ตอน660ถ้ายังจะร้องอีกฉันจะจูบเธอ
ตอนที่660ถ้ายังจะร้องอีกฉันจะจูบเธอ
เขาไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อในน้ำเสียงนั้นมีความรักที่ให้กับ เธอเป็นพิเศษ เธออยากจะทำยังไง?”
ดราณีสะอื้นเบาๆและไม่ได้พูดอะไร
อะไรคือบอกว่าเธออยากจะทำยังไง? ตั้งแต่ต้นจนจบเขา เป็นคนที่ไม่มีเหตุผลเลยนี่เขากำลังบังคับอยู่หรอ?!
ชนยโมโหเพราะได้ยินเสียงร้องไห้ของเธอเขาไม่อยากจะ ปลอบใจเธอเลยพูดด้วยเสียงดุ เชื่อไหมถ้าเธอยังร้องฉันจะจูบ เธอ”
ดราณีไม่สนใจอะไรเธอร้องไห้ต่อ
“หยุดนี้เป็นเป้าหมายที่แท้จริงของนายใช่
ไหม?”
“…..ฉันไม่อยากจะเจอหน้านายอีกเหมือนเขากลัวว่าจะ โดนจูบดราณีพูดสักทีเสียงที่อ่อนนุ่มของเธอแค่ฟังแล้วก็รู้สึกว่า ถูกรังแกง่ายมาก “นายไปเลย
“เธออย่าเพิ่งร้อง”
“ถ้านายไปฉันก็จะไม่ร้อง
ชนัยรู้สึกว่าตัวเองนั้นพ่ายแพ้จริงๆ ไม่เคยมีใครทำให้เขา รู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่รู้จะทำยังไง
ตอนนี้เขาเหมือนกำลังลอยอยู่บนท้องฟ้าจะขึ้นก็ไม่ได้จะ ลงก็ไม่ได้แม้กระทั่งขั้นบันไดก็ไม่มีให้
ทําตัวไม่ถูกเลย
“ก็แค่กำไลข้อมือไม่อยากใส่ก็ไม่ต้องใส่จำเป็นต้องโยน ของและร้องไห้ไหมถ้าคนอื่นเห็นแล้วจะคิดยังไงฉันรังแกเธอ หรอ?”
ดราณีใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นมองไปทาง เขาก็นายรังแกฉัน
น้ำตาคลอบ้าเพราะเห็นแบบนั้นก็เลยสงสารไม่มีท่าทีที่จะ ดุร้ายเลยทำให้หัวใจของชนัยนั้นอ่อนสลายไปหมด
“พอแล้วพอแล้วฉันผิดเอง”ผู้ชายกัดฟันแน่นแล้วพูดมา ว่า“ฉันขอโทษ”
ต้องรู้ไว้ก่อนอายุขนาดนี้แล้วนอกจากเคยขอโทษผู้ใหญ่ ในบ้านแล้วชนัยยังไม่เคยที่จะยอมแพ้ต่อหน้าใครเลยยิ้มไม่ ต้องพูดว่าเป็นผู้หญิง
เห็นได้ชัดว่าดราณีเองก็รู้จักนิสัยเขาดีพอพอได้ยินว่าเขา พูดขอโทษก็รู้สึกประหลาดใจแต่ไม่ได้จะให้อภัยเขาง่ายๆ “ฉัน จะกลับบ้านแล้วนายอย่ามาตามฉัน
“ดึกป่านนี้แล้วเธอจะกลับยังไง”ชนัยไม่มีทางที่จะปล่อยให้เธอร้องไห้แล้วกลับไปคนเดียว ขึ้นรถฉันไปส่งเธอ
“ไม่เอา”ดราณีปฏิเสธแบบไม่คิดเธอไม่อยากจะอยู่ในห้อง ร่วมอากาศเดียวกับเขา
การกระทำของเธอทำให้ชนัยรู้สึกหงุดหงิดมากแต่ผู้หญิง นั้นร้องไห้แล้วเขาคงจะบังคับเธอต่อไม่ได้ก็เลยพูดเรื่องโง่ๆ ออกมาว่า “งั้นเอาอย่างนี้เธอขึ้นรถแล้วฉันเดินกลับบ้านเอง”
เขายอมถอยห่างให้เยอะขนาดนี้ทำให้ดราณียิ่งรู้สึกไม่ดี ไปใหญ่”ไม่ต้องฉันกลับไปเองได้
“เธออย่าหาเรื่องได้ไหม?”ชนัยถูกเธอปฏิเสธตลอดเลย รู้สึกโมโห ต้องให้ฉันทำยังไงเธอถึงจะยอมขึ้นรถ
เธอ………กำลังปฏิเสธการขึ้นรถหรอ?
มองสวนกับดวงตาที่ดูดุร้ายคู่นั้นดราณีไม่กล้าพูดอะไร มากหันหน้าไปมองรถที่จอดอยู่ด้านหลังพอนึกถึงกำไลข้อมือ เธอก็รวบรวมคำพูดและพูดช้าๆว่า “นายกำลังรู้สึกว่าฉันงอแง อยู่ใช่ไหม?ฉันไม่ได้โกรธที่นายให้ของขวัญกับฉันแต่ฉันไม่ ชอบการกระทำของนายที่โยนของทิ้งฉันรู้ว่าสำหรับนายแล้ว นั่นเป็นแค่ของธรรมดาธรรมดาที่ไม่มีค่าแต่สำหรับฉันแล้วนัก ศึกษาจนๆอย่างฉันถึงแม้ฉันจะไม่เอาก็ไม่สามารถที่จะทนเห็น นายเอาทิ้งสำหรับฉันแล้วนั่นคือเครื่องประดับที่ราคาแพ งมากๆฉันไม่สามารถรับมันไว้ได้ตอนที่นายโยนกำไลข้อมือนั้น ทิ้งเหมือนโยนลงบนศักดิ์ศรีของฉัน…..”
เธอยิ่งพูดยิ่งเบาแต่ชนัยเข้าใจแล้วเธอกำลังจะบอกว่าการกระทำของเขาที่ทำร้ายจิตใจเธอถึงแม้ศักดิ์ศรีพวกนี้สำหรับ เธอนั้นไม่จําเป็นอะไรเลย
“ดราณี”ชนัยก้มหน้ามองดูเด็กผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง คำพูดพวกนั้นผ่านสมองมาหลายรอบถึงจะออกมาโดยที่ไม่ให้ กระทบโดนตัวเธอ เธอนั้นเห็นศักดิ์ศรีสำคัญเกินไปแล้วและไม่ ชอบความหรูหราเป็นเรื่องที่ดีแต่เธอต้องแบ่งให้ชัดเจนว่าเธอ นั้นมีศักดิ์ศรีจริงหรือใช้วิธีแบบนี้มาปกปิดปมด้อยของตัวเอง”
คำพูดพวกนี้เหมือนก้อนหินที่ไปทับโดนหางของดราณี ทำให้อารมณ์ของเธอนั้นซาบซึ้งกว่าเดิม ฉันไม่ใช่ไม่มีความ มั่นใจแต่นายนั้นมั่นใจเกินไปทั้งหรูหราและสิ้นเปลือง! ”
“ฉันสิ้นเปลืองของฉันเธอจะรู้สึกอึดอัดทำไม?”
“เธอรู้สึกว่าการสิ้นเปลืองของฉันเหมือนเป็นการประชด ประชันใส่เธอแต่เธอไม่รู้ว่าสำหรับฉันแล้วนี่เป็นแค่กำไลข้อมือ เท่านั้นตอนที่ฉันเห็นแค่รู้สึกว่ามันเหมาะสมกับเธอก็เลยอยาก จะให้เธอไม่เคยนึกถึงเรื่องเงินเลยเพราะเธอไม่เอาฉันก็เอาทิ้ง เธอไม่เคยเห็นความสำคัญที่ฉันอยากให้ของขวัญแก่เธอแต่สิ่ง ที่เธอเห็นคือเงินที่เป็นตัวแทนเท่านั้น
“ฉันเปล่านะ! ”
“เธอเปล่าหรอ?”
“ไม่! “ดราณีตอบโต้อย่างเสียงดังแต่คำพูดที่เธอตะโกนออกมานั้นทำให้ในใจของเธอเหมือนจะว่างเปล่าไปหมด
เธอไม่มีความมั่นใจถึงได้ใช้อารมณ์ร้อนแรงและปฏิเสธ ชนัยอย่างนี้
ความจริงจังแบบนี้ทำให้เราณีเองรู้สึกหมดแรงเธอรับรู้ ได้อย่างชัดเจนว่าหน้าของตัวเองนั้นเริ่มแดงแล้ว
เพราะไม่มีความมั่นใจจริงหรอก็เลยมีอคติกับเขามา
ตลอด
ดราณีไม่อยากจะคิดมากเธอไม่อยากจะไปค้นคว้าหาค่า ตอบที่อยู่ในใจตัวเองเพราะกลัวว่าคำตอบนั้นจะเป็นอย่างที่เขา พูด
ชนัยมองดูดวงตาคู่นั้นที่กำลังจะร้องไห้อีกครั้งหัวใจของ เขานั้นบีบตัวขึ้นทันทีและเขารู้ว่าคำพูดของตัวเองเมื่อกี้นั้นแรง เกินไปเธออาจจะรับไม่ได้
ชีวิตก็คือแบบนี้ถ้าเธอไม่มีอะไรทั้งนั้นก็ต้องใช้ชีวิตอย่าง ไม่มีหน้าไม่มีตาชนัยแค่อยากให้เธอเข้าใจว่าเขานั้นไม่มีเจตนา ที่จะทำร้ายศักดิ์ศรีของเธอและไม่อยากที่จะกระทบโดนตัวเธอ
แต่เขาไม่เสียใจที่พูดแบบนี้เพราะยังไงเธอก็ต้องเผชิญกับ ความในใจของตัวเองไม่ใช่หลบหนีตลอด
ตอนนี้เขาพูดจบแล้วแต่เธอจะร้องไห้อีกจะต้องทำยังไงดี
มองดูดวงตาคู่นั้นที่เริ่มมีน้ำตาคลอเต็มผู้ชายกัดฟันแน่นๆก่อนที่น้ำตามันจะไหลลงมาเขารีบไปจับที่หลังคอเธองอตัวก้ม หัวแล้วไปจูบที่ริมฝีปากอมชมพูนั้น
ดราณีตกใจที่เขาทําแบบนี้รีบขัดขืนอยากจะหลบหนีแต่ว่า ชนัยไม่ให้โอกาสนี้กับเธอมือที่อยู่หลังคอเธอนั้นเหมือนเป็น ของที่แข็งที่สุดจับตัวเธอไว้แน่นๆแต่ก็ไม่กล้าทำให้เธอรู้สึกเจ็บ
ชนัยไม่ได้หลับตาริมฝีปากของเขาชิดกับริมฝีปากเธอหรื ตาแล้วสบตากับเธอเขาไม่ได้ทําอะไรเกินเลยอีกแค่ใกล้ชิด แบบนี้
จนกระทั่งเขาไม่สามารถที่จะมองเห็นความอยากร้องไห้ ในตาดวงคู่นั้นแต่มีความรู้สึกละอายใจเขาถึงได้ปล่อยเธอออก
ดราณีรีบถอยหลังไปหลายก้าวยกมือไปจับที่ริมฝีปากแล้ว จ้องไปที่เขานาย…..
“ฉันบอกแล้วถ้าร้องไห้อีกฉันจะจูบเธอ”
น้ำเสียงนั้นฟังดูเหมือนไม่สนใจแต่สายตานั้นดูจริงจังมาก
ทั้งๆที่เป็นคำพูดเดียวกันแต่ความรู้สึกครั้งนี้ไม่เหมือนครั้ง ก่อนเลยดราณีพูดไม่ถูกว่าไม่เหมือนตรงไหนแต่เธอรู้สึกได้ว่า ไม่เหมือนแล้ว…….
“เธอจะไม่มีความมั่นใจหรือจะมีความมั่นใจก็ตามไม่ว่ายัง ไงฉันก็ไม่สนใจแต่เธอคือแฟนของฉันฉันจะไม่มีทางให้เธอถูก ความคิดแบบนี้มาควบคุมตัวเธอดราณีเธอทำใจไว้ก่อนกำไล ข้อมือนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้นเธอต้องฝึกยอมรับความหวังดีจากคนอื่น “พูดจบเขาไม่ให้เธอมีเวลาลงเลเดินไปตรงหน้าเธอไม่พูด อะไรแล้วจับมือเล็กๆมาอยู่ในฝ่ามือจากนั้นหันหลังแล้วเดินไป ทางรถ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ