ตอน460เริ่มเป็นห่วงเป็นใยเธอตั้งแต่เมื่อไหร่
ตอนที่460 เริ่มเป็นห่วงเป็นใยเธอตั้งแต่เมื่อไหร่
นัชชากับชนุดมนัดกันที่ร้านอาหารตะวันตก หรูหรา ไม่ ค่อยมีคนมาก บรรยากาศแบบนี้ชนุดมชอบ
ตอนหนึ่งทุ่ม นัชชาพาลูกเดินเข้ามาในห้องที่จองไว้ล่วง หน้า พนักงานยกน้ำ
เลม่อนมาเสิร์ฟ ธีมนต์ไม่ค่อยชอบดื่มน้ำเปล่า เขาอยาก ดื่มน้ำผลไม้ นัชชาเลยต้องตามใจ
“คุณแม่ครับ เมื่อไหร่คุณลุงจะมา” รอไม่ถึงห้านาที ธีมนต์
เริ่มรอไม่ไหว
ไม่ได้เจอกันนาน เตชิตก็ไม่อยู่ข้างๆ ปกติเขาไม่พูด แต่ใน
ใจคงคาดหวัง
นัชชลูบหัวเขา ก้มดูนาฬิกา “เดี๋ยวก็มาแล้วครับ”
ชนุดมเป็นคนตรงต่อเวลา เขาไม่เคยสาย แต่เป็นเพราะ
เธอตั้งใจมาเช้าๆ
หลังจากผ่านไปสิบกว่านาที ประตูก็ถูกคนเปิดออกอีกครั้ง มองไปตามต้นเสียง ตัวสูงใหญ่เดินเข้ามา
เขาใส่เสื้อสูท พันผ้าพันคอสีมืด สวมรองเท้าหนังสีดำ ทั้ง ตัวสะอาดสะอ้าน ดูดี
ไม่เจอกันมาสักพัก เขายังดูดีเหมือนเดิม
“มาแล้ว” นัชชายืนขึ้นทักเขา ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ธีม นต์กระโดดลงวิ่งเข้าไปหาเขาแล้ว
“คุณลุงครับ” เขาวิ่งเข้าไปกอดเขา สองแขนเกอดอยู่ที่เอว ของชนุดม
ชนุดมก็ยื่นแขนไปกอดเขา “สูงขึ้นแล้ว”
ธีมนต์เงยหน้ามอง ดวงตาเป็นประกาย พูดด้วยน้ำเสีย งอายๆ “คุณลุงครับ ผมคิดถึงคุณลุงมาก…….
ชนุดมตอบกลับ “ลุงก็คิดถึงเหมือนกัน”
นัชชามองดูทั้งคู่ เธอรู้สึกโล่งใจ ตอนมาเธอกังวลว่าพวก เขาไม่เจอกันนาน บวกกับเรื่องของเตชิต เธอกลัวว่าลูกจะ อึดอัด แต่เหมือนเธอจะคิดมากไปเอง
ธีมนต์ได้เจอเขา มัวแต่สนใจเขา ตอนกินข้าวก็ขอนั่งข้าง เขา ชนุดมไม่ปฏิเสธ ตั้งแต่เล็กจนโตเขาคอยตามธีมนต์ เพราะ ตอนนั้นยังเด็กเห็นไม่ค่อยชัด แต่พอมาตอนนี้เหมือนจะเพิ่ง สังเกตเห็น
“ดูว่าอยากกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า” เขายกมือไปปลด กระดุมที่แขนเสื้อ ยื่นเมนูให้นัชชา
นัชชารับมันมา รู้ว่าเขาชอบอะไร สั่งสเต็กเนื้อให้เขา และสั่งเนื้อฟีเล่สองที่ ใหญ่กับเล็ก ของเธอกับของลูก
พนักงานรับออเดอร์เสร็จก็ออกจากห้องไป
“ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง” เขาถามขึ้น มือทั้งคู่วางอยู่บนโต๊ะ เส้นเลือดตามแขนอย่างเห็นได้ชัด
นัชชามองตาเขา ตั้งแต่ที่ลูกน้องเขาโผล่มาตอนเธอมีเรื่อง คืนนั้น เธอก็รู้แล้วว่าเขาคงตามดูเธอมาเป็นระยะแล้ว เธอเจอ อะไรมาบ้างเขารับรู้ทุกอย่าง
การที่เขาถามแบบนี้คงจะหมายความว่า ถึงแม้เขาจะรู้ทุก เรื่อง เขาจะคอยปกป้องเธอ แต่จะไม่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องส่วน ตัวของเธอ
“ก็ดี” นัชชารู้ เลยตอบไปแบบง่ายๆ
ชนุดมมองหน้าเธอ ตั้งแต่เปิดประตูเข้ามา เห็นได้ชัดว่า เธอผอมลงมาก เพราะต้องดูแลลูก เปิดร้าน และในใจก็คอย เป็นห่วงผู้ชายที่รักษาตัวคนนั้น ร่างกายคงจะรับไม่ไหว
ชนุดมพยายามปกปิดสายตาความเป็นห่วง “ดีแล้ว”
“แล้วคุณลุงละครับ สบายดีมั้ย” ธีมนต์ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
ชนุดม ใจละลาย “ลุงสบายดี เพียงแต่ตอนคิดถึงจะรู้สึกเหงาๆ”
เขาเอียงหัวเหมือนกำลังคิดหาทางออก “งั้นกูมาหาผม บ่อยๆ ครับ ผมจะคอยรอนะครับ”
ชนุดมอุ่นใจ ยกยิ้ม “อืม ครั้งนี้ลุงจะอยู่นานหน่อย วันหยุด อาทิตย์หน้าลุงมาพาออกไปเล่นข้างนอกดีมั้ย
“ครับ”
ไม่นาน อาหารก็ถูกนำมาเสิร์ฟ บนตะอาหารมีเสียงพูดคุย กันตลอด มันแลดูอบอุ่น แต่เรื่องพูดคุยระหว่างผู้ใหญ่มันลด น้อยลง
หลังจากจ่ายเงินเสร็จ ผู้จัดการพาธีมนต์ไปเลือกของที่ ระลึก เหลือนัชชากับชนุดมอยู่กันแค่สองคน
เขามองเธอ ลังเลอยู่นานว่าจะพูดออกมาดีมั้ย “เธอผอมลง”
นัชชะงัก มองดูตัวเองผ่านกระจกตรงประตูลิฟท์ “ผอม หน่อยก็ดี ดูมีชีวิตชีวาดี”
ได้ยินแบบนั้น ชนุดมขมวดคิ้ว ถามเธอกลับ “ผอมแบบนี้ เธอคิดว่าตัวเองดูมีชีวิตชีวาหรอ”
นัชชาไม่ได้ตอบ เธอรู้ดี ไม่ว่าใครเห็นเธอในสภาพนี้ ก็ ต้องรู้สึกไม่สบายใจเป็นธรรมดา
บรรยากาศเริ่มตึงเครียด ดีที่ไม่นานธีมนต์ก็เดินกลับมา ทั้งสามเดินออกไปพร้อมกัน ชนุดมอาสาขับรถไปสองพวกเธอ กลับบ้าน พอถึงบ้าน ธีมนต์หลับไปแล้ว
นัชชาเรียกให้น้าในมาอุ้มธีมนต์ไป แต่ตัวเองยังยืนอยู่ที่เดิม
ชนุดมตกใจที่เห็นเธอ เธอ “เป็นอะไรไป
เขามองใบหน้าที่ไม่สบายใจของ
“คุณจะอยู่ต่ออีกสักพักใช่มั้ย
“อืม” เขาพยักหน้าตอบไปตามตรง
นัชชากัดปาก ลังเลที่จะถามเขา “คุณรู้เรื่องเตชิตแล้ว
ใช่มั้ย”
“อืม”
เขาไม่ได้แค่เพียงรู้เรื่องแต่เขายังไปเจอเตชิตมา เรื่องนี้ เขารับปากกับเตชิตว่าจะไม่บอกเธอ
“ชนุดม” เธอยิ้มแห้ง เสียงลมพัดผ่านมา “ฉันหาเรื่อง รบกวนคุณอีกแล้วใช่มั้ย
หลายปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่เธอมีปัญหา เขาจะคอยช่วย เหลือดูแลเธอ เธอรู้สึกซาบซึ้งใจมาก และในเวลาเดียวกันเธอรู้ ว่าเขารู้สึกยังไงกับเธอ สำหรับเขาแล้วมันก็คงจะทนทุกข์รา มานไม่ต่างกัน
เพราะชอบเธอ ถึงแม้เธอจะเลือกเตชิตแล้ว เขาก็คอยอยู่ ดูแลเธอในเวลาที่เตชิตไม่อยู่ การที่เขาทำให้มากมายขนาดนี้ เธอรู้สึกติดค้างเขามากมาย
“ไม่ได้ทำแค่เพื่อเธอ แต่ยังทำเพื่อธี ถ้าเธอจะมาพูดเรื่อง พวกนี้ เธอกลับเข้าบ้านไปเถอะ” เขาเอื้อมมือไปหยิบบุหรี่ กำลังจะจุดไฟ เพราะเป็นห่วงเธอ เขาเลยตัดสินใจโยนทิ้ง
เขาไม่อยากได้ยินคำขอบคุณจากปากเธอ พูดมากไป เหมือนห่างเหิน
นัชชาไม่ได้พูดอะไร คือพูดให้ถูกคือเธอไม่รู้จะพูดยังไง ลดหน้าต่างลง แอร์เย็นถูกพัดออกไป ตามเข้ามาด้วย อากาศข้างนอกที่ค่อนข้างอุ่น
“ฉันคิดมาโดยตลอด” ชนุดมหันไปมองนอกหน้าต่าง หยุดไปสักพักแล้วพูดขึ้น “ฉันเริ่มเป็นห่วงเป็นใยเธอตั้งแต่เมื่อ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ