ตอน114การกลับมาของชนุดม
ตอนที่ 114 การกลับมาของชนุดม
นัชชาเพ่งสายตา เหมือนพยายามกำลังจ้องมองคนตรง หน้าให้ชัดเจน แต่ภายใต้จิตสำนึกของเธอบอกให้เธอวิ่งหนีไป อีกทาง
น่าเสียดายเพราะความแตกต่างของชายและหญิง ทำให้ เธอหนีอย่างไรก็หนีไม่พ้นคนที่กำลังวิ่งตามมาด้านหลัง
ข้อมือของเธอถูกจับไว้ คนถูกลากไปที่กำแพงด้านหลัง สถานสงเคราะห์ หลังถูกกระแทกจนเจ็บ นัชชาพยายามจะดิ้น ให้หลุดแต่ไม่เป็นผล สายตาหวาดกลัวมองไปยังชายตรงหน้า “คุณคะ ฉันขอร้อง ปล่อยฉันไปเถอะค่ะ”
ชนุดมตอนแรกยังมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า แม้ว่า….ครั้งนั้น จะไม่ได้น่าประทับใจนัก แต่พอเขาได้ยินเธอพูดว่า”คุณ” รอย ยิ้มบนใบหน้าก็หายไปทันที
“คุณนัชชาความจำคุณคงไม่ค่อยดีนะ ถึงได้ลืมผมเร็ว ขนาดนี้”
นัชชาหายใจไม่คล่องนัก “ต้องขอโทษด้วย บางเรื่องที่ไม่ น่าจดจํา ฉันก็ไม่อยากจะจํา
ได้ยินดังนั้น ชนุดมหัวเราะออกมาเบาๆ ชายที่อยู่ตรงหน้าสูงเกือบสองเมตร เหมือนเธออยู่หน้ากำแพงสูงใหญ่ ยิ่งกว่า นั่นคือเขายืนบดบังแสงแดด ทำให้เธอเหมือนตกอยู่ในสภาพ อากาศที่มืดครึ้ม
“ไม่น่าจดจําเหรอ” เขาขยับเข้ามาใกล้ สายตาจ้องเขม็ง มาที่เธอ “ผมไม่แนะนำให้คุณรื้อฟื้นความจำขึ้นมาใหม่นะ
สีหน้าของนัชชาเปลี่ยนไปทันที “ชนุดม คุณต้องการ อะไร”
ทันทีที่ได้ยินหญิงสาวพูดชื่อเขาออกมาโดยไม่ทันยังคิด สีหน้าเขาก็ดูดีขึ้นมา “ผมไม่ได้ต้องการอะไร
“ถ้างั้นคุณก็ปล่อยฉันสิ
ชนุดมมองที่ใบหน้าที่แดงกล่ำด้วยความโกรธของหญิง สาว จึงยิ่งยั่วโมโหเธอ”ถ้าผมไม่ปล่อยล่ะ”
“คุณ” นัชชาเสียงเกรี้ยว เธอมองไปรอบๆ ปฏิเสธไม่ได้ เลยว่าตรงนี้เป็นที่ลับตาคน แทบจะไม่ค่อยมีคนเดินผ่านมา พื้นที่ด้านหลังสถานสงเคราะห์ค่อนข้างกว้าง จึงไม่ค่อยมีใคร สังเกตเห็นบริเวณนี้เลย
เธอมองชายตรงหน้าด้วยความตระหนก ภายใต้จิตสำนึก ของเธอตอนนี้ตระหนักถึงความกลัวขึ้นมาทันที
ความโกรธค่อยๆจางหายไป ใจเริ่มเย็นขึ้น”ทำไมคุณถึง มาที่นี่”
การพบกันก่อนอาจจะไม่น่าประทับใจนัก มาวันนี้บังเอิญมาเจอกันที่นี่ จึงทำให้เธอหวาดระแวง
“คุณไม่ต้องกังวล ผมไม่ได้สะกดรอยตามคุณ แต่บังเอิญ ผ่านมาเท่านั้น” ชนุดมไม่ได้โหก แต่เขามาที่นี่ไม่ใช่แค่เรื่อง บังเอิญ เขาตั้งใจมา แต่ไม่คิดว่าจะเจอเธอที่นี่
นัชชายังไม่เชื่อเสียทีเดียว ระหว่างที่เธอกำลังลังเลสงสัย เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้น ชนุดมจ้องเล็งมาที่เธอ แล้ว ปล่อยมือข้างนึงของเธอให้เป็นอิสระ แต่อีกข้างยังคงจับไว้ แน่น”รับสาย”
นัชชากลอกตา รับสายที่โทรเข้ามา “ฮัลโหล
“ไปสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าเหรอครับ” เสียงนุ่มของ ชายหนุ่มถามเธอ ทำให้รู้สึกคลายกังวลบ้างเล็กน้อย
“ใช่ค่ะ คุณเสร็จธุระแล้วเหรอคะ” แม้เธอจะพูดสายอยู่กับ เตชิตแต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ชนุดม
ชนุดมพยายามเข้าใกล้เพื่อฟังว่าทั้งสองคุยอะไรกัน
“ยังครับ เดี๋ยวมีประชุมต่อ” สิ้นเสียงตอบของเตชิต ก็ได้ ยินเสียงเลขาของเขาแจ้งเตือนให้เขาเข้าประชุมดังมาจาก ปลายสาย เดซิตรบถามต่อ “ทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่มั้ย”
เพราะประโยคนี้ของเตชิตทำให้ชนุดมขมวดคิ้วขึ้นเล็ก น้อย จ้องมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยอยากรู้ว่าเธอจะตอบปลาย สายยังไง
นัชชาไม่ทําให้เขาต้องสงสัยนานนัก แทบจะไม่ความลังเลในน้ำเสียงของเธอ “ฉันจะมีเรื่องอะไรได้ คุณไปทำงานเถอะค่ะ เดี๋ยวคนอื่นจะรด เสร็จธุระแล้วเราค่อยคุยกันนะคะ
เธอไม่เพียงไม่ทำแผนแตก แต่ยังพูดกับเขาเหมือนปกติ ทุกอย่าง
ชนคนแววตาเป็นประกาย คิดไม่ถึงว่าเธอจะเก็บอาการได้ นิ่งขนาด
เมื่อวางสาย นัชชาหันมาสบตากับ ในแววตามีความ
รังเกียจแฝงอยู่ ใช่แล้ว รังเกียจ
ชนุดมเองก็สัมผัสได้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของเธอ เธอเป็น แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ บอบบาง เขาไม่จำเป็นต้องออกแรงเยอะก็ สามารถทําให้เธอตายได้แล้ว แต่ที่น่าสนใจคือ ความอารมณ์ ความรู้สึกของเธอ จะเรียกว่าเธอมีจิตใจที่เข็มแข็ง ก็อาจจะ ไม่ใช่ซะทีเดียว แต่มันก็ปลุกความพอใจของเขาขึ้นมา
เพียงเสี้ยววินาทีต่อมา ชนุดมก็ทำสิ่งที่ทำให้นัชชารู้สึก
เจ็บปวด
เขายื่นมือเข้าไปใต้คางของเธอพร้อมกับยกเธอขึ้น “คุณ
นัชชา คุณช่างน่าสนใจจริงๆ ครั้งแรกเราอาจจะเจอกันโดย บังเอิญ แต่ครั้งที่สองมันคงจะเป็นเพราะพรหมลิขิต”
“คุณบ้าไปแล้วเหรอ” นัชชาสบถออกมา
“หวังว่าคุณจะยังน่าสนใจแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ใช่แล้ว ” พูดถึงตรงนี้ชนุดมก็ปล่อยมือจากเธอ “ครั้งก่อนที่ผมเคยสัญญากับคุณเอาไว้ คุณช่วยผมไว้ครั้งนึง ผมก็ต้องช่วยคุณ เป็นการตอบแทน
“ขอบคุณนะ แต่ฉันไม่ต้องการ
“คุณอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธสิครับ” ชนุดมเงยหน้ามองออกไป แล้วค่อยๆหมุนตัวเดินจากไป
นัชชามองดูเขาเดินจนลับสายตา ความกลัวในใจยังไม่ เลือนหายไป เธอรีบเดินกลับเข้าไปที่หน้าประตู เจ้าหน้าที่กำลัง ขนของกันอยู่ ไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้น
ในมือนัชชาเต็มไปด้วยเหงื่อ ในใจภาวนาขออย่าได้พบ เจอกับผู้ชายคนนั้นอีกเลย
อีกด้านหนึ่ง เตชิตหลังจากจัดการธุระของบริษัทสาขา เรียบร้อยแล้ว ก็ยังต้องไปรับประทานอาหารและดื่มสังสรรค์ กับผู้ร่วมงานต่อ หนึ่งในนั้นคือ ธารณ ผู้บริหารระดับสูงของ เมือง เขาอายุ46ปีและมาต้อนรับเตชิตด้วยตนเอง
สถานที่ก็คือคลับหรูแห่งหนึ่งในเมือง ที่ให้บริการเฉพาะ สมาชิก มีอาหารรสเลิศมากมายให้เลือก ชั้นบนมีห้องส่วนตัว ที่หรูหราโอ่อ่าพร้อมกับศูนย์รวมความบันเทิงต่างๆครบครัน ทั้งนักธุรกิจและนักการเมืองต่างชอบมาใช้บริการเพราะมีความ เป็นส่วนตัวสูง
พอรู้ว่าเตชิตมา เจ้าของคลับถึงกับมารอต้อนรับด้วยตนเอง พร้อมกับจองห้องที่ดีที่สุดไว้ให้ ทั้งยังกำชับว่าไม่ต้อง จ่ายค่าบริการใดๆเพิ่มเติม
ผู้ชายเวลาดื่มสังสรรค์กัน สิ่งที่มักจะขาดไม่ได้ก็คือ หญิง สาวที่นั่งดื่มเป็นเพื่อนแขก ซึ่งอันที่จริงแล้วพวกเธอไม่ได้ทำ อะไรเลย แต่เวลามีพวกเธออยู่ด้วยมักจะทำให้ถูกมองในแง่ลบ เกินความจริงไปสักหน่อยจึงต้องคอยแก้ต่างอยู่เสมอ
เตชิตและธารณนั่งเป็นหลักอยู่คนละฝั่งกัน ที่เหลืออีกสี่ห้า คนล้วนแต่เป็นคนมีหน้ามีตาของเมืองนี้ ธารณรู้ดีว่าเดชิดเป็น ใคร จึงต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี
แต่มีคนคนนึง ที่ดึงความสนใจของเตชิต
หญิงสาวที่นั่งข้างๆธารณ ใบหน้าคุ้นเหมือนเคยเจอที่ไหน มาก่อน ปกติเตซิตแทบจะไม่ชายตามองอะไรทั้งนั้น แต่พอได้ ยินน้ำเสียงของเธอ เขาก็จำได้ทันที เธอคือ ปณิตา นั่นเอง
เขาขยับสายตาเล็กน้อย มองไปทางปณิตา ซึ่งสายตา ทำให้เขาถูกเข้าใจผิดว่า เขาสนใจปณิตา
ทุกคนที่นั่งในที่นี้ล้วนมองออกแต่ไม่มีใครแสดงท่าทีอะไร
ออกมา
ช่วงแรกๆปณิตามีท่าทางกระสับส่าย แต่ก็ค่อยๆผ่อน
คลายลง ในใจก็คิดว่าผู้ชายก็เป็นแบบนี้หมด เธอหมดเงินให้ กับบริษัทนักสืบเอกชนไปไม่น้อยเพื่อแลกกับข้อมูลของเตชิต ที่มาประชุมในครั้งนี้ ดังนั้นเธอจะไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้ไปง่ายๆ
ขณะที่เธอคิด มือของเธอก็คไปที่ชอบกระเป๋าแข็งๆ ซึ่ง ก็คือยาสลบที่เธอเตรียมไว้นั่นเอง
“ปณิตา ดื่ม มัวนั่งนิ่งอยู่ทำไม” ชายคนหนึ่งเรียกเธอ
ปณิตารีบยกแก้วของตัวเองขึ้นดื่ม ส่งยิ้มให้กับคนที่นั่ง ข้างๆแต่สายตากลับมองไปที่เตชิต
เตชิต มเย็นก่อนจะถอยเก้าอี้ไปทางด้านหลัง
“ผมขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะครับ”
พูดจบก็หมุนตัวออกจากห้องไป ไม่ได้เข้าห้องน้ำในห้อง ส่วนตัว นแต่อย่างใด
ปณิตานัยตาเป็นประกาย มือจับแก้วของตนเองแน่น
โอกาส ในที่สุดก็มาแล้ว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ