ตอน722เป็นผู้หญิงของเขาคนเดียว เท่านั้น
ตอนที่ 722 เป็นผู้หญิงของเขาคนเดียวเท่านั้น
นอนจนถึงฟ้าสว่าง ตอนตื่นขึ้นมาฟ้าก็สว่างแล้ว แม้ว่า ชนัยจะต้องไปสังสรรค์ในตอนกลางคืน แต่ในตอนเช้าเขาตื่น นอนไม่เป็นเวลา ตอนลืมตาขึ้นมาผู้หญิงตัวเล็กข้างกายยังหลับ อยู่
เธอหลับได้ดีมาก ร่างกายเล็กซบอยู่ที่อกเขา ไม่ได้ส่ง เสียงใดๆ ดวงตากลมโต ในตอนนี้ปิดอยู่ ผ้าห่มหล่นลงมาจาก ไหล่เธอ เผยให้เห็นหัวไหล่ขาวเนียน
ตั้งแต่ลำคอจนถึงไหล่ ทั้งหมดมีแต่รอยรักสีแดงที่ทิ้งไว้
เมื่อคืน ทำให้คนเห็นอิจฉาตาร้อน
ชนัยค่อยๆปิดตาลงเบาๆ เพื่อบดบังความปรารถนาที่ขึ้น มาอีกครั้ง เขายกมือดึงผ้าห่มขึ้นมาบังรอยรักจางๆ
บางทีเธออาจจะตื่นเพราะการกระทำของเขา เห็นแค่ขนตา
ยาวของหญิงสาวขยับเบาๆสองที วินาทีต่อมาก็ลืมตาขึ้น พอ เห็นเขาแล้วก็รู้สึกตกใจอย่างเห็นได้ชัด ท่าทางที่มๆแบบนั้นน่า รักมากเป็นพิเศษ
“ตื่นแล้วหรอ?” ชนัยกระตุกคิ้ว วางแขนไว้ข้างเธอแล้วจ้อง
ดรามองไปรอบห้องหนึ่งรอบ ตอนที่มองไปเห็นกอง เสื้อผ้าที่ไม่เป็นระเบียบอยู่บนโซฟา ภาพที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็แวบ เข้ามา……
เธอหน้าแดงทันที แล้วซ่อนเข้าไปใต้ผ้าห่ม “ตะ
ตื่น
ชนัยรู้ว่าเธอเขินอาย แม้ว่าผู้หญิงเขาจะเยอะ แต่ใบหน้า เขินอายแบบนี้เขาเคยเห็นเป็นครั้งแรก เขาเม้มปากยิ้มเบาๆ ยกมือขึ้นลูบหน้าผากเนียนของเธอ “เหนื่อยไหม?”
เหนื่อยไหม
ถ้าปกติเขาถามแบบนี้ ดราณีจะไม่รู้สึกอะไรเลย แต่ใน ตอนนี้ ความหมายแฝงในคำพูดนี้มันค่อนข้างลึก……..
“ไม่เหนื่อย” พูดจบ เธอเตรียมจะขยับตัวออกห่างจากเขา นิดหน่อย ยังไม่ทันได้ออกแรงก็รู้สึกว่าเอวเหมือนถูกบีบแน่นจน เจ็บ
เธออดไม่ได้ที่จะหายใจเสียงต่ำ “โอ๊ย…..
“เป็นอะไร?” เขามองเธอด้วยสายตาเป็นห่วงอย่างมาก
ทันที
ดราณีจ้องเขาเขม็งอย่างอายและโกรธอย่างมาก เป็น อะไรน่ะหรอ!?”
หัวสมองที่ฉลาดอยู่ตลอดเวลาของชนัยจู่ๆก็ไม่ทำงานมองท่าทางที่ราวกับว่าทั้งโกรธและอายของเธอ นอกจากกังวล ก็ไม่ได้คิดอะไรอื่นอีก “เป็นอะไรกันแน่?
ดราณีใบหน้าขึ้นสีโดยไม่ได้พูดอะไร สักพักเธอไม่รู้ว่าเขา จงใจแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจหรือว่าไม่เข้าใจจริงๆ กันแน่
ช่างเถอะ ยังไงก็ต้องลุกจากเตียง
ดราณีจิตใจแรงกล้าแม้ร่างกายจะไม่เอื้อ ประคองแขนนั่ง ขึ้นจากเตียง ไม่เคยมีวันไหนที่พบว่าการลุกจากเตียงเป็นเรื่อง ที่ลำบากขนาดนี้มาก่อน
เมื่อคืน…….มันรุนแรงขนาดนั้นเลยหรอ?
ยิ่งคิดก็ยิ่งอาย เธอกำลังเตรียมจะใช้เท้ายื่นไปถึงรองเท้า สลิปเปอร์ที่อยู่ไม่ไกล ระยะห่างอีกนิดเดียว จู่ๆฝ่ามือใหญ่ก็ หยิบรองเท้าสลิปเปอร์คู่นั้นขึ้นมา ใส่ให้เธออย่างมั่นคง
ฉวยโอกาสตอนที่เธออึ้งอยู่ ชนัยลุกขึ้นเอาแขนยันตัวเธอ เอาไว้ทั้งสองข้าง สีหน้าค่อนข้างจริงจัง “ฉันถามเธออยู่นะ ทําไมไม่พูด?”
ดราณีสบสายตาที่จริงจังนั้น จึงได้พบว่าที่แท้เขาก็เป็น
ห่วงตนมาก
พึมพำกับตัวเองอยู่สักพักก่อนจะโพล่งออกมาแผ่วเบา “ฉะ ฉันปวดเอว ขาก็ปวด อาจจะเพราะเมื่อวานเหนื่อยจน……
พูดจบ ดราก็รีบก้มหน้า เธอคิดว่าใบหน้าร้อนผ่าวของ ตัวเองสามารถทอดไข่ได้
ชนัยอึ้งไป มันสะท้อนว่าทำไมเธอถึงมีสีหน้าท่าทางแบบนี้ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
น้ำเสียงทุ้มเหมือนกับเป็นเสียงก้องกังวานที่ดังมาจาก ระฆังวัดในตอนเช้าตรู่ เขามีช่วงเวลาที่พอใจน้อยมาก ดราณี เปลี่ยนจากอายเป็นโกรธ กำลังจะเงยหน้าขึ้นมาถามว่ามีอะไร น่าขำนัก แต่พอเธอเห็นเขาฉีกยิ้มเห็นฟันขาวเรียงตัวสสวย และดวงตาที่โค้งเหมือนพระจันทร์ ก็พูดอะไรไม่ออกเลย
ทำไมมีผู้ชายที่ยิ้มแล้วดูดีขนาดนี้?
ชนัยเห็นเธอมองตนอย่างเหม่อลอย ก็ยกมือขึ้นลูบคาง เธอ “อึ้งอะไร ลำบากขนาดนี้วันนี้ไม่ต้องไปโรงพยาบาลแล้ว หม?”
ดราณีมีสติกลับมา จากนั้นก็เป็นศีรษะออกมา “ไม่ได้ ฉัน ยังต้องดูแลพ่อ”
แฟนก็คือแฟน เธอไม่สามารถให้เรื่องนี้มาหน่วงเหนี่ยง เรื่องอื่นๆ “ฉันลาโรงเรียนแล้ว ไม่ไปโรงพยาบาลไม่ได้
แบบนี้เธอจะรู้สึกโทษตัวเอง
ชนัยเห็นท่าทางดื้อดึงของเธอ ก็ถอนหายใจอย่างหมด หนทาง “เธอนอนพักสักวันหนึ่ง ฉันจะให้โรงพยาบาลส่ง พยาบาลที่ดีที่สุดสองคนไป…..
“ไม่ได้!! ดราณีจู่ๆก็ปฏิเสธอย่างใหญ่โต “ไม่ได้เด็ด ขาด!”
ชนัยตกใจสะดุ้ง ดวงตาเรียวหรี่ลงเล็กน้อย “เธอจะตื่น เต้นทําไม?”
“ฉะ ฉันไม่ได้ตื่นเต้น…..” ตรานึกถึงตอนที่เธอคุยกับ เสนานีที่ป้ายรถประจำทาง เธอต้องปกปิดชนัยไปด้วยและต้อง คิดว่าจะปฏิเสธอย่างไรไปด้วย รู้สึกไม่ดีเลย
การคิดใคร่ครวญนี้เพียงครู่เดียวชนัยก็ดูออก เห็นว่าเธอ
ค่อนข้างลำบากใจอย่างมาก เกือบจะเดาสาเหตุออก
“หลังจากกลับไปที่บ้านเธอพูดอะไรใช่ไหม?”
ถูกเขาพูดตรงจุด ดราณีก็ใจเต้น ตึกตัก ใบหน้าต้อง แกล้งเรียบเฉยอย่างมาก “จะเป็นไปได้ยังไง ไม่มีอะไร……..น ฉันจะไปล้างหน้าแปรงฟัน ขอทางหน่อย
เห็นว่าเธอเปลี่ยนเรื่อง ชนัยก็ไม่เพียงแต่ไม่หลบแถมยัง เข้าไปใกล้ “ดราณี เธอมีเรื่องปิดบังฉันใช่ไหม?”
ดราณีเหมือนสมองจะระเบิดชั่วคราว พูดออกมาอย่างไม่ เป็นระเบียบ ตะกุกตะกัก “ปะ เปล่านะ คุณทำไมมาบังคับแบ บนี้เนี่ย จะพูดอะไรได้ ก็รู้สึกขอบคุณคุณไง…….
“รู้สึกขอบคุณฉันเลยปฏิเสธใจฉันหรอ?” ชนัยพ่นออก
มาเสียงเย็นชา เรื่องที่เธอคิดมากฉันดูออก ยังไม่พูดออกมา อีก?”
เขายืนกรานที่จะถามอย่างตรงไปตรงมา ตอนแรกเผชิญ หน้าเขาดราก็ไม่ได้มีความมั่นใจอะไร ในตอนนี้เขาดูมีพลังขึ้นมา อยากจะแกล้งทำก็ทำไม่ลง จึงได้แต่เผยความจริงออก ไป
เธอเลือกคำพูดเสนานี้ที่น่าฟังหน่อยในวันนั้น ไม่ได้พูด ประโยคที่ขัดหูมากที่สุดออกไป พวกเขาเพิ่งคบกัน เธอไม่ อยากให้ชนัยรู้สึกว่าครอบครัวของเธอเองไม่ยอมรับเขา
แต่ยิ่งเธอทำแบบนี้ ชนัยก็ยิ่งรู้สึกว่าเสนานไม่พอใจตัวเอง อย่างมาก ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ลังเลและปกปิดที่จะพูดมันออก มา มันจะต้องเป็นคำพูดที่ไม่ดีแน่ๆ
“คุณแม่คงไม่อยากให้พวกเราติดต่อกันล่ะสิ” เขาถึงขั้นไม่ พูดคำว่าคบกัน เขารู้ว่าเราคงไม่กล้าเผยให้คนที่มันรู้
ดราณีไม่รู้ว่าควรตอบเขาอย่างไร ในใจก็ค่อนข้าง หงุดหงิด “ฉัน…..”
“ฉันคาดการณ์ไว้แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้” เทียบกับ ความลังเลในการพูดของเธอ ชนัยกลับทำตัวสบายกว่ามาก แต่ไม่ใช่ว่าไม่ใส่ใจ แต่เพราะว่าเขาได้คาดหมายไว้นานแล้ว “เธอคบกับฉันในอายุเท่านี้ ไม่ใช่แค่ครอบครัวเธอ คนอื่นๆก็ ต้องคิดไม่ดีแน่นอน
ไม่ว่าเขาจะอายุน้อยเท่าไหร่ ความจริงอายุก็อยู่ตรงนั้น ผู้ อาวุโสก็จะเป็นพวกอนุรักษ์นิยม ครอบครัวของดราณีไม่ได้โลภ ในเงินทองเหมือนกับเธอ ดังนั้นเลยไม่ได้พิจารณาในพื้นเพของ เขานัก
ดราณีเม้มปาก มองผู้ชายตรงหน้าโดยไม่ได้พูดอะไร
ชนัยก็ไม่ได้ยกแขนมากักตัวเธอไว้อีก เธอไม่ต้องปิดบัง ฉันหรอก เรื่องพวกนี้ฉันรับได้ แค่ฉันต้องยิ่งพยายามให้มากขึ้น เมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อแม่เธอก็เท่านั้น”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ