ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน471ต่อจากนี้ไปคุณจะได้รับมัน



ตอน471ต่อจากนี้ไปคุณจะได้รับมัน

ตอนที่ 471 ต่อจากนี้ไปคุณจะได้รับมัน

เช้าตรู่วันถัดมา นัชชาลูกเสียงนาฬิกาของโทรศัพท์ปลุก

ขึ้น เธอลืมตาขึ้นมาอย่างมึนงง ขมวดคิ้วพลางเอื้อมมือไปหยิบ โทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างๆ เอื้อมเท่าไหร่ก็เอื้อมไม่ถึง แต่สัมผัสถูก แขนอุ่นของผู้ชายแทน

เธออึ้งไปสักพัก พลิกตัวไปเจอกับดวงตาสลึมสลือที่ยังตื่น ไม่เต็มที่ของเขา ก็ตื่นตระหนกในพริบตา

“หาโทรศัพท์?” เตชิตหยิบโทรศัพท์ส่งให้เธอ

นัชชาอึ้งไปพักหนึ่งถึงนึกขึ้นมาได้ว่า ผู้ชายคนนี้เพิ่งกลับ

มาเมื่อคืน

เธอขอบตาร้อนผ่าวยังอดไม่ได้ เธอเอื้อมมือโอบกอดเขา กลับอย่างเชื่องช้า “ฉันตื่นขึ้นมาคนเดียวตลอดครึ่งปี ลืมตามา เจอคุณฉันไม่ชินเลย”

ได้ยินดังนั้น แขนที่โอบร่างเธออยู่ก็ออกแรงขึ้นมานิด หน่อย เสียงแหบพร่าและเซ็กซี่ในตอนเช้าออกมาจากลำคอเขา “งั้นก็ชินซะนะ ต่อจากนี้คุณจะได้รับมัน

นัชชาหัวเราะไร้เสียง เพลิดเพลินกับความอบอุ่นและหวาน ชื่นใจที่หาได้ยาก ในใจก็ยังไม่ลืมเรื่องสำคัญ “เดี๋ยวพ่อฉันจะเข้าห้องผ่าตัดแล้ว ตื่นเช้าหน่อยนะ

ถ้าเป็นไปได้เตชิตอยากจะกอดเธออยู่อย่างนี้จนชั่วนิจนิรัน ดร์ แต่ยังไงคุณพ่อภรรยาก็รอผ่าตัดอยู่ข้างห้อง เขาต้องลุกขึ้น มา “ลุกเถอะ”

นัชชาพยักหน้า ปล่อยมือเขาแล้วค่อยๆยกตัวขึ้นมา กำลัง จะนั่งตรง รู้สึกถึงความเจ็บระหว่างขาสองข้างตอนลุกขึ้นมา อย่างน่าประหลาดใจ

เธออ้าปากค้างส่งเสียง “ซื้อ” ทำให้ผู้ชายที่กำลังติด

กระดุมอยู่หันมา “เป็นอะไร?”

นัชชาหลีกสายตาเขา เป็นที่จะพูดความจริง จึงพูดอย่าง กํากวม “ไม่มีอะไร เกี่ยวโดนผม”

เตชิตไม่ได้คิดอะไรมาก ติดกระดุมต่ออย่างไม่รีบร้อน

ในหัวของนัชชามีแต่ภาพไร้สาระและบ้าๆบอๆที่ทั้งสองทำ กันเมื่อคืน ใบหูแดงขึ้นมาอย่างเงียบๆ เธอหลบสายตาเขาด้วย การสวมเสื้อผ้า นั่งเพียงครู่หนึ่ง รอจนรู้สึกโอเคแล้วค่อยลงจาก เตียง

แต่เพียงปลายเท้าแตะพื้น ต้นขาก็เจ็บจนไม่ไหว ยิ่งไปกว่า นั้นก็คือ ขาเธอก็อ่อนขึ้นมาทันที

นัชชาเกือบจะแข็งเป็นหิน ใช้สองมือประคองที่เตียงอย่าง กระอักกระอ่วน ใช้ทักษะไม่กี่วินาทีนี้หลบเลี่ยงสายตาอันเฉียบ แหลมของเตชิตได้
เธอเห็นผู้หญิงตัวเล็กขยับก็ไม่ขยับอยู่ข้างเตียง เกือบจะ หลุดโพล่งออกไปว่า “เป็นอะไรไป ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้กับ ท่าทางเธอเมื่อครู่ ก็เข้าใจในทันที มุมปากโค้งยิ้มเจ้าเล่ห์ หมุน ตัวเดินมาข้างเธอ “ปวดขา?”

ทั้งๆที่เป็นค่าธรรมดาสองพยางค์ แต่เป็นความรู้สึกที่พูด ไม่ชัดเจนและไม่เข้าใจจากปากของเขา

ใบหน้านัชชาเห่อแดงแม้จะมองด้วยตาเปล่า เธอทนความ รู้สึกไร้เรี่ยวแรงนี้ ขอทางเขาเดินมายังห้องน้ำ “พูดอะไรน่ะ รีบ มาล้างหน้าแปรงฟันเร็วๆ…….

เตชิตเห็นแผ่นหลังเธอหนีไป ก็ใส่คำว่า “เขินอาย ไว้ด้าน หลังเธอ อารมณ์ดีมากไปพักใหญ่ หัวเราะออกจากช่องออก ด้วยเสียงทุ้มกังวาน

นัชชาเข้ามาในห้องน้ำแล้วใช้มือล็อคกลอนประตู กำแพง ห้องผู้ป่วยบางจนได้ยินเสียงของเขาอย่างเคย ทันใดนั้นก็อาย จนอยากจะมุดรูเข้าไปใจจะขาด

เธอบิดหัวก๊อกน้ำ เอามือประคองน้ำล้างหน้า อุณหภูมิน้ำ ไม่ได้ลดลงอย่างน่าประหลาดใจ มองเห็นตัวเองที่เปียกดูไม่จืด ในกระจก นัชชาจ้องสักพักจู่ๆก็ยิ้มออกมา

เขินไหม ก็เขิน

มีความสุขไหม และก็มีความสุขด้วย

แค่นี้ก็พอแล้ว
ทั้งสองล้างหน้าแปรงฟันง่ายๆสักพักก่อนไปที่ห้องทํางาน ของปรัณ ปสันน์คือหมอผ่าตัดในวันนี้ ก่อนทำการผ่าตัดก็คือ รายงานแผนงานสุดท้ายกับปรัณ

ยังไงจุดประสงค์ของการผ่าตัดไม่ใช่ใครจะทำก็ได้ คุณพ่อ ของเพื่อนผู้อำนวยการปรัณ และไม่ใช่เป็นเพื่อนธรรมดา เขา ต้องไม่เมินเฉยอย่างเด็ดขาด

คนที่อยากรู้ในวงการแพทย์มากมายอยากจะมีความ สัมพันธ์กับปรัณ ตอนนี้มีโอกาสแล้ว ไม่มีจรรยาบรรณพื้นฐาน ในฐานะแพทย์ เขามีความเห็นแก่ตัวนิดหน่อย

แต่สิ่งที่ปสันน์คาดไม่ถึงว่าครั้งนี้ยังมีเตชิตอีกด้วย คนคน นี้เขาเคยได้ยินมาว่าไม่ใช่คนธรรมดาเหมือนกัน จึงลุกขึ้นยืน ทักทายในทันที

“คุณนัชชา คุณเตชิต อรุณสวัสดิ์ครับ

เตชิตยื่นมือไปจับทักทายกับเขา ได้ข่าวว่าการผ่าตัดครั้ง นี้คุณเป็นคนรับผิดชอบ ก่อนหน้านี้ผมไม่มีเวลาปลีกตัวออกมา เลย รบกวนคุณแล้วล่ะ”

“ที่ไหนล่ะครับคุณเตชิต คนกันเอง เป็นหน้าที่ของผมอยู่ แล้วในฐานะหมอ” ปสันน์ยิ้มพลางโบกมือ ให้ความรู้สึกใจดี และน่าไว้ใจอย่างเคย

ปรัณเห็นคนที่ไม่เจอกันตั้งนานอยู่ตรงหน้า แม้ว่าเมื่อคืน จะรู้แล้วว่าเขากลับมา แต่ก็เข้าใจว่าควรให้เวลาเขากับนัชชา อยู่ด้วยกันไม่ไปรบกวน ตอนนี้เห็นเขาผอมลงไปไม่น้อย ค่อนข้างกลัดกลุ้มในใจ “กลับมาแล้ว”

ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องไม่จำเป็นต้องมีคำพูด

มากมาย เพียงคำว่ากลับมาแล้วก็ทำให้แสบจมูกอย่างเงียบๆ

เตชิตดึงมือเขาที่ยืนออกมาเข้ามาใกล้แล้วกอด ไม่มีคำ พูดอะไรมากมาย มีเพียงสองคำ “ขอบคุณ”

ภายในครึ่งปีกว่าที่เขาไม่อยู่ ปรับคอยสอนคอยช่วยเหลือ นัชชา เขาก็รู้ทั้งหมด ดังนั้นเขาเลยขอบคุณพระเจ้าเป็นพิเศษที่ ให้พี่ชายที่แสนดีกับเขาแบบนี้

ปรับค่อยๆถอนหายใจ “กลับมาก็ดีแล้ว”

สี่คนนั่งลง อ่านแผนงานการผ่าตัดของเมทนีอย่างละเอียด สักหน่อย หลังจากแน่ใจแล้วว่าไม่มีปัญหาใดๆ ปสันน์ก็ขอตัว ไปเตรียมการก่อนการผ่าตัด

ในห้องทํางานจึงเหลือแต่คนคุ้นเคยสามคน ใกล้จะถึง เวลาผ่าตัดนัชชาก็ยิ่งกังวลมากขึ้น เตชิตเพียงกุมมือเล็กที่เย็น เฉียบของเธอไว้ ให้พลังและปลอบโยนเธออย่างไร้เสียง

“ระยะพักฟื้นการผ่าตัดนานไหม?” เตชิตเบนสายตาไป

ถาม

ปรับสายศีรษะ “ไม่นานมาก นอนโรงพยาบาลประมาณ สองอาทิตย์ไม่เกิน สัญญาณร่างกายเป็นปกติล่ะก็ออกจากโรง พยาบาลไปบำรุงรักษาต่อได้

สองอาทิตย์ เตชิตลองคำนวณดู ไม่ถือว่านานเกินไป
“นัชชาเธอไม่ต้องกังวลเกินไป การผ่าตัดเร็วมาก สอง ชั่วโมงก็เสร็จแล้ว มีเพียงบาดแผลเล็กๆ บาดแผลไม่ใหญ่ ไม่มี ความเสี่ยงอะไรมาก” ปรัญปลอบเธออย่างอดทน

ถึงจะพูดแบบนี้ แต่ยังไงก็เป็นชีวิตของคนที่สนิทสนม เธอ ก็ยังกังวลอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่การดูแลเอาใจใส่ของปรัณทำให้ เธอรู้สึกค่อนข้างเกรงใจ “ไม่เป็นไรค่ะพี่ปรัณ ฉันไม่กังวล

“หลังผ่าตัดเธอไม่ต้องกังวล ฉันให้พยาบาลคนหนึ่งมา ดูแลคุณพ่อ เรื่องอื่นก็ให้เตชิต เขาไปตั้งนาน ต้องให้พลังใน การกลับมาของเขาหน่อย” ปรัณพูดแหย่

ถึงจะกลับมาแล้ว ที่จริงทุกคนก็รู้ว่าตอนนี้สุขภาพของเต ชิตก็ยังไม่ดี

แต่คำพูดนี้ก็ทำให้นัซซาอุ่นในใจ ไม่ว่าจะทำมากหรือทำ

น้อย อย่างน้อยตอนนี้เขาก็อยู่เคียงข้างตน คอยอยู่ด้วยกัน

ทำให้มีกำลังมากกว่าอะไรทั้งหมด

“พี่ปรัณ ขอบคุณพี่จริงๆนะคะ ฉันรบกวนพี่มามากเกินไป แล้ว…….” นัชชารู้สึกไม่สมควรได้รับมัน ถ้าเธอไม่ได้เป็นอะไร กับเตชิต เธอก็ไม่มีความสนิทสนมส่วนตัวกับปรัณ ที่เขาทำ แบบนี้ทั้งหมดก็คือไมตรีจิตล้วนๆ

“อย่าพูดว่าเกรงใจเลย ฉันเป็นห่วงพวกเธอทั้งสองมา ตลอด ตอนนี้เคยชินจนไม่รู้ตัวไปแล้ว พวกเธอมีความสุข สิ่งที่ ฉันทำก็ไม่เปล่าประโยชน์

“รอพี่ออกจากโรงพยาบาลแล้วมาทานข้าวที่บ้านนะ พวกเราค่อยมาคุยกันอีก

ปรัณยิ้มอย่างเบิกบาน “ได้”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ