ตอน196ฉันพบผู้คนไม่ได้ขนาดนี้เลยเหรอ
ตอนที่ 196 ฉันพบผู้คนไม่ได้ขนาดนี้เลยเหรอ
นัชชานอนอยู่บนเตียงเล็กๆของเธอ ตาก็จ้องไปยังเพดาน สีชมพู ในใจยังย้อมด้วยสีที่น่าตื่นเต้น “เที่ยวเสร็จแล้ว ฉันยัง ซื้อของ ตกแต่งบ้าน ในวันตรุษจีนและโคมไฟมาด้วย แล้วมา ตกแต่งและแขวนไว้ที่บ้าน
เสียงผู้ชายดังออกมาจากมือถือ “เธอจะติดไว้ที่ไวโรจน์ วิลล่าเหรอ?”
“ใช่ เธอไม่อยากติดเหรอ?” นัชชาขยับตัวเล็กน้อย หรือ รู้สึกว่าการติดสิ่งเหล่านี้ไร้รสนิยม?
“อยาก” เตชิตพูดออกมาอย่างจริงจัง แค่ก่อนหน้านี้ไม่มี ใครเคยติด เลยรู้สึกแปลกๆบางอย่างในความแปลกใหม่
วันตรุษจีนทุกปีเขาก็ผ่านมาคนเดียวอย่างเรียบง่าย สำหรับเขาแล้ววันตรุษจีนก็แค่วันที่เขาเหงากว่าปกติ ปีนี้มีเธอ คอยตกแต่ง แบบนี้ เขาจึงรู้สึกว่าวันตรุษจีนก็มีความหมายที่ พิเศษเหมือนกันนะเนี่ย
“เธอกลับมาตอนไหน?” พอนึกถึงเรื่องนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่ อยากจะเห็นเธอ
นัชชาคำนวณเวลาครู่หนึ่ง “กินข้าวเย็นเถอะ น่าจะ ประมาณหนึ่งทุ่ม เธอไม่อยู่บ้านฉันก็ไม่อยากกลับ
เห็นพวกทีนาร์ก็ทำให้ฉันไม่สบายใจ ยังไม่แน่ใจว่าอาจ จะเกิดอะไรขึ้น
“ถ้าเช่นนั้นฉันจะไปรับเธอ”
“ได้” นัชชารู้สึกดีใจขึ้นมาทันใด จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นมา นั่งอยู่บนเตียง “แม่ฉันบอกว่าจะทำเกี่ยวกิน ฉันจะเอาไปให้เธอ กิน ด้วย”
เตชิตพึงประชุมเสร็จ ข้าวเที่ยงก็ยังไม่ได้กิน เขาทำงาน หนักจนลืมความหิวไปเลย แต่พอได้ยินคำนี้กลับรู้สึกหิวขึ้นมา ทันที เขา ยิ้มขึ้นมา “จะได้ชิมฝีมือของแม่ยายเร็วขนาดนี้เลยเห รอ?”
คำพูดของเขาทำให้นัชชาหน้าแดงไปทั้งหน้าลงมาถึงคอ เธอไม่ได้คิดแบบนี้เสียหน่อย
“ฉัน…
“ดูเหมือนกังวล ให้ฉันติดต่อล่วงหน้าเลย” เตชิตพูดขัด เธอ เขาตั้งใจตีความหมายของเธอผิด “ทำไม รีบพบผู้ใหญ่เห รอ?”
“ฉันไม่ได้หมายถึงแบบนั้น!” นัชชาคิดว่าเขาเข้าใจผิด จริงๆ เลยรีบอธิบาย “ฉันแค่นึกถึงเธอ เลยอยากเอาไปให้เธอ กินด้วย ไม่ได้หมายถึงอย่างอื่นเลย!
“กับฉันเธอไม่ต้องอายที่จะยอมรับหรอก ฉันเข้าใจ” ??? เธอเข้าใจกับผีสิ!
เธอมีความคิดแบบนั้นซะที่ไหน เธอแค่นึกถึงเขาเถอะ
นัชชามีความรู้สึกที่เหมือนกับโดดลงไปในแม่น้ำก็ล้างไม่ ออก ยอมแพ้แล้วก็เงียบไป ไม่อธิบายต่อ ในเมื่อเธออธิบาย อย่างไรเขาก็ไม่ฟัง
“แล้วแต่เธอเลย ไม่อยากคุยด้วยแล้ว
ฟังน้ำเสียงของเธอแล้วเตชิตก็จินตนาการสีหน้าตอนนี้ ของเธอออกทันที มุมปากของเขาก็เผลอยิ้มออกมา “เจอกัน ตอนกลางคืนนะ แม่บ้านสาวน้อยของฉัน
พูดจบเขาก็ตัดสายทิ้ง
แม่บ้าน?
ก็ได้ เธอมีฉายาใหม่เพิ่มแล้ว
ถึงแม้ว่าจะไม่เพราะมาก แต่น้ำเสียงที่เขาพูดออกไปนั้น นุ่มนวลมาก ถึงแม้ปากของนัชชาบอกว่าไม่ชอบ แต่ใจของเธอ กลับเป็นเหมือนดินน้ำมัน นุ่มๆเหนียวๆไม่เป็นทรงตั้งนานแล้ว
จังหวะที่เธอนอนลงไปบนเตียง ก็มีเสียงเคาะประตูมาจาก
ด้านนอก เป็นณัชชนม์ที่มาเคาะประตู “นัชชา รีบออกมากิน
เกี่ยวเร็ว พ่อของเธอกินจนจะหมดแล้ว
ไม่เปิดโอกาสให้นัชชาได้ทักท้วง
นัชชาเก็บมือถือเสร็จแล้วรีบลงจากเตียงไปใส่รองเท้า “ค่ะ มาแล้วค่ะ”
หลังกินข้าวเสร็จ นัชชาก็พักผ่อนอยู่บ้าน ตกเย็นก็จะบอก ให้ณัชชนม์ห่อเกี่ยวให้ แครอทหมูยัดไส้น้อยที่จะเห็นแต่มัน อร่อยมาก ซุปแครอทพอกินเข้าไปแล้วหอมติดปากละมุนลิ้น มาก
แค่นัชชาคนเดียวก็กินไปจานหนึ่งแล้ว เป็นเพราะอิ่มจน กินต่อไม่ไหวถึงหยุดกิน
ขณะที่กำลังคิดว่าจะพูดกับณัชชนม์อย่างไรเรื่องห่อเกี่ยว กลับ ไม่คิดเลยว่าโชคจะเข้าข้างขนาดนี้ “ลูกชอบกินขนาดนี้ก็ ห่อกลับ ไปกินที่บ้าน ที่บ้านยังเหลือเยอะขนาดนี้ แม่กับพ่อ กินไม่หมดหรอก
นัชชาไม่ได้พูดอะไรออกไป พอได้ยินก็รีบพยักหน้าทันที “ดีเลยค่ะ ห่อให้เยอะหน่อยนะคะ!
หนึ่งทุ่มตรง รถของเตชิตก็มาจอดอยู่ใต้ตึก นัชชามอง จากชั้นสี่แล้วเห็นรถคันหรูที่โดดเด่นกว่ารถคันอื่นๆจอดอยู่ใต้ ต้นไม้
เธอจึงไปลาพ่อกับแม่ “พ่อคะแม่คะ ลูกกลับก่อนนะคะ วัน นี้ท่านสองคนก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว รีบพักผ่อนเถอะค่ะ
“นี่พึ่งกี่โมงเอง เช้าขนาดนี้แม่กับพ่อนอนไม่หลับหรอก“รถที่ จอดอยู่ด้านล่างยังไม่ไปเหรอ?”
“ยัง” ”
“ยัง คุณพูดเองไม่ใช่เหรอว่ารถคันนั้นสองล้านกว่า ลูก เราอยู่กับคนแบบนั้นจะต้องทุกข์ใจหรือเปล่า ณัชชนม์ ” เข้าไปนั่ง ข้างเมทนี น้ำเสียงของเธอกังวลใจมาก
เมทนีจิบชาเล็กน้อยแล้วถอนหายใจออกมา “เรื่องของลูก
เราไม่ต้องกังวลหรือคิดไปเองหรอก กังวลไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร ให้ดีขึ้น ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับลูกคนเดียว คนเราตัดสินอะไรจาก ภายนอกไม่ได้”
ณัชชนม์คิดว่ามันก็จริงอย่างที่เมทนี่พูด
จึงไม่ได้พูดอะไร
ต่อ
นัชชาที่ยังไม่รู้ว่าพ่อแม่ของตัวเองเห็นเตชิตแล้ว ก็รีบวิ่ง ไปที่รถอย่างหลบๆซ่อน แล้วรีบให้เตชิตออกรถ “รีบไปรีบไป!”
เตชิตเห็นนัชชายังไม่ได้คาดเข็มขัด แขนยาวๆจึงยื่นออก ไปคาด ให้เธอ “มีอะไรเหรอ ทำไมถึงรีบขนาดนี้?
“ฉันกลัวพ่อแม่ของฉันเห็น
เตชิตได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกไม่พอใจ ทุกครั้งที่เขาออกมา ด้านนอกก็จะมีแต่คนไม่ชอบเขา
เขาพูดออกมาด้วยเสียงที่เย็นชา “ฉันพบผู้คนไม่ได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ไม่ใช่แบบนั้น ฉันมีความอายอยู่นะ” นัชชาพูดอย่างยอด อ้อน “ไปกันเถอะนะ ขอร้องหล่ะ”
เตชิตแพ้ลูกอ้อนของเธอตลอด เขาส่ายหัวเล็กน้อยแล้ว ขับรถออกไป
รถคันหรูขับออกมาจากแถวบ้านพ่อแม่นัชชา เธอจึงโล่ง
ใจ พอเห็นกล่องเกี่ยวอยู่ตรงหน้าเธอก็หันไปถามเตชิต “กิน ข้าวหรือยัง? เอามาให้คุณ
เตชิตกำลังจะตอบ แต่สายตาของเขากวาดไปเห็นอะไรสัก อย่างจนคิ้วขมวดแน่น “แหวนเธอหล่ะ?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ