ตอน 128อย่าร้องไห้ฉันไม่ดีเอง
ตอนที่ 128อย่าร้องไห้ฉันไม่ดีเอง
จินต์ถูกเขาจับไว้อย่างกะทันหันตกใจจนนิ่งไปสักพักแต่ไม่ นานนักความโกรธก็ลุกเป็นไฟอีกครั้งคนที่ทำผิดคือเขาไม่ใช่ นัชชาแต่ทำไมเขากลับทำตัวโอหังหยิ่งยโสขนาดนี้นะ
“มันเกิดอะไรขึ้นตัวนายเองไม่รู้สำนึกบ้างหรือไง?นายไป ทำงานที่เมืองทำอะไรไว้บ้างล่ะคิดว่านัชชาไม่รู้อะไรเลยงั้น หรอ!”
“ฉันทําอะไร?”
“นาย! จินต์เห็นว่าขนาดนี้แล้วเขายังมีหน้ามาถามอีก โกรธจนพูดไม่ออกสายตาจ้องเขม็งไปที่เขาเรื่องที่นายไป มั่วสุมมีสัมพันธ์กับปณิตานายลืมแล้วหรือไง? ต้องให้คนอื่นมา เตือนอีกหรอ!”
มั่วสุมกับปณิตา?
เขาไปอยู่กับเธอเมื่อไหร่ตัวเขาเองยังจำไม่ได้
เตชิตปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดคิดไปคิดมาในที่สุดเขา ก็หาต้นสายปลายเหตุเจอ เธอบอกว่านัชชาเข้าใจผิดว่าฉันกับ ปณิตามีสัมพันธ์บางอย่างกันใช่ไหม?
“ไม่ใช่เข้าใจผิดรูปเปลือยนั่นถูกส่งมาจากมือถือนายเข้า มือถือนัชชานายคิดว่าเข้าใจผิดนั้นหรอ? “จินต์พูดพรวดพราด ใส่เขาในสายตาของเธอตอนนี้เตชิตเป็นแค่ผู้ชายชั่วๆ เมื่อครู่ นายยังขืนใจเธอให้ทำเรื่องแบบนั้นนายมันเลวทราม ช้า….เห้ยนายจะไปไหนฉันยังพูดไม่จบเลย!
เตชิตเหวี่ยงเธอลงรีบเดินตรงออกไปที่ประตูเปิดประตู ออกทางเดินอันว่างเปล่าไม่มีใครเลยสักคนรวมไปถึงนัชชา
จินต์เดินตามออกมาสีหน้าดูไม่ดีเอาซะเลย นัชชาละเมื่อ ครูยังอยู่ตรงนี้อยู่เลย…
พริบตาเตียวหายไปซะแล้วหรอ?
เธอร้อนใจแต่เดชิดยิ่งกระวนกระวายใจคิดถึงสิ่งที่เขาทำ ไปอย่างไม่แยกแยะถูกผิดจิตใจที่โกรธจนลุกเป็นฟืนไฟกลับ สงบลงขึ้นมาทันทีสิ่งที่เขาได้กลับมาคือความเยือกเย็นที่ราย ล้อมตัวเขา
เขานึกถึงตอนบังเอิญไปเจอปณิตาที่งานเลี้ยง ในเมือง ถ้า มันเป็นฝีมือของเธอจริงๆงั้นครั้งนั้นที่เจอเธอในงานก็ไม่ใช่ เรื่องบังเอิญแต่มันถูกวางแผนไว้ก่อนหน้าแล้ว
ถ้าเป็นอย่างนั้นเรื่องที่นัชชาหายไปโดยไม่บอกเขาเจอเขา แล้วความคิดดูเปลี่ยนไปอย่างเด็ดขาดตอนนี้เขาเข้าใจหมด แล้ว
สมควรตายจริงๆเขาไม่ถามอะไรเพิ่มเติมอีก
เตชิตเจ็บใจทนไม่ไหวจนตบหน้าตัวเองไปสองครั้งเดิน ออกไปข้างนอกพลาง โทรศัพท์หาดรัณพลางส่งคนไปหาที่อยู่ ของปณิตาหาเจอแล้วรีบนำตัวเธอมาทันทีไม่ว่าจะทำด้วยวิธี ไหนก็ตามฉันมีเรื่องต้องถามเขาด้วยตัวฉันเอง
ในสายโทรศัพท์ตรัณรีบรับคำสั่งโดยพลัน ครับคุณเต
“ตอนนี้รีบให้พวกตำรวจขึ้นมานัชชาหนีไปแล้วไม่รู้ไปไหน พวกนายเฝ้าประตูไว้ให้ดี
จินตนึกขึ้นได้ว่าไม่กี่นาทีที่แล้วผู้จัดการโรงแรมได้กำชับ บางอย่างไว้ ท่านครับเมื่อครู่พนักงานโรงแรมบอกว่ายังมี ประตูหลังอีกสองแห่งหนึ่งในนั้นคือประตูทางทิศตะวันตกซึ่ง ไม่มีคนของพวกเราท่านเห็นว่าควรส่งคนไปหรือไม่ครับ?”
ได้ยินเช่นนั้นสีหน้าของเตชิตดูแย่ลงกว่าเดิมออกคำสั่ง ด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ควรรีบให้คนไปเฝ้าเดี๋ยวนี้
“ครับ!”
หลังจากตัดสายเตชิตไม่หยุดอยู่นิ่งรีบเดินตรงไปที่ห้อง ควบคุมวงจรปิดโรงแรมไม่เหมือนสถานที่อื่นทั้งคนเยอะทั้ง วุ่นวายมากไปกว่านั้นที่นี่ยังเป็นที่พักแบบกิ่งโฮมสเตย์ด้วยจะ หาคนสักคนยิ่งยากเข้าไปใหญ่แต่ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาหวังคือ นัชชาคงไม่หนีออกไปทางประตูหลังเธอยังคงอยู่ในโรงแรมนี้
จินต์เดินตามเขาเข้าไปดูกล้องวงจรปิดที่อยู่ตรงหน้าสายตาเหลือบไปมองเตชิตแวบหนึ่งหยิบมือถือขึ้นมาเดินไปที่ มุมห้องต่อสายหาใครบางคนแต่ทว่าสายนั้นกลับไม่มีใครกด รับจินต์นึกขึ้นได้ว่าตั้งแต่ออกมาจากเมืองนัชชาไม่ได้พกมือ ถือออกมาด้วย
ตอนนี้ทำไงดีล่ะจะไปหาเธอจากที่ไหน…..
เมือง ซึ่งต่างกับเมือง ถ้านัชชาเจตนาไม่อยากให้พวก เขาหาเจอก็เสมือนกับว่ากำลังงมเข็มในมหาสมุทรได้แต่ ภาวนาขออย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เลย
ปรับดูวิดีโอวงจรปิดบริเวณทางออกของโรงแรมแต่กลับ ไม่มีแม้แต่เงาของนัชชา
จากนั้นเริ่มตรวจหาทีละชั้นยามผู้รักษาความปลอดภัย
ตรวจสอบดูวงจรปิดที่ละห้องหลังจากนั้น 20นาทีในที่สุดบน
หน้าจอวงจรปิดเธอปรากฏอยู่ในลิฟต์ตัวหนึ่ง
เขาตรวจสอบดูเพื่อความแน่ชัดตลอดทางท้ายสุดเงาของ นัชชาหายไปที่ชั้นบนสุดของโรงแรม
เธอออกมาจากลิฟต์จากโถงทางเดินเธอวิ่งไปที่ทางเลี้ยว ขึ้นบันไดบริเวณนี้คือทางเชื่อมไปยังดาดฟ้าโรงแรม
หัวใจของเตชิตราวกับถูกค้อนทุบตอกเข้าไปข้างในก้าว เท้าออกมาอย่างฉับไวเข้าไปในลิฟต์ตรงเข้าไปกดปุ่มชั้นสูงสุด ของโรงแรมในเวลาคับขันแบบนี้กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับ เธอจริงๆ
ถ้านัชชาเป็นอะไรขึ้นมาเขาคือคนต้นเหตุที่ทำให้ทุกอย่าง เป็นแบบนี้
เตชิตไม่เคยตึงเครียดขนาดนี้มาก่อนมือของเขาชุ่มไป ด้วยเหงื่อเย็นๆเริ่มหายใจไม่สะดวกความดันโลหิตพุ่งปรี๊ดหัว ของเขามึนงงไปหมด
ภายในเวลาไม่ถึง 10 วินาทีตัวเขาเหมือนถูกมขึ้นมาจาก ในน้ำเย็น
ประตูลิฟต์ถูกเปิดออกอีกครั้งภายนอกประตูคือโถงทาง เดินอันเงียบสงัดแต่เตชิตกับรู้สึกเหมือนมีเสียงคำรามของพายุ หิมะขนาดมหึมา
เขาเดินออกไปตามทางที่นัชชาเดินในกล้องวงจรปิดไม่ ลังเลที่จะเปิดประตูออกตรงไปยังดาดฟ้า แกรัก ระเบียงปูนสี เทาปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาคอมเพรสเซอร์แอร์เส้นเหล็กต่างๆ แต่สิ่งเดียวที่ไม่มีคือเงาอันอ่อนโยน
เตชิตราวกับถูกตอกติดไว้ตรงนั้นสองมือกำแน่นข้างลำตัว แต่กลับไม่มีแรงแทบจะทรุดล้มลงไป
เสื้อสูทที่เป็นระเบียบกับกางเกงสแล็คถูกลมพัดลอยขึ้นมา เล็กน้อยผมที่ปกปิดตรงหน้าผากค่อยๆยุ่งเหยิงเขาดึงสติกลับ มาก้าวเดินไปที่ราวกั้นบนดาดฟ้ามองลงไปจากระดับความสูง ตรงนี้กลุ่มคนจำนวนมากเสมือนมดตัวเล็กตัวน้อยแต่กลับดีที่ เขาไม่เจอใบหน้าของคนที่เขายากจะยอมรับในสิ่งที่กระทำไป ปรากฏขึ้น
ด้านหลังเขาจู่ๆก็มีเสียงสะอึกสะอื้นของผู้หญิงตั้งขึ้นมา
เตชิดหยุดชะงักหันไปตามเสียงนั้นมุมหลังเครื่องระบาย อากาศขนาดใหญ่เขารีบเดินไปดูเห็นผู้หญิงที่นั่งขดตัวอยู่บน พื้นที่เต็มไปด้วยฝุ่นสองมือกอดเข่าไว้ใบหน้าของเธอก้มลงทุก อยู่ระหว่างขา
ตัวของเธอสั่นไปหมดและยิ่งสั่นขึ้นไปหลังจากที่เขาเดิน
เข้าไป
ในใจของเขาชาไปหมดนึกถึงสิ่งที่เขากระทำกับเธอไป เมื่อครู่ยิ่งรู้สึกผิดจนไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้เขามองดูเธอ อยู่นานขาเรียวเล็กร่างที่นั่งคุดคู้อยู่ยกมือคลำที่คิ้วตอนแรก อยากจะเข้าไปปลอบเธอแต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเกรี้ยว ดูกราดขึ้นมา อย่ามาแตะต้องฉัน!
ตาเธอแดงก่ำจมูกก็แดงเช่นกันแต่ถึงยังไงทั้งหมดนี้ก็ไม่ เห็นชัดเท่ารอยบนคอของเธอ
สิ่งที่เขาทิ้งร่องรอยไว้
มือของเตชิตค้างอยู่ในอากาศไม่กี่วินาทีต่อมาเขาวางมือ ลงตาหยุดชะงักคอแห้งเล็กน้อย โอเคผมไม่แตะตัวคุณ
นัชชาก้มหน้าลงน้ำตาไหลลงทีละหยดเขาไม่มองหน้าเธอ อีกราวกับว่าถ้าขึ้นมองเธออีกก็เหมือนยิ่งทรมานตัวเอง
เตชิตไม่พูดอะไรมองดูเธอร้องไห้ฟูมฟายเสียใจแต่กลับทําอะไรไม่ได้ ตาทุกหยอดของเธอเหมือนไหลลงไปในหัวใจ ของเขา อย่าร้องไห้นะฉันผิดเอง
ชชาเม้มปากร้องไห้หนักกว่าเดิม
“ผมไม่รู้ว่าปณิตาทำเรื่องแบบนี้กับคุณเข้าใจผิดคิดว่าคุณ จะทิ้งผมไปผมก็เลยโมโหมากสี่วันสามคืนที่ผ่านมาผมตามหา คุณไม่หยุดไม่มีข่าวอะไรเกี่ยวกับคุณเลยผมผิดหวังสิ้นหวังไม่ เคยคิดมาก่อนเลยว่าคุณจะหนีผมไปกะทันหันแบบนี้ผมก็เลย กลัวโกรธอยากฟังคำอธิบายจากคุณถ้าผมรู้ว่าเป็นเพราะเรื่อง นี้ผมจะไม่ทำแบบนี้กับคุณเลย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ