ยั่วรักทนายคนโหด

ตอน625ทำให้คนตกตะลึง



ตอน625ทำให้คนตกตะลึง

ตอนที่ 625 ทำให้คนตกตะลึง

ปรัณทั้งโมโหทั้งหงุดหงิด จึงได้แต่กลั้นเอาไว้อย่างหมด หนทาง เขารู้ว่าเขาโทรไปอีกเธอก็คงไม่รับ และคุณก็อยู่ด้วย ไม่ดีที่จะพูดอะไรเกินไป วันนี้เป็นวันแต่งของเตชิต อารมณ์ของ แต่ละคนต้องซ่อนไว้ข้างหลัง

ปรัณที่ปกติอารมณ์ดีมาสิบกว่าปี แต่วันนี้โกรธมากจริงๆ สำหรับเขาเขายังไงก็ได้ ไม่ว่าจะอารมณ์เสียงหรือว่าอื่นๆ เขาก็ ยอมรับได้หมด สิ่งเดียวที่เขารับไม่ได้ก็คือการกระทำที่ไม่พูด อะไรและปฏิเสธที่จะสื่อสารกัน

พวกเขาต้องคุยกันดีๆแล้ว ให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ใช่วิธีแก้

ปัญหา

รอประมาณสิบนาที คุณหมอที่มีหน้าที่ส่งคนไข้ก็โทรมา หา ได้บอกว่ารถจอดอยู่ชั้นใต้ดินแล้ว ปรัณไม่สามารถเป็นเฉย ได้ จึงลงจากชั้นสามไปรับคุณปูด้วยตัวเอง

ตอนที่เขาออกมาจากลิฟต์ คุณก็นั่งรถเข็นถูกเข็นเข้ามา ในลิฟต์ คุณปู่เปลี่ยนเป็นชุดสูทที่สะอาด เนื่องจากป่วยร่างกาย เลยทรุดผอม ดังนั้นช่วงไหล่จึงมีที่เสริมไหล่เป็นพิเศษ ทำให้ ร่างกายเขาดูแข็งแรงขึ้นมาเล็กน้อย

ยังดีที่คุณใบหน้ายังมีสีสัน ดูแล้วยังกระปรี้กระเปร่า ช่อดอกไม้สีชมพูที่อยู่บนหน้าอกยิ่งแวววาว

คุณย่าอยู่ด้านหลัง ก็ได้เปลี่ยนชุดเป็นผ้าซาตินสไตล์ที่เข้า สีฟ้าออกม่วงที่ออกแบบอย่างวิจิตรงดงามซึ่งเป็นงานแฮนด์ เมดบริสุทธ

และคนที่ยืนอยู่ด้านหลังผู้อาวุโสทั้งสอง ก็คือผู้หญิงที่เพิ่ง โมโหเขาเกือบตายไม่ใช่หรอ

ความฉุนเฉียวของปรัณยังไม่หายไป เขาเดินไปข้างกายผู้ อาวุโสทั้งสอง เพื่อคุยกับพวกเขา เขาจึงย่อตัวลงตรงรถเข็น แล้วถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “คุณจุลินทร์ครับ เดินทางมา ล่ามากเลย ร่างกายเป็นยังไงบ้างครับ?”

พอคุณปู่ฟังจบก็เพียงแต่ส่ายหน้า แล้วตอบอยู่สองพยางค์

เขาดูออก ลงจากเตียงนั่งรถมาที่นี่ แม้ว่าจะมีคนช่วยดูแล

ตลอดทาง แต่สําหรับเขาแล้วต้องใช้แรงอย่างมาก

ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว

ปรัณก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ หยิบสร้อยข้อมือสีดำออกมาจาก กระเป๋า เหมือนกับนาฬิกาออกกำลังกายอะไรแบบนั้น แล้วใส่ บนมือให้เขา

“นี่เป็นสัญญาณตรวจสุขภาพที่เชี่ยวชาญครับ คุณปู่อย่า ถอดออกนะครับ”

คุณปู่ฟังจบก็พยักหน้า “ได้”
พูดจบ ปรับเอี้ยวตัวไปด้านหลังรถเข็น สุดท้ายก็มองที่สุ วีรา ดูเหมือนว่าเพิ่งเห็นเธอยังไงยังงั้น แต่ปากกลับพูดอะไรที่ ไม่เกี่ยวกับเธอ “ผมเอง

ปรับดึงรถเข็นมาจากมือเธอ แล้วเป็นคุณปู่ไปข้างหน้า ด้วยตัวเอง

สุวีราเห็นแผ่นหลังสูงใหญ่ของเขา วันนี้เขาแต่งตัวได้หล่อ มาก ไม่เหมือนปกติที่อยู่โรงพยาบาล สุภาพน้อยลงหน่อย ดู หลักแหลมและร่าเริงที่ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมามากหน่อย

ที่จริงเขาคือคนที่มีความเจิดจรัสมากอยู่แล้ว แต่ตอนที่อยู่ โรงพยาบาล เขาตั้งใจจะทำให้ความเปล่งประกายเขาลดลง ไม่อยากให้ใครมาแบ่งแยกเขา

แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยมาหลงรัก ตำนานวงการแพทย์คนนี้

แต่เขาเพิ่งทำอะไรลงไป?

แกล้งทำเป็นไม่เห็นเธอ

สุวีรายจมูก รีบไปหยุดก่อนที่จะน้อยใจ เธอไม่ผิด คนที่ผิด ก็คือเขา เธอจะแสดงความอ่อนแอไม่ได้

ทั้งสี่คนขึ้นลิฟต์มาห้องโถง วินาทีก่อนเข้าไปในห้องโถง หลัก สุวีราก็ก้าวออกไปสองก้าวยืนอยู่ข้างกายเขา

ยังไงก็อยู่ในงานแต่ง ไม่ควรทะเลาะกันอย่างชัดเจนนัก การปรากฏตัวของคุณทำให้คนในงานค่อยๆยืนขึ้น ในฐานะที่เป็นของเตชิต ทุกคนก็ให้ความเคารพ โดยเฉพาะคุณ ที่อายุปูนนี้แล้ว นั่งรถเข็นเป็นมา ยิ่งน่าชื่นชม

หลังจากพาไปนั่งในห้องจัดงานเลี้ยง ปรัณไม่กล้าหนีออก มา อุทิศตัวอยู่เป็นเพื่อนคุณปู่ สุวีรามองสถานการณ์ เลยไม่ได้ พูดอะไรออกมาชั่วขณะหนึ่ง

ปรัณอยู่ที่นี่ อย่างน้อยเธอก็ไม่เป็นห่วงเกี่ยวกับความ

ปลอดภัยของคุณปู่แล้ว

เธอเตรียมจะไปดูนัชชาในห้องแต่งหน้าสักหน่อย “คุณอยู่ ที่นี่นะ ฉันจะไปดูนัชชาก่อน

ปรัณขมวดคิ้วให้กับเธอ แล้วพูดออกไปด้วยสีหน้าเรียบ เฉย “คุณก็ตัดสินใจด้วยตัวเองอยู่แล้ว จะถามผมทำไม?”

สุวีราโกรธจนตาโต ได้ โทษเธอว่าเธอถามมาก เดินออก ไปเลยก็สิ้นเรื่อง

เสียงดัง ปังปัง ตอนที่ปรัณเงยหน้าขึ้นมา ร่างของสาว น้อยก็ได้ไกออกไปสามเมตรแล้ว แค่เห็นแผ่นหลังเธอก็รู้สึกถึง ความโกรธ

สุวีราถามพนักงานทันทีว่าห้องแต่งหน้าอยู่ไหน เดินตาม ไปถึงหน้าประตู ยกมือขึ้นมาเคาะ ผ่านไปสักพักด้านในถึงมีคน ตอบรับ

บานประตูหนาถูกคนด้านในผลักออกมา คนที่โผล่ศีรษะออกมาดูเป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่เธอไม่รู้จัก

“สวัสดีค่ะ ที่นี่คือห้องแต่งหน้าของเจ้าสาว เข้าไม่ได้นะ

คะ”

สุวีรายิ้มอย่างมีมารยาท “ฉันมาหาเจ้าสาวน่ะค่ะ คุณบอก ว่าสุวีรามาหาก็พอ”

“ได้ค่ะ รบกวนรอสักครู่นะคะ”

หญิงสาวก็หายไปจากประตูอีกครั้ง ไม่ถึงครึ่งนาที ประตู เปิดออกอีกครั้ง คราวนี้หญิงสาวก็พาสุวีราเข้าไปอย่างสุภาพ “คุณสุวีรา เชิญเข้ามาได้เลยค่ะ”

สุวีราถึงเข้ามาในห้อง เพียงก้าวเท้าเข้ามา เท้าหลัง ชะงัก เห็นคนตัวน้อยที่เปล่งประกายท่ามกลางแสงไฟนั่งอยู่บน โซฟา ทั้งร่างก็อึ้งไปเลย

ทรงผมของเธอถูกรวบขึ้นไปหมด มีมงกุฎเพชรอันงดงาม ประดับอยู่บนผมสีดำขลับของเธอ ผ้าคลุมศีรษะบางๆทอดลง มา ผ่านสิ่งกีดขวางที่มัวๆ ก็สามารถเห็นใบหน้าอันงดงาม อย่างลางๆได้

ทั้งๆที่ข้างกายเธอไม่มีอะไรเลย แต่สุวีรารู้สึกว่าเธอเปล่ง ประกายมาก สวยเกินไปแล้ว นอกจากคำว่าสวย เธอก็ไม่รู้จะ พรรณาด้วยคำว่าอะไรแล้ว

“โอ้พระเจ้า….. เอ่ยเสียงอุทานออกมาอย่างไม่รู้ตัว สุวี ราเดินเข้าไปอย่างช้าๆ ยกมือขึ้นปิดปาก แล้วทำสีหน้าตะลึง“นัชชา เธอสวยเกินไปแล้วนะ!

นัชชาเม้มปากยิ้ม ในน้ำเสียงมีความดีใจ “เธออย่ามาขอ ฉันเลย”

สุวีราถึงกับไม่กล้ายกมือขึ้นมาแตะตัวเธอ กลัวว่าจะทิ้ง รอยเปื้อนกับความสวยงามตะลึงนี้ “เดี๋ยวออกไปทุกคนจะต้อง ตะลึงแน่”

ตั้งแต่เล็กจนโต สุวีราได้ร่วมงานแต่งมาไม่น้อย ได้เจอเจ้า สาวมาก็ไม่น้อย ครั้งแรกที่ได้เห็นเจ้าสาวก็รู้สึกตะลึง สุดท้ายก็ ค่อยๆเปลี่ยนเป็นความรู้สึกธรรมดา ไม่ได้รู้สึกว่าพิเศษอะไร

แต่ตอนนี้มาเห็นนัชชา เธอน่าอิจฉาจริงๆ เธอเปล่ง ประกายในช่วงเวลาที่สวยและมีความสุขที่สุด ความดึงดูดที่ ทำให้คนละสายตาไปไม่ได้ ทำให้เกิดความปรารถนาในใจ

คำชมเชยแบบนี้ในปกติ นัชชาฟังแล้วก็รู้สึกดีใจอย่าง แน่นอน แต่ว่าในตอนนี้ เธอเหลือความตื่นเต้นไว้ โดยเฉพาะ ตอนที่กำลังขึ้นเวที ยิ่งยากที่จะควบคุมความรู้สึกแบบนี้

“ขอบคุณนะคะ คุณจะมีวันแบบนี้เหมือนกัน”

คำพูดของนัชชาทำให้สุวีรานิ่งไป ไม่เคยจินตนาการงาน แต่งของตัวเองมาก่อน ไม่ ควรจะบอกว่าได้จินตนาการงานแต่ง มากมาย เพียงแต่ไม่ได้วาดฝันรูปแบบอีกครึ่งหนึ่ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ