยวและแต่ละเหตุการณ์ที่ไม่ได้ปะติดปะต่อกันทำให้เธอรู้สึก เจ็บปวด
“เป็นอะไร?” เตชิตเห็นหน้าของเธอเริ่มมีเหงื่อไหลคิดว่าค่า พูดของตัวเองเมื่อกี้ทำให้เธอได้รับการกระทบกระเทือนก็เลย รีบไปกดปุ่มที่อยู่ข้างๆ “หมอมาเร็วๆ
ไม่ถึง5นาทีหมอกับพยาบาลก็เข้ามาในห้องห้องทำงาน ของปรัณห่างจากตรงนี้ก็เลยมาช้าเพิ่งมาถึงก็ถูกเตชิตดึง ไว้ทำไมเธอถึงปวดหัวกะทันหันมันเกิดอะไรขึ้น?
ปรัณไปดูผลตรวจที่ออกมาก็เลยถามเบาๆว่า “เธอคิดอะไร ได้แล้วใช่ไหม?”
นัชชา โดนเขาถามจนอึ้งไปสักแบบจากนั้นก็พยักหน้า ช้าๆ อืมเป็นแค่เศษเสี้ยวของความทรงจํา
เขาถอนหายใจ”นี่คือเรื่องที่ไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวถ้ายังมี อาการปวดหัวอีกก็บอกฉันฉันให้คนฉีดยาให้เธอแต่ถ้ารู้สึกดี ขึ้นก็ไม่ต้องฉีดเพราะยายังไงก็มีพิษอยู่อาจจะมีผลต่อการฟื้น ความจําของเธอ”
ถึงจุดๆนี้นัชชาถึงจะเชื่ออย่างเต็มตัวว่าตัวเองนั้นความจำ เสื่อมแล้วจริงๆ
ไม่อย่างนั้นภาพที่อยู่ในสมองเมื่อกี้จะอธิบายยังไง?
“เธอพักสักแป๊บอย่าคิดเยอะอย่าพยายามไปคิดเยอะถ้า ทำแบบนั้นจะได้รับผลเสียนะ”ปรัณพูดจบก็หันหลังไปคุยกับ ผู้ชายที่กำลังเป็นห่วงอยู่เตชิตออกมากับฉันหน่อย
เตชิตมองไปทางผู้หญิงตัวน้อยๆที่อยู่บนเตียงไม่ไว้ใจ เลยไปว่า”ฉันจะรีบกลับมา”
“อืม”
หลังจากที่ออกจากห้องทั้งสองก็เดินขึ้นไปที่ดาดฟ้าบน ดาดฟ้าลมพัดมาแรงทำให้เสื้อของเขานั้นพริ้วไปถามลม
“เตชิตเมื่อกี้นายพูดอะไรกับเธอไป?”
“คน ในสถานีตำรวจมาหาฉันเธอเห็นแล้วก็เลยถามฉันว่า เธอนั้นได้แผลมาได้ยังไงฉันก็พูดไปคร่าวๆ เตชิตเอากล่องบุหรี่ ออกมาจากกระเป๋าแล้วแกะเอาบุหรี่มาไว้ที่ข้างปากจากนั้นก็จุด ไฟ
ควันลอยขึ้นมาทันทีแต่ไม่นานก็โดนลมพัดหายไปเหลือ แต่ไฟเล็กๆดวงนั้นที่สว่างอยู่บนหัวบุหรี่
“ฉันไม่คิดว่าแบบนี้ก็จะไปกระทบกระเทือนกับตัวเธอ ตอนนั้นตอนที่เขาพูดเขาพยายามลบล้างสิ่งที่ไม่ดีออกไปเพราะ กลัวว่าเธอจะรู้สึกไม่สบาย
ปรัณส่ายหัว ไม่ใช่การกระทบกระเทือนถ้าเนื้อหาที่พวก นายพูดคุยกันไม่ได้รุนแรงขนาดนั้นก็หมายความว่าเธอไม่ได้ หลงลืมความทรงจำพวกนั้นอย่างลึกซึ้งแค่พูดเรื่องราวที่ เกี่ยวข้องเธอก็อาจจะนึกถึงอดีตได้
ผู้ชายที่กำลังสูบบุหรี่อึ้งไปสักแป๊บก็หมายความว่า โอกาสที่จะฟื้นความจำได้มีมากงั้นหรอ?”
“ใช่แล้ว”ปรัณนึกถึงตำรวจคนนั้นที่นัชชาพูดก็เลยแนะนำ ว่า “บางทีการถูกกระทบกระเทือนไม่ได้แปลว่าเป็นเรื่องร้าย ตลอดสำหรับคนที่เป็นหมออย่างฉันก็อยากรู้ว่าขีดจำกัดของผู้ ป่วยนั้นมีถึงไหนกันฉันคิดว่านายควรจะไปพบตำรวจคนนั้นและ คนที่ทำให้เธอได้รับการทำร้ายมากที่สุดนะ
เตชิตหรี่ตาลงแล้วถามขึ้นด้วยเสียงที่เย็นชา “ใคร?”
“hawk”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ