นภันตรีบปฏิกิริยา เขาวิ่งถึงรั้ว คิดว่าจะมอง เห็นสภาพที่น่ากลัวมาก ไม่น่าคิดว่าได้เห็นเป็น เบาะลมที่สีเหลืองๆ
เขาเห็นคนที่ใส่เสื้อสีส้มแดงเดินไปเดินมา อยู่ข้างล่าง เห็นแคร่หามสีขาว และรถตำรวจ
ร่างกายไร้แรงทันที นภันต์นั่นบนพื้น พึ่งรั้ว ที่สกปรกเต็มไปด้วยฝุ่น”เธอไม่เป็นไร เธอไม่ เป็นไร”
นภันต์เงยหน้ามองเตชิต มองเห็นดวงตา แดงๆของเตชิตด้วยประหลาดใจ
ไม่เคยได้เจอท่าทางแบบนี้ของเตชิตเลย นภันต์ตะลึงมาก “คุณเตชิต”
ใบหน้าของผู้ชายคนนี้ขยาบไปเล็กน้อย
ราวกับกัดฟันพูดว่า”คนละ” นภันต์หายใจลึกๆ “ตำรวจกับนักดับเพลิง แล้ว ข้างล่างมีเบาะลม นัชชาไม่เป็นไร
พูดจบ ผู้ชายคนนี้หายตัวไปไม่อยู่ต่อแม้แต่ หนึ่งวินาที รวมถึงไม่มองลงข้างล่างเลย เหมือน กับว่ากำลังจะหนีไป ถึงแม้ว่ารู้แล้วเธอไม่เป็นไร แต่ว่าเขาก็ยังปฏิเสธเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นความจริง
นัชชาตกลงจากตึกสูงๆ ถึงแม้ว่ามีเบาะลง แต่แรงกระแทกและแรงโน้มถ่วงก็ใหญ่อยู่ ตอนที่ ตกลงบนเบาะลม เธออาการโคม่าไป ส่งเข้าโรง พยาบาลราม
เตชิตมาถึงโรงพยาบาล เธอถูกส่งเข้าห้อง ฉุกเฉิน
ปรัณทําศัลยกรรมด้วยตนเอง ยังมีแพทย์ หลายคนอยู่ในห้องฉุกเฉิน
มองเห็นไฟแดงของห้องฉุกเฉินสว่างขึ้น หัวใจของเตชิตเครียดมาก ดึงบุหรี่ออกจุด ควัน ขาวๆลอยขึ้น ใบหน้าซีเรียสมาก เจ้าหน้าที่การ แพทย์ผ่านไปผ่านมาไม่มีใครกล้าพูดอะไร
ใครก็รู้ว่า คุณเตชิตเป็นเพื่อนของคุณปรัณ ผู้หญิงที่ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินเป็นผู้หญิงที่อายุ ใกล้ๆกัน ความสัมพันธ์ของพวกเขาน่าจะไม่ง่ายๆ หรือ
ในเวลานี้ ไม่มีใครกล้าไปตีปากกระบอก ของปืน
แต่ผู้ชายคนนี้แขวงตา มือที่ถือบุหรี่ไว้ก็สั่น ขึ้นเล็กน้อย เหมือนกับว่าอารมณ์เสียแย่สุดๆเลย
สายตาของเขามองไปมุมผนัง จ้องมองอยู่ นิ่งๆ เหมือนกับว่าสภาพที่เกิดขึ้นบนชั้นดาดฟ้าพึ่ง เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้
มีชีวิตอยู่มานานถึงสามสิบสองปี ตั้งแต่คุณพ่อหย่ากับคุณแม่แล้ว เขาไม่เคยร้องไห้เพื่อ ใครเลย ไม่ว่าจะเจ็บและลําบากแค่ไหน เขาก็ผ่าน มาได้ โดยไหลเลือดไม่ไหลน้ำตา แต่ว่าวันนี้ เขา มองเห็นเธอตกลงไปในหน้าเขา ดวงตาของเขา เต็มไปด้วยหมอกควัน
ถ้าเธอเป็นอะไรไป เขาจะเองไงดี
เตชิตถามตัวเอง แต่ว่าไม่มีคำตอบ เขารู้ว่า เขาจะไม่ปล่อยผู้ชายคนนั้นแน่ เขาจะทำให้ ผู้ชายคนนั้นรู้สึกว่าผิดที่มาถึงโลกนี้
ความกระวนกระวายแบบนี้มาจากความรัก
เกี่ยวกับผู้หญิงที่อยู่ในห้องฉุกเฉิน รุนแรง เชี่ยว ควบคุมไม่ได้
ก็เพื่อร่างกายที่เขาน่าสนใจ แต่ว่าตอนนี้ เขาเริ่มสนใจคนนี้ด้วย
เวลานี้ เตชิตพบเจอว่า เขามีความรู้สึกเริ่ม รักเธอนอกจากชอบร่างกายตัวนี้
อ้าปากเล็กน้อย สูบบุหรี่อย่างหนักๆ กลิ่น บุหรี่ฉุนมากกระจายภายในจมูก แต่สามารถ ทําให้คนมีสติอยู่
หลังจากหนึ่งชั่วโมง ประตูของห้องฉุกเฉิน ถูกเปิดมาอีกครั้ง ปรัณแก่หน้ากากเดินมาและพูด ด้วยว่า เธอปลอดภัยแล้ว การถูกกระทบกระแทก เล็กน้อย และตกใจไม่น้อย เราจัดให้มีการรักษา ในโรงพยาบาล แม้ว่าอาการไม่หนักมาก ถ้าพักอยู่ที่บ้านก็ไม่สะดวกในการรักษา”
ผู้ชายคนนี้พยักหน้า ดับบุหรี่บนฝาถังขยะ ที่อยู่ข้างๆ แล้วทิ้งเข้าถังขยะ
ปรัณมองเห็นหมอกควันของบุหรี่แล้ว ถอน หายใจพูดว่า”ยังไงที่นี่ก็เป็นโรงพยาบาล คุณจะ สูบบุหรี่คุณควรจะไปมุมที่ข้างๆ
ผู้ชายคนนี้ไม่ตอบ แค่ถามว่า “เธอฝืนยัง”
“ยังเลย แต่ว่าคุณสามารถเข้าไปเยี่ยม ได้”ปรัณหันกลับตัวหลีกทางให้เขา
เตชิตยืนนิ่งไม่ย้ายตัว มองเข้าไป รวมกับ ว่าข้ามประตูจะได้เห็นคนที่นอนอยู่บนเตียงข้าง ภายในห้องฉุกเฉิน
ปรัณเขย่าแขนให้พยาบาลออกไปจากห้อง
ฉุกเฉิน ตบไหล่เขาอย่างเบาๆ เดินเข้าใกล้ๆเขา
“นี่คุณสองคนยังทะเลาะกันอยู่หรือ”
ปรัณรู้ว่าเขาปากแข็งใจอ่อน “คุณ อย่าแต๊ะ จุ้ยแล้วนะ เธอแค่เป็นผู้หญิง คุณควรจะใจกว้าง หน่อย…….
“ผมรักเธอแล้ว”
ปรัณจบเสียงเล็กพูด ใบหน้าตะลึง คำพูดที่ เหลือยังไม่ทันพูดออกจากปาก เขาหันหน้ามอง ไปทางห้องฉุกฉิน “คุณพูดอะไรวะ”
เตชิตจ้องมองเขา “ผมคงจะรักเธอแล้ว”
ได้ยินว่าเขายอมรับ ปรัณก็ยังรู้สึกตกใจ มาก อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้เตชิตรับรู้ความรักของ เขา ก็เห็นว่ายังมีผลดีอยู่ แต่ว่า……
“คุณชอบเธอจริงๆหรือ
“ไม่รู้เหมือนกัน แค่มองเห็นเธอตกลงมา ผม ก็รู้สึกว่าควบคุมตัวไม่ได้
เหนือการควบคุม
ปรัณกลืนน้ำลาย ครั้งที่แล้วเขาเหนือการ ควบคุม……..โทษที ไม่เคยเห็นเลย
แล้วตอนนี้มีคนทำให้เตชิตคนที่เยือกเย็น เหมือนภูเขาที่คลุมหิมะอยู่ เริ่มเปิดใจรัก
“หรือว่ารอเธอฝืนมาค่อยคุยกันดีๆ
“ไม่ต้อง อย่าบอกเธอว่าผมเคยมาที่นี่ ถ้า ผมคิดดีๆแล้วค่อยว่ากัน”
ปรัณยังไม่ทันจะถามเขาว่าอยากได้อะไร เขาก็หันตัวเดินจากไป มองตัวสูงๆนั้นหายไปใน ปลายทางของระเบียง เขาส่ายหัวเล็กน้อย นึกขึ้น ภาพที่เตชิตเร่งวิ่งมาโรงพยาบาล
รีบเร่งมาก ใบหน้าซีดมาก ถึงแม้ว่าเขา อยากจะทําให้คนอื่นเห็นเขาใจเย็นอยู่ หลอกใคร ก็ได้ แต่ก็ไม่สามารถหลอกปรัณไม่ได้ทั้งๆที่พวก เขาเป็นเพื่อนกันมาหลายปีแล้ว
ผู้หญิงที่นอนอยู่ข้างใน เขาใส่ใจมาเกินไป แต่ว่าคนที่อยู่ในสถานการณ์เขามองไม่ชัดความ จริง
เวลาที่นัชชาฝืนขึ้นมา ลืมตาเจอใบหน้า ของณัชชนม์กับเมทนี เธอพยายามเคลื่นตัว แต่ ยังไม่ได้เคลื่อนไปนิดเดียวก็รู้สึกเวียนหัวมาก ภายในสมองของเธอ
ได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากห้องข้างใน ณัช ชนม์รีบเดินมาข้างๆเตียง “นัชชา เธอตื่นมาแล้ว” นัชชาอยากอ้วกมากเพราะเวียนหัว แต่เธอ
อดทนไว้ ถามด้วยเสียงเบาๆ แม่คะ ที่นี่ที่ไหนคะ
“โรงพยาบาลค่ะ ลูก”เมทนีเดินเข้ามา มอง เห็นใบหน้าซีดของเธอ รู้สึกหัวใจเจ็บป่วยมาก “พ่อเคยบอกเธอหลายครั้งแล้ว คนเราทำงานอยู่ ข้างนอกก็อย่าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น ทำไมเธอไม่ ฟังเลย สถานการณ์อันตรายขนาดนี้ เธอไปยุ่ง ทําไม ถ้าเธอเป็นอะไรไป พ่อกับแม่จะอยู่ต่อยัง
ได้รู้ว่านัชชาตกลงจากตึกสูง เมทนีกับณัช ชนม์ประตกใจมาก โชคดีที่สุด นัชชาไม่เป็นไร แต่ก็พวกสองคนนี้ตกตะลึงในใจ
“พ่อคะ แม่คะ หนูไม่เป็นไร”
“ยังพูดว่าไม่เป็นไร การถูกกระทบกระแทกเล็กน้อย ถ้าหนักกว่านี้ เธอจะกลายเป็นเด็กบ้า แล้ว” ค่าแต่ก็ยังรักเธอมาก คิดแล้วก็ยังรู้สึกว่าน่า กลัว
นัชชารู้ว่าพ่อกับแม่เป็นห่วง พูดเอาใจเบาๆ “ไม่ต้องห่วงนะคะ คราวหน้าเจอเรื่องแบบนี้อีก หนู จะวิ่งหนีไปไกลๆ”
ได้คำสัญญา สองคนนี้จึงไว้ใจบ้าง
นัชชามองไปทั่วห้อง เป็นห้องเดี่ยว ตกแต่ง ระดับสูง นอกจากห้องน้ำยังมีห้องล๊อบบี้ใหญ่อีก
เธอหลับตา ถามว่า”แม่คะ เพื่อนหนูตามมา หรือเปล่าคะ”
“เขากลับไปแล้ว เขาจัดการเรื่องห้อง แล้ว บอกว่าไม่ต้องกังวลเรื่องค่าห้อง บริษัทจะจ่ายให้
แม่เห็นชายคนนั้นใจดีหน้าตาก็ดี”
นัชชาคิดอยู่ในใจ”เขาละ”
“หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว เขาก็กลับ ไปแล้ว บอกว่ามีธุระอยู่ที่บริษัท เขาเป็นผู้จัดการ ฝ่ายดูแลความปลอดภัย ตำรวจก็จะมาสอบถาม เรื่องนี้”
ผู้จัดการฝ่ายดูแลความปลอดภัย?
ความหวังเกิดขึ้นภายในหัวใจของนัชชาถูก เย็นชามากโดยประโยคนี้ เธอหัวเราะตัวเอง ไม่ใช่เขา
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ