ตอน733รู้จักคนมีเงิน
ตอนที่733 รู้จักคนมีเงิน
“ต๊ะ?”ปวิมลมองเธออย่างน่าสงสัย ทำไมฉันถึงไม่เคย เรียกรถที่ดีแบบนี้ได้เลยสักครั้งล่ะรถคันนั้นราคาประมาณเกือบ สิบล้านล่ะมั้ง?”
ดราณีรู้สึกอึดอัดพลันหลบสายตาของฝ่ายตรงข้ามยิ้ม แบบแหย่ๆ คงจะบังเอิญล่ะมั้ง
“จริงเหรอ?”ปวิมลพูดพลางหันหัวไปมองที่ประตูที่อยู่ด้าน หลังของเธอเพียงแต่ว่ารถที่จอดอยู่เมื่อสักครู่ขับออกไปแล้ว
“อืมรีบไปกันเถอะไม่อย่างนั้นเดี๋ยวก็เข้าเรียนสายกัน
พอดี”ดราณีไม่อยากคุยเรื่องนี้กับเธอมากนักเดินจูงมือเธอไปที่ ประตูอาคารเรียนอย่างรวดเร็ว ปริมลมองเห็นจังหวะการเดินผิดปกติของเธอก็พอจะรู้ว่า
อะไรเป็นอะไร
เธอไม่เชื่อว่าจะมีใครเต็มใจเอารถราคาเป็นสิบล้านมาขับ แท็กซี่ไม่ต้องพูดถึงค่าน้ำมันแค่ค่าสึกหรอก็คงไม่คุ้มแน่ๆ
เธอไม่ค่อยได้นั่งแท็กซี่แบบนี้ถึงได้ใช้เหตุผลข้างๆๆมาก ลบเกลื่อนละมั้ง
อย่างไรก็ดีปริมลหรี่ตาลงไม่คิดว่าเธอจะมีดีอะไรปกติเห็น เป็นคนซื่อๆไม่รู้จักมารยาหญิงแต่ก็จับคนรวยได้ขนาดนี้
ชนัยใช้รถที่ราคาถูกที่สุดที่ใช้ในบริษัทรับส่งยังกลายเป็น คนรวยในสายตาคนอื่นซะอย่างนั้น
ความสัมพันธ์ของดราณีกับเธอพูดไม่ได้ว่าสนิทสนมกัน มากเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นธรรมดาๆถ้าพูดถึงการดำเนินชีวิตของ เธอเรียบง่ายมากการดำเนินชีวิตของปวิมลตรงข้ามกับเธอโดย สิ้นเชิง
ปกติเธอจะแต่งตัวดูดีเสมอไม่ว่าจะไปเรียนหรือว่าไปซื้อ ข้าวมากินแม้แต่จะลงตึกไปเอาพัสดุเธอก็ต้องแต่งหน้าแต่งตา ก่อนออกนอกห้องเสมอ
บางคนอาจจะคิดว่าเป็นตัวของตัวเองนั้นมากเกินไปแต่ ดราคิดว่าทุกคนย่อมมีสิทธิ์เรื่องความเป็นตัวของตัวเอง เฉพาะตัวและสามารถเลือกที่จะเป็นในสิ่งที่ตัวเองชอบแค่ไม่ ทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็พอ
ดังนั้นจ่งการถูกมองว่าเป็นคนที่อ่อนโยนต่อปริมลที่สุดทั้ง คู่พบกันก็จะคุยทักทายเป็นครั้งคราวเหมือนตอนนี้แต่ถ้าจะพูด ถึงขั้นสนิทสนมมากกว่านี้ก็ไม่ใช่
เธอมาถึงห้องเรียนก่อนเวลาไม่ได้เข้าเรียนมาหลายวัน เรียนผ่านกันไปตั้งหลายบทแล้วปวิมลก็ไม่ใช่คนที่เข้าเรียนตรง เวลาเท่าไรคงจะต้องยืมสมุดบันทึกของคนอื่นมาดูแล้วล่ะ
“ดราณีช่วงนี้เธอยุ่งเรื่องอะไรอยู่เธอไม่ได้มาเข้าเรียนตั้ง หลายวันแล้ว?”ปวิมลไม่ทันตระหนักว่าคำพูดของเธอจะรบกวน นักเรียนคนอื่นที่นั่งเรียนอยู่ได้แต่ซักใช้ถามอยู่นั่นแหละ
ดราณีไม่อยากทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เลยตอบคำถามเธอ” พ่อ ของฉันป่วยเข้าโรงพยาบาลอยู่เลยต้อลาไปเฝ้าไข้หลายวัน
“อ๋อเป็นแบบนี้นี่เอง”ปวิมลพยักหน้าเลยทำท่าที่เสแสร้ง ถามไปว่า “ตอนนี้อาการของคุณลุงเป็นยังไงบ้างเป็นอะไรมาก ไหม?”
“ผ่าตัดเรียบร้อยแล้วฉันก็เลยกลับมาเรียนนี่ไงกลัวว่าจะ กระทบเรื่องการสอบ คราณีกล่าวพลางอ่านและจดบันทึกการ เรียน ในใจก็หวังว่าเธอจะหยุดถามสักทีเพราะปวิมลกำลัง รบกวนเรื่องเรียนของเธออยู่
ใครจะคิดว่าอยู่ดีๆปวิมลก็ถามออกมาประโยคหนึ่ง ถ้า อย่างนั้นวันนี้เลิกเรียนแล้วฉันไปเยี่ยมคุณลุงที่โรงพยาบาลกับ เธอได้ไหม?”
มือที่กำลังจดอยู่หยุดชะงักมองเธออย่างฉงน ห้า?”
“ฉันบอกว่าฉันจะไปโรงพยาบาลเยี่ยมคุณลุงกับเธอไง”ป วิมลไม่รู้สึกว่าคำพูดของเธอจะแปลกอะไรยังไงสีหน้าของเธอ กระตือรือร้น”เราเป็นนักเรียนห้องเดียวกันปกติเธอก็ดีกับฉัน มากถึงแม้ว่าไม่ได้พูดออกมาฉันก็รู้ดีครอบครัวเธอน่าจะเป็นคน พื้นที่อื่นใช่ไหมล่ะ?บ้านฉันเป็นคนพื้นที่นี้เดี๋ยวฉันจะไปซื้อของ นิดๆหน่อยๆแล้วไปเยี่ยมคุณลุงกัน
เรารู้สึกถึงความเอาใจใส่ของเธอแต่กลับไม่รู้สึกตื้นตัน ใจเลยสักนิดจะมีก็แต่ความกระวนกระวายใจมากกว่า….
“ไม่เป็นไรพอดีว่าพ่อของฉันมีน้าที่เป็นญาติอยู่ที่นี่รบกวน เธอฉันกลัวว่าพวกเขาจะไม่สบายใจ”
“ไม่สบายใจอะไรกันพวกเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันนี่หน่า
ดราณีเห็นเธอคะยั้นคะยออดไม่ได้ที่จะขัดจังหวะเธอไม่ ต้องจริงๆเรื่องที่โรงพยาบาลพวกเราจัดการได้เดี๋ยวรอให้พ่อ ของฉันร่างกายดีขึ้นก่อนเดี๋ยวค่อยชวนเธอมาเที่ยวบ้าน
ปวิมลเห็นเธอยืนกรานเช่นนั้นจะบังคับเธอต่อก็ไม่ได้เลย ต้องยอมแพ้อย่างไม่ค่อยเต็มใจ”ถ้าอย่างนั้นก็ได้
ที่จริงเธออยากจะไปเยี่ยมพ่อของดราณีซะที่ไหนกันแค่ อยากยืมเรื่องนี้เพื่อสืบว่ารอบๆตัวเธอมีใครบ้างเท่านั้นเอง
พ่อเธอย้ายมาจากที่อื่นเพื่อมาผ่าตัดที่นี่ดูเธอขยันเล่า เรียนแล้วยังจะหาทำงานพิเศษอีกสองสามงานขนาดนี้คงไม่มี ปัญญาหาเงินเยอะขนาดนั้นแน่ๆเพราะฉะนั้นเธออาจจะ
แค่เห็นรถคันนั้นในหัวของปวิมลก็เต็มไปด้วยจินตนาการ ต่างๆนานา
คิดว่าความสวยของเธอน่าจะเป็นระดับดาวของ มหาวิทยาลัยนี้แล้วรูปร่างหน้าตาของดราณีกระดับธรรมดา เธอไม่ได้ถ้าจะใช้ดราณีเป็นเครื่องมือรู้จักพวกคนรวยก็ไม่ แปลกเลย
แต่ความคิดในใจของเธอดราณีไม่ได้สังเกตเห็นเลยสัก นิตเพียงแต่รู้สึกฉงนและคาดไม่ถึงเท่านั้น
ไม่นานศาสตราจารย์เดินเข้าห้องเรียนมาชั่วครู่เสียงเอะอะ ในห้องก็เงียบลงในที่สุดตราณีก็สงบหูเสียที เธอส่งคืนสมุดบันทึก ให้นักเรียนที่นั่งอยู่โต๊ะข้างหน้าตั้ง
หน้าตั้งตาฟังที่อาจารย์สอนแต่พลาดสายตาที่ปริมลมองกวาด
มาที่เธอ
เมื่อบ่ายสี่โมงครึ่งคาบเรียนที่ยาวนานจบลงดราณีทุ่มเท ในเรื่องการเรียนตอนเงยหน้ายังรู้สึกหัวหนักๆ
เธอเก็บสมุดบันทึกและปากกาใส่กระเป๋ากำลังจะลุกขึ้น เดินออกจากห้องเรียนโทรศัพท์ที่วางไว้บนโต๊ะก็สั่นสองที
หยิบขึ้นดูที่แท้ชนัยส่งข้อความมา
ดรากำลังเตรียมจะตอบกลับเธอยังไม่ทันลงมือจะพิมพ์มี
หัวของใครคนหนึ่งชะโงกเข้ามา
“ใครกันใครกันแฟนเหรอ?”
เธอหลบไม่ทันปวิมลมองเห็นเนื้อหาของข้อความเสียแล้ว เห็นชัดว่าเป็นคำพูดที่ผู้ชายพูดกับผู้หญิง ฉันถึงมหาวิทยาลัย แล้วรออยู่ที่กลางซอยเล็กๆทางตะวันตก
เขาเป็นใครกันแน่มารอยังต้องแอบรออยู่ที่ซอยเล็กๆ ด้วย?ถ้าไม่กลัวว่าถูกใครเห็นก็คงไม่ต้องแอบในที่ๆลึกลับ ขนาดนั้น?
ตราณี บล็อคหน้าจอโทรศัพท์มือถือทันทีมองดูปริมลอีก ครั้งคิ้วขมวดขึ้นเธอไม่ใช่คนที่จะชอบโมโหใส่คนอื่นแต่ตอนนี้ เริ่มจะโมโหขึ้นมา”ปวิมลเธอแอบดูข้อความในโทรศัพท์ของ ฉันทำไม?”
ในสายตาของเธอคนที่ดูข้อความของคนอื่นโดยไม่ได้รับ ความเห็นชอบของผู้เป็นเจ้าของคือการกระทำที่ผิดศีลธรรม และไม่มีมารยาทอย่างมาก
ปวิมลดูท่าทีของเธอออกแต่ยังไม่สำนึกว่าตัวเองผิดรู้สึก แค่ว่าเธอแสดงเก่งทำเป็นที่หน้าพูดมาประโยคหนึ่ง”ฉันไม่รู้ว่า เธอถือขนาดนี้อีกอย่างแปบเดียวเองฉันยังไม่ทันเห็นอะไร
ไม่เห็นจริงๆเหรอ?
ดราณีอยากถามแต่ในสุดท้ายเธอก็ไม่ได้พูดอะไร
คำพูดแบบนี้ไม่ได้มีความหมายอะไรถึงแม้ว่าเธอจะเห็น เธอก็ไม่ยอมบอกหรอก
“ฉันมีธุระขอตัวก่อน”ทิ้งประโยคนี้ไว้ดราณีไม่สนใจว่า ปฏิกิริยาของเธอจะเป็นยังไงเดินอ้อมเก้าอี้เดินออกไปจากห้อง
ปริมลมองตามหลังเธอที่ออกไปจากห้องเรียนไฟ โมหะ ลุกกรุ่นอยู่ในใจ
หาเกาะคนมีเงินได้ยังกลัวจะให้คนอื่นรู้นี่มันเหตุผลอะไร? เป็นแค่เด็กเสี่ยหล่อนยังแสดงท่าที่สูงส่งอีก
ปวิมลยิ่งคิดก็ยิ่งโมโหยิ่งคิดก็ยิ่งกลืนความโกรธไม่ลง มองดูหลังของเธอที่เดินจากไปเธอโกรธจนกัดฟันกรอด
เธอค่อยๆสะกดรอยตามปริมลระยะห่างประมาณห้าเมตร จะได้ไม่รู้ตัวแล้วก็ตามทัน
ส่วนดราณีที่เดินอยู่ด้านหน้าไม่คิดว่าเธอจะถูกสะกดรอย ตามแถมกลางวันแสกๆ ในมหาวิทยาลัยอีกจะมีใครตามเธอ
เธอเดินอย่างรวดเร็วเกือบจะถึงซอยที่อยู่ด้านทิศตะวันตก ของมหาลัยแบบเดียวก็มองเห็นรถSUVสีแชมเปญจอดรออยู่ ข้างซอย
ตอนแรกปวิมลคิดว่ารถที่จะมารับจะเป็นรถเบนส์สีดำที่ เห็นเมื่อกลางวันนี้ไม่คิดว่าจะเป็น SUV
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ