ตอน169ชายแก่ที่กำลังมีความรัก
ตอนที่ 169 ชายแก่ที่กำลังมีความรัก
ปรันตกตะลึง “เปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ!
มีแต่คนบอกว่าคนเราก่อนและหลังมีความรักจะเป็นคนละ คน เมื่อก่อนเขาไม่เคยเชื่อ ตอนนี้เชื่อสนิทใจไร้คำถาม นี่ยัง เป็นเตชิตที่เขารู้จักอยู่อีกไหมนะ เปลี่ยนเป็นคนละคนเลยจริงๆ
เตชิตก็ไม่ได้เป็นคนที่ไม่สนใจอะไรขนาดนั้น จริงใบหน้า เขาก็โกรธเป็นฟืนไฟ แต่เขาเป็นคนที่แสร้งทำสีหน้าอารมณ์เก่ง ทำให้แทบจะไม่เห็นอะไรที่ผิดปกติ
ให้เทียบกับการดูแลเอาอกเอาใจของนัชชาในทุกวันแล้ว
เรื่องศักดิ์ศรีแค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย
ปรัณพูดไม่ออก โดยสิ้นเชิง กำลังจะหันหลังออกไป เดิน ไปครึ่งหนึ่งอดไม่ได้ที่จะหันมากำชับเขา “อย่าเสียเวลาให้นาน นัก ค่าแอดมิทแพงมากนะ
พูดจบ ก้าวเท้าเดินออกไป สุวีรายังคงอารมณ์ไม่ดีจาก การที่ถูกตำหนิ ยืนใจลอยอยู่ตรงที่เดิม ได้ยินเสียงของปริณดัง ออกมาจากห้องคนไข้ “สุวีรา
เธอสะดุ้งตกใจ รีบเดินตามเขาไป
หมอชนุตร์เดินนำหน้าไปก่อน มองดูเธอแวบหนึ่ง
“ขอโทษนะครับ ทำให้คุณโดนด่าเลย สุวีรายังไม่ทันได้พูดอะไรมากมาย ได้แต่ยิ้มให้เขา “ไม่
เป็นระ เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกทีนะ
หมอชนุตร์มองดูทั้งสองเดินจากไป รู้สึกมึนงงเล็กน้อย แต่ในเมื่อมาออกตรวจอาการ ก็ต้องทำตามหน้าที่ต่อ อย่าให้ เรื่องส่วนตัวมากระทบกับงาน
เขาหยิบตารางบันทึกการตรวจขึ้นมา ค่อยๆบันทึกอาการ อย่างละเอียด รวมถึงการให้ยา ปากกาปลายแหลมคมค่อยๆ บรรจงเขียนออกมาเป็นบันทึกที่เขียนลงในแต่ละบรรทัดอย่าง สวยงามและเป็นระเบียบ
เตชิตเหลือบสายตามองดูเขา ใส่แว่น สุภาพเรียบร้อย รูปร่างไม่สูงมาก ดูจากโหงวเฮ้งก็รู้ว่าเป็นหมอ เขาเบิกตามอง พูดออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน “จะชอบใครก็ได้ เพียงแค่อย่า ชอบสุวีราก็พอ ผู้อำนวยการปรักของพวกคุณไม่ชอบให้ใคร มาแย่งของของเขา
หมอชนุตร์ตกใจตะลึง ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้ดูออกได้ยังไงว่า
เขาชอบสุวีรา ทั้งๆที่เขาก็พยายามปกปิดเรื่องนี้อย่างมิดชิดมา โดยตลอด
และแล้วเรื่องทั้งหมดนี้ก็ไม่รอดพ้นสายตาของเตชิต ไม่ว่า จะเป็นเพียงการกระทำเล็กๆ หรือ อารมณ์ที่แสดงออกมาเพียง เล็กน้อย เขาก็สามารถตัดสินเรื่องที่คนทั่วไปมองไม่ออกได้อย่างเฉียบขาด
เพียงแต่คำพูดนี้หมายถึงอะไรกันนะ?
อย่าแย่งของของผู้อำนวยการปรัณ หรือว่าผู้อำนวย
ชอบสุวีรา?!
การ………..
ปรัณขายาวก้าวเท้าใหญ่ สุวีราแทบจะต้องวิ่งจึงจะไล่ตาม เขาทัน กว่าจะมาถึงออฟฟิศผู้อำนวยการ เขาเดินพลางถอด เสื้อกาวน์ออก ยกมือขึ้นมาทำท่าให้เธอรับ
สุวีรามองไม่ชัดจึงรับไหวไม่ทัน ใบหน้าเล็กๆของเธอโดน กระแทกเข้าเต็มๆ
บนเสื้อกาวน์ผ้าฝ้าย ไม่มีกลิ่นใดๆ มีเพียงกลิ่นน้ำยาซัก
ผ้าที่ยังติดอยู่หลังจากการซักที่สะอาดแล้ว
คล้ายกลิ่นลาเวนเดอร์ และก็เหมือนจะไม่คล้าย ตั้งใจดมดีๆก็ไม่มีทางรู้ได้ว่าคือกลิ่นของอะไร
ไม่
ปรัณนั่งอยู่บนโซฟา ยกแก้วน้ำที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาดื่ม
นอกจากจะแก้กระหายแล้ว ยังเหมือนเป็นการดับไฟที่เร่าร้อน
อยู่ในภายในใจ
สุวีรายืนอยู่ด้านข้างไม่ขยับไปไหน กลัวว่าถ้าทำอะไรไม่ ระวังขึ้นมาจะไปขัดใจให้เขาโมโห รู้สึกถอดถอนใจไม่น้อย ช่วงนี้ผู้อำนวยการดูแปลกไปมาก อ่อนไหวง่ายเหลือเกิน…
แต่ยิ่งเธอไม่พูด ก็ยิ่งทำให้ปริณขัดใจ ใหญ่กลับเงียบสงัด ทำให้เขารู้สึกอึดอัดขึ้นมา
ห้องอันกว้าง
เวลาผ่านไปนานสักพัก สุวีรายืนจนขาเริ่มชา เธอจึงยอม เอ่ยปากพูดขึ้นมาเบาๆ “ผู้อำนวยการปรัณ ถ้าไม่มีเรื่องอื่นแล้ว ฉันขอตัวไปก่อนนะคะ
ไปๆๆๆ ปริปากพูดสามคำก็มีแต่คำว่าไป เธออยากจะหนี จากเขาไปขนาดนั้นเลยหรอ?
ปรัณโกรธมาก สายตาของเขาเต็มไปด้วยความขู่เข็ญ ราวกับโยนระเบิดเข้าไปในใจของสุวีรา “ผมอนุญาตให้คุณ ออกไปงั้นหรือ?”
เขาไม่ได้บอก แต่ตอนนี้เขาไม่พูดอะไรออกมาสักคำ และ ก็ไม่ได้แจกแจงงานให้เธอไปทำ ทำหน้าเคร่งขรึมให้เธอยืนอยู่ หรือจะให้เป็นเจ้าเฝ้าประตูกันนะ?
สุวีรารู้สึกว่าตัวเองอดทนและใจดีกับเขาเกินไป จึงไม่ได้ บุกตรงเข้าไปฉีกหน้ากากคนหลอกหลวงออกมา
ปรัณเห็นนัยน์ตาของเธอรุกร้อนเป็นฟืนไป เหมือนกับไม่
ได้มีเขาอยู่ในสายตา กระทั่งยิ้มหัวเราะออกมาด้วยท่าทีเหยียด หยาม “ตอนเข้าอบรมของโรงพยาบาล มีกล่าวถึงกฎห้าม คบหาดูใจกับเพื่อนรวมงานใช่ไหม ยังจำได้หรือไม่?
สุวีราจำได้แน่นอน แต่มาพูดเรื่องนี้ในเวลานี้เพื่ออะไรกัน? เธอไม่ได้ฝ่าฝืนกฎนี้สักหน่อย
คิดไปคิดมา ยังไม่เข้าใจอยู่ดี สุวีราไม่เข้าใจจริงๆ อดไม่ ได้ที่จะถามเขาตรงๆ “ท่านผู้อำนวยการ คุณหมายความว่ายัง คะ ถ้าไม่ติดอะไร พูดมาตรงๆเลยดีกว่าค่ะ
ผู้หญิงคนนี้กลัวการพูดอ้อมค้อมมมากที่สุด ไม่ใช่ว่ากลัว ฝ่ายตรงข้ามจะทำอะไร แต่กลัวว่าตัวเองจะฟังอะไรไม่เข้าใจ เลย
ดังเช่น ตอนนี้
ปรับเอียงคอมา พร้อมหัวเราะหน่อยๆ จากนั้นก็ยืนขึ้นมา ย่างเท้าเดินตรงไปตรงหน้าเธอ ความสูงเหยียดฟ้าเช่นเขา มากพอที่จะชำเลืองมองเธอลงมาจากที่สูง “เรื่องคุณกับหมอ ชนุตร์ ต้องให้ผมพูดเองงั้นหรือ?”
“หมอชนุตร?” สุวีราสับสนไปหมด “ฉันกับเขาทำไมหรอ
คะ?”
“ตอนนี้ทั้งโรงพยาบาลเขาลือเรื่องความสัมพันธ์ของคุณ สองคนกันไปทั่ว เกิดผลกระทบเสียหายต่อชื่อเสียงอย่างมาก คุณคงไม่บอกผมว่าคุณไม่รู้เรื่องนี้เลยสักนิด ใช่หรือไม่ เห็นได้ ชัดว่า แม้ว่าเธอจะพูดอะไรออกมา ปรัณก็คงไม่เชื่อ
สุวีราหน้าเครียดจนย่นไปหมด “ฉันกับเขาเป็นแค่เพื่อน ร่วมงานธรรมดา ไม่มีอะไรเกินเลยแน่นอน
ปรัณมองลึกเข้าไปในแววตาของเธอ ไม่มีอะไรแอบแฝง
ปิดบังหรือการหลอกลวงให้เขาโกรธสักนิด เธอคงไม่ได้โกหกแต่ถ้าไม่มีเรื่องอะไรจริงๆ ทำไมถึงมีข่าวลืออกมาได้ นั่น หมายความว่าพวกเขาทั้งสองมีความสนิทสนมกันจริง
ปรับดขยี้ฟันไปมา ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงต้องแคร์ ขนาดนี้ จนถึงขั้นแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาค่อยๆปรับ อารมณ์ตัวเอง กลับมาเป็นเขาคนเดิมที่อบอุ่นแต่ท่าทางเย่อ หยิ่ง “ไม่มีอะไรเป็นดีที่สุด”
เตชิตเสวยสุขด้วยความสบายใจต่ออีกสามวัน เมื่อถึงวัน หยุดสุดสัปดาห์ ตรัณมาจัดการเรื่องออกจากโรงพยาบาลด้วย ตัวเอง งานที่บริษัทกองเป็นภูเขา จะยึดเวลาผัดวันประกันพรุ่ง ออกไปอีกไม่ได้จริงๆ
เวลาบ่ายสองโมงครึ่ง หลังจัดการเรื่องออกจากโรง พยาบาลเสร็จ เตชิตโอบไหล่ของนัชชาเดินออกจากโรง พยาบาล ปรัณไม่ได้ลงมาส่ง แต่กลับเป็นรองผู้อำนวยการมา ส่งแทน ด้านหลังยังมีหัวหน้าและเจ้าหน้าที่แต่ละแผนก ยาวเป็นขบวนราวกับมาต้อนรับคนเด่นคนดัง แถว
นัชชารู้ว่าพวกเขาต้องสนทนาบางอย่างกัน จึงขึ้นรถไป ก่อน มองผ่านทางหน้าต่างเห็นฝ่ายชายยืนอยู่ตรงประตูทาง เข้าโรงพยาบาล ไม่มีอีกแล้วคนที่ไร้เรี่ยวแรง โทรมจน ต้านทานไม่ไหว หนวดเครารุงรัง เปลี่ยนเป็นผู้ชายที่ใส่สูท ท่าทีกระปรี้กระเปร่า ภูมิฐาน ท่าทางทุกการกระทำเต็มไปด้วย เสน่ห์และความเป็นผู้ใหญ่
รอบกายเขามีพยาบาลเดินผ่านไปมาไม่หยุด แต่ละคนไม่ กล้าแม้แต่สบตาเขา เขาดูมีรังสีออร่าที่แผ่ซ่านไปรอบตัว คน ส่วนใหญ่มักจะต้านทานไม่ไหวกับคนแบบเขา ผู้คนไม่น้อยที่ เจอเขาแล้วจะเกิดอาการหน้าแดงรีบเดินหนีเขาไป แต่ออกไป ได้ไม่นานก็อดใจไม่ไหวที่จะหันกลับมามองเขาจากระยะไกล
นัชชาแบะปากเบี่ยงสายตาไปทางอื่น แต่ก็กลับบ่นพึมพำ ในใจ ไปที่ไหนก็มีแต่คนหลงใหลปลาบปลื้ม
ไม่ถึงสิบนาที ประตูด้านหลังรถถูกเปิดออก ตามด้วยขา อันเรียยาวก้าวเข้ามา นัชชาสายสดตาไปที่เขา “จัดการธุระ เรียบร้อยหมดแล้วใช่ไหม?”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ