ตอน168ความวุ่นวายในห้องคนไข้
ตอนที่ 168 ความวุ่นวายในห้องคนไข้
“หุบปากไม่ได้นักใช่ไหม?” เขาตั้งใจจะรวบเธอมาตรงนี้
ลมหายใจของเขารดลงบนใบหน้าของนัชชา
“นี่มันโรงพยาบาล คุณจะทำอะไรกัน ถ้ามีคนมาเห็นเข้า จะทํายังไง?!
จริงๆเตชิตแค่คิดอยากจะแกล้งเธอเฉยๆ แต่เธอก็เข้ามา ในอ้อมออกของเขาพอดี แบบนี้จะปล่อยมือออกไปง่ายได้ยังไง สายตาของเขาลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ อุณหภูมิในร่างกายก็ค่อยๆ เร่าร้อนขึ้นมา “นัชชา…
เสียงของฝ่ายชายแทบเล็กน้อย พูดกระซิบข้างหูเบาๆ เสมือนเสียงนกขับขานอันไพเราะ ทำให้คนฟังหลงไหลใน เสน่ห์ของมัน เสียงนั้นไม่หยุดที่จะเย้ายวนเธอ
นัชชาคอยเตือนตัวเองให้สงบสติ มือน้อยๆของเธอยกขึ้น
มากันระหว่างเขาทั้งสองอย่างไม่ทันตั้งตัว “เตชิต ก่อกวนได้แล้ว!”
“ไม่ได้ก่อกวน” เขาตอบแบบไม่รู้สึกผิดอะไร ก้มหน้าลง
ไปที่ริมฝีปากของเธอ “ปากของผมแห้งเฉยๆ
พูดจบ ริมฝีปากบางและเซ็กซี่ของเขาก็ประกบลงมาบรรจบเข้าด้วยกัน รับรู้ได้ถึงความแห้งของริมฝีปากเขาจริงๆ แต่ไม่นานนักก็ถูกทำให้ชุ่มชื้น ความดูดดื่มนี้ เขาบรรจงจูบ ด้วยความอ่อนโยนและนุ่มนวล
เป็นเวลานานแล้วที่ไม่ได้สวมกอดกันดีๆแบบนี้ ทั้งสองรับ รู้ถึงความรู้สึกที่ดีต่อกัน แม้ว่าไม่ได้เป็นจูบที่ร้อนแรงแบบนั้น แต่มันก็พอที่จะทำให้ทั้งสองหอบพอสมควร เขาคร่อมอยู่บน ร่างของเธอ แขนอันทึกบึนทั้งสองข้างของเขาข้างศรีษะทั้ง สองของเธอไว้ กลัวว่าจะทับโดนเธอ
นัชชาหยุดพักหายใจครู่หนึ่ง นัยน์ตาของเธอมีละอองน้ำ ขึ้นมา ไม่ทันระวังบังเอิญไปสบกับสายตอันเร่าร้อนของเขา “คุณ….
ยังไม่ทันได้เปิดปากพูด ชายที่อยู่บนร่างของเธอกดทับลง มาอีกครั้ง ราวกับการหายไปเมื่อครู่เป็นเพียงแค่การออกไปสูด หายใจเฮือกหนึ่งเท่านั้น คราวนี้เขาเกรี้ยวกราดมากกว่าเดิม ความต้องการของเขายิ่งสูงเท่าไหร่ยิ่งปลุกความเป็นชายในตัว เขาออกมาโอมล้อมนัชชาไว้
ประมาณครึ่งเดือนต่อกันที่เขาไม่ได้อยู่ใกล้ชิดนัชชา เขาก็ เหมือนกับเด็กวัยรุ่น เพียงแค่จูบก็อดใจไว้ไม่ไหว
ลมหายใจของนัชชาถูกเขาครอบครองไปหมด จนแทบจะ หยุดหายใจ ยังดีที่เขายังมีสติยั้งคิด ยอมปล่อยเธอออกก่อน จะเลยเถิดไปมากกว่านี้
พลิกตัว นอนลง ทั้งสองแนบชิดติดกัน ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
เตชิตยกมือขึ้นมาวางบนเปลือกตา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแอบ มองไปยังนัยน์ตาของเธอ เลือดในร่างกายเขาราวกับสูบฉีด ไปตามจังหวะการเต้นของหัวใจ เต้นอย่างปลุกปั่นไม่หยุด
นัชชาเขินอายจนหน้าแดง ค่อยๆหายใจเบาๆ เกรงว่า หากไม่ระวังจะไปปลุกเร้าผู้ชายที่อยู่ข้าง ปลดปล่อยสัญชาต ญานดุร้ายของผู้ชาย
ดูเหมือนว่าเขายังมีสติอยู่ ยังตระหนักได้ว่าที่นี่คือโรง พยาบาล จึงไม่ได้ทำอะไรที่ล่วงเกินไปมากกว่านี้
สงบไปครู่หนึ่ง หลังจากได้ยินลมหายใจของเขาค่อยๆ กลับมาเป็นปกติ นัชชาค่อยๆเขยื้อนตัวออกมา กลั้นลมหายใจ อยู่นาน กำลังจะลุกออกจากเตียง ชายคนเดิมยื่นแขนออกมา ดึงเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอีกครั้ง “อยู่ตรงนี้ดีๆ อย่าดื้อมาก นะ”
นัชชามองบนด้วยความหมดหนทาง ใครกันแน่ที่ดื้อห้ะ!
เธอแกล้งออกอุบาย “ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ
“คุณเพิ่งไปมา
“ฉันจะไปล้างหน้า”
“เดี๋ยวค่อยล้าง” เตชิตไม่คิดจะให้เธอไปจากเขา
อารมณ์ดีจนเอาหน้าเข้าไปซุกในซอกคอของเธอ กลิ่นหอม บนตัวเธอลอยเข้าจมูกเขา ทำให้เขารู้สึกสบายยิ่งกว่าใช้ยานอนหลับเป็นไหนๆ “นอนกับผมอีกแปปนึง ผมไม่ทำอะไรคุณ
“เตียงเล็กไป ฉันอาจจะไปทับคุณได้นะ…”
“แบบนี้ก็ได้แล้ว” เขาพูดพลาง พลิกตัวหันข้างมา กอด แขนทั้งสองของเธอแรงขึ้น พยายามทำให้ช่องว่างระหว่างทั้ง สองแคบลงเรื่อยๆ “นอนเถอะ”
นัชชายังอยากจะพูดอะไรต่อ จู่ๆด้านหลังของเธอก็มีฝ่า มืออุ่นๆมาจับไว้ ฝ่ามือนั้นลูบคลำอยู่บนเสื้อที่กั้นไว้ เสมือน กำลังปลอบประโลมอย่างอ่อนโยน ทำให้คำพูดที่เธอกำลังจะ เอ่ยปากเปล่งออกมาหายไปในพริบตา
เขาหลับตาลงโดยไม่พูดจาใดๆ นัชชาหรี่ตาลงแอบดู ลักษณะท่าทางของเขา หน้าผากเอิบอิ่ม สันจมูกขึ้นตรงชัดเจน ริมฝีปากแหลมคมและเซ็กซี่ ขนตาที่ยังยาวกว่าผู้หญิง โดย รวมแล้วเขามีใบหน้าที่ชักชวนให้คนหลงใหลซะเหลือเกิน
นัชชามองไปมองมา ยิ้มมุมปากขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว แสง นอกหน้าต่างสาดส่องเข้ามาภายในห้อง เธอปรารถนาที่จะ อยากหยุดห้วงเวลานี้ไว้ แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงแค่วันเดียว
ก็ตาม
การเจ็บป่วยของเตชิตครั้งนี้ถือว่าเป็นไวหายไว ที่จริงแล้ว พูดได้ว่าต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการรักษา ไม่ใช่แค่วัน สองวันก็จะหายเป็นปลิดทิ้ง แต่เขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรหนักหนาสาหัส นอนพักที่โรงพยาบาลสามวันก็พอแล้ว
ปรัณนึกว่าเขาออกจากโรงพยาบาลไปนานแล้ว ช่วงนี้มี เวทีการประชุมอภิปราย ทำให้ค่อนข้างยุ่ง จนลืมที่จะถามไถ่ คาดไม่ถึงเลยว่าที่ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์แล้ว เขารีบกลับมาจาก เมืองใกล้เคียง ยังคงเจอเตซิตในโรงพยาบาล
เขานึกขึ้นมาได้หันไปหาสุวีรา “ทำไมเขายังอยู่ที่นี่?
สุวีราก็จนปัญญา กี่วันมานี้ไม่เจอปรัณเพิ่งจะได้พักผ่อน จู่ๆก็เกร็งขึ้นมาทั้งตัว “คุณเตชิตอยู่ที่นี่ตลอด ยังไม่ออกจาก โรงพยาบาล”
“ยังไม่ออกจากโรงพยาบาล ปรัณรู้สึกแปลกใจ ใน
ใจกำลังคิดว่าคนบ้างานอย่างเขาทำไมยังทนอยู่ในโรง พยาบาลได้?
ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย
เขาเปิดประตูเข้าไปห้องคนไข้ หลังจากทักทายกันเสร็จ เขารีบตรงไปหยิบบันทึกประวัติการตรวจตรงปลายเตียง ทุก อย่างปกติ ไม่มีอาการอะไร ตั้งแต่วันที่สี่เป็นต้นมามีเพียงให้ ยาบำรุงร่างกายและกลูโคส
บังเอิญที่เวลาตระเวนตรวจพอดี แพทย์ที่รับผิดชอบเข้ามา ในห้อง เขารีบทำความเคารพโน้มตัวคำนับอย่างนอบน้อมและ ทักทาย ท่านผู้อำนวยการ
ปรับเขย่านาฬิกาบอกเป็นนัยว่าได้ยิน นำเอกสารบันทึกประวัติอาการส่งให้เขา ขมวดคิ้ว “ไม่มีการแจ้งให้ออกจากโรง พยาบาลหรอ?”
“แจ้ง แจ้งไปแล้วครับ”
“แล้วทำไม..……… ปรัณพูดได้ครึ่งหนึ่งมองไปที่ชายที่อยู่ บนเตียง “ทำไมนายยังอยู่ที่นี่
เตชิตหรี่ตามองเขา “ฉันคิดว่าร่างกายฉันต้องเฝ้าดูอาการ อีกสักสองสามวัน”
“ยังต้องการ?” ปรัณหัวเราะ “ตั้งแต่วันที่สี่ก็เริ่มให้ยา บำรุงกับน้ำตาลกลูโคส ไม่จำเป็นเลย ออกจากโรงพยาบาล ใช้ยาจีนบำรุงยังจะดีกว่า
คาดไม่ถึงเลยว่า เตชิตจะยังยืนหยัดนอนโรงพยาบาลต่อ “ไม่ได้ ฉันไม่สบายใจ
ปรัณ “????”
เตชิตหันมาสนใจดูแลสุขภาพร่างกายเมื่อไหร่กัน? ผิด ปกติ ผิดปกติไปแล้วจริงๆ
“หรือคุณพูดอะไรกับเขาไป?” ปรัณหันไปทางหมอที่อยู่
ข้างๆ
หมอท่านนั้นส่ายหัวไปมา ยังไม่ทันพูดอะไร สุวีราก็ยืนขึ้น มา “หมอชนุตร์ไม่ได้พูดอะไรค่ะ เป็นเพราะคุณเตชิตอยากจะ นอนดูอาการที่โรงพยาบาลต่ออีกสองสามวัน
ปรัณคิดไม่ถึงเลยว่าจู่ๆเธอจะออกมาอธิบาย นึกถึงข่าวลือ ที่พูดกันช่วงนี้ ที่ว่ากันว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับหมอ ชนุตร์มีลับลมคมใน เขาอารมณ์เสียขึ้นมาทันที “ผมถามคุณ หรอ?”
สุวีราตกใจตะลึงมองเขา ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงโมโห ขึ้นมา อยากจะเถียงแต่ก็ไม่กล้า ท่าทางน้อยใจ เบ้ปาก “เปล่า ค่ะ”
“งั้นคุณก็ยืนอยู่ตรงนั้นดีๆ ไม่ต้องพูดอะไร” พูดจบ ปรัณ ไม่หันไปมองเธออีก แต่เดินตรงไปยังข้างเตียงเตชิต กำลังจะ ปริปากพูด จู่ๆก็เหลือบไปเห็นผลไม้ที่ถูกปอกไว้นานาชนิด สมองคิดไปมาอยู่สักครู่ เริ่มเข้าใจแล้ว
ความคิดไร้สาระบางอย่างแวบเข้ามาในหัวเขา ปรัณถาม เขา “นายคงไม่ได้ทำเพื่อ……
“ก็เป็นแบบที่นายคิดนั่นแหละ” เตชิตรีบพูดตัดบท แผนการความคิดของเขาถูกคนอื่นจับได้แถมยังพูดออกมา ทำให้เขารู้สึกอาย เขาไม่อยากฟังแล้ว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ