ตอน185ถ้าตุกติกจะโดนข่มขืนแล้วฆ่าทิ้ง
ตอนที่ 185 ถ้าตุกติกจะโดนข่มขืนแล้วฆ่าทิ้ง
เห็นท่าทางแบบนี้ของเธอ เตชิตจึงมีน้ำเสียงอ่อนลง
ยกมือขึ้นตบที่ไหล่ของเธอเบาๆ แล้วพูดว่าไม่มีใครคิดว่าคุณ ทําตัวเป็น ภาระหรอก อย่าคิดมาก”
“ขอโทษด้วยจริงๆค่ะเต เพราะฉันป่วยแบบนี้คุณถึงต้อง มาเหนื่อยไปด้วย”
“ทีนาร์” เตชิตเสียงหนักเพื่อไม่ให้หญิงสาวพูดต่อ
“คุณก็รู้ว่าผมไม่ชอบให้คุณพูดแบบนี้”
นอกจากจะใจอ่อนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นคือความรู้สึกที่ติด
ค้างต่อพ่อแม่ของเธอ
ทีนาร์รู้ดีถึงความรู้สึกของเขา ก็ไม่อยากจะไปฟื้นฝอยหา ตะเข็บแค่อยากจะพูดความในใจของเธอเองเท่านั้น
ขอแค่เตชิตกลับไปช้าอีกหน่อย นัชชาจะได้รู้สึก
กระวนกระวาย
15นาทีหลังจากนั้น เตชิตผลักประตูเข้ามาในห้อง
บนเตียงใหญ่มีเพียงก้อนเล็กก้อนหนึ่งขดตัวอยู่ผ้าห่มโผล่ นูนขึ้นมาเล็กน้อย เธอขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มไม่เห็นแม้แต่เส้นผม
เขาคิดอยู่แล้วว่ากลับมาจะต้องเจอภาพแบบนี้ จึงถอน หายใจเล็กน้อยเดินไปข้างๆเตียงแล้วใช้มือตบเบาที่ผ้าห่ม “หลับแล้วเห รอ”
เธอขยับอย่างไม่ค่อยพอใจ สะบัดไหล่สองครั้งเพื่อที่ให้
มือเขาหลุด
เตชิตลุกขึ้นเดินไปที่ประตูห้อง ยกมือขึ้นปิดไฟในห้อง นอน แล้วเดินกลับมานั่งข้างๆเธอ มือใหญ่ค่อยๆสอดไปใต้ ผ้าห่ม จับไปที่ เอวของเธอแล้วบิดเล็กน้อย
นัชชาเหมือนแมวที่ถูกเหยียบหาง รีบกลิ้งตัวหลบไปด้าน ข้าง ผมเผ้ายุ่งเหยิง สายตาลุกเป็นไฟจ้องไปที่เขา “คุณทำ อะไรของ คุณ”
“ไม่ยอมลุกไม่ใช่เหรอ ก็ต้องใช้วิธีนี้แหละ” สีหน้าเรียบ เฉยเหมือนกำลังสั่งสอนเด็กที่ไม่เชื่อฟัง น้ำเสียงเหมือนเอือม ระอาเต็ม ทน
นัชชายิ่งโกรธ ไม่มีอารมณ์จะล้อเล่นกับเขา รีบดึงผ้าห่ม มาเตรียมจะมุดตัวลงไปอีก แต่ถูกเตชิตดึงไว้
เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจนัก “ปล่อยมือ
ดวงตาสองข้างชายหนุ่มจ้องกลับไป น้ำเสียงแสดงความ ขัดขืนอยู่ในที “ไม่ปล่อย
เขาไม่ต้องออกแรงอะไรมาก เธอก็ทำอะไรไม่ได้
นัชชานอกจากถลึงตาใส่ ก็ได้แต่ถลึงตาใส่อีก จนปวดตา ไปหมดแล้ว อีตานิ่งอย่างกับภูเขา แถมยังไร้อารมณ์ความ รู้สึก
เธอทั้งโกรธทั้งน้อยใจ จึงนั่งลงข้างเตียงอย่างน่าสงสาร ไม่ยื้อแย่งอีกต่อไป “คุณจะยั่วโมโหฉันใช่มั้ย”
พอเห็นเธอไม่ต่อต้านแล้ว เขาจึงปล่อยมือแล้วโยนผ้าห่ม ไปอีกทาง ยื่นมือมาข้างหน้า ใบหน้าของเขาห่างจากเธอไม่ถึง สอง ฝ่ามือ “โกรธผมหรือโกรธทีนาร์กันแน่”
คนฉลาดอย่างเขามีหรือจะไม่รู้ว่าเธอคิดอะไร
นัชชารีบหลบสายตา “ฉันไม่ได้โกรธสักหน่อย ใครว่าฉัน โกรธ”
“ปากแข็งจนจะเอามาทำราวตากผ้าได้แล้ว ยังจะบอกว่า ไม่โกรธอีก ริมฝีปากบางของยกขึ้นทำมุมเล็กน้อย รอยยิ้มใน แววตาถูก ซ่อนเอาไว้
เธอจึงเขา เขาไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกไม่ชอบ แต่กลับมองว่า น่ารัก
มีคำพูดที่ว่าคนรักทำอะไรก็ดูดีไปหมด เขาคงจะเป็นอย่าง นั้นเหมือนกัน
นัชชาถูกเขาต้อนจนมุม เฉไฉมองไปทางอื่น แล้วยอมพูด ออกมาตรงๆ” ตอนแรกฉันก็ไม่ได้โกรธหรอกนะ แต่น้องสาวของคุณ พูดจาแบบนั้น ปกติเขาเป็นอย่างนี้อยู่แล้วหรือเป็น เฉพาะเวลาพูดกับฉัน”
นัชชาไม่อยากพูดแรงมาก ไม่ว่าเธอจะเป็นอย่างไรแต่พ่อ แม่ของเธอก็เป็นผู้มีพระคุณของเตชิต
ทีนาร์ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นมานาน อาจจะมีท่าที อะไรแปลกๆไปบ้าง แต่ว่านะนัชชา 5ปี ที่คนปกติต้องถูกโรค ประหลาด ทรมานชีวิตมา5ปี ไม่มีคนอยู่ข้างกาย ไม่ได้สัมผัส โลกภายนอก ก็อาจจะมีอะไรที่ผิดปกติไปบ้าง”
เขาอยากให้เธอเข้าใจและเห็นใจดีนาร์บ้าง ความเข้าใจ ต่อโลกภายนอกสําหรับเธอถือว่าเปราะบางมาก
นัชชาน้ำเสียงอ่อนลง “ไม่ใช่ว่าฉันไม่เห็นใจนะ แต่บางที ในใจมันก็อดคิดไม่ได้ มันรู้ว่าฉันคิดไปเองรึเปล่าเหมือน เธอตั้งใจจะ แกล้งฉัน”
สิ่งที่นัชชาพูด ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ สิ่งที่นารแสดงออกต่อเขา มันเกินกว่าชายหญิงปกติทั่วไปทำกัน แต่ถึงแม้เขาจะปฏิเสธ เธอออก ไปตรงๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมจบง่ายๆ
มาวันนี้ยิ่งเห็นความสนิทสนม ใกล้ชิดของเขาและนัชชา เธอไม่ยอมนิ่งเฉยแน่นอน
ความหวังเดียวของเขาในตอนนี้ก็คือ ขอให้เธอมองทุกสิ่ง ตามความเป็นจริง ค่อยๆปรับทัศนคติที่ดีต่อโรคที่กำลังเป็น
หากทนา เป็นเพียงคนปกติธรรมดา ไม่ได้ป่วยอย่างตอนนี้ เขาคงจัดการเรื่องทุกอย่างให้จบลงไปแล้ว ไม่ต้องมาหนี อย่างทุก วันนี้หรอก
“ทีนาร์เติบโตมาพร้อมกับผม พ่อแม่ของเธอก็ต้องมาเสีย ชีวิตเพราะผมอีก ดังนั้นสำหรับเธอแล้วผมก็เหมือนเป็นสิ่งยึด เหนี่ยวสิ่ง เดียวในชีวิตเธอ เพราะผมเป็นคนที่พ่อแม่ของเธอ ปกป้องด้วยชีวิต จึงไม่แปลกที่เธอจะเป็นแบบนี้” เตชิตได้ แต่อธิบายหวังว่าน ชชาจะเข้าใจ
นัชชาถอนหายใจยาวๆ คิดถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา ที่ช่างซับซ้อน “ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณผ่านอะไรมาบ้าง ฉันจะไม่ เข้าไป แทรก แค่ฉันรู้สึกติดใจอะไรบางอย่าง คุณไม่ต้องสนใจ หรอก เดี๋ยวฉันก็ดีขึ้นเอง”
พูดจบเธอก็ทิ้งตัวไปด้านหลัง ศีรษะอยู่บนที่นอน ตาสอง
ข้างเหม่อมองไปที่ฝ้าเพดาน
เตลิตคว้ามือของเธอขึ้นมาวางที่ปากของเขา แล้วจูบลง ตรงนิ้วที่สวมแหวนของเธอ ริมฝีปากบางครูดไปกับอัญมณีบน แหวน
“กลัวอะไร อีกครึ่งชีวิตของคุณผมจองแล้วนะ”
คำพูดหวานๆที่คาดไม่ถึงของเขาทำให้นัชชาหลุดจาก ภวังค์ ใบหน้าเล็กเริ่มแดงขึ้นด้วยความเขินอาย มือเริ่ม ขยับโดยไม่รู้ตัว “ฉันยังไม่ได้บอกว่าจะให้คุณเลยนะ”
หญิงสาวพูดจบ เตชิตค่อยๆหรี่ตา บีบมือเล็กๆของเธอ ด้วยแรงเพียงเล็กน้อย “อะไร หรือคุณมีตัวเลือกอื่นที่ดีกว่าผม
นัชชาแกล้งตอบว่า “ไม่รู้สิ อนาคตอาจจะมีอะไร เปลี่ยนแปลง ใครจะไปรู้
“ไหนคุณลองพูดอีกที”
“ฉันบอกว่า… โอ๊ย โอ๊ย เบาๆสิคุณ ฉันเจ็บนะ”
หญิงสาวรีบดึงมือกลับมานวดๆ เธอคิดว่ามือฉันจะถูกคุณ หักกระดูกออกเป็นสองท่อนแล้ว
เตชิต ใช้แรกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น พอได้ยินเธอร้องเจ็บ เขาก็หยุดทันที “ถ้ามีจริงๆ ผมจะฆ่าผู้ชายคนนั้นทิ้งซะ
นัชชาไม่คิดว่าคำพูดแบบนี้จะออกมาจากปากเขา “คุณ เป็นทนายนะ”
“เป็นทนายแล้วยังไง ผมฆ่าเขาแล้วผมก็ยังไม่มีความผิด
คุณเชื่อผมสิ” ในดวงตามีประกายคมกริบสะท้อนกับดวงไฟ
ข้างผนัง ห้อง ให้ความรู้สึกน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก
“ฉันเชื่อ แล้วคุณจะทำยังไงกับฉันล่ะคะ”
“คุณเหรอ” เขายิ้ม ดูเหมือนจะคิดพิจารณานิดนึงก่อน
ตอบ ข่มขืนแล้วฆ่า
” อะไรนะ โหดเหี้ยมขนาดนั้นเลย
นัชชาค่อยๆจินตนาการภาพนั้น มันช่างโหดเหี้ยมทารุณ เหลือเกิน
การพูดคุยระหว่างพวกเขาทำให้บรรยากาศอบอุ่นขึ้นมาไม่น้อย ชายหนุ่มไม่ปล่อยโอกาสระหว่างที่เธอกำลังอยู่ใน จินตนาการ ของตัวเอง โน้มตัวลงมากัดริมฝีปากล่างของเธอ
“อ้าย” นัชชาตกใจ พอรู้ตัวก็รีบถอยหลบ แต่ด้านหลัง ศีรษะก็มีมือใหญ่สอดเข้ามายึดเอาไว้ไม่ให้เธอขยับหนีได้
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ