ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน666เธอไม่เสียใจเลยแม้แต่นิดหรือ



ตอน666เธอไม่เสียใจเลยแม้แต่นิดหรือ

ตอนที่666เธอไม่เสียใจเลยแม้แต่นิดหรือ

รู้สึกได้และรับรู้อยู่

ปรัณเหมือนเป็นจุดศูนย์กลางของพายุเขาพยายามที่จะไม่ ทำให้ตัวเองเสียการควบคุม เข้าไปดูคุณท่านครั้งสุดท้าย เถอะ”

พูดจบเขาก็ขยับหลีกทางให้

จริยานั้นหมดแรงไปแล้วมีสามีของเธอและลูกสาวพยุงไว้

แทบจะเป็นการลากเธอเข้าไป

แต่ผู้ชายที่อยู่ข้างๆนั้นไม่มีท่าทีจะขยับเลยมองอยู่แต่ ประตูที่อยู่ตรงหน้าจากเดิมประตูที่ปิดอยู่นั้นตอนนี้กลับเปิด กว้างแล้ว……..…….

ความคาดหวังนั้นมากเกินไปจนเขานั้นมีภาพเบลอเหมือน เห็นคุณท่านโดนเย็นออกมาจากห้องเหมือนครั้งที่แล้วที่รอด กลับมา

แต่ครั้งนี้ไม่ใช่

คนแก่คนนั้นที่อยู่กับตัวเองมาเกือบ30ปีไปจากโลกใบนี้

ด้วยอาการป่วยหนักสาหัสแบบนี้จากไปแล้วแล้ว
จากไปคําศัพท์ที่ดูเศร้าแต่คนรอบข้างนั้นไม่มีการ เปลี่ยนแปลงนอกจากพวกเขาไม่มีใครรู้ว่าคนๆนี้จากไปและ ไม่มีใครสนใจ

พอนึกถึงพวกนี้เตชิตก็รู้สึกว่าตัวเขาจะบ้าตายอยู่แล้ว

มีอยู่ช่วงเวลานั้นที่นัชชาไม่กล้าไปสัมผัสตัวเขานัชชาแค่ ไปสัมผัสนิดนึงผู้ชายคนนี้ก็เหมือนจะสลายไป

เธอถ้าจำเป็นต้องปลุกให้เขาตื่นไม่ใช่ให้เขาปิดกั้นตัวเอง

ไว้

“เตชิต”เธอยกมือแล้วไปจบที่ไหล่ของผู้ชายเบาๆถ้าบอก ว่าตบใช้คำว่าปลอบใจดีกว่า”เข้าไปกันเถอะ”

“นัชชาเธอช่วยบอกกับฉันหน่อยว่านี่ไม่ใช่ความจริงใช่

ไหม?”เขาพยายามกลั้นไว้แล้วพูดคำนี้ออกมา

นัชชารู้สึกเจ็บปวดใจอยากจะพูดกับเขามากว่าใช่ทั้งหมด นี้ไม่ใช่เรื่องจริงคุณท่านยังอยู่คุณท่านไม่เป็นไรแต่เธอทำแบบ นั้นไม่ได้

“เตชิตคุณท่านไปสบายแล้วเขาจะไม่ทรมานอีกต่อไป

แล้ว”

สีหน้าของเขานั้นเปลี่ยนไปหมดดูไม่ออกว่าร้องไห้หรือ หัวเราะ” ใช่สิคนที่จากไปก็แค่จากไปแต่คนที่เหลืออยู่มันก็ ทรมานต่อ”

นัชชาขมวดคิ้วฟังเขาพูดคำพูดอะไรก็ไม่รู้แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรต่อคุณท่านจากไปกะทันหันถึงแม้เขาจะทำใจไว้แต่ก็ อาจรับไม่ได้ในใจยุ่งไปหมดคำพูดที่พูดมานั้นจะมีเหตุผลได้ ไง?

เธอไปกระชากที่แขนของเขาแล้วพูดอย่างมั่นใจว่า “เตชิต นายเข้าไปดูคุณท่านก่อนได้ไหม?

ถึงมันจะเป็นคำถามแต่นัชชาก็ไม่คิดที่จะให้เวลาลังเลกับ

เขาใช้แรงดึงเขาเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ถ้าจำเป็นต้องเผชิญก็ควรจะเผชิญตอนนี้แต่ไม่ใช่การหลบ

หนีแต่เป็นการเพิ่มความกลัวในใจมากขึ้น

การหลบหนีไม่สามารถที่จะทำให้เขาดีขึ้นดังนั้นไปเผชิญ จะดีกว่า

เดินผ่านทางเดินเล็กๆไม่นานนัชชาก็เห็นเตียงที่คุณท่าน นอนอยู่ไฟดับไปหมดแล้วมีแต่ไฟสีขาวอ่อนๆมาแทนในนั้นมี แต่หมอและพยาบาลพอเห็นญาติผู้ป่วยเข้ามาก็รีบถอยออกไป ด้านหลัง

ตอนที่เตชิตเดินเข้าไปอุปกรณ์ที่ต่ออยู่ที่ร่างกายของท่าน นั้นออกมาหมดแล้วเหลือแต่ร่างของท่านคนเดียวที่นอนนิ่งอยู่ บนนั้น

ตัวเขานั้นผอมแห้งมากกระดูกก็ดูเด่นมากลมหายใจไม่มี ไม่มีวิญญาณอยู่ในร่างด้วย

จริยาและเวธนีกอดร้องไห้อยู่ข้างๆแล้วตั้งแต่ต้นจนจบแต่เตชิตอยู่ด้านหลังไม่ได้ส่งเสียงเลยแม้แต่น้อย

ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้เขายังพูดกับคุณท่านเรื่องเด็กเรื่อง อดีตจนถึงปัจจุบันแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ทำให้พวกเขาพลาดจากกัน ทั้งชีวิตก็เดินผ่านไปแบบนี้

จริยาอาจจะเป็นเพราะเสียใจมากเกินไปสติของเธอเริ่มไม่ คงที่เธอมองไปทางเตชิตที่ไม่พูดอะไรทั้งนั้นยกมือขึ้นแล้วชี้ไป ทางเขาตะโกนพูด “ปู่ของนายจากไปแล้วนายไม่รู้สึกเศร้าเลย หรอเธอก็ยืนดูเขาจากไปแบบนี้หรอนายมันใจร้ายจริงๆ………..

มือของนัชชาที่จับแขนของผู้ชายเริ่มกำแน่นพอได้ยินคำ พูดของจริยาที่พูดอย่างไม่มีเหตุผลใจของเธอก็เหมือนมีน้ำร้อน มันราดใส่

เธอเข้าใจว่าเธอนั้นเจ็บปวดแต่การเจ็บปวดแบบนี้ไม่ควร ไปโทษหรือพาลใส่คนอื่นเธอนั้นก็เข้าใจว่า ในใจของเตชิตนั้น ทรมานมากแค่ไหน

ในตอนที่นัชชาทนไม่ไหวจะพูดแทนเขามือคู่นั้นที่เธอจับไว้

ก็มาจับที่มือเธอออกแรงเยอะจนกระดูกของเธอจะหัก

เธอเจ็บจนขมวดคิ้วแต่ก็ไม่ได้ขัดขืน

หันหน้ามองไปยังคนที่อยู่ข้างๆสายตาของเขานั้นจ้องอยู่ ที่ตัวคุณท่านเหมือนจะแกะสลักหน้าตาของเขานั้นอยู่ในสมอง ของตัวเองเขาไม่ได้ตอบโต้กลับแต่ยืนอยู่นิ่งๆแบบนี้เหมือน เดิม
อย่าว่าแต่นัชชาเห็นสิ่งแล้วจะรู้สึกเจ็บปวดก็ยังรู้สึกเจ็บปวดแทนเขา

แต่เขานั้นไม่พูดอะไรทั้งนั้นแม้กระทั่งการแก้ตัวก็มี สําหรับเขาแล้วการทะเลาะมากที่สุด

เขาไม่กลัวที่ถูกเข้าใจผิดแต่อยากจะคนอยู่บน เตียงอย่างเงียบๆ

เวลาเหมือนหยุดนิ่งไปเป็นเวลาคนหนึ่งกำลังลาคน

หนึ่ง

“บอกทางแม่ไหม?สามีจริยาเป็นคนยังมีอยู่ นึกได้นี้

แต่ใครว่าเพิ่งพูดนอกห้องฉุกเฉินก็เสียงที่แก่ดัง

ขึ้นมา ไม่ให้พวกเธอบอกหรอกฉันเองแล้ว

ไปคุณย่านั้นยืน อยู่ประตูคนที่พยุงอยู่คือคนขับรถของบ้าน

คนๆอยู่หัวเตียงลงนิดนึงผมที่ขาวปกอยู่ด้านมากับตัวเองที่ตอนนี้ไม่ชีวิตอยู่แล้วเธอไม่ได้ร้องไห้ไม่ได้ ทำอะไรมากมายแม้กระทั่งเสียงร้องไห้ก็ไม่มี

เธอไปเช็ดน้ำตาไม่อยากให้ใครเห็นความเศร้า
“พอแล้วพ่อของเธอมีชีวิตถึงตอนนี้ก็ถือว่าอายุยืนแล้วสิ่ง ที่ควรจะดูควรจะฟังควรจะกินก็ผ่านไปหมดแล้วไม่มีอะไรที่จะ ต้องร้องไห้สักวันหนึ่งฉันก็จะไปอยู่เป็นเพื่อนเขาแล้วไม่มีทางที่ เขาจะโดดเดี่ยวไปนานๆ ถึงแม้คำพูดของคนแก่จะดูเรียบๆแต่ ทุกคำพูดนี้มีความสงบความนิ่งซ่อนอยู่

อาจจะเป็นเพราะแก่แล้วนึกได้ว่าสักวันต้องมีแบบนี้เวลา ผ่านไปก็คิดอะไรได้เยอะ

สักวันก็ต้องมาถึงไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงได้ถ้าเป็น แบบนี้คงจะต้องยอมรับ

คนที่ตายก็ไปดีแล้วคนที่มีชีวิตอยู่ก็ควรจะใช้ชีวิตให้ดีถึง มันทรมานแต่ก็ไม่มีทางเลือก

“พวกเธอคิดดีๆว่าจะจัดงานศพยังไงฉันอายุเยอะแล้วไม่

สามารถที่จะออกแรงได้เตชิตของเธอรักเธอมากที่สุดเรื่องนี้

เธอมาปรึกษากับแม่เธอละกัน

เตชิตหลับตาลงแล้วพยักหน้า “ครับ”

“ออกไปก่อนฉันอยากจะอยู่กับพ่อเธอตามลำพังแป๊ปนึงมี อะไรที่จะพูดกับเขานิดหน่อย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ