ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน387ตอนเมาก็เรียกชื่อของเธอ



ตอน387ตอนเมาก็เรียกชื่อของเธอ

ตอนที่ 387ตอนที่เมาก็เรียกชื่อของเธอ

เด็กคิดไปคิดมาแต่ก็ไม่ได้ใช้เวลานานเขาใส่หัวแล้วพูด ว่า “ไม่ครับผมจะอยู่กับแม่

ถึงแม้ปากของเขาบอกว่าไม่แต่ความเศร้าในใจก็ปกปิด ไม่ได้นัชชาก็ดูออกเหมือนตอนนี้เธอกำลังบังคับให้เด็กเลือก

ที่จริงนี่ไม่ใช่เรื่องที่เขาควรคิดในอายุช่วงนี้แต่ตอนนี้ จําเป็นต้องคิด

“แกงไก่มาแล้วค่ะ”น้าในยกแกงไก่มาไว้ตรงหน้าเธอแกง

มีสีที่สดใสและกลิ่นหอมแค่มองนัชชาก็รู้สึกหิวข้าวแล้ว

เธอใช้ช้อนไปตกมาแล้วมาเป่าสองสามทีแล้วยื่นไปทาง

ธีมนต์“จะกินดูไหม?”

“ผมกินไปเมื่อตอนเที่ยงแล้วแม่กินเถอะครับ”พูดเสร็จก็ลง มาจากตัวเธอแล้วไปนั่งข้างๆไม่รบกวนเธอกินข้าว

นัชชาดื่มน้ำแกงไปด้วยแล้วคิดถึงคำพูดที่เด็กพูดเมื่อกี้แม้ กระทั่งเตชิตลงมาเมื่อไหร่เธอเองก็ไม่รู้

ตอนกลางวันเขาก็ยังไม่ได้กินข้าวน้ารินเอาช้อนจานมาให้ เขาอีกชุดหนึ่งผู้ชายจับซ้อนขึ้นแล้วไปสัมผัสกับจานทำให้มี เสียงดังขึ้นเล็กน้อยนัชชาได้ยินเสียงถึงจะได้สติกลับ
พอสบกับตาคู่นั้นเขาพูดเบาๆว่า “คิดอะไรอยู่?

นัชชาก้มหน้าจนหน้าจะเข้าไปในถ้วยอยู่แล้ว ไม่ได้คิด

อะไร”

“รสชาติเป็นยังไงบ้างคะ?”

“ดีมากเลยค่ะ”

“งั้นก็กินเยอะๆนะคะดึกๆ จะได้ไม่หิวที่บ้านไม่มีของ ขบเคี้ยวค่ะ”

พอธีมนต์ได้ยินแบบนี้ก็รีบไปฟ้องกับนัชชาว่า “ใช่ครับแม่ แม่ต้องกินเยอะๆนะที่บ้านลุงไม่มีขนมขบเคี้ยวเลยและเขาก็ไม่ อนุญาตให้ผมกินด้วยครับ”

ถ้าเมื่อก่อนบอกว่าห้ามกินทุกครั้งที่นัชชามาบ้านเตชิต คงจะไม่กินแล้วแหละแต่เด็กยังไงก็ชอบกินขนมขบเคี้ยว

ที่เตชิตทำแบบนี้เพราะฝังใจจากอาหารครั้งที่แล้วเขากลัว เด็กอ้วนมากแล้วจะไม่สบายอีกครั้งและอีกหนึ่งเหตุผลคือขนม ขบเคี้ยวไม่มีสารอาหารถ้าไม่กินได้ก็ไม่ต้องกิน

“ซื้อผลไม้มาให้แล้วไม่ใช่หรอผลไม้อร่อยกว่าขนม ขบเคี้ยวอีกนะ”

ธีมนต์เบะปาก “ผมอยากกินช็อกโกแลตโดนัทและสตรอ เบอร์รี่พุดดิ้งครับ”

“ลูกกินหวานมากไม่ได้นะ”ยากที่นัชชากับเตชิตจะคิด เหมือนกันถึงแม้ในใจเธอจะไม่ยอมรับแต่ปากก็พูดออกมาแล้ว ที่บ้านเรายังมีขนมแต่ลูกยังอยากจะอยู่ที่นี่ต่อไม่ใช่หรอ?”

ธีมนต์ยกนิ้วขึ้น”ถ้าแม่ให้ผมกินขนมผมก็จะกลับครับ

เตชิต

ก็ดีเขายังไม่ทันดีใจก็เหมือนโดนน้ำสาดจนหมดอารมณ์

เพื่อที่จะเอาขนมก็เลยทิ้งพ่อไปเก่งมากเลยลูก

นัชชารู้สึกว่าตัวเองจึงเพราะเรื่องกินขนมเหมือนเป็นเรื่อง ตลกเลยที่แท้มันก็สับเปลี่ยนง่ายขนาดนี้นี่เอง……… เธอกระแอม ขนมกินได้แต่ไม่ใช่ตอนนี้รอวันแม่จะพา

เธอไปซื้อนะ”

“จริงหรอครับ?” นัยน์ตาของธีมนต์เหมือนมีดาวพันดวงที่ ส่องแสงสว่างออกมาคนที่ไม่รู้เรื่องคงจะเข้าใจผิดคิดว่าเขา คงจะได้สมบัติอะไรที่พิเศษมาก

นัชชาพยักหน้า “จริงสกินของหวานเยอะไปฟันจะร่วงแล้ว จะฟันผุลูกอยากให้ฟันดำๆหรือ?”

พอได้ยินแบบนี้ธีมนต์จึงรีบส่ายหัวไม่อยากครับ”

“งั้นก็ต้องเชื่อฟังแม่ดีๆนะครับ”

“ผมจะเชื่อฟังครับ”ธีมนต์เบะปากถึงแม้จะไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ไม่ได้ดื้อที่จะขออะไรต่อ
หลังจากที่กินข้าวเสร็จนัชชากำลังคิดอยู่ว่าจะพูดเรื่องกลับ ไปกับเตชิตยังไงเธอไม่รู้ต้องพูดยังไงถ้าเป็นเหมือนเมื่อก่อน เธอบอกว่าไปก็คือไปแล้ว

แต่ตอนนี้เด็กอยากจะอยู่ต่อและเขาก็ไม่อยากบังคับเด็ก ถ้าเธอขึ้นทำแบบนั้นต่อก็กลายเป็นเหมือนคนร้ายไปเลย

นัชชาคิดไปตั้งนานช่วง โอกาสที่เด็กขึ้นไปเอาของ ตะโกนเรียกเตชิตไปที่ห้องโถง “เดี๋ยวฉันจะพาธีมนต์กลับไป แล้ว”

“กลับไปไหน?”

“ไปอยู่ที่จินต์หรือทางพ่อแม่ฉัน

เตชิตยักคิ้วดีที่ไม่ได้บอกว่าไปที่ชนุดลไม่อย่างนั้นเขา คงจะเอาตัวเธอไปมัดอยู่ที่เตียงไม่ให้ไปไหนทั้งนั้น

“เด็กอยากอยู่ต่อไม่ใช่หรอจะรีบกลับไปทำไม

นัชชากัดริมฝีปากกำลังลังเลอยู่ออกมานานขนาดนี้ก็ควร จะกลับแล้วคงไม่ใช่อยู่ที่คุณไปตลอดธีมนต์แค่ติดเล่นผ่านไป สักแป๊บนึงก็คงดีแล้ว

“นี่เป็นสิ่งที่ลูกพูดกับเธอหรือเธอคิดเอง? “คำถามของเขา แต่ละอย่างทำให้เธอไม่รู้จะตอบยังไง ไม่ต้องใช้วิธีการคิดของ เธอไปคิดแทนเด็กถ้าไม่ได้ลำบากใจมากนักเราจะไปขัดขืน ความอยากของเด็กทำไม

“แต่ว่า……
ทีแรกเตชิตอยากจะบังคับให้เธออยู่ต่อแต่พอนึกถึงคำพูด ที่เธอพูดในโรงพยาบาลก็เลยกลั้นไว้พูดอย่างไม่มีหัวไม่มีหาง ว่า “ไหนๆก็มาทั้งทีขึ้นไปดูที่ชั้นบนก่อนไหม

“ฉัน………เธออยากจะพูดอะไรต่อแต่เขาหันหลังแล้วเดิน เข้าไปที่ห้องน้ำชั้นก่อนแล้ว

นัชชาไม่รู้ทำยังไงก็เลยขึ้นไปที่ชั้น2ตามที่เขาพูดจริงๆ เธอ ไม่ได้คิดอะไรแค่ทำตามที่เขาขอเพื่อที่จะได้ไปจากที่นี่แต่พอ ตอนที่เธอเดินขึ้นไปถึงชั้นเธอก็อึ้งไปเลย

สิ่งที่เข้าตาคือทุกอย่างที่คุ้นเคยพรมที่อยู่บนพื้นไฟที่ติด กับกำแพงลายดอกไม้ที่อยู่บนเพดานบานประตูห้องที่ตรงกลาง ไม่เคยเปลี่ยน……..

ในใจของนัชชามีคลื่นพันๆ คลื่นเท้าเหมือนมีเหล็กพัน กิโลกรัมเธอใช้ความกล้ามากมายถึงจะเดินไปตรงหน้าประตู ห้องนอนได้ประตูห้องไม่ได้ปิดมิดน้าในเก็บของในห้องอยู่เธอ เปิดประตูเบาๆก็เห็นทุกอย่างที่อยู่ในห้อง

ทุกอย่างเหมือน5ปีก่อนแม้กระทั่งเครื่องสำอางของเธอที่ อยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งก็ไม่เคยเปลี่ยนถ้าไม่มีใครรู้ว่าเธอไปจาก ที่นี่5ปีคนอื่นคงจะเข้าใจผิดว่าที่นี่มีผู้หญิงใช้ชีวิตมาตลอด

บ้านที่เป็นสีขาวผ้าปูที่นอนที่สีเข้มและโซฟาที่อยู่ข้างๆ พร้อมกับหมอนที่เป็นหมอนคู่ผ่านไปเป็นร้อยๆวันร้อยๆคนที่ พวกเขากอดกันนอนในห้องนี้บนเตียงนี้

เธอไปจากที่นี่นานขนาดนี้แล้วเขายังมีหมอนไว้อยู่อันแปลว่าอะไรคงไม่ต้องพูดแล้ว

ตอนที่นัชชาเห็นพวกนี้เธอยกมือขึ้นปิดปากทันทึกลัวว่าตัว เองจะส่งเสียงอะไรขึ้นมาภาพตรงหน้าเริ่มมัวน้ำตาคลอเบ้า

น้าในที่อยู่ข้างๆก็เอ็นดูเธอไม่สนความแตกต่างของฐานะ เดินไปตบที่ไหล่เธอเบาๆ ตอนนั้นที่คุณเกิดเรื่องฉันอยู่ที่บ้าน อีกสักพักหนึ่งหลังจากนั้นคุณชายถึงจะให้ฉันไปฉันก็ได้พบเจอ ชีวิตที่มืดมนที่สุดของเขาที่น้ามาพูดแบบนี้กับคุณมันดูไม่เหมาะ สมแต่คุณชายรักคุณมากตอนนั้นที่คุณเกิดเรื่องเขาไปที่ข้าง แม่น้ำทุกวันไป1ครั้งก็ไปเป็นวันกลับมาตอนกลางคืนก็เมา ตลอดทุกครั้งที่เมาก็เรียกแต่ชื่อของคุณนัชชา

น้าในอายุเยอะแล้วความรู้สึกต่างๆก็จะมากกว่าคนปกติ พูดถึงเรื่องที่ซึ้งๆน้ำตาของเธอก็ไหลออกมา “ตอนนั้นมีคน มากมายบอกให้คุณชายย้ายไปอยู่ที่อื่นกลัวว่าสติของเขาจะ เกิดปัญหาแต่คุณชายมั่นใจว่าจะอยู่ที่นี่ต่อเขาบอกว่าถ้าวันไหน คุณกลับมาจะหาเขาไม่เจอของก็ไม่ให้ทิ้งบอกว่าถ้าคุณกลับมา อีกจะได้ใช้……………….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ