ตอน739ฉันไม่เห็นด้วยที่เธอทั้งสองคบ
ตอนที่739ฉันไม่เห็นด้วยที่เธอทั้งสองคบกัน
ดราณีนอนหลับตั้งแต่บ่ายจนถึงเย็นรอเธอลืมตาขึ้นมา
ท้องฟ้าที่อยู่นอกหน้าต่างก็มืดแล้วเธอยันร่างให้ลุกขึ้นนั่งยัง รู้สึกหัวมึนๆ
มองไปรอบๆเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าตัวเองอยู่ที่วิลล่าของชนัย
ไม่ได้นอนหลับสบายขนานนี้มานานมากตอนนี้รู้สึกว่า ร่างกายผ่อนคลายขึ้นมากเธอหยิบโทรศัพท์มือถือมาดูเวลาห้า โมงครึ่งยังไม่ถึงเวลาเลิกงานของเขา
ครา คอแห้งลุกขึ้นเปิดประตูจะลงไปชั้นล่างดื่มน้ำสัก
แก้ว
สวมรองเท้าใส่ในบ้านเดินไปที่ห้องรับแขกมองเห็นมุม หนึ่งที่วางเครื่องทำน้ำดื่มกำลังสังเกตว่าน้ำอุ่นกดตรงไหน ทันใดนั้นออดประตูก็ดังขึ้น
เธอชะงักไปครู่หนึ่งมือที่ถือแก้วอยู่ชะงักตามเวลาแบบ
นี้จะมีใครมากันนะ?
ดราณีตกใจจนลืมหายใจค่อยๆย่องเดินไปที่ประตูมองผ่านตาแมวดูว่าใครมากดออด
ชายชรา ในชุดเสื้อคลุมสีดำอยู่ท่ามกลางบอดี้การ์ดสูง ใหญ่ผมของชายชราเป็นสีดอกเลา ในมือถือไม้เท้าทำจากไม้ มะฮอกกานีตอนนี้เขากำลังรออยู่ที่หน้าประตูบ้าน
ดราณีกลืนน้ำลายคนแปลกหน้าพวกนั้นทำให้เธอกังวล เคยมาอยู่บ้านชนัยหลายครั้งยังไม่เคยเห็นคนอื่นมาที่นี่
เขาอยู่คนเดียวมาตลอดนอกจากมีเชฟหรือคนทำคน
ทําความสะอาดมาเท่านั้น
คนที่รู้ตำแหน่งบ้านของชนัยอีกอย่างคือเขาเปิดประตู ใหญ่หน้าสวนได้จะต้องเป็นคนที่ชนัยใกล้ชิดมาก
หรือจะเป็นญาติผู้ใหญ่ของเขา?
เมื่อคิดดังนี้ดราณีรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าเดิมเธอมองชุดนอน ที่เธอใส่อยู่แม้ว่าจะเป็นชุดแขนยาวกระโปรงยาวแต่จะให้ รับแขก ในสภาพนี้มันจะดู……น่าเกียจเกินไป
ในขณะที่เราณีกำลังคิดว่าจะขึ้นไปชั้นบนเปลี่ยนเสื้อผ้า มาใหม่ไหมนั้นเสียงออดประตูก็ดังขึ้นเรื่อยๆฟังออกว่าคนที่ รออยู่ด้านนอกเริ่มจะทนรอไม่ไหวแล้ว
ไม่มีเวลาให้เลือกเธอได้แต่เปิดประตูให้แขกก่อน
ชายชราที่มีอายุกว่าครึ่งคนมีอำนาจที่น่ายำเกรงแค่เขา
ยืนมองเธอก็ทำให้เธอทำตัวไม่ถูก
“สะสวัสดีคะคุณมาหาชนัยเหรอคะ?”ดราณีโค้งตัวค่านับ พูดกับอีกฝ่ายอย่างสุภาพ
“ฉันไม่ได้มาหาเขา ชายชราพูดออกมาเบาๆเสียงมี อำนาจของเขาทำให้คนที่คุยด้วยแทบจะก้มลงกราบ
“ถ้าอย่างนั้นคุณมาหาใครคะ?”
“ฉันมาหาเธอ”
มาหาเธอหรอ?!
ดราณีตกใจเหลือบมองฝ่ายตรงข้ามแววตาที่ชราภาพคู่ นั้นความกดดันจากสีหน้าอันราบเรียบนั้นทำให้เธอต้องหลบ สายตา
“ถ้าอย่างนั้นเชิญคุณเข้ามาก่อน!”
ชายชราสังเกตเธออย่างเงียบๆเห็นเธอใส่ชุดนอนก็ไม่ได้ มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรท่าทางเงียบสงบเย็นชาความมี อำนาจที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวเขาทำให้ดราณีแทบจะยกหัวไม่ ขึ้น
น่ากลัวจริงๆ
แค่นั่งเฉยๆก็รู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลเทียบกับคนแก่ ธรรมดาทั่วไปอย่างกับฟ้ากับเหว
“เดี๋ยวหนูจะไปชงน้ำชามาให้นะคะ…”ดราณีพูดพลาง กำลังหันจะไปหยิบชุดชงชาที่ห้องครัว
ชายชราขัดจังหวะเธอไม่ต้องเธอรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? ดราณีพยักหน้าแล้วส่ายหน้า”คุณเป็นญาติผู้ใหญ่ของ
ขนัย?”
“ฉันเป็นปู่ของเขา”
อ๋อ….ที่แท้ก็เป็นคุณปู่
ดราณีวางมือบนตักอย่างเรียบร้อยท่าทางเกร็งตัวไปหมด แม้ว่าจะตื่นเต้นแต่ก็ยังพอจะเก็บอาการได้อยู่”คุณมาหาหนูมี อะไรหรือคะ?”
ชายชรามองหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามมองแล้วก็ประเมิน ออกว่าอายุยังไม่ถึงยี่สิบใบหน้าอ่อนเยาว์แต่เรื่องหน้าตาเขาไม่ ได้รู้สึกเป็นพิเศษอะไรเพียงแต่ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเข้ม แข็งที่ไม่มีในเด็กวัยเดียวกัน
แต่เรื่องนี้ยืดเยื้อไม่ได้รู้ชัดว่าชายหนุ่มต้องการผู้หญิงแบบ
ไหน
ชายชราขยับมือที่จับไม้เท้าสองที่แล้วพูดออกมาอย่าง ช้าๆ เธอกำลังคบกับชนัย?”
คำถามมาถึงตรงนี้ดราณีรู้สึกเขินจนหน้าแดงจะยังไงคนที่ เธอคุยด้วยอยู่ไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นญาติผู้ใหญ่ของเขา
เวลาตอบคำถามเธอจึงระมัดระวังเป็นพิเศษค่ะเราเพิ่งจะ คบกันแต่ยังไม่ได้บอกให้ครอบครัวรับรู้
ชายชราพยักหน้ากระแอมที่หนึ่งตอนแรกเขาก็ไม่ได้ตั้งใจ จะมาที่นี้เร็วขนาดนี้จนสังเกตเห็นว่าชนัยช่วยครอบครัวเธอ อย่างกระตือรือร้นเขาจึงตัดสินใจมาหาเธอ
มันเริ่มจะผิดสังเกตถึงเวลาที่ควรจะหยุดเสียที
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะอธิบายคร่าวๆ ให้เธอฟัง ชายชราพูด ไม่อ้อมค้อมตรงไปตรงมาสีหน้าราบเรียบเหมือนกับเป็นเรื่อง ปกติธรรมดาทั่วไป”ฉันไม่เห็นด้วยที่เธอทั้งสองคบกันไม่ว่าจะ เป็นชนัยก็ดีหรือจะเป็นตระกูลธิสกุลก็ดีการแต่งงานของเขาเรา ได้จัดหาคนที่เหมาะสมไว้แล้วฉันสืบประวัติส่วนตัวของเธอแล้ว เธอก็คงรู้ความแตกต่างระหว่างเธอกับชนัยเพื่อไม่ให้เกิด ปัญหาไปมากกว่านี้วันนี้ที่ฉันมาก็เพื่อจะบอกให้เธอกับเขาเลิก คบกัน”
คำพูดเป็นชุดๆไม่มีขาดกลางเลยสักนิดคำพูดของชาย ชราราวกับน้ำไหลเกือบจะทำให้เราณีชะงัก
ความตื่นเต้นเมื่อครู่ที่เห็นชายชราเมื่อรู้ว่าเขาเป็นคุณ ของชนัยก็รู้สึกเคารพจนถึงตอนนี้ไม่เหลือความรู้สึกอะไรทั้งสิ้น ดราณีรู้สึกงงๆน้ำเสียงที่เธอตอบกลับชายชราก็เริ่มสัมผัสได้ว่า เริ่มไม่พอใจ
เขาตรวจสอบเธอแล้วก็เอามาพูดกับเธอมองดูเรื่องที่เกิด ขึ้นเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของเธอเลยสัก นิด
ดราณีสูดหายใจเข้าลึกความเบิกบานในดวงตาละลายหายไปหมดแต่สีหน้าของเธอยังคงยิ้มอย่างมีมารยาทไม่ว่าเขา จะพูดเสียมารยาทยังไงเขาก็เป็นผู้ใหญ่กว่าก็ยังต้องแสดงท่าที เคารพอยู่บ้าง
“หนูไม่รู้ว่าจะเรียกคุณว่าอะไรดีถ้าคุณไม่รังเกียจหนูจะ เรียกคุณว่าท่านธิสกุล พูดถึงตรงนี้ดราณีหยุดไปครู่หนึ่งเห็นว่า ฝ่ายนั้นไม่มีข้อโต้แย้งจึงพูดต่อ”หนูไม่รู้ว่าคุณคิดยังไงกับหนู หรือคิดยังไงกับเรื่องระหว่างหนูกับชนัยแต่ที่เราคบกันไม่ใช่ เพราะปัจจัยภายนอกเพียงแต่เพราะเราชอบพอกันพวกเรารัก กันด้วยความจริงใจดังนั้นเรื่องที่จะเลิกคบกันไม่ใช่ว่าหนูจะ ตัดสินใจคนเดียวได้
ในเมื่อเราอยู่ด้วยกันแล้วความรักนี้เป็นเรื่องของเราสอง คนคนอื่นไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่ายเหมือนกันเธอไม่มีสิทธิ์จะบอก เลิกก็เลิก
เหมือนชายชราได้ยินเรื่องตลกความรักที่เหมือนรักแท้เขา
ไม่เคยเชื่อ
ไม่มีสิ่งใดที่แข็งแรงจนไม่สามารถทำลายได้เพียงแต่ข้อ เสนอยังไม่น่าดึงดูดใจพอ
ดังนั้นเขาจึงเปิดไพ่ตาย ใบสุดท้าย”ลองพูดความต้องการ ของเธอมา”
ดราณีชะงักไปกี่วินาทีเหมือนเธอยังดึงสติกลับมาไม่ได้ไม่ เข้าใจว่าประโยคนี้หลุดออกมาจากปากเขาได้อย่างไร
แต่หลังจากสังเกตเห็นเขายิ้มเยาะก็รู้ได้ทันที
ไม่รู้ว่าทำไมดราณีอยากจะหัวเราะเหมือนบทในละครทาง ทีวีกำลังสะท้อนในตัวเธอเองมันช่างน่าเหลือเชื่อ
ในขณะที่เธออดไม่ไหวที่จะตอกกลับไปนั้นประตูวิลล่า เปิดออกอีกครั้งร่างสูงโปร่งปรากฏขึ้นตราณีมองตามเสียงที่ ได้ยินก็แสบจมูกขึ้นทันใด
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ