ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน718ชื่อที่ห้ามเอ่ยถึง



ตอน718ชื่อที่ห้ามเอ่ยถึง

ตอนที่ 718 ชื่อที่ห้ามเอ่ยถึง

พอจบข้อความ ชนัยก็นั่งรถส่วนตัวของตัวเอง พอเห็น ข้อความที่ส่งกลับมา มุมปากก็ฉีกยิ้มจนถึงใบหู

คิดถึงการเตรียมการของวันนี้ อดจะภาคภูมิใจไม่ได้ เขารู้ ว่าการใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อย ผู้ใหญ่จะไม่ชอบได้อย่างไร

คนขับรถมองดูท่าทางผิดปกติทั้งวันของเจ้านายตัวเอง ทั้งๆ ที่ก่อนทานอาหารเขาจะกระวนกระวายใจเป็นพิเศษ แค่ เด็กไทเส้นเดียวเขาก็ถามว่าสวยไม่สวยดูน่าเบื่อหรือเปล่าอยู่ เกือบสิบรอบ ตอนนี้กลับรู้สึกเบิกบานใจ

ไม่ ไม่ใช่แค่เบิกบานใจ อาจจะพูดได้ว่าดีใจจนผิดปกติ “ท่านชมัย วันนี้มีเรื่องอะไรให้ดีใจหรอครับ?”

ชนัยยากที่จะเอ่ยตอบ “อืม แน่นอน

เห็นใบหน้าเขาแสดงออกว่า “ถามฉันสิ ถามฉันสิ คนขับ รถก็ถามอย่างมีไหวพริบ เกี่ยวกับคุณดราณีไหมครับ?”

“ถูกต้อง” ชนัยพยักหน้า พูดต่ออย่างไม่เหน็ดเหนื่อย “วัน นี้ฉันพาเธอกับครอบครัวไปทานอาหารกลางวันด้วยกัน บรรยากาศเป็นกันเองมา ตอนจบอีกฝ่ายก็ชมฉันตลอดเลย

คนขับรถค่อนข้างดีใจปนประหลาดใจ ถึงจะรู้ว่าความสัมพันธ์คุณชนัยกับคุณตราณีไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่คิดว่าจะรีบไป พบคนในบ้านเร็วขนาดนี้

เขารีบชม “คุณชนัยเป็นนักธุรกิจที่โดดเด่นขนาดนนี้ อีก ฝ่ายต้องพอใจอย่างแน่นอน

ชนัยได้ยินอะไรก็อารมณ์ดีไปหมด “ถูกต้อง วันนี้นายก็ขับ รถยอดเยี่ยมาก รถติดขนาดนี้ก็ยังมาไม่สาย เดือนนี้เดี๋ยวให้ โบนัสก้อนหนึ่ง”

คนขับรถก็ดีใจ รีบกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณครับท่านชมัย ชนัยโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ ไปกันเถอะ กลับบริษัท

ช่วงนี้ได้กำหนดความสัมพันธ์แน่นอนกับดราณี ความ สนใจของเขาไม่ได้อยู่ที่งานแล้ว มีอีกโปรเจ็คที่ยืดเยื้อเวลา ตอนนี้ไม่มีทางไปเจอเธอที่โรงพยาบาล ต้องรีบจัดการให้ได้

ตอนที่รถมาจอดที่ชั้นใต้ติดของมูคลับเฮาส์ ชนัยเปิด ประตูรถลงมาก็หันไปมองรถโรลส์ รอยซ์ แฟนทอมสีดำที่อยู่ ข้างๆ เป็นการเปลี่ยนรูป แค่มองก็รู้ว่าเจ้าของเป็นใคร

คุณปู่มาแล้ว?

อายุของคุณปู่ที่บ้านไม่สามารถมาที่มีคลับเฮาส์ได้ ทําไมวันนี้จู่ๆถึงมาเยี่ยมได้?

ชนัยอารมณ์ดีน้อยลง เขาไม่ได้สนิทสนมกับคนใน ครอบครัว นอกจากไม่มีทางเลือกเขาก็คงไม่มาเจอหน้า เพราะ เอกันแต่ละที่ส่วนใหญ่ก็จะทะเลาะกัน
ตอนนี้เห็นรถคุณปู่จอดอยู่ เขาก็รู้สึกหมดความอดทน

“มาไม่คิดจะบอกกันหน่อยหรอ?” เขาหันไปด่าผู้จัดการ ข้างๆ “ปกติก็พูดแบบนี้ ถึงเวลาก็ทำเหมือนฉันเป็นคนโง่?”

ที่จริงไม่พูดเขาก็รู้ ต้องเป็นเพราะคุณปู่มากระทันหันแล้ว ไม่ให้ใครแจ้งเขาแน่นอน

แต่เข้าใจไปก็เท่านั้น ในใจก็โกรธอยู่ดี

ผู้จัดการก็เข้าใจเหตุผลข้อนี้อย่างเห็นได้ชัด ปล่อยให้เขา ค่าสองสามประโยคและไม่ได้อธิบายอะไร

เสือกำลังโกรธ ตอนนี้พูดไปก็เหมือนฆ่าตัวตาย เขาไม่ อยากโดนไล่ออกเพราะคำพูดไม่กี่ประโยค ชนัยสลัดความอ่อนโยนเมื่อครูทิ้งไปหมด เขากลับไปเป็น

คนอารมณ์ร้อนในตอนปกติภายในพริบตาเดียว เขาก้าวเท้า

ยาวเข้าลิฟต์ไป พอปลายเท้าถึงบนชั้นก็ก้าวเท้าออกไป ทิ้งผู้

จัดการด้านหลังไว้

ยืนอยู่หน้าประตูห้องทำงาน ผลักประตูเข้าไปอย่างไม่ ลังเลสักนิด คุณกำลังนั่งดื่มชาอยู่บนโซฟา เขาสวมชุดสูทรัด เอวสไตล์จีน แม้ว่าจะไม่มี LOGO แต่ทั้งหมดนั้นเป็นการสั่งตัด ของนักออกแบบชั้นหนึ่ง ผมสีเทาถูกหวีไว้ด้านหลังเป็นระเบียบ เรียบร้อย อายุมากกว่าหกสิบปี แต่จิตวิญญาณนั้นเต็มเปี่ยม

สายตาแหลมคมนั้นไม่ได้โกรธ แต่ก็ดุดันมากกว่าคนหนุ่มไม่รู้เท่าไหร่
ได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามา คุณก็หันมาตามเสียง สายตามองที่ร่างเขา แล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ตอนนี้แกยิ่งนับวัน ยิ่งมีกฎระเบียบดีนะ เข้ามาก็ไม่รู้จักเคาะประตู

– ชนัยกระตุกมุมปาก แล้วหัวเราะอย่างขำขัน “ก็ไม่มีครับ ผมก็เรียนรู้มาจากคุณ

เขาเองก็มาที่ห้องทำงานโดยไม่บอกไม่กล่าว เขาเข้าห้อง

มาจะเคาะประตูทำไม?

การเคารพต้องเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย แต่คุณปู่ในที่นี้ ชนัย หาความเคารพในตัวเขาไม่เจอเลยสักนิด มีแต่ความกดดัน และการส่งเขาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ตอนอายุยี่สิบกว่าปี เขาก็ยังทนได้ แต่พอยิ่งโตขึ้น ความ กดดันยิ่งทำให้ในใจเขายิ่งต่อต้าน

สองคนหลานนั่งอยู่บนโซฟา ไม่มีใครเอ่ยพูดอะไรออก มา บรรยากาศภายในห้องเย็นลงถึงขีดสุด แม้แต่บอดี้การ์ด ด้านหลังยังรู้สึกว่ามีคนมาเหยียบอยู่บนไหล่ อึมครึมสุดๆ

บรรยากาศที่มีต่อกันแบบนี้ ความสัมพันธ์ภายใน ครอบครัว คนธรรมดารับไม่ได้จริงๆ

บางทีรู้สึกถึงจุดนี้ ชนัยก็หันไปสั่งลูกน้อง “ออกไปก่อน เถอะ ยังไงที่นี่ก็มีพวกเราสองคน พวกนายเฝ้าอยู่ข้างนอกก็ เหมือนกัน”

คุณปู่ได้ยินแล้วก็พยักหน้า บอดี้การ์ดบางคนที่ตามเขามาก็ออกไปนอกห้อง

สายตาก็หันมามองห้องอันใหญ่โตที่เหลือเพียงอีกฝ่าย คุณปู่ยกแก้วซาบนโต๊ะขึ้นมาจิบหนึ่งที แล้วค่อยๆพูด “ช่วงนี้แก ยุ่งมาก ธุรกิจก็ยังคุมไม่ได้

ชนัยเดาว่าที่คุณปู่มาวันนี้ก็เพราะเรื่องงาน แต่

นัยน์ตาเรียวยาวหรี่ลงเล็กน้อย “ผมยุ่งจริงๆนั่นแหละ แต่ คุณปู่คงว่างมากเลยนี่หน่า เรื่องเล็กขนาดนี้ยังตั้งใจมาหา ไม่ใช่สไตล์คุณปู่เลย”

คุณปู่โอดครวญเสียงเย็นชา ฟังออกถึงความไม่พอใจและ ความเสียดสีในคำพูดเขา และก็ไม่คิดจะพูดอะไร แต่เอ่ยปาก ถามตามความคิดของตัวเอง “แกยุ่งอะไรอยู่ พูดให้ฉันรู้การ เคลื่อนไหวของแกหน่อย”

ชนัยคิดถึงดราณี สีหน้าก็จริงจังขึ้นมา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็ไม่มีทางให้คุณรู้เรื่องดราณี อย่างน้อยก็ไม่ได้ยินเรื่อง ราวของดราณีจากปากของเขา

ถ้าพูดถึงโลกของเขาสำหรับดราณีมันคือสีเทา งั้น บรรยากาศรอบตัวของคุณและคุณค่าที่เขาสร้างมาทั้งชีวิตนั้น สำหรับเธอคงเป็นสีดำทั้งหมด

ดังนั้นแม้ว่าแค่พูดขึ้นมา เขาก็ไม่ยอม คงจะกังวลและไม่

สบายใจ

“ไม่ได้ยุ่งอะไร ช่วงนี้อารมณ์ไม่ค่อยดี เลยออกไปเที่ยวเล่น”

เห็นเขาพูดแบบนี้ สายตาคุณก็สั่นไหว และก็ไม่ได้เผย อะไรออกมา ทําได้เพียงเอ่ยเตือนเขาอย่างชัดเจน “ชนัย แกไม่ เหมือนกับพ่อของแก แกเป็นคนที่ทำเรื่องที่ได้รับมอบหมายได้ ดี สิบปีก่อนแกทําแบบนี้ ฉันหวังว่าต่อจากนี้ก็จะเป็นแบบนี้นะ

พูดถึงคุณพ่อ แม้แต่ยิ้มเหยียดบนใบหน้าของชนัยก็ไม่มี สักนิด มุมปากเหมือนมีของหนักหลายกิโล แม้ว่าจะแกล้งทำ ทําไม่ลง

“ผมบอกแล้วไง อย่าพูดถึงพ่อผม” พูดขึ้นมาอีกครั้ง น้ำ เสียงก็เคลือบไอเย็นอีกชั้นหนึ่ง

คุณปูเคร่งขรึมขึ้นมา ราวกับว่าจะพูดอะไรบางอย่าง “ฉัน รู้ว่าแก……

“ไม่ต้องพูด” ไม่รอให้เขาพูดจบ ชนัยก็แทรกขึ้นมาอีกครั้ง

สายตาที่มองไปเหมือนใบมีด “ผมเคยบอกแล้ว

ดวงตาดำสนิทคู่นั้นเหมือนกับหลุมดำ เพียงแค่เข้าใกล้ จะถูกดูดเข้าไป จากนั้นก็ถูกเคี้ยวจนเป็นเนื้อ คุณเคยเห็นคน แบบนี้มาทั้งชีวิต แต่พอได้เผชิญกับสีหน้าท่าทางแบบนี้ ก็ไม่ เปล่งเสียงออกไปอีกจริงๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ