ตอน358คุณทำแบบนี้กับแม่ไม่ได้
ตอนที่358 คุณทําแบบนี้กับแม่ไม่ได้
เธอเป็นห่วงมาทั้งคืนทำให้นัชชาหมดความอดทน เธอไม่ สนใจอะไรทั้งนั้น ตอนนี้เธอแค่อยากเจอลูก แล้วตบหน้าแรงๆ เขาทีหนึ่ง
เธอเสียงดังเกินไป เขากลัวว่าลูกจะได้ยิน ลุกขึ้นยืนเดินไป ที่ข้างหน้าต่าง “ลูกอยู่ที่ฉัน
“ตอนนี้คุณอยู่ไหน”
“บ้าน”
นัชชาเปิดประตูขึ้นรถ พูดขึ้น “ฉันจะไปหาคุณ
“ไม่ต้อง ลูกอยู่ที่นี่สบายดี” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ไม่สนว่าเธอจะเป็นกังวลมากแค่ไหน
นัชชาทนไม่ไหว “เตชิต คุณจะทำอะไรกันแน่
“ใช้เวลากับลูก” เขาตอบกลับ ไม่งั้นจะให้ทำอะไรหรอ
เหมือนเขาจงใจทรมานเธอ นัชชากลั้นหายใจ พยายาม ลดความโมโห ทำให้ตัวเองสงบอารมณ์ “ตั้งแต่ลูกเกิดมาเขา ไม่เคยห่างจากฉัน ถ้าลูกอยู่กับคุณ เขาอาจจะกดดัน อยู่ไม่สุข ถ้าคุณรักลูกจริงให้ฉันไปรับลูกนะ ได้มั้ย”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงขอร้องอ้อนวอน เตชิตได้ยินดังนั้น เขา กํามือแน่น
อาการที่เธออยากจะพบลูกเขาเข้าใจ แต่
“ก่อนหน้านั้น เธอบอกว่าจะพาลูกกลับไป ตอนนี้มาขอให้ ฉันช่วยเข้าใจเธอหรอ” เขาจงใจพูดถึงแม้ในใจเขาจะไม่เคย คิดแบบนี้มาก่อน “เธอก็ควรต้องลองรับรู้ความรู้สึกของฉันบ้าง แล้วล่ะ”
พูดจบ เขากำลังจะกดวาง
ไม่ได้ยินเสียงใด นัชชาเหมือนถูกเขาดึงดิ่งลงไปอยู่ล่าง สุด “ฉันผิดไปแล้ว”
เขาหยุดชงัก เอาโทรศัพท์กลับไปวางไว้ที่หู “เธอพูดว่าไร
นะ”
“ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่น่าไปยั่วโมโหคุณแบบนั้น คุณให้ฉัน พบหน่อยนะ ถึงแม้คุณจะไม่ให้ฉันรับตัวลูกไป ขอแค่ได้เจอ หน้าลูกหน่อยนะ ฉันขอร้อง” เธอเป็นห่วงจนจะบ้าตายอยู่แล้ว เธอกับเตชิตก็ยังไม่ชัดเจน ตอนนี้เด็กก็ยังมาถูกเขาเอาไป คน เป็นแม่รู้สึกเหมือนถูกบีบคอ
เตชิตกำลังจะใจอ่อน เธอพูดขึ้น “ฉันจะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัว คุณ แต่ขอร้องอย่าเอาลูกเข้ามาเกี่ยว ไม่ว่าคุณจะรู้สึกยังไงกับ คุณประทิน อย่ายัดเยียดเธอให้ลูก ถือว่าฉันขอร้อง
เธอกลัวโน่นกลัวนี่ สิ่งที่กลัวที่สุดคือกลัวเขาจะทิ้งลูกไปหาผู้หญิงคนอื่น
ลูกจะคิดยังไง เธอไม่อยากนึกภาพนั้น
เตชิตได้ยินดังนั้น ใจก็เริ่มแข็งขึ้น “เหอะ เธอคิดทั่วถึงจัง
เลยนะ”
“เตชิต.
“เมื่อถึงเวลา ฉันจะให้พวกเธอพบกัน” น้ำเสียงแข็ง
กระด้าง
ครั้งนี้ เขาไม่เปิดโอกาสให้เธอได้พูด เขาก็กดวางสายทิ้ง มองดูวิวนอกหน้าต่าง เขาอารมณ์ไม่ดี ทั้งหมดเป็นเพราะ คำพูดที่ไม่สนใจของเธอ
ไม่ยุ่ง ไม่สนใจเรื่องส่วนตัวของเขา ตอนเห็นประทินหน้า เสียไปเลย ยังมาพูดว่าเธอไม่รู้สึก ไม่แคร์
เขาชื่นชมเธอ
ถ้าเขาได้ครึ่งหนึ่งของเธอ ตลอดเวลาห้าปีที่ผ่านมาก็คงไม่ ต้องมีชีวิตแบบนี้
ช่างเถอะ ปล่อยเธอไป ลูกอยู่นี้ อย่างน้อยวันสองวันนี้เธอ ก็คงทำอะไรมากไม่ได้ ชนุดมคนนั้นเขาไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา
เรื่องของตัวเมีย ไม่เกี่ยวอะไรกับคนนอก
เตชิตจัดการอารมณ์ได้แล้ว เดินกลับเข้าไปในห้องรับแขก เด็กน้อยนั่งมองเขา “แม่ผมพูดว่าไงบ้างครับ
“บอกให้ลุงดูแลดีๆ
“โกหก” ธีมนต์มองหน้าเขา ด้วยสายตาจับผิด “ผม ฟังออก แม่ไม่รู้ว่าผมอยู่ที่นี่ ใช่มั้ยครับ
เขาเป็นเด็กอายุสี่ขวบที่ฉลาด เตชิตรู้ว่าเขาเป็นเด็กฉลาดแต่ไม่นึกว่าจะฉลาดขนาดนี้
และตอนนี้ถามเขาด้วยน้ำเสียงเอาผิดร้ายกาจมาก
เขาย่อตัวลง สบตาเขา “ก่อนลุงไปรับแม่หนูไม่รู้ก็จริง แต่ ลุงรับมา แม่หนูรู้ว่าเป็นลุง
แต่ว่า..
“ลุงทำแบบนี้กับแม่ไม่ได้” แววตาของเขาเต็มไปด้วยแวว ปกป้องนัชชา “แม่จะเป็นห่วง ผมไม่อยากทำให้แม่เป็นห่วง
เตชิตได้ยินแบบนั้น เขาหวั่นไหว เป็นเด็กดีที่รู้เรื่องขนาดนี้ เป็นเพราะนัชชาสั่งสอนเลี้ยงดูมาดี ดีมากจนไม่มีที่ติ
“ลุงบอกแม่ไปแล้วว่าอีกสองวันก็มารับหนูได้แล้ว”
ธีมนต์เบ้ปาก “แต่ตอนนี้ผมอยากกลับบ้าน
“ทำไม” เขาขมวดคิ้ว ถามด้วยน้ำเสียงเสียใจและน้อยใจ “หนูไม่อยากอยู่กับลุงหรอ”
ครั้งแรกที่เขาอยู่ลำพังกับลูก เขาเสียใจ
ยิ่งตอนที่เขาดูแลเขาด้วยความใส่ใจและอ่อนโยน แล้วยัง โดนปฏิเสธ
ดีที่เขาแสดงออกมาทางสีหน้า ธีมนต์เห็นดังนั้นเขาก็ไม่ กล้าพูดมันออกมา
จริงๆแล้วลุง……ไม่สิ ต้องเป็นพ่อ ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น นอกจากหลายปีที่ผ่านมานี้เขาไม่เคยโผล่มา เขาก็ดูแลเขา อย่างดี
ตอนที่เขากำลังคิดหนัก ท้องก็ร้องขึ้นมา
ไม่ดังไม่เบา ได้ยินพอดี
เตชิตถามขึ้น “หิวหรอ ให้ลุงพาไปกินอะไรก่อนมั้ย
เขาก้มมองดูเวลา เจ็ดโมงกว่าแล้ว ได้เวลากินอาหารเช้า แล้ว เขามัวแต่โมโหนัชชา ลืมเรื่องนี้ไปเลย
เขาหลบสายตา เปลี่ยนเรื่อง พยักหน้าแบบไม่ค่อยเต็มใจ
“ก็ได้ครับ ไปหาอะไรกินกันก่อน
เตชิตดีใจ เขารีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาเดินไปเปิดตู้ สายตาเขามองไปที่กุญแจมากมายที่เรียงตัวไว้ ตอนแรกเขากะ จะขับSuv แต่เลือกไปเลือกมาเขาก็ตัดสินใจขับมายบัคไป
อยู่กับลูกก็ต้องเท่ห์หน่อย
ทั้งสองเดินเข้าไปในโรงรถ เขากดเปิดรีโมท ไฟสว่างขึ้น และประตูก็เปิดออกเหมือนปีก เตชิตเหล่มองหน้าลูก
เห็นสายตาแวววาวของลูก เขาดีใจที่ลูกชอบ อุ้มลูกขึ้นรถ “ชอบมั้ย”
เด็กอายุสี่ขวบจะไปรู้อะไร รู้แค่ว่ามันสวยดี ใช้ได้ครับ” “ถ้าอยากนั่ง หลังจากนี้ลุงจะพามานั่งทุกวัน” นี่เป็นสิ่งที่
เขาอยากจะพูด
ธีมนต์มองดูทางข้างหน้า เขาดีใจแต่ก็ไม่อยากแสดงออก เลยตอบไปแบบลวกๆ “เราไปกันเถอะครับ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ