ตอน410ลูกเมียอยู่ในอวยแล้ว
ตอนที่410 ลูกเมียอยู่ในอวยแล้ว
คำที่เธอใส่ใจเป็นเหมือนน้ำพุที่ไหลซึมเข้าไปในใจของ เขา เตชิตบอกตามจริง “ยังครับ ช่วงบ่ายยังอยู่เลยยังไม่มี เวลา” “อ้า” นัชชาจ้องไปยังแผนภูมิที่แขนอยู่บนฝาผนัง “นี่เกือบ
ทุ่มนึงแล้วทำไมคุณยังไม่ทานอะไรอีก
“ไม่มีเวลาครับ อีกสักพักเดี๋ยวลองดู
เขาพูดเช่นนี้ สองทุ่มก็ยังไม่ได้ทาน
นัชชาถอนหายใจอย่างเสียไม่ได้ “ทางที่ดีคุณหาอะไรทาน หน่อยนะคะ ปล่อยให้หิวได้อย่างไร
เขาไม่ได้ตอบแต่ถามเธอว่า “คุณจะเสร็จประมาณกี่โมง
ครับ”
“อีกสักพักทานอาหารเสร็จก็กลับแล้วค่ะ น่าจะประมาณ สองทุ่มครึ่ง”
สองทุ่มครึ่ง ยังมีเวลาอีกชั่วโมงครึ่งหลังจากนี้ เห็นได้ชัด ว่าประชุมติดต่อกันมาเป็นว่าเวลานานจนเริ่มจะไม่ไหวแล้ว ตอนนี้รู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้าเหลือเกิน
อยากจะเจอพวกเขาแล้วเช่นกัน ทุกเวลาที่ผ่านไปช่างสิ้นเปลืองจริงๆ เกลียดตัวเองที่ไม่สามารถบินไปได้ในตอนนี้
แม้ว่าหัวใจเขาจะรีบร้อน แต่ปากก็สงบนิ่งมาก “ผมจะไป รับคุณตอนสองทุ่มครึ่ง
ริมฝีปากนัชชาผ่อนคลายออก เป็นเวลานานแล้วที่ไม่ได้ ถูกเขารับส่งเช่นนี้ ก่อนนี้เธออยู่คนเดียวกับลูกของเธอ ใจก็รู้ สึกอบอุ่นขึ้นมา “ถ้าอย่างนั้นคุณก็อย่าลืมทานข้าวล่ะ”
“อื้อ”
วางสายไป เตชิตรู้สึกเบื่อ กำลังต้องการอะไรทำระหว่างนี้ คิดว่าจะไปที่ใกล้ๆบริษัทธนัทสักหน่อย เพิ่งนึกได้ว่าเขาบอกว่า เขากำลังทำงานล่วงเวลา เขาก็เลยขับรถออกไปเพื่อฆ่าเวลา
เมื่อเข้าไปถึงประตูใหญ่ของบริษัท พนักงานต้อนรับเห็น เขาก็แปลกใจเล็กน้อย ลุกขึ้นยืนอย่างตื่นเต้น “ประ ประธานเต ชิต”
เตชิตโบกมือของเขา เดินตรงเข้าไปโดยไม่หยุดพัก
พนักงานเก่าหลายคนยังอยู่ในตำแหน่งเดิม ในห้าปีที่ผ่าน
มา แต่ถ้าหากพนักงานที่ตั้งใจในการทำงาน ทั้งหมดก็จะได้
เลื่อนขึ้นและเพิ่มเงินเดือน พวกเขาเห็นเตชิตเดินเข้ามาอย่างมุ่ง
มั่น พวกเขาล้วนกระตือรือล้นกล่าวทักทาย แม้จะเพียงแค่
ตะโกนเรียกออกมา “ประธานเตชิต
พนักงานใหม่ที่ไม่รู้จัก กระซิบกับคนที่อยู่ข้างๆเขา “นี่คือ ซีอีโอของบริษัทเราหรอ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
“นี่คือประธานเตชิต เรียนกฎหมายมาไม่รู้จักได้อย่างไร
พนักงานใหม่กะพริบตาทันที “นี่คือประธานเตชิตหรอ ฉัน เคยได้ยินแต่ว่าไม่เคยได้เห็นตัวจริง”
“เจ้านายพวกเราไม่ได้มาบ่อยๆ ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าทำไมไม่ ได้อยู่ในวงการนี้แล้ว เขาเป็นเพื่อนสนิทกับประธานธนัท
“อย่างนี้นี่เอง”
เตชิตเดินตรงเข้าไปในห้องทำงานของธนัท ชายคนนั้น กำลังนั่งดูรายงานอยู่ที่โต๊ะทำงาน
เมื่อเห็นเขามาก็รู้สึกค่อนข้างประหลาดใจ “มาได้ไงเนี่ย
“เบื่อ หาเพื่อนนั่งด้วย
สายตาของธนัทมองไปทั้งตัวเขา เปล่งเสียงดุดัน นัชชา ไม่สนใจแกละสิท่า ถึงได้มาหาฉันที่นี่”
พอได้ยิน เตชิตก็ทำท่าดื่มกาแฟ จากนั้นก็ยิ้มเจื่อนๆ “อารมณ์ของผมขึ้นอยู่กับหล่อนตั้งแต่เมื่อไหร่ นายสายตาของ คุณผมไม่มีเรื่องอื่นทำหรือยังไงกัน
ปรัณเคยพูดเขาเป็นเช่นนั้น ตอนนี้ธนัทก็ยังพูดว่าเขาเป็น เช่นนั้นอีก ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เหลือศักดิ์ศรีของตัวเองเหลืออยู่
เลย
“เพิ่งรู้ตัวหรือไง” ธนัทไม่ต้องการให้เขาเหลือใบหน้าหยิ่งจองหองอยู่ “ห้าปีก่อนคุณแทบจะจมหายไปกับนัชชา อย่าหา ว่าเราว่าคุณเลย”
การที่เขาหมกมุ่นอยู่แต่เรื่องของนัชชา ใครหาว่ามันไม่ดี
“ว่าแต่ทำไมถึงคิดมาหาผมที่นี่ได้ล่ะ”
“ตอนบ่ายผมอยู่ที่ออฟฟิศ จัดการธุระเสร็จแล้วก็เลยแวะ มา” เมื่อพูดจบแล้วเตชิตก็เดินไปดูที่โต๊ะทำงานอันยุ่งเหยิงของ เขา “ที่บริษัทพักนี้ยุ่งมาก โต๊ะเลยเต็มแบบนี้แหละ
ต้องรู้ก่อนว่าธนัทผู้ที่เนี้ยบมากคนนี้ ยากนักที่จะปล่อยให้
โต๊ะรกเช่นนี้
ธนัทก้มหน้าก้มตา ยกมือขึ้นและจับตรงกระดูกคอที่เจ็บ อยู่ “งานยุ่ง ความรักก็วุ่น”
เตชิตนั่งอยู่บนโต๊ะครึ่งก้น ขายาวพาดไปบนพื้น ท่านี้ช่าง มีเสน่ห์ พาให้คนหลงใหล คิดว่าเมื่อสักครู่เพิ่งถูกเยาะเย้ย ก็ หัวเราะเล่นด้วย เพราะจินต์รี”
ธนัทมองเขาอย่างไม่สู้ดีนัก “รู้ก็ดีแล้ว ยังต้องพูดออกมาอีก”
“ไม่ใช่ว่าผมว่าคุณนะ แต่แค่จินต์คุณยังรับมือไม่ได้” ใน ใจของเตชิตเห็นว่าจินต์เป็นคนค่อนข้างแข็งกร้าว เหตุผลที่ แข็งกร้าวนั้นเพราะว่าเธอไม่มีความเกรงใจต่อเขาเลยในเรื่อง ของนัชชา และเขาเองก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ สุดท้ายแล้ว หล่อนก็เป็นเพื่อนรักของนัชชา ตอนนี้ยังมีฐานะอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องอีก แม่อุปถัมภ์ของลูกชายเขา
ธนัทคิดแล้วก็รู้สึกหน่าย “เธอปิดใจกับผม และยังไม่ เต็มใจที่จะพูดออกมา จะให้ทำอย่างไร”
“พวกคุณคบกันอยู่สักพักแล้วไม่ใช่” เตชิตจำได้รางๆว่า มีช่วงระยะเวลาที่เห็นทั้งสองอยู่ด้วยกันเสมอ
เมื่อคิดถึงอดีต ธนัทก็ยิ้มอย่างขมขื่น “นั่นเรียกว่าคบกัน แล้วใช่ไหม ช่วงนั้นเป็นเพราะเธอเสียใจเรื่องของนัชชา ผม เผอิญอยู่ตรงนั้นพอดี สำหรับเธอผมก็เป็นแค่คนช่วยปลอบใจ
“ถ้าชอบก็ต้องริเริ่ม ถ้าไม่ทำอะไรเลยก็ยากหน่อย ผู้หญิง ก็เป็นแบบนี้ หล่อนปฏิเสธก็ไม่ได้หมายความว่าหล่อนไม่ชอบ นะ”
“จริงหรอ” ธนัทคิดถึงคำปฏิเสธที่จินต์พูดกับเขา ถ้า
หากว่าเธอพูดไม่ตรงกับใจก็ถือว่าเธอใจร้ายเกินไปแล้ว
เขาดูผู้ชายที่อยู่ข้างกาย และถอนหายใจออกมา “บาง ครั้งผมก็ชื่นชมนัชชา ในใจของจินต์มีเธอมากกว่าผมเสียอีก เตชิตคิดอยู่ครู่หนึ่ง “นั่นก็เป็นไปได้
ธนัทจากที่อารมณ์เสียอยู่แล้วก็ยิ่งรู้สึกหดหูมากขึ้นไป อีก “ช่างมันช่างมัน อย่ามาทำให้เสียเวลางานของผม
“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คุณต้องไม่ทำให้คนอื่นผิดหวัง ถึง เวลานั้นนัชชาจะมาคิดบัญชีกับผม วันที่ดีก็ผมก็จะพังเอา” เต ชิตดูเหมือนจะพูดกับตัวเอง ในความเป็นจริงเป็นการให้วัคซีนกับธนัท และช่วยจินต์นั่นเอง
ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมาหลายปี ธนัททำไมจะฟังไม่เข้าใจ ทันใดนั้นเขาก็ยกนิ้วขึ้น “ผมจำได้ว่าคุณรำคาญเธอไม่ใช่หรอ
“รําคาญอย่างกะอะไรดี”
“โอเค” ธนัทรู้สึกตลกและโกรธ เขาเปิดปาก “ดูเหมือนว่า
ผมจะต้องคุกเข่าขอเธอแต่งงาน ถ้าญาติผู้ใหญ่เห็นด้วย
ไม่คาดคิดว่าเตชิตจะตรงไปตรงมาส่งสายตาเหยียด หยามไปที่เขา “คุณคิดว่าตอนนี้คุณยืนอยู่หรือยังไง
ธนัทตกตะลึง เกือบจะไม่ตอบอะไร ปฏิกิริยาต่อมาเกือบจะ ฆ่าเขาในที่เกิดเหตุ “ได้ได้ได้ ภรรยาและลูกของคุณอยู่ในอวย แล้วนี่ เหลือแต่จะรอแกล้งผมใช่ไหมล่ะ
“ผมแค่เตือนสติคุณ ในฐานะพี่ชาย ว่าได้เวลาทำอะไรสัก
อย่างแล้ว การรักษาหน้าไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว”
“คำพูดนี้เหมือนไม่ใช่คุณเป็นคนพูดเลย” กาลครั้งหนึ่ง เต ชิตมีทัศนคติที่ไม่สนใจใยดีต่อผู้หญิงเลยจริงๆ แม้ว่านางฟ้าอยู่ ตรงหน้าเขาก็ไม่ใส่ใจ
อย่างนี้นี่เอง คนที่อยู่ในความรักมักจะเปลี่ยนไป
เตชิตแอบเลียริมฝีปากของตัวเอง เพราะผมเดินอ้อมมา มากเกินไป ดังนั้นผมหวังว่าคุณจะทำได้ดีกว่า ไม่มีอะไรสำคัญ เปรียบกับคนที่อยู่ข้างกายได้
ประโยคนี้เขาใช้หัวใจพูด
ธนัทยังคงติดตลก ใบหน้าส่องประกายเล็กน้อย “ผมมี มาตรฐานน่า
เตชิตค่อนข้างวางใจในตัวธนัทมาก ท้ายที่สุดแล้วคนที่ ทำงานในสายอาชีพนี้มีความเข้มงวด จนบางครั้งก็น่าเบื่อ การ ออกไปหาความบันเทิงก็เพื่อที่จะทำงาน จินต์อยู่กับเขา ก็จะได้ รับควาอยุติธรรม
“ใช่แล้ว ไว้วันหลังนัดนัชชากับลูกมาเจอด้วยกัน ฉันยังไม่ ได้เจอหน้าเลยตั้งแต่กลับมา” ธนัทคิดขึ้นมาในทันใด เตชิตรีบรับค่า “ไม่มีปัญหา”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ