ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน531ลืมว่าเขานั้นคือใคร



ตอน531ลืมว่าเขานั้นคือใคร

ตอนที่531ลืมว่าเขานั้นคือใคร

แค่คำเดียวทำให้เขารู้สึกเหมือนฟ้าผ่าลงตรงกลางอกของ

เขาทันที

มีหลายวินาทีที่สมองของเขาขาวโพรงไปหมดไม่ได้ยิน เสียงสักอย่างเหมือนทั้งหมดที่มีอยู่นั้นหายไปมองเห็นแต่เพียง ตาของเธอที่ดูว่างเปล่า

คือใคร

เธอถามเขาว่า……………….ใคร?

เตชิตลุกขึ้นมากะทันหันมือที่ไปจับบนหน้าของเธอเหมือน ไปสัมผัสโดนอะไรที่ร้อนๆก็เลยรีบถอยออกมาหนึ่งก้าวไม่รู้ว่า ต้องทํายังไงต่อ

ปรัณขมวดคิ้วแน่นรีบเดินไปตรงหน้าไปเปิดหนังตาของ เธอแล้วดูหลังจากที่แน่ใจว่าเธอตื่นขึ้นมาแล้วจริงๆเขาก็สงสัย ว่าทำไมถึงจำเตชิตไม่ได้ล่ะ?

เขาลองถามไปว่า “แล้วเธอรู้ไหมว่าฉันคือใคร?”

นัชชาจ้องไปทางคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างละเอียดเขาไม่ เหมือนกับผู้ชายคนเมื่อกี้ที่หน้าดูคมแต่คนนี้ดูเหมือนอ่อนโยน มากถึงแม้เธอจะพยายามคิดในสมองก็คิดอะไรไม่ออกอยู่ดี
ก็เลยต้องส่ายหัว”ไม่รู้”

ปรัณขมวดคิ้วแน่นไปดึงสุวีรามาใกล้ๆแล้วถามให้มั่นใจ ว่า “แล้วเธอคนนี้ล่ะรู้จักไหม?”

นัชชารู้สึกว่าสมองตัวเองไม่ทำงานแล้วเธอพยายามไปคิด และคิดถึงหน้าของใครบางคนที่คล้ายกับคนๆนี้แต่ทั้งหมดนี้ยัง ไม่ทันสรุปสมองของเธอก็ปวดขึ้นมากะทันหันเหมือนมีอะไรไป ค้นในสมองของเธอ………

“อ้าๆๆ”เธอหลับตาแล้วร้องออกมา

“พอแล้วๆไม่ต้องคิดแล้วเธอเพิ่งฟื้นมาต้องการที่จะพัก ผ่อนปรับรีบไปขัดไม่อยากให้เธอโดนทำร้ายอีกครั้งเพราะทำ แบบนี้ก็ไม่มีผลดีอะไรกับตัวเธอเลย

ตั้งแต่ต้นจนจบเตชิตยืนอยู่ด้านหลังเขาอยากจะเดินขึ้นไป ไปดูเธอดีๆแต่พอไปสบกับตาคู่นั้นที่ไม่มีความรู้สึกใดๆเขารับ ไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

ไปตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ เมื่อมั่นใจว่าอุปกรณ์ ไม่ได้มีการผิดพลาดใดๆหมอและพยาบาลทุกคนก็เดินออก จากห้องปรัณเรียกเตชิตไปที่ห้องทำงานชั่วคราวของเขามองไป ทางเขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “นายอย่าใจร้อนเดี๋ยวฉันให้คน ไปตรวจสมองของเธอเธอพึ่งผ่านเรื่องร้ายแรงมาแถมยังต้อง อยู่ในที่ๆน่ากลัวตั้งสิบกว่าวันเธอเพิ่งฟื้นขึ้นมาอาจจะคิดอะไร ไม่ได้ชั่วคราวก็เป็นไปได้

เตชิตถึงจะได้สติกลับในเวลานี้หน้าอกของเขาเหมือนมีมีดมากรีด เธอคงไม่ลืมฉันไปตลอดชีวิตหรอกใช่ไหม?”

ปรัณกัดริมฝีปากแน่นๆอยากจะบอกว่าเป็นไปได้แต่เขา เป็นหมอไม่มีอะไรที่แน่นอน100%เขาพูดไปมั่วไม่ได้

ก็เลยพูดไปอย่างยากลำบากว่าเป็นไปได้

คำๆนี้ทำให้เตชิตหมดกำลังใจไปทันทีเขายังไม่ทันที่จะ รู้สึกมีความสุขฟ้าก็มากลั่นแกล้งกับเขาอีกแล้ว

เขาหายใจเข้าลึกๆกัดฟันแน่นๆสักแป๊บถึงจะพูดว่า “ตรวจ สอบเถอะรอผลออกมาค่อยว่ากัน

หลังจากที่นัชชาฟื้นมาก็เห็นมีคนไม่ซ้ำหน้าเดินผ่านรอบ ตัวเองตลอดเธอไม่รู้ว่าตัวเองมีลูกแล้วแค่รู้สึกว่าทั้งตัวไม่สบาย ไปหมด โดยเฉพาะส่วนหลังของเธอที่มีผ้าพันเยอะแยะแม้แต่ ขยับก็ขยับไม่ได้

เธอรับรู้ได้ว่าตัวเองอาการสาหัสไม่งั้นคงไม่อยู่ในสภาพ

แบบนี้หรอก

“คุณนัชชาคะคุณอย่าลงจากเตียงและอยากขยับไปมานะ คะตอนนี้ร่างกายของคุณอ่อนแอมากต้องระมัดระวังให้มากๆ ค่ะ”นางพยาบาลเห็นเธออยากจะขยับอยู่ตลอดเวลาก็เลยรีบ พูดเตือนเธอ

นัชชายังใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ตอนที่พูดก็ลำบาก หน่อย ฉันเป็นโรคอะไรหรอคะ?”

ทุกคนที่มาดูแลเธอได้รับคําสั่งไว้ว่าห้ามพูดเรื่องเกี่ยวกับการได้รับบาดเจ็บของเธอ

พอตอนนี้โดนถามพยาบาลก็หลบสายตาจากเธอ”เรื่องนี้ ดิฉันก็ไม่ได้รู้อย่างละเอียดหรอกค่ะรอสักครู่คุณถามคุณหมอ ปรับด้วยตัวเองดีกว่านะคะ

“คนที่ถามฉันเมื่อกว่าฉันจำเขาได้ไหมคนนั้นหรอคะ?”

“ใช่ค่ะ”

ในตอนที่ปรัณพาคนมาตรวจคำแรกที่นัชชาเห็นเขาแล้ว พูดก็คือคำว่า “ฉันเป็นโรคอะไรหรอคะ?”

พอโดนถามแบบนี้ปรัณยืนนิ่งไม่ได้ตอบอะไรแต่โชคดีที่ ก่อนหน้านี้เคยคิดข้ออ้างไว้อยู่แล้วก็เลยพูดไปมั่วว่ามันเป็น เรื่องของเส้นประสาทเพราะอุบัติเหตุทำให้กระดูกสันหลังของ เธอได้รับการกระทบกระเทือนตอนนี้ก็เลยขยับตัวไม่ได้

นัชชาเหมือนจะเข้าใจ แล้วทำไมที่ตัวฉันถึงมีผ้าพันเยอะ ขนาดนี้หล่ะ?”

“ต้องการเอายามาแปะไว้

“แปะยาไว้”

“ใช่มันกระทบร่างกายของเธอทั้งด้านนอกและด้านใน อาการเกี่ยวกับเส้นประสาทไม่ได้หายง่ายขนาดนั้น ปรัณพูดไป มั่วแล้วรีบเปลี่ยนเรื่องคุย “ตอนนี้ต้องการตรวจสอบการทำงาน ของสมองระหว่างตรวจสอบจะไม่มีความรู้สึกใดๆทั้งนั้นเธอไม่ ต้องตื่นเต้น”
เพราะเขาเอาอุปกรณ์ต่างๆมาจากโรงพยาบาลตัวเองเป็น ของที่ดีอันดับต้นๆทั้งหมดอย่าว่าแต่เมืองไม่มีเลยในวงการ แพทย์ทั่วโลกคงไม่มีใครที่จะมีอุปกรณ์เพียบพร้อมเท่าพวกเขา แล้ว

และนี่ก็คือเหตุผลที่ทำไมปรัณรู้ข่าวแล้วต้องมาเองเพราะ ฝีมือของเขาดีกว่าหมอคนอื่นๆ แถมยังมีอุปกรณ์การแพทย์ที่ทัน สมัยกว่าคนอื่น

นัชชาไม่ได้สงสัยอะไรคอของเธอก็หันไม่ได้ทำได้เพียง ทำตาโตค้างแล้วมองดูปรัณเอากระจกทรงกลมมาสวมที่หัว ของตัวเอง

อุปกรณ์ทุกอย่างเชื่อมกันข้างๆมือของเธอนั้นเชื่อมกับ สายแสดงผลไม่รู้ว่ากดตัวไหนทำให้เครื่องตรวจนั้นมีแสงสว่าง ขึ้นมาทันทีส่องไม่โดนตาเธอแต่แสงที่สว่างขนาดนั้นทำให้เธอ รู้สึกได้

ไม่ถึง10นาทีการตรวจสอบก็จบลง

ปรัณมองไปทางผลที่อยู่ในมือของตัวเองยิ่งดูสีหน้าของ เขาก็ยิ่งแย่ลงพอเขามองไปที่นัชชาอีกครั้งสายตาก็เต็มไปด้วย ความเยือกเย็น

นัชชามีลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีเพราะช่วงเวลาที่ตื่นมานี้ เธอรู้สึกแปลกๆแต่ที่ไหนแปลกเธอก็พูดไม่ออก

“เกิดอะไรขึ้น?”
ปรับเม้มปากแน่นๆเขาก้มหัวไปดูผลตรวจที่อยู่ในมือของ ตัวเองอีกครั้งดูไปดูมาหลายรอบแน่ใจว่าผลตรวจไม่ผิดแทนที่ เขาจะรู้สึกดีใจแต่ไม่มีความรู้สึกที่ดีใจเลยแม้แต่น้อย

พอไปสบกับตาคู่นั้นของนัชชายิ่งไม่รู้ว่าจะพูดยังไง

พอกำลังจะพูดออกมาเขาก็เปลี่ยนใจตัดสินใจพูดไป ว่า ไม่เป็นไรผลตรวจปกติดีเธอไม่ต้องเป็นห่วง

พูดคำนี้จบปรัณไม่ให้เธอมีโอกาสที่จะถามต่อก็รีบหันหลัง แล้วเดินออกจากห้องไป

เอาผลตรวจที่อยู่ในมือยื่นไปให้ผู้ชายที่อยู่ในห้องทำงาน

“สมองไม่ได้รับกระทบเทือนมากนักไม่มีปัญหาอะไรมาก และสิ่งที่ทำให้ความจำเสื่อมไม่ใช่เพราะเรื่องอื่นแต่เป็น เพราะ………เขาหยุดพูดไปสักแบบถอนหายใจยาวๆแล้วพูด ต่อว่า “ปัญหาของสภาพจิตใจ

เตชิตมองไปทางผลตรวจที่เขาดูไม่รู้เรื่อง “สภาพจิตใจ?”

“ใช่ความจําเสื่อมแบบนี้พวกเราใช้เรียกกันว่าการเลือกที่ จะลืมเพราะได้รับกระทบและการทำร้ายที่สาหัสก็เลยเลือกที่จะ ลืมทั้งหมดเรื่องนี้เกิดจากความรู้สึกในใจมันเป็นสิ่งที่ควบคุม ไม่ได้และสิ่งที่เลือกที่จะลืมนั้นคือสมองไม่ใช่สติของตัวเธอ ปรัณพยายามใช้คำธรรมดาอธิบายให้เขาฟัง เธอยังจำความ สามารถต่างๆของเองได้แต่ความทรงจำของเธอที่มีฉันนาย และคนอื่นๆนั้นลืมไปหมดแล้วเป็นการลืมที่เลือกเองจะลืมถึง

ขั้นไหนต้องสื่อสารกันแล้วถึงจะรู้ได้
“ก็คือหมายความว่าเธอนั้นลืมฉันแล้วจริงๆ? “เตชิตแทบ จะไม่กล้าเชื่อหูของตัวเองเขาเฝ้ารอให้เธอฟื้นตั้งหลายวันพอ ฟื้นมาจริงๆกลับได้ผลแบบนี้มา

ปรัณทนที่จะเห็นสภาพของเขาในตอนนี้ไม่ได้ก็เลยต้อง พูดความจริงไปว่า “ดูจากสภาพตอนนี้แล้วก็คงเป็นอย่างนั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ