ตอน186ท่าทีของคุณผู้หญิง
ตอนที่ 186 ท่าทีของคุณผู้หญิง
ริมฝีปากบางและปากลิ้นเกี่ยวกระหวัด ส่วนที่อ่อนนุ่มที่สุด สัมผัสซึ่งกันและกัน เรื่องแบบนี้ผู้ชายส่วนใหญ่มักจะเก่ง โดย ไม่ต้องมี คนสอน แม้ว่าจะไม่ค่อยมีประสบการณ์ด้านนี้สักเท่า ไหร่ แต่เตชิตก็จูบเก่งมาก ไม่นานนัชชาก็พ่ายแพ้ต่อการจู่โจม ของเขา
เขาเพียงแค่จูบ เธอก็ถึงกับเริ่มหายใจหอบ แก้มทั้งสอง ข้างแดงระเรื่อ ดวงตาทั้งสองเบลอ
เตชิตชอบเธอในแบบนี้ที่สุด ความรักซุกซ่อนอยู่ภายใน อารมณ์ความรู้สึกเธอ ซึ่งเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ไร้เดียงสา คิดแล้ว อยากจะกลืนกินเธอเข้าไปในท้อง
เขาขยับไปข้างหูเธอ ริมฝีบางบางพูดข้างๆ ใบหูของเธอ “แววตาแบบนี้คุณต้องให้ผมดูได้คนเดียวเท่านั้น”
นัชชาไม่รู้สึกตัวแม้แต่น้อยว่าเวลานี้เธอมีเสน่ห์มากเพียง ใด เธอยังคงเคลิบเคลิ้มอยู่ในภวังค์ แต่เธอก็พยักหน้าตอบ รับคําพูด ของเขา
ทีนาร์ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่คืนแรก ทั้งสองจึงพยายามหักห้าม ใจไว้ ถึงแม้ว่าห้องจะไม่ได้อยู่ติดกันก็ตาม แต่ในใจก็รับรู้ถึงความ เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้
เตชิตเองก็แทบจะไม่เคยนอนกอดหญิงสาวเพียงอย่าง เดียวโดยไม่ทำอะไรแบบนี้ แต่ทั้งสองก็ใกล้ชิดกันจนลม หายใจไหลรด กัน นอนกอดกันแบบนี้ให้ให้ความรู้สึกดีไปอีก แบบ
จริงๆแล้วก็ไม่มีอะไร ก็แค่มีเพื่อนกินข้าวเพิ่มอีกคน เธอ อาจจะคิดมากไปเอง นัชชาปลอบใจตัวเอง
ขอแค่เธอเชื่อใจเตชิต เรื่องทั้งหมดนี้ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล
ทั้งสองนอนหลับสบายตลอดทั้งคืนจนฟ้าสาง นาฬิกา ปลุกที่ตั้งเวลาปลุกไว้เจ็ดโมงเช้า ส่งเสียงเรียกให้ทั้งสองตื่นขึ้น จาก ความฝัน และรีบไปทำงาน
นัชชาค่อยๆลืมตาขึ้นมองชายหนุ่มที่ยังคงนอนนิ่งอยู่ข้างๆ แล้วถามไปแบบสะลึมสะลือว่า “คุณไม่ไปฟิตเนสเหรอ”
“อืม พรุ่งนี้ค่อยไป” เตชิตตอบพร้อมจูบเบาๆที่หน้าผาก ของหญิงสาว เป็นการจูบที่แสนนุ่มนวลอบอุ่นในยามเช้า
ปกติเขานี่เรียกว่าแทบจะกลืนกินเธอเข้าไป แต่นัชชาก ชอบเวลาที่เขาอบอุ่นนุ่มนวลแบบนี้ มันดูเหมือนจะแตกต่างกัน อย่างสิ้น เชิง แต่ทั้งหมดล้วนทำให้หัวใจของเธอเต้นไม่เป็น จังหวะ
ผ่านไปสักพัก ทั้งสองจึงลุกจากเตียงไปล้างหน้าแปรงฟัน
เตชิตชอบอาบนํ้าเย็นตอนเช้า นัชชาล้างหน้าเสร็จจึงลง มาเตรียมอาหารเช้าก่อน
เธอเดินมาถึงห้องรับแขก ก็ได้ยินเสียงน้าในกับทนาพูด คุยกัน “คุณทีนาร์ เรื่องพวกนี้ให้ฉันจัดการเองเถอะค่ะ คุณไม่ ต้องทํา หรอก อยากทานอะไรบอก เดี๋ยวฉันทำให้ค่ะ”
“ฉันรู้ว่าน้าในทำได้ค่ะ แต่ถ้าในทำไม่เหมือนที่ฉันทำนี่คะ คนทําคนละคนกันก็ย่อมมีเจตนาต่างกัน” ผ่านแค่ชั่วข้ามคืน เธอ กลายเป็นคนมีสัมมาคารวะยอมเรียกน้านแล้ว
แต่เปลี่ยนแค่สรรพนามเรียกชื่อแล้วยังไง ในเมื่อคำพูด ของเธอยังคงดูถูกคนอื่น
น้ารินเองก็ไม่ชอบใจคำพูดคำจาของเธอนัก ถึงแม้เธอจะ เป็นแค่คนรับใช้ แต่เธอก็ไม่ใช่จะก้มหัวให้เธอเสมอ
“คุณมีนาร์ อย่าทำให้ฉันลำบากเลยนะคะ คุณเตชิตเองก็ กำชับดิฉันไว้แล้ว คุณจะทำก็ได้แต่ต้องขออนุญาตคุณเตชิต ก่อนค่ะ”
พอน้าในพูดจบ นัชชาก็เดินมาถึงประตูพอดี ทั้งสองมอง เห็นนัชชาก็ชะงักไปสักครู่ โดยเฉพาะทีนาร์ ที่มีสีหน้าเปลี่ยน ไปอย่างเห็นได้ชัด
สามคนมองหน้ากัน ทีนาร์ดึงสติกลับมาก่อน จึงยิ้มพร้อม กล่าวทักทายอีกฝ่ายก่อนว่า ” คุณตื่นเช้าจังนะคะ”
“อรุณสวัสดิ์” นัชชาพูดพลางพยักหน้าไปทางเธอ มองไปที่มือของทั้งสองคนซึ่งต่างถือกระทะอยู่
“นี่พวกคุณกำลัง…”
นารินที่เริ่มเอือมระอาเต็มที่รีบบรรยายให้เธอฟัง ” คุณ นาร์เธอตื่นมาแต่เช้าจะมาทำอาหารเช้า คุณก็รู้ว่าคุณเตชิตไม่ อนุญาต แน่ๆ น้าก็เลยขวางไว้ แต่คุณทนาร์ก็ไม่ยอม น้าไม่รู้ จะทำยังไงค่ะ ลำบากใจจริงๆ”
น้ำเสียงของน้ารินที่พูดกับนัชชาก็ไม่ต่างจากที่พูดกับที นานัก หากแต่ฟังดูแล้วให้ความรู้สึกสนิทสนมมากกว่า
นัชชายื่นมือไปคว้ากระทะในมือของอีกฝ่ายมาวางไว้ที่เตา เหมือนเดิม สายตาหันกลับมามองทีนาร์ที่ยืนอยู่แล้วพูดว่า” คุณ นาร์เพิ่งจะหายป่วย อย่าเพิ่งทำงานพวกนี้เลย ในห้อง ครัวทั้งมัน มีแต่กลิ่นควัน ไม่เหมาะกับคุณหรอกค่ะ
ทีนาร์ยิ้มอ่อน “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันทำจนชินแล้ว เมื่อก่อน เวลาเตจะไปต่างประเทศ ฉันก็มักจะทำอาหารให้เตกับคุณ พ่อคุณแม่ทา นบ่อยๆ”
เธอกล่าวอย่างหน้าชื่นตาบาน นัชชาเองฟังแล้วก็เกือบจะ จินตนาการตามภาพที่เธอพูดถึงอย่างมีความสุขขึ้นมา
แต่ทว่า
นัชชากระพริบตา แล้วตอบแบบคนที่เข้าใจเตชิตเป็น อย่างดีว่า “คุณชินแล้ว แต่เตชิตอาจจะไม่ชินก็ได้นะคะ ถ้าเขา เห็นว่าคุณ ป่วยอยู่แล้วยังมาทำงานแบบนี้จะต้องโกรธมาก แน่ๆ แล้วจะพาน้ารินเองเดือดร้อนไปด้วย คุณน่าจะเข้าใจ
นัชชาเห็นท่าทางของทีนาร์ ในใจก็อดหัวเราะออกมาไม่ ได้ ชอบพูดแต่เรื่องนั้นเรื่องนี้ของเขาดีนัก เธอก็ทำได้ ชอบยก เรื่องใน อดีตมาข่มเธอดีนัก คิดว่าเธอไม่รู้แล้วยังไงล่ะ
“ไม่เป็นไรจริงๆ ตอนนี้ฉันแข็งแรงขึ้นมากแล้ว” ทนาพูด ประหนึ่งว่าไม่ได้ยินเสียงทัดทานของทั้งสองคน พลางหยิบไข่ ไก่ เปิด เตาแล้วเหยาะน้ำมันใส่ลงไปในกระทะ
น้ารินเองก็ได้แต่มองเธอ ไม่รู้จะพูดอย่างไรได้อีก คอยยืน อยู่ข้างๆ เพื่อเธอเป็นอะไรขึ้นมา
นัชชามองเธอใส่ผ้ากันเปื้อนของเธอง่วนอยู่ในครัว เหมือนกับเธอจะมาแทนที่ของเธอ คอยดูแลเตชิตแทนเธอ
ในใจของนัชชาก็ไม่ค่อยชอบใจนัก แต่จะให้ไปดึงตะหลิว ออกจากมือของเธอก็คงไม่ได้ จึงได้แต่นั่งมองเธอขะมักเขม้น อยู่ใน ครัวต่อไป
เตชิตอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินลงมาชั้นล่าง ทีนาร์ เพิ่งจะวางไข่ดาว ขนมปังรวมถึงแยมลงบนโต๊ะ จานเครื่อง เคลือบลาย ครามแกะสลักลายนูนปิดทองสวยงาม ผักและผล ไม้หลากหลายชนิดถูกจัดวางอย่างเรียบร้อยสวยงาม เธอเปิด เตาเพียงแค่ทอด ไข่กับเบคอนเท่านั้น
เตชิตมองอาหารเช้าตรงหน้า คิดว่ายังมีอีกชุดที่ยังทำไม่ เสร็จ จึงรีบยกจานไปไว้ตรงหน้าของนัชชาอย่างเคยชิน
ทีนาร์เห็นสิ่งที่เตชิตกำลังทำ จึงออกปากอย่างชัดๆเขินๆว่า “อาหารทั้งหมดนี้ ฉันทำให้เตเองค่ะ”
เตชิตชะงัก มือที่กำลังจะยกอาหารค้างอยู่บนอากาศพัก
นึง ก่อนจะรีบยกจานกลับมาวางตรงหน้าตนเองตามเดิม
“คุณทําเองเหรอ”
ทีนาร์ดีใจที่เตชิตไม่ยกอาหารที่เธอทำให้นัชชา “ใช่ค่ะ คุณลองทานดูว่าชอบมั้ย
น้าในเห็นสถานการณ์ตรงหน้าจึงรีบยกอาหารเช้าอีกชุด ออกมาวางตรงหน้านัชชา มีแซนวิช ผลไม้และนมก็ไม่ได้ถือว่า วิเศษ หรูหราอะไรมากแต่ก็ทำให้คนทานรู้สึกสบายใจได้ระดับ หนึ่ง
สองคนรับประทานอาหารจากฝีมือของคนละคนกัน นัชชา ไม่รู้ว่าทีนาร์คิดจะทำอะไร
ใช่เหรอที่เธออาจจะมีท่าทางแปลกเพราะไม่ได้มี ปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นมานาน
เธอแค่ต้องการจะแยกเตชิตออกจากเธอมากกว่า
เตชิตไม่ได้มีท่าทีอะไรพิเศษ แต่ก็ทานอาหารในจานไปไม่ น้อย เหลืออยู่ในจานไม่มาก นัชชารู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์นัก ทานไป ไม่กี่คำก็รีบขึ้นชั้นบนไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
พอเตชิตเห็นนัชชาเดินขึ้นไป ก็วางช้อนส้อมลง แล้วยก แก้วกาแฟด้านข้างขึ้นมาดื่มอีกหนึ่งก่อนพูดว่า “ทีนาร์ คราว หลังคุณไม่ ต้องทำแล้วนะ”
ทีนาร์ที่กำลังมีความสุข กลับต้องชะงักทันทีเพราะ ประโยคนี้ของเขา “อะไรนะคะ เธอถามแบบไม่อยากจะเชื่อหู
“คราวหน้าคุณไม่ต้องทําอาหารแบบนี้แล้วนะ น้าในก็อยู่ เรื่องแบบนี้คุณไม่ต้องทำ” เขาชัดๆช้าๆตรงสามคำสุดท้าย
ทีนาร์เม้มปากแน่น พยายามจะแก้ตัวว่าตัวเองไม่ได้ทำ อะไรผิด แต่ก็ถูกเตชิตขัดขึ้นมาก่อน
“ผมรู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่ ที่ผมให้คุณมาอยู่ที่นี่ด้วยก็เพราะ คุณจะได้สะดวกที่จะพักฟื้นร่างกายให้แข็งแรง ถ้าคุณว่าเป็น เพราะ เหตุผลอื่นล่ะก็ คุณคงเข้าใจผิดแล้ว”
ปกติเตชิตจะไม่พูดอะไรที่ทำร้ายจิตใจเธอ ครั้งนี้ทุกคำที่ เขาพูดปักเขาไปในใจของเธอ ค่อยๆที่มแทงเข้าไปจะดึงก็ดึง ไม่ออก
ภายใต้แววตาที่สับสนของเธอ ” ทำไมคุณคิดว่าฉันจะ
“ผมจะคิดยังไม่สำคัญหรอก” เตชิตพูดพร้อมลุกขึ้นจาก เก้าอี้ จ้องมองมาที่เธอ จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไปพร้อมทิ้งคำ พูดที่ ทำให้เธอต้องสำลักออกมาว่า “สำคัญที่คุณคิดจะทำ อะไรต่างหาก”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ