ตอน572ที่แท้แล้วเกิดอะไรขึ้น
ตอนที่572 ที่แท้แล้วเกิดอะไรขึ้น
ชีวิตในยี่สิบสองปีก่อนของชีวภา ชายที่หน้าตาดีที่สุดที่ เธอเคยพบเห็นก็คือชนุดม ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยเห็นผู้ชายหล่อมา ก่อน แต่แค่คิดว่าผู้ชายเมื่ออายุสามสิบกว่าแล้ว วุฒิภาวะที่เกิด จากประสบการณ์ที่เขาต้องผ่านมานั้นทำให้บุคลิกดูไม่เหมือน คนหนุ่มอายุยี่สิบกว่าอย่างแน่นอน
ไม่ว่ารูปร่างหน้าตาจะเป็นอย่างไร แต่พลังที่แสดงออกมา จากภายในสู่ภายนอกนั้น กลับเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ชายมองดูน่า หลงใหลอย่างแท้จริง
เธอเคยเห็นนัชชามาก่อน และรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่าง นัชชาและชนุดม เธอรู้สึกประหลาดใจที่เธอสามารถทนกับการ ไม่เอาอกเอาใจของเขาได้ แต่ตอนนี้หลังจากที่เธอได้เห็นเตชิต แล้ว เธอก็เข้าใจในทันที
ถ้าหากเปรียบชนุดมเป็นทุ่งหญ้าที่สงบและเยือกเย็นแล้ว เตชิตก็คงเป็นสายน้ำที่ไหลแต่ไม่เคยบรรจบ มันเป็นความจริง ที่ว่าคนภายนอกมักจะรู้สึกหวือหวา แต่เมื่อได้ใกล้ชิดกันมาก ขึ้น ชายคนนี้กลับดูไม่แยแสสนใจ ความรู้สึกที่ขัดแย้งนี้กลาย มาเป็นส่วนผสมที่ลงตัวในร่างเขา
ชีวภามองนัยน์ตาที่ลึกและคมคู่นั้น เธอหายใจเข้า “สวัสดีค่ะคุณเตชิต ฉันคือชีวภา
เสียงของเธอฟังดูไม่เป็นธรรมชาติและระมัดระวังตัว ชน ดมฟังออกเขาจึงหันไปมองที่เธอ แต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไร
เขานั่งลงตรงที่นั่งตรงกันข้ามกับเตชิต เว้นที่ว่างไว้ที่ด้าน ข้างของเขา ชีวภาตื่นเต้นจนไม่อยากพูดอะไรออกมาอีก เธอนั่ง
ลงด้วยสัญชาตญาณ
นัชชามองเห็นชายหญิงคู่หนึ่งซึ่งเดินเข้ามา ผู้ชายคนนั้น รูปหล่อและแข็งแกร่ง เต็มไปด้วยความลึกลับและยากที่จะ เข้าใจ หญิงสาวท่าทางเรียบง่ายแต่กลับมีความตื่นเต้นปรากฏ อยู่บนใบหน้าของเธอ
นี่คือคุณน้าชีวภาที่ธีมนต์เรียกกับชนุดม
พูดตามตรง นี่ช่างแตกต่างจากจินตนาการของเธอ ตอน แรกเธอคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะอายุไม่น้อยแล้ว เด็กมักจะชอบคนที่ ท่าทางดูเป็นมิตร กลับกลายเป็นว่าเธอดูตรงกันข้าม ชายที่ชื่อ ชนุดมดูไม่เหมือนคนใจร้อน ท่าทางสงบและเยือกเย็น
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ
เมื่อนึกขึ้นได้ ชายที่นั่งฝั่งตรงข้ามก็อ้าปากถามในทันที สติของนัชชาถึงจะกลับมา เธอเพิ่งจะรู้ตัวว่าเมื่อสักครู่เธอก็ เผลอไป จึงรีบละสายตาไปทางอื่น สามสี่วันแล้วค่ะ”
“ได้เจอกับธีมนตรียัง
“อื้อ”
เธอไม่กล้าพูดอะไรอีก กลัวว่าจะหลุดท่าสิ่งอะไรผิดปกติ ออกมา
ที่โต๊ะน้ำชา เตชิตยกมือขึ้นและผายมือออกไปด้านข้าง เล็กน้อย เขาลูบไปที่หลังเธอเบาๆ ในขณะที่ดวงตาจ้องมองคน ที่ฝั่งตรงข้าม “ได้ยินยืมนต์บอกว่าช่วงนี้ได้พวกคุณคอยดูแล ผมต้องขอบคุณชนุดมและคุณชีวภาด้วย
ชีวภาได้ยินชื่นของเธอถูกกล่าวถึง คำว่า “ไม่เป็นไร” ติด อยู่ในลำคอไม่สามารถพูดออกมาได้ เธอได้ยินชายที่ด้านข้าง ตอบกลับไปเบาๆ “คุณเตชิต การที่ผมดูเลมนต์ไม่ใช่เพราะ เห็นแก่หน้าใคร ผมแค่ไม่อยากให้เด็กรู้สึกโดดเดี่ยวก็เท่านั้น
คำพูดของเขาไม่น่าสบอารมณ์อย่างยิ่ง ที่จริงแล้วเขา ต้องการพาตัวเองออกไปจากที่นี่ และบอกกับเตชิตว่าที่เขาทำ ไม่ใช่เพราะนัชชา แต่ว่าเป็นเพราะเด็ก
เขาชอบนัชชา ชีวภาเองก็รู้ ดังนั้นขณะที่คำพูดได้กล่าว ออกไป เธอก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองเขา
ช่าง… เสียสละซะจริง
“ผมจะจำเอาไว้ หากในอนาคตมีเรื่องอะไรให้ช่วยเหลือ คุณชนุดมรีบบอกมาได้เลย” เตชิตยังคงไว้หน้าด้วยรอยยิ้มที่ สุภาพ
คนทั้งสองที่กำลังนั่งเผชิญหน้ากัน ทุกคนต่างรู้ดีอยู่แก่ใจ คำพูด ในบทสนทนาที่มีการตอบโต้กันไปมาช่างทำให้ บรรยากาศดูกลมกลืน
ชีวภารู้สึกค่อนข้างอึดอัด เธอวางมือไว้บนขาทั้งสองข้าง เมื่อเห็นว่าทั้งสองไม่ได้พูดกันแล้วสักพัก เธอก็พูดขึ้นอย่างลังเล
สามคนที่เหลือหันสายตามามอง เธอก้มศีรษะลงอย่าง รวดเร็วและรู้สึกร้อนที่ใบหู “ฉันได้ยินว่าธีมนต์ก็มา ทำไมถึงได้ ไม่เห็นล่ะคะ”
นัชชาเห็นว่าได้โอกาสที่จะพูด เลยรีบกล่าวขึ้น “เล่นอยู่ที่ สนามข้างนอกค่ะ มีพี่เลี้ยงคอยช่วยดูอยู่ กลัวว่าเขาอยู่บ้าน แล้วจะก่อปัญหา”
“อ๋อ พูดถึง ฉันไม่ได้เจอเขานานแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันออก ไปเล่นเป็นเพื่อนเขาดีกว่านะคะ พวกคุณคุยกันไปก่อน อีกสัก พักฉันค่อยกลับเข้ามา” ในที่สุดชีวภาก็พบข้อแก้ตัวที่จะทำให้ เธอได้หลุดออกมา เธอรู้ว่าการที่เพิ่งจะนั่งลงก็ขอตัวลุกออกไป เป็นการเสียมารยาท แต่บรรยากาศตรงนี้ช่างกดดันเกินไป เธอ ทนไม่ไหวจริงๆ
ความจริงแล้วนัชชาอยากให้เธอนั่งอยู่ตรงนี้ต่ออีกสักพัก แต่เธอก็มองออกว่าหล่อนรู้สึกอึดอัด เธอจึงไม่ได้พูดอะไร
ที่นั่งด้านซ้ายของเขาว่างเปล่า ชนุดมยักคิ้วเหมือนว่าไม่ ได้ใส่ใจอะไร แต่ความเป็นจริงแล้วสายตากลับมองตามรอย เท้าที่เดินออกจากประตูไป
หลบ
ตั้งแต่เห็นเขาก็เริ่มมีความคิดที่จะหลบ นี่ทำให้หล่อนสบโอกาสพอดี
ชายคนนั้นทํามุมปากเหยียดหยาม ในใจเขาคิดว่าหาก เธอมากับเขาก็ควรที่จะไปกับเขา แค่ห่างออกไปสองก้าว ดูซิว่า เธอจะหลบไปไหนได้
เหลืออยู่เพียงสองคนเท่านั้น ในห้องน้ำชา ชนุดมเหลือบ ไปเห็นชามสีขาวที่ปลายโต๊ะ เขาแค่แตะไปที่ริมฝีปากเตรียมที่ จะจิบ ทันใดนั้นก็ยินหญิงสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกระซิบ “คุณ ชีวภาอายุน้อยกว่าที่ฉันคิดไว้นะคะ”
คำพูดนี้ ทำให้มือของชนุดมหยุดชะงัก แสงอันสว่างจ้าได้ ส่องผ่านไปยังลำคออันระหง ราวกับว่าเขาเป็นเสือชีตาร์ที่จับ ของกินได้และกำลังจ้องมองไปที่เนื้อแดงชิ้นนั้นซึ่งเป็นของเขา เพียงคนเดียว เขาก็ยึดอกขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม เขาจิบชาคหนึ่งและเก็บซ่อนอารมณ์เอาไว้ ภายใน หลังจากนั้นก็วางถ้วยชาลงที่เดิม และเมื่อเขาเงยหน้า ขึ้นอีกครั้ง เขาก็มีท่าทีที่สงบนิ่งเช่นดังเดิม “คุณคิดว่าเธออายุ เท่าไหร่”
นัชชาคิดอย่างไม่ต้องสงสัย “ยี่สิบเจ็บน่าจะได้ แต่เธอน่า จะอยู่ในช่วงยี่สิบต้นๆ ยังเด็กมาก
“ทําไมล่ะ”
“ว่าไงนะคะ” นัชชาตกตะลึงกับสิ่งที่เขาถาม
“ทำไมถึงคิดว่าเธอน่าจะอายุมากกว่านี้
นัชชาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องพยายามไล่ถามคำถาม เหล่านี้ แต่เธอก็ยังตอบโดยสุจริตใจ “แค่เอาค่ะ ก็ฉันไม่เคย เจอเธอมาก่อนนี่คะ”
เพราะคําพูดนี้
ชนุดมมองลึกเข้าไปในแววตาเธอ ตั้งแต่ที่เขาเข้าประตูมา จนถึงตอนนี้เป็นช่วงเวลาไม่นาน เขาเห็นว่ารูปร่างลักษณะของ เธอไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย แค่ดูผอมไปนิด แต่เขา รู้สึกว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติไปแต่ก็ไม่สามารถอธิบายออกมา ได้
แต่ตอนนี้ เขาเข้าใจแล้ว
เป็นสายตาทั้งคู่ที่มองเขา นอกจากนี้ยังมีท่าทางที่ทำให้ เขารู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก ไม่มีท่าทีของความสนิทสนมคุ้นเคย ในอดีต แต่เหมือนคนแปลกหน้าที่แสร้งทำเป็นสนิทกัน
พวกเขารู้จักกันมานานกว่าห้าปี ท่าทีไม่ควรจะเป็นเช่นนี้
บางทีดวงตาของชนุดมก็สว่างสุกใสจนเกินไป ทำให้เต ชิตซึ่งนั่งอยู่ที่ด้านข้างรู้สึกว่าต้องระวังตัว เขาขยับร่างกายไป ทางด้านหน้า เพื่อบดบังสายตาของชนุดม
แต่ชนุดมก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะขึ้น เพียงแต่แววตากลับไม่ได้มีรอยยิ้ม “คุณเคยเจอเธอ คุณจำไม่
นัชชาตกตะลึงในทันที ร่างกายเหมือนถูกพันไปด้วยเถาองุ่น แน่นิ่งอยู่กับที่ไม่สามารถขยับได้
เธอเงยหน้าขึ้นมอง และต้องการจะดึงรอยยิ้มออกมาแต่ กลับพบว่ามุมปากของตัวเองราวกับหนักหนึ่งร้อยชั่ง “คุณพูด เรื่องอะไร”
“นัชชา” ใบหน้าของชนุดมดูเยือกเย็น ช่วงที่ผ่านมานี้ เกิดอะไรขึ้นกับคุณ”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ